กลับมาพบกันในสัปดาห์นี้อีกครั้งนะครับ

ทักตรงนี้บ่อยจนนึกไม่ออกแล้วแฮะว่าจะทักอะไรต่อดี เพราะงั้นไปชมเนื้อหาตอนนี้กันเลยนะครับ

เช่นเคย ใครอยากคุยเนื้อหาหลังจากตอนนี้ รบกวนอย่าลืมใส่แท็ก Spoil นะครับ





เปิดตอนมาด้วยฉากบักแว่นวิ่งรอกดีลงานที่รับมาจนมือเป็นระวิง

เริ่มจากเป็นธุระจัดการเรื่องคำนวนเงินทุนที่ใช้ในงานออกร้านของห้อง




ลิสต์รายการรับผิดชอบของบักแว่น...เห็นแล้วหลอนกับลิสต์ทำงานของมันจริงๆ


ต่อด้วยไปขอร้องรุ่นพี่ให้ช่วยเหลือเรื่องงานแสดงโชว์ของชมรมขี่ม้า



จากนั้นก็ไปขออาจารย์ใช้พื้นที่สำหรับทำลู่วิ่งม้าบังเอย์


ยังดีได้อากิช่วยของยืมเลื่อนม้าบังเอย์มาจากลุง เลยพอแบ่งเบาภาระไปได้บ้าง



ได้อุปกรณ์ครบหมดแล้วก็จริง แต่ยังขาดคนขับม้าอยู่ อากิที่เคยฝึกคุมม้าบังเอย์มาบ้างเลยอาสาเป็นจ็อกกี้เอง โดยจะอาศัยเวลาช่วงก่อนถึงวันเทศกาลฝึกซ้อมทบทวนให้เต็มที่จนสามารถคุมม้าในวันงานจริงได้

อากิหน้าบานเป็นจานเชิงเมื่อได้รับอนุญาตให้ฝึกซ้อมบังคับเลื่อนม้าบังเอย์


ฝ่ายบักแว่นเห็นอากิดีใจจนออกนอกหน้าที่ได้ขี่ม้าแบบนั้นก็ถามอากิว่าชอบม้าขนาดนั้นเรียนจบก็ทำงานเกี่ยวกับม้าซะเลยสิ อากิก็บอกว่าจริงๆ ตัวเองก็อยากทำแบบนั้นอยู่ แต่ตัวเองเป็นลูกคนเดียวของบ้าน เพราะงั้นก็ต้องสืบทอดกิจการของครอบครัว ขืนดึงดันจะไปตามทางของตัวเองก็มีแต่จะทะเลาะกันให้กินแหนงแคลงใจกันเปล่าๆ และบอกกับบักแว่นว่าถึงเธอไม่ได้ทำความฝันให้เป็นจริงก็ไม่เป็นไรหรอก ทำเอาบักแว่นถึงกับตีหน้าสลดไปเลย



ได้เลื่อนม้ามาแล้วก็ถึงเวลาตกแต่งเลื่อนใหม่ให้สวย เพราะเป็นเลื่อนที่ไม่ได้ใช้มานาน สภาพเลยเก่ามาก (ฝุ่นเขรอะแถมมีแต่รอยถลอกไปทั้งคัน) โดยงานนี้บักแว่นไปขอร้องนิชิคาวะ รูมเมทตัวเองที่เก่งเรื่องซ่อมแซมเครื่องมือเกษตรให้ช่วยซ่อมเลื่อนให้ที โดยตัวเองต้องไปช่วยงานฝั่งของนิชิคาวะเป็นการแลกเปลี่ยน

แต่บักแว่นดันลืมไปว่าหมอนี่มันเป็นโอตาคุตัวพ่อประจำโรงเรียน เลื่อนที่ซ่อมออกมาแล้วจึงออกมาเป็นแบบนี้ไปซะฉิบ


บักแว่นโกรธจนแทบคลั่ง ส่วนอากิถึงกับสติหลุดไปเลย


เคลียร์งานส่วนของชมรมเสร็จก็ต้องไปช่วยเรื่องงบประมาณออกงานของห้องอีก ทำเอาอากิกับเพื่อนๆ คนอื่นถึงกับเป็นห่วงขึ้นมาว่าปกติบักแว่นก็ทำงานหนักกว่าใครเพื่อนอยู่แล้ว นี่ยังมารับงานโน่นนี่เพิ่มเข้าไปอีกแบบนี้จะไหวแน่เหรอ


เสร็จจากงานห้องก็กลับมาช่วยชมรมขี่ม้าทำลู่วิ่งม้าบังเอย์อีกต่อ...โดยงานนี้ได้ทั้งบรรดาอาจารย์ที่เลือดเด็กโข่งกำเริบ (เพราะตัวเองตอนอายุเท่าบักแว่นก็เคยทำอะไรบ้าเลือดแบบนี้กันมาก่อนเหมือนกัน) กับอดีตประธาน (ผู้หนีความจริงว่าตัวเองยังหางานไม่ได้) มาช่วยงานด้วย





โคมาบะเพิ่งเลิกซ้อมเบสบอลผ่านมาเห็นเข้าเกิดอารมณ์ฟิตขึ้นมาบ้าง เลยโดดลงมาช่วยด้วยอีกต่อทั้งๆ ที่เพิ่งซ้อมหนักกันมาหมาดๆ


"กล้ามเนื้อสำหรับเล่นเบสบอลก้บกล้ามเนื้อสำหรับทำไร่ทำนามันคนละส่วนกัน!!!"

...เหตุผลโลกไหนของเอ็งฟระ บักโคมาบะ


การเตรียมงานโรงเรียนของเหล่านักเรียนค่อยๆ คืบหน้ากันไปเรื่อยๆ

อนึ่ง...โปรดสังเกตสิ่งผิดปกติในภาพสุดท้าย




แน่นอนคนที่ทำงานหนักที่สุดก็ไม่พ้นบักแว่นนั่นเอง

หนักแค่ไหน เชิญทัศนาจากสีหน้ามันในภาพนี้ได้


ตื่นเช้าไปไล่เก็บเศษหินในสนาม (เพราะถ้าปล่อยให้สนามมีเศษหินเล็กๆ อยู่ แล้วม้าไปเหยียบจนเท้าบาดเจ็บรักษาไม่หายเข้า ก็อาจโดนส่งไปโรงเชือดได้)

ก็เจออากิที่เอาเจ้าแบล็กคิงมาฝึกบังคับเลื่อนม้าบังเอย์ตอนเช้าพอดี


อากิแสดงความเป็นห่วงบักแว่นที่ทำงานหนักเกินตัว บักแว่นฝืนบอกว่าไม่เป็นไร

แต่พอกลับเข้าห้องเรียนก็เป็นซะอย่างที่เห็น (แล้วก็เจอหักคะแนนข้อหานอนหลับในห้องเรียนไปตามระเบียบ)


แถมประดางานที่รับมาก็ชักจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทั้งงานหลวง งานราษฏร์ งานใช้หนี้แทนประดาเจ้าหนี้ที่ไปขอความช่วยเหลือ

งานนี้ถึงบักแว่นอึดแค่ไหนก็ต้องมีซีดกันบ้างละ


โดนเรียกตัวหนักเข้าก็ถึงกับออกอาการธาตุไฟเข้าแทรกน้ำตาเป็นสายเลือดกลางห้องเรียนกันเลย


คำเฉลยจากภาพข้างบนเมื่อกี้นี้

ทามาโกะกลับมาลดหุ่นจนผอมสวยอีกรอบเพราะไอซาวะขอร้องให้ช่วยเป็นพริตตี้ให้การประกวดวัวสวยงามของชมรมโฮลสไตน์


ภาพบรรยายกาศการเตรียมงานก่อนวันงาน 1 วัน


ด้านอากิเองก็ฝึกบังคับเลื่อนม้าบังเอย์จนเชี่ยวชาญพอจะแข่งโชว์ในงานได้แล้ว


สนามแข่งม้าบังเอย์ก็เสร็จเรียบร้อยทันก่อนวันเปิดงานโรงเรียนพอดี

บรรดาสมาชิกชมรมทั้งเก่าใหม่ถึงกับเฮกันยกใหญ่


คณาจารย์เด็กโข่งผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้


เคลียร์งานเก็บงานกันอีกนิดหน่อย บักแว่นก็มาตรวจสอบสนามแข่งเป็นรอบสุดท้ายกับอากิ โดยระหว่างที่เดินตรวจกันอยู่นั้น บักแว่นก็ฉวยโอกาสชวนอากิไปเที่ยวด้วยกันสองคน (เว้ากันซื่อๆ ก็ชวนเดทนั่นแล) บอกว่าจะไปฉลองที่งานโรงเรียนสำเร็จด้วยดี แต่อากิไม่เข้าใจความนัยของบักแว่นก็บอกว่างั้นชวนคนในชมรมไปกันทุกคนเลยสิ บักแว่นก็ย้ำว่าอยากไปกับอากิแค่สองคนเท่านั้น โดยตัวเองจะเป็นคนเลี้ยงเอง อากิจังได้ยินว่าบักแว่นจะเลี้ยงก็ตอบตกลงง่ายๆ เลย


และนี่คือสภาพจิตใจบักแว่นหลังได้ยินคำตอบตกลงจากปากอากิจังนะครัฟ

ดูในอนิเมเต็มๆ นี่ผมว่าเงิบกว่าในมังงะอีกนะ


ตัดมาที่หอหญิงวันนั้น พวกผู้หญิงในห้องต่างรู้เรื่องที่บักแว่นกับอากิจังจะไปเดทกันจนหมด เลยถามอากิจังว่าตกลงคบเป็นแฟนกับบักแว่นแล้วเหรอ อากิจังก็ตอบแบบซื่อๆ ว่าเปล่าซักหน่อย แค่ไปเที่ยวด้วยกันในฐานะเพื่อนต่างหาก ทำเอาประดาเพื่อนร่วมหอถึงกับ facepalm กันทั้งก๊วน


เพื่อนๆ อธิบายกันยกใหญ่ว่าผู้ชายชวนผู้หญิงไปเที่ยวด้วยกันสองต่อสองน่ะหมายความว่าเค้าชอบเธอเข้าแล้วย่ะ อากิฟังคำอธิบายของเพื่อนๆ ก็ถึงกับช็อคจนอ้าปากค้าง

ภาพอากิตอนช็อคอ้าปากค้างหลังโดนเพื่อนๆ ช่วยกันชี้เป้าให้เห็นเป้าหมายจริงๆ ของบักแว่น (ชอบเป็นพิเศษเลยลองเอามาต่อกันเป็นภาพตัวเต็มดูครับ)


ตะกุกตะกักลนลานบอกว่าจะให้บักแว่นมาคบกับตัวเองได้ยังไง ถ้าคิดถึงอนาคตแล้วตัวเองมีทั้งฟาร์มทั้งม้าทั้งวัวทั้งคนแก่ตั้งหลายคนต้องดูแลนะ เพื่อนๆ ก็บอกว่าคิดมากทำไมเล่า ตอนยังเรียนอยู่น่ะแค่คบกับคนที่ชอบก็พอแล้ว ทามาโกะที่มีเหตุผลกว่าเพื่อนก็ถามกลับว่าแล้วอากิล่ะคิดยังไงกับบักแว่น บักแว่นเป็นคนขยันเหมาะจะมาเป็นเขยบ้านอากิไม่ใช่เหรอ อากิก็ก้มหน้างุดบอกว่าตัวเองไม่อยากเลือกใครแค่ตามความเหมาะสม แต่อยากเลือกเพราะสิ่งที่เป็นตัวตนของคนคนนั้นด้วย ไม่งั้นจะรู้สึกว่าเสียมารยาทกับเค้า เพื่อนๆ ได้ยินดังนั้นก็ได้แต่ถอนใจบอกว่าอากินี่จริงจังจริงๆ เลยนะ

ผลคือคืนนั้นอากิถึงกับอายหน้าแดงจนนอนไม่หลับไปเลย


แล้วเช้าวันงานเทศกาลก็มาถึง บักแว่นตื่นเช้ามาพาเจ้ารองประธานไปเดินเล่นตามปกติ ระหว่างทางก็แวะไปดูสนามแข่งอีกรอบหนึ่ง


ภาพความหลังรำลึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ตัวเองฟันฝ่ามาได้จนถึงทุกวันนี้ค่อยๆ ผุดขึ้นมาเป็นสาย จุดรอยยิ้มปุเลี่ยนๆ ที่มุมปากของบักแว่น คิดว่าการที่ตัวเองหนีมาจากที่ที่เคยอยู่จนมาถึงนี่ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเหมือนกัน


คิดจบก็ลุกขึ้นจะพาเจ้ารองประธานกลับไปห้องชมรม แล้วไปเตรียมตัวจัดการงานโรงเรียนวันจริงต่อไป






ทว่า เพิ่งจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจได้แค่ไม่กี่วิฯ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บักแว่นก็เกิดอาการวูบล้มพับคาสนามแข่งม้าบังเอย์ที่ตัวเองทุ่มแรงสร้างมาตรงนั้นเอง







ในที่สุดก็มาถึงฉากเด็ดอีกฉากที่รอกันมานานแล้วแฮะ (ว่าแต่แค่ 5 ตอนก็เดินเรื่องจนเกือบจบเล่ม 6 แล้วเหรอเนี่ย ถือว่าเร็วเหมือนกันแฮะ)

ถึงจะตัดอะไรออกไปหลายส่วน แต่ได้ฉากฮาที่ทำได้ดีขึ้นกว่าซีซั่นก่อน บวกกับการจัดเรียงเนื้อหาใหม่ให้เข้าใจมากขึ้นกว่าเดิม ก็ถือว่าทำได้ไม่เลวละครับ

อนึ่ง สำหรับบักแว่นในฉากสุดท้ายนี้ เสียใจด้วยนะที่เอ็งไม่ได้เป็น One Man Army แบบอวตารของเอ็งเมื่อชาติที่แล้ว เลยทำงานเกินตัวจนน็อคไปเลยแบบนั้น


อนึ่ง สำหรับตอนต่อไป เตรียมพบกับดราม่าฉากใหม่ที่รอกันมานานได้เลยครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้กับการเผชิญหน้าครั้งแรกระหว่างบักแว่น VS เดอะเตี่ย