อิอิ อย่าได้ดุด่าว่าทอ หาว่าผมลามก หมกมุ่น อะไรกันเลยนะครับ อยากแชร์ประสพการณ์ ให้เพื่อนๆใน 1000ทิปได้รู้กันบ้าง
พอดีคุณ ตี๋ใหญ่ เพื่อนในเฟส อัพภาพต้นตะโกนา มาโชว์กัน ผมพอจะรู้สรรพคุณของตะโกนา บ้างเลย นึกสนุก หมั้นเขี้ยว อยากเผยแพร่ให้เพื่อนๆ รู้กันทั่วๆ ว่าของดีเผลอๆอยู่ใกล้ตัวกว่า ที่คิด อิอิอิ ออกตัวก่อนว่าไม่ได้เก่งกาจอะไรนะครับ เพียงแต่เคยศึกษาบ้าง หากใครจะนำไปใช้ ให้ดีก็ลองศึกษาดูก่อน แต่ที่ผมใช้ โอวส์พระเจ้าจอร์จ อ่านเอาเองแล้วกัน บางส่วน ก๊อปมาจากในเฟส ขี้เกียจพิพม์ใหม่ทั้งหมด
ข้อมูลอันนี้เตรดิต คุณMuTThAyA_Th
ที่สำคัญตะโกนับว่าเป็นสุดยอดของยาบำรุงสุขภาพต้นหนึ่ง โดยเฉพาะท่านสุภาพบุรุษ เมื่อนึกภาพที่เห็นลุงแก่ ๆ ที่มาถากเอาเปลือกต้นตะโกไป เมื่อโตขึ้นก็ถึงบางอ้อ รู้นะว่าเอาไปต้มกินเพื่ออะไร เพราะน้ำต้มเปลือกและเนื้อไม้ตะโก มีสรรพคุณแก้โรคกามตายด้าน กระตุ้นร่างกายให้สดชื่นแข็งแรง บำรุงกำลัง บำรุงธาตุ นั่นเอง
ในตำรายาพิเศษ ของสมเด็จเจ้าพระยาบรมวงศ์เธอกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ได้เขียนตำรายาเป็นคำกลอนไว้ว่า
"นิทานหนึ่งนั้น เขาพูดเล่ากัน ณ ราชวังใน แสดงคุณยา นำมาแถลงไข ว่าผู้หนึ่งได้เป็นเช่นนี้มา มิได้ไข้เจ็บ อยู่กับภรรยา อาการกริยา กลายเป็นพระไป อยู่กับเมียนั้น เหมือนพี่น้องกัน ดังนี้เป็นได้ หลายปีเดือนนาน รำคาญเหลือใจ ตอมจิตคิดไป เคืองคับอุรา นึกจักไปบวช เสียดายภรรยา หวนไปหวนมา โกรธแค้นร่างกาย ไม่ได้ดังจิตร จำนงนึกหมาย กำลังเสื่อมหาย เดือดร้อนเสียใจ วันหนึ่งเพื่อนเกลอ มาเยี่ยมแต่ไกล พูดจาปราไสย ถามถึงร่างกาย ว่าเกลอเป็นไร ดูไม่สบาย เจ้าขุนมูลนาย เบียดเบียนบีฑา หรือเจ็บป่วยไข้ ร่างกายกายา คล้ำดำผิดตา สุขทุกข์อย่างไร"
เพื่อนก็บอกอาการให้ฟัง เมื่อรู้อาการ เพื่อนเกลอที่มาแต่แดนไกลก็บอกตำรายารักษาว่า
"..... เพื่อนเกลอได้ฟัง อาไศรยกำลัง กรุณาอย่าตาม บอกยาแล้วว่า เจ้าอย่าเข็ดขาม กินสองสามชาม จักหายโรคภัย กำลังกายา จักมาโตใหญ่ ต้มกินให้ได้ เปลือกพญาช้างดำ กำหนดจำไว้ จงได้หาทำ ยานี้ดีล้ำ เขาเรียกตะโกนา ฯ"
"ครั้นเกลอไปแล้ว ชายนั้นแสวงหา ได้เปลือกตะโกนา ต้มกินรินไป หายโรคกำลัง มากมายเจริญใหญ่ ยิ่งกว่าเก่าไป เป็นสุขสำราญ ฯ"
ปัจจุบันเรื่องอย่างว่าของคุณ ๆ ผู้ชายกำลังกลายเป็นปัญหาระดับประเทศจนถึงระดับโลก ปั่นป่วนกันไม่น้อย บางรายก็ซ่อนเร้นราวกับอับอายในเรื่องของธรรมชาติ มีเมียแต่กลับนอนคนเดียว จนคนกังขา บางรายชายชราแต่หาแทะเล็มหญ้าอ่อนจนนอนซม ความพอดีอยู่ไหนหนอ
มี งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า ความรัก การมีคู่ทำให้ชีวิตคนยืนยาวขึ้น ตะโกคงทำหน้าที่ของมันมาช้านานในสังคมไทย ในคุณค่าของยาไทยจึงมิใช่ว่าจะละเลยความจำเป็นพื้นฐานของมนุษย์คนสมัยก่อน รู้ว่าตะโกเป็นยาอะไรเหมือนกับที่รู้ว่าต้องกินข้าวเมื่อหิว
แต่ทำไมหนาคนสมัยนี้จึงไม่มีใครรู้จักตะโกเอาเสียเลย รู้จักแต่ ยาเลิฟ ยาอี ที่ปราบไม่รู้จักหมด แล้วจะโทษใครดี
เครดิตรูป จาก สมุนไหรดอทคอม
อันนี้ของผมครับ
พ่อเอ๋ย หาก มีต้นตะโกนาอยู่ใกล้ๆ มือพ่อละก็ เปลือกถากมา
ล้างน้ำให้สอาด ตากแดดให้แห้ง แล้วเอามาย่างไฟอ่อนๆให้เหลือง(อบเอาก็ได้) สับเป็นชิ้นเล็กๆ ต้มกับน้ำ พอเดือดแล้วเคี่ยวไฟอ่อน จนน้ำให้เหลือ 1/3 เช่น ยา 1ขีด น้ำ 3 ลิตรก็เคี่ยวจนเหลือ 1 ลิตร อุ่นยากินเช้าเย็นครั้งละ 1 แก้วเป็ก ................รับรองเมียจะบ่น ว่าไปคึกอะไรมานักหนา ถ้าให้ดีใส่ม้ากระทืบโรง และชิงช้าชาลี กับกำลังวัวเถลิง กำลังเสือโคร่ง กำลังช้างเผือก ไปด้วยแล้วล่ะ
พ่อคุ๊ณเอ๋ย พ่อจะ คึกคัก ซู่ซ่า กันทั้งวันทั้งคืน พ่อจะกินจุ กินแหลก เท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม
หากพ่อ ไม่มีต้นตะโกนา อยู่ใกล้มือ ไปหาไปซื้อได้ ตามร้านยาไทย ใกล้บ้านก็ได้จ้าาาา ทุกอย่างขีดละ 20 บาทเอง เอาทุกอย่าง(หรือ 2-3 อย่างก็ได้ แต่ห้ามขาด ตะโกนา กับม้ากระทืบโรง ชิงช้าชาลี) อย่างละ 1/2 ขีด หรืออย่างละ เท่ากัน ต้มรวมกัน การต้มยาจากสมุนไพรแห้ง ให้ล้างให้สอาด แล้วแข่น้ำทิ้งไว้ก่อนสัก 20-30 นาที ค่อยต้มนะครับโดยปกติตามสูตร ยา 1 ขีด ใช้น้ำ 3 ลิตร เคียวให้เหลือ 1 ลิตร ต้มจนเดือด ไฟไม่ต้องแรงมาก พอเดือดแล้วเบาไฟ เคียวยาจนเหลือประมาณดั่งว่า แต่ผมต้มจริงๆก็ไม่ตายตัวหรอกครับ เคี่ยวจนน้ำเหลือ ท่วมยานิดหน่อย ทานตอนอุ่นๆ ครั้งละถ้วยเป็ก หรือน้อยกว่านั้น ตามกำลัง อุ่นยาพอเดือดเช้าเย็น
(ระวังบูด ระวังไหม้ด้วยนะครับ) หากน้ำแห้ง เติมน้ำ แล้วอุ่นใหม่
ลืมบอกไปว่า น้ำยาจะมีสีเข้ม รสขมมัน หากทานยาก ให้ใส่น้ำผึ้ง(จิตรลดา ก็ได้ถูกดี หาง่ายด้วย 7-11 หลอดละ 30 บ.เอง) ลงไปเล็กหน่อย ไม่ต้องมาก จะทานง่ายและยิ่งดีขึ้น(ในกรณีที่ไม่มีปัญหาเรื่องเบาหวาน)
ยานี้ อย่าทานมาก ครั้งละ 1 เป็ก เช้าเย็นพอ อุ่นยากินจนจืด แล้วพักสัก10-15 วัน ค่อยต้มยากินใหม่(อย่ากินต่อเนื่องกัน)
หญิงทานได้ ชายกินดีบำรุงกำลัง บำรุงกำหนัด แก้ปวดเมื่อย หากกินทั้งผัวทั้งเมีย(โอ้ลั้นล้า จะรู้ว่าสวรรค์มีจริง) ให้ เพิ่มราก30 (สาวร้อยผัว) ลงไปด้วย (1ขีด35 บาท) กินเข้าไปเครื่องจะร้อน ใจเต้นแรง หายใจฟืดฟัด แม่โว้ยรับรองว่า เอา(อก)เอา(ใจ)กันดีจัง ทุกคืนหื่นไม่มีเว้น เหลี่ยวซ้ายแลขวาเห็นไม่มีใคร ก็มักจะชวนกันไปกินตับ อิอิอิ
อ้าว...ทำไมตรูรู้ดีจังว่ะ ก็ศึกษามานานแล้วครับ ยานี้ไม่ได้เป็นสูตรยานะครับ เป็นใช้ตัวยาแบบ กษัย ยานี้ไม่มีอันตราย (ผู้มีปัญหาโรตไต หรือ ตับ ตวรปรึกษาแพทย์ก่อน จะดีกว่านะครับ) เป็นยาอายุวํฒธนะ แต่ไม่เหมาะสำหรับวัยรุ่นหรือ วัยฉะกัน นะครับ เพราะวัยนี้เครื่องร้อนอยู่แล้ว เหมาะสำหรับคนวัย 40 อัพ หรือผู้มีปัญหา นกเขาขันไม่ดัง หรือไม่ขัน และที่สำคัญต่อให้ยาดีแค่ไหน หากไม่พักผ่อน ไม่ออกกำลัง ไม่เพลาเรื่อง บุหรี และ สุรา ตลอดจนรัปทานอาหารให้เหมาะสม ก็ไม่สามรถส่งผลให้ดีมากตามปราถนาได้ครับ
ถ้าทานยาแล้ว รู้สึกไม่ดี ให้ลดปริมาณลงดู เพื่อดูว่ายาขนาดไหนเหมาะกับเรา ยาพวกนี้เป็นยาร้อน โบราณท่านให้ทานที่ละน้อย และไม่ควรทานต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน ควรพักเป็นช่วงๆ
ยาสมุนไพรไทย เป็นของวิเศษ ที่คนไม่เคยใช้จะไม่ค่อยรู้คุณค่า แต่เคยใช้และใช้เป็น จะบอก โอวส์พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก
การใช้สมุนไพรไทยมีข้อบ่งใช้ ในการใช้ยาแต่ละตัว เพราะยาบางตัวมันมีพิษหรือเอฟเฟ็คข้างเคียง โบราณท่านฉลาดและรู้เรื่องนี้ดี ท่านจึงมีข้อกำหนดในการใช้สมุนไพรแต่ละชนิด เช่นเปลือกตะโกนาถ้าใช้สดๆจะเป็นพิษและทำให้ผิวคล้ำ ต้องเอาไปตากและย่างไฟก่อน ชิงช้าชาลี และบรเพ็ด เป็นยาร้อน ท่านห้ามใช้ต่อเนื่องกันนานๆเกิน 1 เดือน และกระเจี๊ยบแดงมีกรดซืตริก มีฤิทธิกำจัดไขมันอุดตันในเส้นเลือดแต่ก็เป็นอันตรายกับไตจึงให้ต้มพร้อมกับพุทราจีน เพื่อทำลายความเป็นพิษของกระเจี๊ยบแถมยังช่วยบำรุงสมอง เพิ่มอีกด้วย หรือใบกระท่อม สุดยอดยาสำหรัยผู้ใช้แรงงาน ดีกว่ากินเครื่องดืมบำรุงกำลังเป็น 10 เท่า(เขาถึงจะถอดออกจากบัญชียาเสพติดไงครับ) ใบกระท่อมหากกินสดผิวจะดำคล้ำเกรียม โบราณ ท่านจะให้นำใบกระท่อมไปย่างไฟก่อนเคี้ยวกิน ฉนั้นก่อนใช้ยาสมุนไพรไทยกรุณา ศึกษาหาข้อมูลก่อนบ้างพอควรครับ
ยาไทยซื้อจากร้านขายยาไทยดีที่สุดครับ ราคาถูกและเขาทำมาเรียบร้อย(เช่นย่างมาแล้ว)อย่าไปซื้อไอ้พวกยี่ห้อสำเร็จรูปเลยครับ แพงมาก อย่างกวาวเครือแคปซูลซื้อร่นยาไืทย 100 เม็ด ราคา 180 บาท แต่ซื้อพวกมียี้ห้อกระปุกงหลายร้อยบาท แถมบางที่ การค้าเกินไปกินแล้วมีผลข้างเคียงเยอะจนทำให้ยาสมุนไพรไทยเสียชื่อเสียง
อายจัง แต่นำมาเผยแพร่แล้วไม่บอกผลการทดลอง ก็จะไม่เป็นวิชาเกิน เอ้ย วิชาการ สำหรับ ผม ( 52 ปี) และ ภรรยา ( 46 ปี) อยู่กืนกันมา 20 ปี ไม่มีบุตร สุขภาพพอประมาณของวัยนี้ เรื่องนั้นก็เรื่อยๆ อาทิตย์ละ หน สองหน
แต่พอทานยาต้มนี้ ฉันแก้ว เธอแก้ว ทานกับน้ำผึ้ง เช้าเย็น แหม อายอ่ะ อย่างน้อยต้องวันละ 1 ไม่งั้นพลิกซ้าย ก่ายขวา กระวนกระวาย ไม่หลับไม่นอน ร้อนรุ่มกลุ้มใจ เหมือนมีทุกข์หนักบอกใครไม่ได้ จนกว่า ก้อนะ ถึงจะได้นอนหลับฝันดีกอดกันอย่างมีความสุข อิอิ และ มันให้รู้สึกถวิลหาต้องการอยู่เป็นนิจ ขนาดอยากให้มืดค่ำไว หรือ มากกว่า 1 ก็พอมีครับ และเป็นทั้งผมและภรรยาคนสวย อิอิอิ อาย
เรท ตะโกนา บำรุงความกำหนัด เมียจะบ่นว่าคึกอะไรนักหนา กินแล้วเครื่องร้อน เอา(อก)เอา(ใจ)กันดีจัง ทุกคืนหื่นไม่มีเว้น อิอิ
พอดีคุณ ตี๋ใหญ่ เพื่อนในเฟส อัพภาพต้นตะโกนา มาโชว์กัน ผมพอจะรู้สรรพคุณของตะโกนา บ้างเลย นึกสนุก หมั้นเขี้ยว อยากเผยแพร่ให้เพื่อนๆ รู้กันทั่วๆ ว่าของดีเผลอๆอยู่ใกล้ตัวกว่า ที่คิด อิอิอิ ออกตัวก่อนว่าไม่ได้เก่งกาจอะไรนะครับ เพียงแต่เคยศึกษาบ้าง หากใครจะนำไปใช้ ให้ดีก็ลองศึกษาดูก่อน แต่ที่ผมใช้ โอวส์พระเจ้าจอร์จ อ่านเอาเองแล้วกัน บางส่วน ก๊อปมาจากในเฟส ขี้เกียจพิพม์ใหม่ทั้งหมด
ข้อมูลอันนี้เตรดิต คุณMuTThAyA_Th
ที่สำคัญตะโกนับว่าเป็นสุดยอดของยาบำรุงสุขภาพต้นหนึ่ง โดยเฉพาะท่านสุภาพบุรุษ เมื่อนึกภาพที่เห็นลุงแก่ ๆ ที่มาถากเอาเปลือกต้นตะโกไป เมื่อโตขึ้นก็ถึงบางอ้อ รู้นะว่าเอาไปต้มกินเพื่ออะไร เพราะน้ำต้มเปลือกและเนื้อไม้ตะโก มีสรรพคุณแก้โรคกามตายด้าน กระตุ้นร่างกายให้สดชื่นแข็งแรง บำรุงกำลัง บำรุงธาตุ นั่นเอง
ในตำรายาพิเศษ ของสมเด็จเจ้าพระยาบรมวงศ์เธอกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ได้เขียนตำรายาเป็นคำกลอนไว้ว่า
"นิทานหนึ่งนั้น เขาพูดเล่ากัน ณ ราชวังใน แสดงคุณยา นำมาแถลงไข ว่าผู้หนึ่งได้เป็นเช่นนี้มา มิได้ไข้เจ็บ อยู่กับภรรยา อาการกริยา กลายเป็นพระไป อยู่กับเมียนั้น เหมือนพี่น้องกัน ดังนี้เป็นได้ หลายปีเดือนนาน รำคาญเหลือใจ ตอมจิตคิดไป เคืองคับอุรา นึกจักไปบวช เสียดายภรรยา หวนไปหวนมา โกรธแค้นร่างกาย ไม่ได้ดังจิตร จำนงนึกหมาย กำลังเสื่อมหาย เดือดร้อนเสียใจ วันหนึ่งเพื่อนเกลอ มาเยี่ยมแต่ไกล พูดจาปราไสย ถามถึงร่างกาย ว่าเกลอเป็นไร ดูไม่สบาย เจ้าขุนมูลนาย เบียดเบียนบีฑา หรือเจ็บป่วยไข้ ร่างกายกายา คล้ำดำผิดตา สุขทุกข์อย่างไร"
เพื่อนก็บอกอาการให้ฟัง เมื่อรู้อาการ เพื่อนเกลอที่มาแต่แดนไกลก็บอกตำรายารักษาว่า
"..... เพื่อนเกลอได้ฟัง อาไศรยกำลัง กรุณาอย่าตาม บอกยาแล้วว่า เจ้าอย่าเข็ดขาม กินสองสามชาม จักหายโรคภัย กำลังกายา จักมาโตใหญ่ ต้มกินให้ได้ เปลือกพญาช้างดำ กำหนดจำไว้ จงได้หาทำ ยานี้ดีล้ำ เขาเรียกตะโกนา ฯ"
"ครั้นเกลอไปแล้ว ชายนั้นแสวงหา ได้เปลือกตะโกนา ต้มกินรินไป หายโรคกำลัง มากมายเจริญใหญ่ ยิ่งกว่าเก่าไป เป็นสุขสำราญ ฯ"
ปัจจุบันเรื่องอย่างว่าของคุณ ๆ ผู้ชายกำลังกลายเป็นปัญหาระดับประเทศจนถึงระดับโลก ปั่นป่วนกันไม่น้อย บางรายก็ซ่อนเร้นราวกับอับอายในเรื่องของธรรมชาติ มีเมียแต่กลับนอนคนเดียว จนคนกังขา บางรายชายชราแต่หาแทะเล็มหญ้าอ่อนจนนอนซม ความพอดีอยู่ไหนหนอ
มี งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า ความรัก การมีคู่ทำให้ชีวิตคนยืนยาวขึ้น ตะโกคงทำหน้าที่ของมันมาช้านานในสังคมไทย ในคุณค่าของยาไทยจึงมิใช่ว่าจะละเลยความจำเป็นพื้นฐานของมนุษย์คนสมัยก่อน รู้ว่าตะโกเป็นยาอะไรเหมือนกับที่รู้ว่าต้องกินข้าวเมื่อหิว
แต่ทำไมหนาคนสมัยนี้จึงไม่มีใครรู้จักตะโกเอาเสียเลย รู้จักแต่ ยาเลิฟ ยาอี ที่ปราบไม่รู้จักหมด แล้วจะโทษใครดี
เครดิตรูป จาก สมุนไหรดอทคอม
อันนี้ของผมครับ
พ่อเอ๋ย หาก มีต้นตะโกนาอยู่ใกล้ๆ มือพ่อละก็ เปลือกถากมา
ล้างน้ำให้สอาด ตากแดดให้แห้ง แล้วเอามาย่างไฟอ่อนๆให้เหลือง(อบเอาก็ได้) สับเป็นชิ้นเล็กๆ ต้มกับน้ำ พอเดือดแล้วเคี่ยวไฟอ่อน จนน้ำให้เหลือ 1/3 เช่น ยา 1ขีด น้ำ 3 ลิตรก็เคี่ยวจนเหลือ 1 ลิตร อุ่นยากินเช้าเย็นครั้งละ 1 แก้วเป็ก ................รับรองเมียจะบ่น ว่าไปคึกอะไรมานักหนา ถ้าให้ดีใส่ม้ากระทืบโรง และชิงช้าชาลี กับกำลังวัวเถลิง กำลังเสือโคร่ง กำลังช้างเผือก ไปด้วยแล้วล่ะ
พ่อคุ๊ณเอ๋ย พ่อจะ คึกคัก ซู่ซ่า กันทั้งวันทั้งคืน พ่อจะกินจุ กินแหลก เท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม
หากพ่อ ไม่มีต้นตะโกนา อยู่ใกล้มือ ไปหาไปซื้อได้ ตามร้านยาไทย ใกล้บ้านก็ได้จ้าาาา ทุกอย่างขีดละ 20 บาทเอง เอาทุกอย่าง(หรือ 2-3 อย่างก็ได้ แต่ห้ามขาด ตะโกนา กับม้ากระทืบโรง ชิงช้าชาลี) อย่างละ 1/2 ขีด หรืออย่างละ เท่ากัน ต้มรวมกัน การต้มยาจากสมุนไพรแห้ง ให้ล้างให้สอาด แล้วแข่น้ำทิ้งไว้ก่อนสัก 20-30 นาที ค่อยต้มนะครับโดยปกติตามสูตร ยา 1 ขีด ใช้น้ำ 3 ลิตร เคียวให้เหลือ 1 ลิตร ต้มจนเดือด ไฟไม่ต้องแรงมาก พอเดือดแล้วเบาไฟ เคียวยาจนเหลือประมาณดั่งว่า แต่ผมต้มจริงๆก็ไม่ตายตัวหรอกครับ เคี่ยวจนน้ำเหลือ ท่วมยานิดหน่อย ทานตอนอุ่นๆ ครั้งละถ้วยเป็ก หรือน้อยกว่านั้น ตามกำลัง อุ่นยาพอเดือดเช้าเย็น (ระวังบูด ระวังไหม้ด้วยนะครับ) หากน้ำแห้ง เติมน้ำ แล้วอุ่นใหม่
ลืมบอกไปว่า น้ำยาจะมีสีเข้ม รสขมมัน หากทานยาก ให้ใส่น้ำผึ้ง(จิตรลดา ก็ได้ถูกดี หาง่ายด้วย 7-11 หลอดละ 30 บ.เอง) ลงไปเล็กหน่อย ไม่ต้องมาก จะทานง่ายและยิ่งดีขึ้น(ในกรณีที่ไม่มีปัญหาเรื่องเบาหวาน)
ยานี้ อย่าทานมาก ครั้งละ 1 เป็ก เช้าเย็นพอ อุ่นยากินจนจืด แล้วพักสัก10-15 วัน ค่อยต้มยากินใหม่(อย่ากินต่อเนื่องกัน)
หญิงทานได้ ชายกินดีบำรุงกำลัง บำรุงกำหนัด แก้ปวดเมื่อย หากกินทั้งผัวทั้งเมีย(โอ้ลั้นล้า จะรู้ว่าสวรรค์มีจริง) ให้ เพิ่มราก30 (สาวร้อยผัว) ลงไปด้วย (1ขีด35 บาท) กินเข้าไปเครื่องจะร้อน ใจเต้นแรง หายใจฟืดฟัด แม่โว้ยรับรองว่า เอา(อก)เอา(ใจ)กันดีจัง ทุกคืนหื่นไม่มีเว้น เหลี่ยวซ้ายแลขวาเห็นไม่มีใคร ก็มักจะชวนกันไปกินตับ อิอิอิ
อ้าว...ทำไมตรูรู้ดีจังว่ะ ก็ศึกษามานานแล้วครับ ยานี้ไม่ได้เป็นสูตรยานะครับ เป็นใช้ตัวยาแบบ กษัย ยานี้ไม่มีอันตราย (ผู้มีปัญหาโรตไต หรือ ตับ ตวรปรึกษาแพทย์ก่อน จะดีกว่านะครับ) เป็นยาอายุวํฒธนะ แต่ไม่เหมาะสำหรับวัยรุ่นหรือ วัยฉะกัน นะครับ เพราะวัยนี้เครื่องร้อนอยู่แล้ว เหมาะสำหรับคนวัย 40 อัพ หรือผู้มีปัญหา นกเขาขันไม่ดัง หรือไม่ขัน และที่สำคัญต่อให้ยาดีแค่ไหน หากไม่พักผ่อน ไม่ออกกำลัง ไม่เพลาเรื่อง บุหรี และ สุรา ตลอดจนรัปทานอาหารให้เหมาะสม ก็ไม่สามรถส่งผลให้ดีมากตามปราถนาได้ครับ
ถ้าทานยาแล้ว รู้สึกไม่ดี ให้ลดปริมาณลงดู เพื่อดูว่ายาขนาดไหนเหมาะกับเรา ยาพวกนี้เป็นยาร้อน โบราณท่านให้ทานที่ละน้อย และไม่ควรทานต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน ควรพักเป็นช่วงๆ
ยาสมุนไพรไทย เป็นของวิเศษ ที่คนไม่เคยใช้จะไม่ค่อยรู้คุณค่า แต่เคยใช้และใช้เป็น จะบอก โอวส์พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก
การใช้สมุนไพรไทยมีข้อบ่งใช้ ในการใช้ยาแต่ละตัว เพราะยาบางตัวมันมีพิษหรือเอฟเฟ็คข้างเคียง โบราณท่านฉลาดและรู้เรื่องนี้ดี ท่านจึงมีข้อกำหนดในการใช้สมุนไพรแต่ละชนิด เช่นเปลือกตะโกนาถ้าใช้สดๆจะเป็นพิษและทำให้ผิวคล้ำ ต้องเอาไปตากและย่างไฟก่อน ชิงช้าชาลี และบรเพ็ด เป็นยาร้อน ท่านห้ามใช้ต่อเนื่องกันนานๆเกิน 1 เดือน และกระเจี๊ยบแดงมีกรดซืตริก มีฤิทธิกำจัดไขมันอุดตันในเส้นเลือดแต่ก็เป็นอันตรายกับไตจึงให้ต้มพร้อมกับพุทราจีน เพื่อทำลายความเป็นพิษของกระเจี๊ยบแถมยังช่วยบำรุงสมอง เพิ่มอีกด้วย หรือใบกระท่อม สุดยอดยาสำหรัยผู้ใช้แรงงาน ดีกว่ากินเครื่องดืมบำรุงกำลังเป็น 10 เท่า(เขาถึงจะถอดออกจากบัญชียาเสพติดไงครับ) ใบกระท่อมหากกินสดผิวจะดำคล้ำเกรียม โบราณ ท่านจะให้นำใบกระท่อมไปย่างไฟก่อนเคี้ยวกิน ฉนั้นก่อนใช้ยาสมุนไพรไทยกรุณา ศึกษาหาข้อมูลก่อนบ้างพอควรครับ
ยาไทยซื้อจากร้านขายยาไทยดีที่สุดครับ ราคาถูกและเขาทำมาเรียบร้อย(เช่นย่างมาแล้ว)อย่าไปซื้อไอ้พวกยี่ห้อสำเร็จรูปเลยครับ แพงมาก อย่างกวาวเครือแคปซูลซื้อร่นยาไืทย 100 เม็ด ราคา 180 บาท แต่ซื้อพวกมียี้ห้อกระปุกงหลายร้อยบาท แถมบางที่ การค้าเกินไปกินแล้วมีผลข้างเคียงเยอะจนทำให้ยาสมุนไพรไทยเสียชื่อเสียง
อายจัง แต่นำมาเผยแพร่แล้วไม่บอกผลการทดลอง ก็จะไม่เป็นวิชาเกิน เอ้ย วิชาการ สำหรับ ผม ( 52 ปี) และ ภรรยา ( 46 ปี) อยู่กืนกันมา 20 ปี ไม่มีบุตร สุขภาพพอประมาณของวัยนี้ เรื่องนั้นก็เรื่อยๆ อาทิตย์ละ หน สองหน
แต่พอทานยาต้มนี้ ฉันแก้ว เธอแก้ว ทานกับน้ำผึ้ง เช้าเย็น แหม อายอ่ะ อย่างน้อยต้องวันละ 1 ไม่งั้นพลิกซ้าย ก่ายขวา กระวนกระวาย ไม่หลับไม่นอน ร้อนรุ่มกลุ้มใจ เหมือนมีทุกข์หนักบอกใครไม่ได้ จนกว่า ก้อนะ ถึงจะได้นอนหลับฝันดีกอดกันอย่างมีความสุข อิอิ และ มันให้รู้สึกถวิลหาต้องการอยู่เป็นนิจ ขนาดอยากให้มืดค่ำไว หรือ มากกว่า 1 ก็พอมีครับ และเป็นทั้งผมและภรรยาคนสวย อิอิอิ อาย