กลับมาพบกันในสัปดาห์นี้อีกครั้งหลังหายกันไปเกือบ 2 อาทิตย์นะครับ
เช่นเคย ใครอยากคุยเนื้อหาหลังจากตอนนี้ รบกวนอย่าลืมใส่แท็ก Spoil นะครับ
เปิดตอนมาที่ฉากบักแว่นนั่งดูภาพถ่ายงานเทศกาลเอโสะโนที่เพื่อนถ่ายไว้
ตามด้วยฉากทวนสัญญาว่าจะไปเที่ยว (เดท) กันสองคนกับอากิ
เขินใส่กันแบบนี้แล้วน่ารักดีแฮะ
บักแว่นฟินแตกหลังอากิบอกว่าจำสัญญาได้และรอวันที่จะได้ไปเที่ยวด้วยกันอยู่
นี่คือความน่าสมเพชของลูกผู้ชายที่กำลังมีความรักสินะ
แต่พอตกดึกปิดไฟนอนก็คิดมากเรื่องคำพูดของเตี่ยอยู่เหมือนเดิม
*หมายเหตุ - ตรงนี้มีตัดฉากที่ผมชอบออกไปฉากหนึ่งด้วยแฮะ เป็นฉากสั้นๆ แต่สื่อความไม่ลงรอยกันในครอบครัวบักแว่นได้ชัดมาก คือหลังจากบักแว่นกลับมาถึงหอหลังออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็รีบไปหยิบเอามือถือในล็อคเกอร์ออกมาดู ก็เจอเพื่อนๆ ส่งเมล์แสดงความเป็นห่วงเข้ามาเพียบ ในจำนวนนั้นมีเมล์ที่แม่ส่งมาถามว่ากลับถึงหอเรียบร้อยดีมั้ย พ่อเค้าเป็นห่วงอยู่นะ นานๆ ทีโทรกลับมาบ้านบ้างก็ได้นะ ผลคือบักแว่นตีหน้าเครียด กดลบเมล์ที่แม่ส่งมาทิ้งทันที
วันรุ่งขึ้น ในห้องเรียนมีประกาศเรื่องทีมเบสบอลโรงเรียนเอโสะโนได้ผ่านเข้าไปเล่นในระดับฮอกไกโด
ถ้าได้เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ก็จะได้หยุดไปเชียร์ถึงซัปโปโรกันทั้งโรงเรียน
เพื่อนๆ ดี๊ด๊ากันยกใหญ่ หันไปบอกบักแว่นว่าถ้าได้ไปจริงก็ช่วยเป็นไกด์นำเที่ยวที
มีแต่อากิคนเดียวที่มีสีหน้าหมองอย่างเห็นได้ชัด
ตัดไปทางด้านพิธีเปิดการแข่งขันเบสบอลทั่วฮอกไกโด
ภาพฉายให้เห็นโคมาบะกับทีมเบสบอลเอโสะโนด้วย
ด้านชมรมขี่ม้าเองก็ได้อาจารย์ใหญ่มารับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาชมรมชั่วคราวเนื่องจากอ.นากาจิมะลาป่วยกะทันหัน
และนี่คือสภาพของอ.นากาจิมะผู้ลาป่วยเพราะตรอมใจที่บรรดาลูกสาวสุดที่รัก (น้องชีสทั้งหลาย) โดนคนใจร้ายตบไปทั้งโรงบ่ม
...แน่นอนว่าโดนตัดไปในภาคอนิเมเช่นกัน
อาจารย์ใหญ่อนุญาตให้พักชมรมได้เพราะอยากให้ม้าพักผ่อน พร้อมแนะนำสถานที่เที่ยวชื่อ
"ศาลเจ้าโอเอโสะ" ที่ขึ้นชื่อเรื่องมีแผ่นป้ายอธิษฐานรูปม้าให้คนที่มาสักการะใช้เขียนขอพรด้วย
บักแว่นเลยถือโอกาสชวนอากิจังไปเที่ยวศาลเจ้าโอเอโสะด้วยกัน ทำเอาอากิจังถึงกับยิ้มหน้าบานไปเลย
ฉากนี้ยังไงก็ชอบในภาคมังงะมากกว่าแฮะ...
ฉากโทคิวะโดนบรรดาแม่สื่อแม่ชักประจำหอหญิงทำคอมโบประสาน 5 Hits รวดฐานทำตัวเป็นก.ข.ค.ไม่ดูบรรยากาศ
ทำออกมาได้ทรงพลังปนเงิบดีแฮะ
ภาพบรรยากาศบางส่วนภายในศาลเจ้าโอเอโสะ
บักแว่นกับอากิแอบเขินเพราะมาเที่ยวด้วยกันสองต่อสองเป็นครั้งแรก
แล้วก็ถึงกับเงิบแตก เมื่อประดาเพื่อนๆ และรุ่นพี่จากชมรมขี่ม้าดันมาที่ศาลเจ้ากันทุกคน
แผ่นป้ายอธิษฐานรูปม้า ของขึ้นชื่อประจำศาล
กะหนุงกะหนิงกันซะจนรุ่นพี่อดหมั่นไส้ไม่ได้
ฉากคุยกันเรื่องอนาคตและความฝันระหว่างบักแว่นกับไอคาวะคุง
ป้ายอธิษฐานของบักแว่นกับอากิจัง
รูปประโยคอาจแตกต่างแต่เนื้อหาเหมือนกันเด๊ะว่า
"ขอให้ทีมเบสบอลเอโสะโนชนะเลิศ"
เริ่มครึ่งหลังของตอนด้วยฉากบักแว่นกับเพื่อนช่วยกันเคลียร์สนามแข่งม้าบังเอย์ให้กลับไปเป็นที่ราบเหมือนเดิม
*หมายเหตุ - ตรงนี้ตัดฉากบักแว่นหัดขับรถไถดิน กับฉากบักแว่นแกล้งพูดสำเนียงฮอกไกโดล้ออากิจัง เลยโดนอากิจังโมโหไล่จิกไปรอบๆ ไป
พักกินไข่ต้มไปพลางฟังถ่ายทอดการแข่งเบสบอลของพวกโคมาบะทางวิทยุไปพลาง
ทั้งชมรมดีใจกันใหญ่เมื่อทีมเบสบอลเอโสะโนเอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 6 - 1
มีแต่อากิคนเดียวที่ยิ้มแบบหมองๆ ไม่เปลี่ยน
กลับเข้าห้องเรียนมาเรียนวิธีผูกเชือกคล้องหัววัว (ไม่ใช่สนตะพายที่คล้องจมูกวัวนะ)
ระหว่างเรียน อาจารย์ก็ดันเปิดถ่ายทอดสดการแข่งรอบต่อไปของทีมเบสบอลให้เป็น BGM ประกอบฉาก
ผลคือชั่วโมงนี้ไม่เป็นอันเรียนกันตามระเบียบ
โดยทีมที่เจองวดนี้เป็นถึงทีมที่เคยได้ไปแข่งโคชิเอ็น (สนามแข่งเบสบอลระดับม.ปลายทั่วประเทศ) มาแล้ว
การแข่งเป็นไปอย่างดุเดือดและยากลำบาก ก่อนที่ทีมเอโสะโนจะเอาชนะไปได้แบบฉิวเฉียดที่สุด
งานนี้เลยได้เข้าไปเล่นถึงรอบเซมิไฟนอลทั่วฮอกไกโด ซึ่งถ้าชนะอีกสองครั้งก็จะได้ไปแข่งที่โคชิเอ็นซึ่งเป็นการแข่งใหญ่สุดของระดับม.ปลายแล้ว
แล้ววันแข่งรอบเซมิไฟนอลก็มาถึง
อากิกลับถึงบ้านปุ๊บก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ทักทายครอบครัวเสร็จก็แล่นตรงไปเปิดทีวีดูเลย
ด้านบักแว่นกับพวกที่อยู่หอที่โรงเรียนก็อยากดูถึงขนาดไปขอร้องอาจารย์ใหญ่ให้ช่วยขอร้องอาจารย์ที่คอยเฝ้าคอกวัว (ใช้กล้องวงจรปิดเฝ้า เผื่อตัวไหนคลอดลูกกะทันหันจะได้ไปช่วยทำคลอดได้ทัน) ขอใช้จอคอมในห้องเปิดทีวีดูการแข่งหน่อย
เปิดมาปุ๊บก็เจอป้ายคะแนนบอกว่าทีมเอโสะโนตามอยู่ 3 แต้มกันเลยทีเดียว
เนื่องจากคู่แข่งนอกจากเป็นทีมที่เคยได้ไปโคชิเอ็นมาก่อนแล้ว ยังดึงตัวนักกีฬามือดีๆ จากคันไซมาอยู่ด้วยมากมาย เรียกว่าเป็นคู่แข่งสุดหินอีกทีมทีเดียว
ระหว่างลุ้นกับการแข่งกันอยู่ ก็มีรายการวัวคลอดลูกเข้ามาแทรกเป็นระยะๆ
เล่นเอาบักแว่นโดนทารุณกรรมทางจิตใจจนถึงกับ Mind Break เลยทีเดียว (หลอนที่สุดก็ตอนต้องเก็บรกวัวนี่แหละ เหอๆๆ)
ด้านการแข่งของทีมเบสบอลเองก็ยังคงคู่คี่ผลัดกันนำผลัดกันตามอยู่เหมือนเดิม โดยเมื่อการแข่งดำเนินถึงเกมสุดท้าย ทีมเอโสะโนก็ตกที่นั่งลำบากขนาดหนักแม้จะเป็นฝ่ายทำแต้มนำอยู่ (5 - 4) เพราะพิชเชอร์ฝ่ายเอโสะโนขว้างเสียตลอดจนอีกฝ่ายได้วิ่งฟรียืนกันเต็มเบส
งานนี้เลยต้องหวังพึ่งโคมาบะทำสไตรค์ 3 คนรวดจนเกมเซ็ตเท่านั้นถึงจะชนะได้
ปล่อยรังสีอำมหิตซะแรงจนนึกว่าที่ลูกตาใส่หินนักปราชญ์ไว้รึมีตราอุโรโบรอสติดอยู่รึเปล่า
ขว้างชุดเดียวเก็บเอาต์ฝ่ายตรงข้ามไปได้ถึง 2 เอาต์ ทำเอาบักแว่นกับเพื่อนๆ เฮกันยกใหญ่
อากิจังเองก็ลุ้นไม่แพ้กัน
เหลือเอาต์สุดท้ายก็ได้เข้าไปแข่งรอบชิงแล้ว งานนี้ฝ่ายตรงข้ามเลยปล่อยมือตีระดับเทพของตัวเองออกมาชนกับโคมาบะ
โคมาบะขว้างสุดแรงพ่อแก้วแม่แก้วหวังเอาสไตรค์ให้ได้...แต่ฝ่ายตรงข้ามดันหวดได้ แถมยังแรงจนลูกลอยหวือออกไปไกลลิบอีก
แต่โชคดีที่ลูกไม่ได้ไปไกลถึงนอกสนาม แต่ลอยโด่งย้อยลงในสนาม ซึ่งถ้าหากผู้เล่นฝ่ายเอโสะโนรับได้ ก็จะนับเป็นเอาต์ครั้งที่ 3 ในเกมสุดท้าย และฝ่ายเอโสะโนก็จะชนะไปโดยปริยาย (เพราะแต้มนำอยู่ 5 ต่อ 4)
ทว่า...ลมเจ้ากรรมกลับพัดวูบมากะทันหัน วิถีตกของบอลเลยเปลี่ยนจนผู้เล่นฝ่ายเอโสะโนที่รอรับชิลๆ อยู่เคลื่อนไหวตามไม่ทัน
บอลจึงตกลงพื้นแทนที่จะตกลงสู่ถุงมือ ปล่อยให้ตัววิ่งทั้งหมดของฝ่ายตรงข้ามที่ประจำอยู่ทุกเบสวิ่งกลับเข้าโฮม พลิกล็อคชนะไปได้แบบไม่น่าเชื่อสุดๆ
ปวงชนชาวเอโสะโนที่ส่งใจไปเชียร์ถึงกับอึ้งกิมกี่
ประดานักกีฬาถึงกับทรุดอย่างหมดแรงที่ชัยชนะที่เห็นอยู่ชัดๆ กลับหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา
ชอบสีหน้าของโคมาบะในฉากนี้มาก ดูให้อารมณ์ช็อคแบบไม่รับรู้อะไรแล้วได้สุดยอดจริงๆ
บักแว่นกับอากิต่างสลดต่อความพ่ายแพ้ของเพื่อน
อีกฉากที่ชอบในตอนนี้ รุ่นพี่ที่รับลูกพลาดมาพนมมือขอโทษโคมาบะแล้วโคมาบะโค้งตอบ
แม้จะพ่ายแพ้ แต่เพื่อนๆ ทุกคนได้เห็นโคมาบะสู้ยิบตาจนพาทีมไปถึงรอบลึกได้ขนาดนั้นก็เกิดกำลังใจขึ้นมาว่าลองปีนี้ทำได้ขนาดนี้ ปีหน้าโคมาบะต้องพาทีมไปแข่งระดับประเทศโคชิเอ็นได้แน่
ตอนนั้นเองที่ทุกคนสังเกตว่าโคมาบะไม่ได้อยู่ในห้องด้วย แต่ทุกคนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร คิดว่าเจ้าตัวคงลาหยุดเฉยๆ เท่านั้น
ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่สังเกตเห็นสีหน้าหม่นหมองราวกับจะรู้อะไรบางอย่างของอากิ...
แล้วการแข่งขันของชมรมเบสบอลโรงเรียนการเกษตรโอเอโสะก็สิ้นสุดลงด้วยประการฉะนี้
ดูตอนนี้แล้วให้อารมณ์เหมือนดูการ์ตูนเบสบอลจริงๆ เลยแฮะ
เอาจริงๆ ตอนอ่านตอนนี้ทีแรกในภาคมังงะนั้นผมโคตรเบื่อเลยนะ ยังคิดเลยว่าเอาฉากแข่งเบสบอลมาใส่ซะยืดยาวตั้ง 3 ตอนรวดแบบนี้ทำไมกันหว่า แต่ลงเอยพอได้อ่านเนื้อเรื่องหลังจากนั้นแล้วก็เข้าใจขึ้นมาเลยว่าทำไมอ.ถึงลงทุนเขียนฉากโคมาบะกับชมรมเบสบอลถึงขนาดนี้ ซึ่งตอนนี้พอย้อนกลับมาดูเนื้อเรื่องตรงนี้อีกรอบในฐานะคนที่รู้เนื้อหาหลังจากนี้ไปแล้ว ก็ยอมรับเลยแฮะว่าพอรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดต่อไปแล้ว มันทำให้เนื้อเรื่องตรงนี้ซึ้งขึ้นมาจริงๆ
สำหรับเนื้อเรื่องต่อจากนี้เป็นยังไงต่อนั้นผมคงบอกได้แค่สั้นๆ ตามภาพข้างล่างนี้ครับ
[Spoil] ช้อนเงินคนแปรธาตุ (Silver Spoon) อนิเมซีซั่นสอง #7 - การต่อสู้ของโคมาบะ
เช่นเคย ใครอยากคุยเนื้อหาหลังจากตอนนี้ รบกวนอย่าลืมใส่แท็ก Spoil นะครับ
เปิดตอนมาที่ฉากบักแว่นนั่งดูภาพถ่ายงานเทศกาลเอโสะโนที่เพื่อนถ่ายไว้
ตามด้วยฉากทวนสัญญาว่าจะไปเที่ยว (เดท) กันสองคนกับอากิ
เขินใส่กันแบบนี้แล้วน่ารักดีแฮะ
บักแว่นฟินแตกหลังอากิบอกว่าจำสัญญาได้และรอวันที่จะได้ไปเที่ยวด้วยกันอยู่
นี่คือความน่าสมเพชของลูกผู้ชายที่กำลังมีความรักสินะ
แต่พอตกดึกปิดไฟนอนก็คิดมากเรื่องคำพูดของเตี่ยอยู่เหมือนเดิม
*หมายเหตุ - ตรงนี้มีตัดฉากที่ผมชอบออกไปฉากหนึ่งด้วยแฮะ เป็นฉากสั้นๆ แต่สื่อความไม่ลงรอยกันในครอบครัวบักแว่นได้ชัดมาก คือหลังจากบักแว่นกลับมาถึงหอหลังออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็รีบไปหยิบเอามือถือในล็อคเกอร์ออกมาดู ก็เจอเพื่อนๆ ส่งเมล์แสดงความเป็นห่วงเข้ามาเพียบ ในจำนวนนั้นมีเมล์ที่แม่ส่งมาถามว่ากลับถึงหอเรียบร้อยดีมั้ย พ่อเค้าเป็นห่วงอยู่นะ นานๆ ทีโทรกลับมาบ้านบ้างก็ได้นะ ผลคือบักแว่นตีหน้าเครียด กดลบเมล์ที่แม่ส่งมาทิ้งทันที
วันรุ่งขึ้น ในห้องเรียนมีประกาศเรื่องทีมเบสบอลโรงเรียนเอโสะโนได้ผ่านเข้าไปเล่นในระดับฮอกไกโด
ถ้าได้เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ก็จะได้หยุดไปเชียร์ถึงซัปโปโรกันทั้งโรงเรียน
เพื่อนๆ ดี๊ด๊ากันยกใหญ่ หันไปบอกบักแว่นว่าถ้าได้ไปจริงก็ช่วยเป็นไกด์นำเที่ยวที
มีแต่อากิคนเดียวที่มีสีหน้าหมองอย่างเห็นได้ชัด
ตัดไปทางด้านพิธีเปิดการแข่งขันเบสบอลทั่วฮอกไกโด
ภาพฉายให้เห็นโคมาบะกับทีมเบสบอลเอโสะโนด้วย
ด้านชมรมขี่ม้าเองก็ได้อาจารย์ใหญ่มารับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาชมรมชั่วคราวเนื่องจากอ.นากาจิมะลาป่วยกะทันหัน
และนี่คือสภาพของอ.นากาจิมะผู้ลาป่วยเพราะตรอมใจที่บรรดาลูกสาวสุดที่รัก (น้องชีสทั้งหลาย) โดนคนใจร้ายตบไปทั้งโรงบ่ม
...แน่นอนว่าโดนตัดไปในภาคอนิเมเช่นกัน
อาจารย์ใหญ่อนุญาตให้พักชมรมได้เพราะอยากให้ม้าพักผ่อน พร้อมแนะนำสถานที่เที่ยวชื่อ "ศาลเจ้าโอเอโสะ" ที่ขึ้นชื่อเรื่องมีแผ่นป้ายอธิษฐานรูปม้าให้คนที่มาสักการะใช้เขียนขอพรด้วย
บักแว่นเลยถือโอกาสชวนอากิจังไปเที่ยวศาลเจ้าโอเอโสะด้วยกัน ทำเอาอากิจังถึงกับยิ้มหน้าบานไปเลย
ฉากนี้ยังไงก็ชอบในภาคมังงะมากกว่าแฮะ...
ฉากโทคิวะโดนบรรดาแม่สื่อแม่ชักประจำหอหญิงทำคอมโบประสาน 5 Hits รวดฐานทำตัวเป็นก.ข.ค.ไม่ดูบรรยากาศ
ทำออกมาได้ทรงพลังปนเงิบดีแฮะ
ภาพบรรยากาศบางส่วนภายในศาลเจ้าโอเอโสะ
บักแว่นกับอากิแอบเขินเพราะมาเที่ยวด้วยกันสองต่อสองเป็นครั้งแรก
แล้วก็ถึงกับเงิบแตก เมื่อประดาเพื่อนๆ และรุ่นพี่จากชมรมขี่ม้าดันมาที่ศาลเจ้ากันทุกคน
แผ่นป้ายอธิษฐานรูปม้า ของขึ้นชื่อประจำศาล
กะหนุงกะหนิงกันซะจนรุ่นพี่อดหมั่นไส้ไม่ได้
ฉากคุยกันเรื่องอนาคตและความฝันระหว่างบักแว่นกับไอคาวะคุง
ป้ายอธิษฐานของบักแว่นกับอากิจัง
รูปประโยคอาจแตกต่างแต่เนื้อหาเหมือนกันเด๊ะว่า "ขอให้ทีมเบสบอลเอโสะโนชนะเลิศ"
เริ่มครึ่งหลังของตอนด้วยฉากบักแว่นกับเพื่อนช่วยกันเคลียร์สนามแข่งม้าบังเอย์ให้กลับไปเป็นที่ราบเหมือนเดิม
*หมายเหตุ - ตรงนี้ตัดฉากบักแว่นหัดขับรถไถดิน กับฉากบักแว่นแกล้งพูดสำเนียงฮอกไกโดล้ออากิจัง เลยโดนอากิจังโมโหไล่จิกไปรอบๆ ไป
พักกินไข่ต้มไปพลางฟังถ่ายทอดการแข่งเบสบอลของพวกโคมาบะทางวิทยุไปพลาง
ทั้งชมรมดีใจกันใหญ่เมื่อทีมเบสบอลเอโสะโนเอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 6 - 1
มีแต่อากิคนเดียวที่ยิ้มแบบหมองๆ ไม่เปลี่ยน
กลับเข้าห้องเรียนมาเรียนวิธีผูกเชือกคล้องหัววัว (ไม่ใช่สนตะพายที่คล้องจมูกวัวนะ)
ระหว่างเรียน อาจารย์ก็ดันเปิดถ่ายทอดสดการแข่งรอบต่อไปของทีมเบสบอลให้เป็น BGM ประกอบฉาก
ผลคือชั่วโมงนี้ไม่เป็นอันเรียนกันตามระเบียบ
โดยทีมที่เจองวดนี้เป็นถึงทีมที่เคยได้ไปแข่งโคชิเอ็น (สนามแข่งเบสบอลระดับม.ปลายทั่วประเทศ) มาแล้ว
การแข่งเป็นไปอย่างดุเดือดและยากลำบาก ก่อนที่ทีมเอโสะโนจะเอาชนะไปได้แบบฉิวเฉียดที่สุด
งานนี้เลยได้เข้าไปเล่นถึงรอบเซมิไฟนอลทั่วฮอกไกโด ซึ่งถ้าชนะอีกสองครั้งก็จะได้ไปแข่งที่โคชิเอ็นซึ่งเป็นการแข่งใหญ่สุดของระดับม.ปลายแล้ว
แล้ววันแข่งรอบเซมิไฟนอลก็มาถึง
อากิกลับถึงบ้านปุ๊บก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ทักทายครอบครัวเสร็จก็แล่นตรงไปเปิดทีวีดูเลย
ด้านบักแว่นกับพวกที่อยู่หอที่โรงเรียนก็อยากดูถึงขนาดไปขอร้องอาจารย์ใหญ่ให้ช่วยขอร้องอาจารย์ที่คอยเฝ้าคอกวัว (ใช้กล้องวงจรปิดเฝ้า เผื่อตัวไหนคลอดลูกกะทันหันจะได้ไปช่วยทำคลอดได้ทัน) ขอใช้จอคอมในห้องเปิดทีวีดูการแข่งหน่อย
เปิดมาปุ๊บก็เจอป้ายคะแนนบอกว่าทีมเอโสะโนตามอยู่ 3 แต้มกันเลยทีเดียว
เนื่องจากคู่แข่งนอกจากเป็นทีมที่เคยได้ไปโคชิเอ็นมาก่อนแล้ว ยังดึงตัวนักกีฬามือดีๆ จากคันไซมาอยู่ด้วยมากมาย เรียกว่าเป็นคู่แข่งสุดหินอีกทีมทีเดียว
ระหว่างลุ้นกับการแข่งกันอยู่ ก็มีรายการวัวคลอดลูกเข้ามาแทรกเป็นระยะๆ
เล่นเอาบักแว่นโดนทารุณกรรมทางจิตใจจนถึงกับ Mind Break เลยทีเดียว (หลอนที่สุดก็ตอนต้องเก็บรกวัวนี่แหละ เหอๆๆ)
ด้านการแข่งของทีมเบสบอลเองก็ยังคงคู่คี่ผลัดกันนำผลัดกันตามอยู่เหมือนเดิม โดยเมื่อการแข่งดำเนินถึงเกมสุดท้าย ทีมเอโสะโนก็ตกที่นั่งลำบากขนาดหนักแม้จะเป็นฝ่ายทำแต้มนำอยู่ (5 - 4) เพราะพิชเชอร์ฝ่ายเอโสะโนขว้างเสียตลอดจนอีกฝ่ายได้วิ่งฟรียืนกันเต็มเบส
งานนี้เลยต้องหวังพึ่งโคมาบะทำสไตรค์ 3 คนรวดจนเกมเซ็ตเท่านั้นถึงจะชนะได้
ปล่อยรังสีอำมหิตซะแรงจนนึกว่าที่ลูกตาใส่หินนักปราชญ์ไว้รึมีตราอุโรโบรอสติดอยู่รึเปล่า
ขว้างชุดเดียวเก็บเอาต์ฝ่ายตรงข้ามไปได้ถึง 2 เอาต์ ทำเอาบักแว่นกับเพื่อนๆ เฮกันยกใหญ่
อากิจังเองก็ลุ้นไม่แพ้กัน
เหลือเอาต์สุดท้ายก็ได้เข้าไปแข่งรอบชิงแล้ว งานนี้ฝ่ายตรงข้ามเลยปล่อยมือตีระดับเทพของตัวเองออกมาชนกับโคมาบะ
โคมาบะขว้างสุดแรงพ่อแก้วแม่แก้วหวังเอาสไตรค์ให้ได้...แต่ฝ่ายตรงข้ามดันหวดได้ แถมยังแรงจนลูกลอยหวือออกไปไกลลิบอีก
แต่โชคดีที่ลูกไม่ได้ไปไกลถึงนอกสนาม แต่ลอยโด่งย้อยลงในสนาม ซึ่งถ้าหากผู้เล่นฝ่ายเอโสะโนรับได้ ก็จะนับเป็นเอาต์ครั้งที่ 3 ในเกมสุดท้าย และฝ่ายเอโสะโนก็จะชนะไปโดยปริยาย (เพราะแต้มนำอยู่ 5 ต่อ 4)
ทว่า...ลมเจ้ากรรมกลับพัดวูบมากะทันหัน วิถีตกของบอลเลยเปลี่ยนจนผู้เล่นฝ่ายเอโสะโนที่รอรับชิลๆ อยู่เคลื่อนไหวตามไม่ทัน
บอลจึงตกลงพื้นแทนที่จะตกลงสู่ถุงมือ ปล่อยให้ตัววิ่งทั้งหมดของฝ่ายตรงข้ามที่ประจำอยู่ทุกเบสวิ่งกลับเข้าโฮม พลิกล็อคชนะไปได้แบบไม่น่าเชื่อสุดๆ
ปวงชนชาวเอโสะโนที่ส่งใจไปเชียร์ถึงกับอึ้งกิมกี่
ประดานักกีฬาถึงกับทรุดอย่างหมดแรงที่ชัยชนะที่เห็นอยู่ชัดๆ กลับหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา
ชอบสีหน้าของโคมาบะในฉากนี้มาก ดูให้อารมณ์ช็อคแบบไม่รับรู้อะไรแล้วได้สุดยอดจริงๆ
บักแว่นกับอากิต่างสลดต่อความพ่ายแพ้ของเพื่อน
อีกฉากที่ชอบในตอนนี้ รุ่นพี่ที่รับลูกพลาดมาพนมมือขอโทษโคมาบะแล้วโคมาบะโค้งตอบ
แม้จะพ่ายแพ้ แต่เพื่อนๆ ทุกคนได้เห็นโคมาบะสู้ยิบตาจนพาทีมไปถึงรอบลึกได้ขนาดนั้นก็เกิดกำลังใจขึ้นมาว่าลองปีนี้ทำได้ขนาดนี้ ปีหน้าโคมาบะต้องพาทีมไปแข่งระดับประเทศโคชิเอ็นได้แน่
ตอนนั้นเองที่ทุกคนสังเกตว่าโคมาบะไม่ได้อยู่ในห้องด้วย แต่ทุกคนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร คิดว่าเจ้าตัวคงลาหยุดเฉยๆ เท่านั้น
ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่สังเกตเห็นสีหน้าหม่นหมองราวกับจะรู้อะไรบางอย่างของอากิ...
แล้วการแข่งขันของชมรมเบสบอลโรงเรียนการเกษตรโอเอโสะก็สิ้นสุดลงด้วยประการฉะนี้
ดูตอนนี้แล้วให้อารมณ์เหมือนดูการ์ตูนเบสบอลจริงๆ เลยแฮะ
เอาจริงๆ ตอนอ่านตอนนี้ทีแรกในภาคมังงะนั้นผมโคตรเบื่อเลยนะ ยังคิดเลยว่าเอาฉากแข่งเบสบอลมาใส่ซะยืดยาวตั้ง 3 ตอนรวดแบบนี้ทำไมกันหว่า แต่ลงเอยพอได้อ่านเนื้อเรื่องหลังจากนั้นแล้วก็เข้าใจขึ้นมาเลยว่าทำไมอ.ถึงลงทุนเขียนฉากโคมาบะกับชมรมเบสบอลถึงขนาดนี้ ซึ่งตอนนี้พอย้อนกลับมาดูเนื้อเรื่องตรงนี้อีกรอบในฐานะคนที่รู้เนื้อหาหลังจากนี้ไปแล้ว ก็ยอมรับเลยแฮะว่าพอรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดต่อไปแล้ว มันทำให้เนื้อเรื่องตรงนี้ซึ้งขึ้นมาจริงๆ
สำหรับเนื้อเรื่องต่อจากนี้เป็นยังไงต่อนั้นผมคงบอกได้แค่สั้นๆ ตามภาพข้างล่างนี้ครับ