ราตรีสีอำพัน (106)

กระทู้สนทนา
ราตรีสีอำพัน (106)

ทุกคนลุกมาแต่เช้า ได้ยินเสียงสวดจากห้องละหมาด และมัสยิดที่ห่างออกไป
อากาศเย็นโชยมาปะทะ เหมือนจะบอกว่าฤดูหนาวกำลังจะมาเยือน

“อ้า! เสียงสวดฟังไพเราะนัก อากาศสลัวในยามเช้า ช่างทำให้การสวดมนต์ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
ที่มีอารยธรรมหลายพันปี มีเสน่ห์สำหรับหมอเติ้ล เธอเดินช้าๆ เหมือนจะเก็บความรู้สึกเหล่านี้ไว้ในหัวใจดวงน้อยๆของเธอ

“อ้าว! นั้นเติ้ลมาแล้ว พี่รองก็ทำเป็นใจร้อนไปได้” แป้งเอ่ย

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ในบริเวณวังมียามเดินตรวจตราทั้งคืน และคุณหมอเป็นคนตรงเวลา” ท่านชายอะซันยิ้มให้เมื่อหมอเติ้ลเดินมาในชุดเสื้อคอกลมสีม่วงทับด้วยเสื้อหนังบางๆ กางเกงยีนต์รองเท้าผ้าใบ ผมรวบตึง ใบหน้างดงามเช่นทุกวัน

“เมื่อก่อนเรามีเวรเดินตรวจเพียงห้าทุ่ม นับจากอุบัติเหตุไฟไหม้ห้องท่านหญิง...”

“หา! ไฟไหม้ห้องท่านหญิง โอ้!พระเจ้า” แป้งเริ่มเรียกหาพระผู้เป็นเจ้าด้วยอารามตกใจ

“แต่ได้คุณหมอช่วยไว้ คืนนั้นเธอนึกเฉลียวใจอย่างไรไม่รู้ มาเปิดผ้าม่านดู” ท่านชายหยุด หมอเติ้ลพูดต่อ

“ใช่! คืนนั้นเติ้ลนอนไม่ค่อยหลับ ก็เลยอยู่ดึกหน่อย เดินมาเช็คประตูอีกที แว๊บหนึ่งที่หางตาเหมือนเห็นควันไฟจากห้องท่านหญิง”

“ครับ ผมออกไปทำงานให้ท่านอา ไม่ได้อยู่ในวัง ท่านหมอเข้าไปทุบประตูห้องแล้วเรียกจีเลาะห์เปิดประตู”

“ตอนนั้นควันเต็มไปหมด ทุกคนอยู่ในอาการตกใจเสียงเอะอะ  เติ้ลให้ฟาติมาพาทุกคนไปชั้นล่าง
และวิ่งเข้าไปพาท่านหญิงออกมาแทบแย่ ท่านหญิงสั่นไปหมดด้วยความกลัว “

“โธ่! ท่านหญิงคงกลัวมากไหนจะมองไม่เห็น แกก็สุดยอดเลยมีสติ แล้วจัดการพาท่านหญิงออกมายังไง”

“ฉันเอาผ้าห่มชุบน้ำกอดท่านหญิงไว้แน่น บอกว่าอย่ากลัวหมออยู่นี่แล้ว และถลันออกมา”

“ดีมากเติ้ลดีมาก พระเจ้ายังทรงเมตตาท่านหญิง”พี่รองเอ่ยขึ้น

ท่านชายไม่ได้รู้รายละเอียดเท่าที่เติ้ลเพิ่งเล่าไป ดวงตาท่านชายอะซันแดงกล่ำ หมอเติ้ลเงยหน้ามองพอดี

“โธ่เอ๋ยปากนะปากไม่น่าเลย พูดมากเกินเหตุแท้ๆ” หมอเติ้ลคิด

เธอเดินเข้าไปจับมือเขา “ท่านชายไม่มีอะไรอีกแล้วนะคะ” เสียงนั้นนุ่มนวลนัก
ท่านชายดึงตัวหมอเติ้ลมากอดไว้แนบอกน้ำตาซึม พี่รองเข้ามาโอบอีกคน

“ท่านชายเข้มแข็งอยู่แล้ว แม้ต้องผ่านปัญหามากมาย ต้องไม่หวั่นไหว เราลูกผู้ชายเกิดมาต้องแข็งดั่งเหล็กกล้า” พี่รองพูดเสียงหนักแน่น
แป้งยื่นจานขนมปังปิ้งให้พร้อมยิ้มอย่างน่ารัก

“ไม่มีอะไรแล้ว เราเข้าใจท่านชายดี อย่าเฝ้าโทษตัวเองกับเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้น”

“ใช่ค่ะท่านชาย เราทำดีที่สุดแล้ว ท่านก็ดูแลทุกคนแม้เหนื่อย หมอยังไม่เคยเห็นท่านบ่นเลยนะคะ สู้ๆ”  

“ขอบคุณทุกคน ผมต้องขอโทษด้วย แย่จัง” “ท่านชายเอ่ยเบาๆ

“คำว่าลูกผู้ชายไม่หลั่งน้ำตา เขาเลิกใช้แล้วนะหมอนะ” แป้งพูด หมอเติ้ลพยักหน้า

“หากเหนื่อยนักคุณมีฉันเป็นเพื่อน”

“ครับผม” หมอเติ้ลยื่นกาแฟให้ท่านชาย และทุกคนก็จัดการกับขนมปังรองท้องเสร็จ
พอดีกับอาดัมและมูซามาถึงพอดี

“ทั้งสองจะดื่มกาแฟก่อนไหมจ้ะ หมอรอได้นะ”

”พวกเราเรียบร้อยมาจากโรงครัวแล้วครับท่านหมอ”

“งั้นเราไปกันเถอะ” ท่านชายเอ่ยและเดินนำออกไป

ท่านชายเปิดห้องและเปิดไฟแชนเดอเลียร์ โคมไฟกระทบคริสตัลเนื้อดีส่งประกายงดงาม
และไฟเพดานที่เจาะฝ้าเป็นวงกลมใส่ไฟแบบประหยัด ไฟสีนวลตาทุกคนตื่นตากับห้องจัดเลีย้งที่ตกแต่งไว้งดงาม  กระจกสี่ด้าน
ทำให้แลเห็นแสงและดวงตะวันกำลังลอยตัวพ้นเหลี่ยมเขาออกมาดูงดงามยิ่ง

“โอ้!สวยงามมากค่ะ” ท่านชายส่งกล้องถ่ายรูปให้ท่านหมอ พร้อมสไลด์กระจกออก ลมเย็นพัดวูบเข้ามา

“อู๊ย! เย็นเหมือนกันนะเนี่ย”แป้งโวย พี่รองมองดูทั้งสองแล้วหนักใจ ต่างฝ่ายต่างรู้ใจและใส่ใจกันขนาดนี้

“แย่แน่ๆมะ” เขาคิด ท่านชายปิดกระจกแล้วล็อค

อีกฝั่งหนึ่งมองเห็นลานหญ้า น้ำพุสวย และถนนที่คดเคี้ยวอยู่เบื้องล่าง  
อาคารบ้านเรือนบางแห่งยังเปิดไฟระยิบ มองมาอีกด้านเห็นตัวเรือนใหญ่และปล่องไฟเตาผิง
เลยไปเห็นเรือนหมอเติ้ลและท้ายสุดเป็นดงอินทผลัมที่กำลังสุกเกือบเก็บได้แล้ว

“ชั้นบน ห้องจัดเลี้ยงนี่ สวยทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะติดกระจกรอบด้าน นะครับท่านชาย”

“ครับอาจารย์”
ท่านชายอะซันยังไม่เปลี่ยนสรรพนามเรียกพี่รองๆเลยรับตำแหน่งไว้โดยปริยาย

อาดัม และมูซาต่อต้นคิสมาสต์จนเสร็จสูงสองเมตรครึ่ง

”ใหญ่ได้อารมณ์จริงๆ” หมอเติ้ลพูดยิ้มๆ แล้วต่างคนต่างก็ช่วยกันประดับต้นคริสมาสต์ด้วยลูกกลมหลายขนาดหลากสี และกล่องสีเงินและสีทองเล็กๆ ดวงดาว และกาตูนย์ตัวน้อย ท่านชายเอ่ยกับหมอเติ้ล

“คุณหมอขึ้นไปติดแองเจิ้ลไว้บนยอดให้เราหน่อยซิครับ” “อือ!ก็ได้” เธอถือแองเจิ้ลไว้ในมือ
ไต่บันไดที่อาดัมและมูวาจับอยู่ พอขึ้นไปได้ครึ่งทางเสื้อหนังเกี่ยวกับขาบันได หมอไม่ทันระวังหงายลงมาทั้งตัวท่านชายผวาพร้อมพี่รอง แต่ท่านชายไวกว่าคว้าตัวหมอเติ้ลไว้ได้ เธอตกใจมากเพราะไม่ทันระวังตัว
เอาสองมือกอดคอท่านชายแน่น แนบใบหน้าลงที่ปลายคางเขาอย่างขวัญเสีย

อาดัมกดกล้องถ่ายภาพท่านชายได้ภาพสวยอีกภาพ “แชะ”

“เติ้ลเป็นอะไรหรือเปล่า”  พี่รองถามอย่างตกใจ ท่านชายปล่อยหมอลงยืน

“ไม่เป็นอะไรหรอกพี่รอง ตกใจนิดหน่อย”

“ผมไม่น่าหาเรื่องให้หมอเลย” ท่านชายตำหนิตัวเอง

“อย่าพูดอย่างนั้นซิค่ะ หมอไม่ได้เป็นอะไรแล้ว”

พอสถานการณ์กลับเข้าสู่ปกติ มูชาก็ให้อาดัมขึ้นไปติดแองเจิ้ลเรียบร้อยแล้ว
มูซาเดินไปหลังเคาน์เตอร์ครู่เดียวก็ได้กลิ่นกาแฟสดหอมยวนใจ อาดัมเป็นคนยกมาเสริฟพร้อมนมร้อนและน้ำตาล

“เคาร์เตอร์บาร์มีเครื่องดื่มทุกชนิด เมื่อวานเย็นแม่บ้านมาทำความสะอาดและเอาของมาเตรียมไว้ให้ครับ”

“อือ!กาแฟอะไรค่ะ หอมมากเลย”หมอเติ้ลจิบช้าๆและเอ่ยชม  

“กาแฟดีจากจาไมก้าครับเรามีตัวแทนจำหน่ายที่นี่”

“แม้ ท่ามีกีต้าร์มาด้วยก็ดี พี่รองเล่นกีต้าร์เก่ง” แป้งเปรยขึ้นอย่างเสียดาย

“จะยืมของอาดัมก่อนได้ไหม” ท่านชายหันไปทางลูกน้องคนสนิท

“ได้ครับแล้วผมจะเตรียมให้”

”อาดัมเขาเล่นเก่ง เขาเคยตั้งวงด้วยสมัยอยู่ในมหาวิทยาลัย” ทุกคนมองชายวัยไล่ๆกับท่านชาย
ร่างสูงแต่เล็กกว่าท่านชาย ใบหน้าหล่อแต่ไม่คมเข้มเท่าท่านชาย แต่เขาเป็นคนที่ยิ้มง่าย ทำให้คนอยู่ไกล้สบายใจ

“ท่านชายไม่เล่นดนตรีหรือครับ” พี่รองถาม ท่านชายยิ้มแล้วส่ายหน้า

มูซาตอบแทน “ท่านชายไม่เล่นดนตรีสักอย่างเลยครับ ชอบฟังมาก แต่เล่นไม่ได้ ท่านหมอเล่นขิมให้ฟังบ่อยๆ
บางทีก็อาดัมเล่นกีต้าร์ ท่านเล่นกีฬาทุกชนิด ขี่ม้า โบโล ฟุตบอลล์ เทนนิส คาราเต้ ยิงปืน และว่ายน้ำ ท่านชายได้เหรียญและถ้วยมามากมายครับ”  

“เก่งมากเลยค่ะท่านชาย” แป้งได้ฟังจากมูซาแล้วเป็นปลื้ม

ท่านชายก้มศีรษะแล้วยิ้มน้อยๆ ทั้งหมดคุยกันเพลิน
หันมาอีกที อาดัมเอาไฟประดับพันรอบต้นคริสมาสต์แล้ว ใต้ต้นคริสมาสต์ที่ปูด้วยผ้าวูลลายหมากรุก เขียวแดง
มีกล่องของขวัญมากมายกองอยู่ใต้ต้นเรียบร้อยแล้ว ด้านข้างเลยจากต้นคริสมาสต์ที่กะจะตั้งวงเล่นกีต้าร์
อาดัมยกเอาเก้าอี้มาตั้งสูงไว้ มูซาเดินไปเสียบไฟ ไฟกระพริบไล่ไปมาด้วยสีต่างๆกันดูสวยงาม

“ต้องซื้อของมาจับฉลากกันไหมคะ” แป้งเห็นกล่องของที่วางอยู่หลายกล่องจึงถามขึ้น

“นั้นมันบ้านเราแล้ว เล่นเป็นเด็กเลย” หมอเติ้ลเอ่ยขึ้น

“อ้าว!ก็ไม่รู้นี่”

“อาหารพวกไก่งวงอบ ฟรุตเค้ก ซินนามอลโรล ผมจะสั่งที่ร้านที่เราสั่งประจำ หลังท่านพ่อเสีย เราก็ยังสั่งอาหารแบบนี้มาช่วงคริสมาสต์ มันเป็นความทรงจำที่ดีที่ผมมีกับท่านพ่อและท่านย่า ซึ่งตอนนี้ท่านเกือบเก้าสิบแล้ว
ผมกะจะไปเยี่ยมท่านเหมือนกัน ตอนผมไปอยู่ที่อักฤษก็ได้ท่านย่าดูแลหลายปี จนมาเรียนที่MIT ครับ
สำหรับอาหารที่จะสั่งผมจะเช็คจำนวนคนอีกทีหนึ่งก่อน”

“ท่านชายคิดถึงท่านย่า แต่ทุกเทศกาลเราก็คิดถึงหมอเติ้ล แม้นั่นเป็นสิ่งธรรมดาที่เกิดกับทุกคนสิ่งนั้นคือความเปลี่ยนแปลงไม่คงอยู่” พี่รองกล่าวขึ้นตามความรู้สึก หมอเติ้ลยิ้ม เข้ามากอดแขนพี่รอง เธอเงยหน้าขึ้นสบตาท่านชายพอดี ครู่หนึ่งที่สายตาหากเอ่ยเป็นคำพูด ดูเหมือนแววตาอ่อนโยนมีความหมายในตัวมันมากมายที่ฉายประกายเจิดจ้ามายังท่านชาย เขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่น
“เพียงจ้องตา แทนวาจาอ่อนหวาน หัวใจข้าสุขสำราญ แค่นั้นคงเพียงพอ”

“ผมว่าตั้งเป็นปุปเฟ่ดีกว่าท่านชาย แล้วจัดเป็นโต๊ะนั่งแยกออกมา คนตักแล้วก็มานั่งทานกันที่โต๊ะ ดีไหมครับ”
พี่รองออกความเห็น

“ดีครับอย่างนั้นสะดวกกว่า” ท่านชายเห็นด้วย ฟาติมาขึ้นมาตามไปทานอาหารเช้า

“เชิญท่านชายเถอะครับเดี๋ยวพวกเราจะจัดการตามที่คุยไว้”มูซาพูด

“ขอบใจมากข้าไปล่ะ”

หลังอาหารเช้า ท่านชายเอ่ยขึ้น “ทางเราจะไปร่วมงานกันทุกคนดีไหมครับ ข้าจะได้สั่งอาหารตามจำนวน”

“ไปซิแต่หากดึกแล้วเราอาจกลับก่อนนะ” “ครับผม”

“ท่านแม่ เสร็จจากนี่แล้วผมจะพาทุกคนไปดูของที่ห้าง เผื่อจะมีใครต้องการสิ่งใดเพิ่ม”

“เจ้าจัดการเอาเถอะ” ท่านแม่เอ่ยขึ้นแล้วยิ้ม

“ท่านหญิงออกไปกับเราไหมคะ” หมอเติ้ลถาม

“วันนี้ข้าขอตัว จะทำงานถักผ้าให้เสร็จค่ะ” นางยิ้มให้หมอเติ้ล

มูซาเอารถตู้ออกมารับทั้งคณะ  

“อาดัมไม่ไปด้วยหรือคะ” แป้งถามขึ้น

“ต้องมีคนของท่านชายคอยดูแลท่านทุกคนที่เรือนใหญ่ด้วยจ้ะ” เติ้ลบอกแป้ง

ห้างใหญ่ของอัมมานทั้งหมดอยู่ทางฝั่งตะวันตก
ตกแต่งต้อนรับคริสมาสต์เหมือนบ้านเรา เติ้ลเดินหาซื้อของกับพี่รองมีแป้งเดินตาม ทั้งหมดลงขันกันซื้อให้ทุกคนที่มาด้วย คือป๋า มะ ลุงหม่อม ป้าอำไพ และ พี่แดง ส่วนที่วังมีของมาจากเมืองไทย เพียงหาซื้อกล่อง
กับกระดาษห่อและลิบบิ้นก็ครบ ท่านชายและมูซายืนรออยู่ข้างนอก หมอเติ้ลเป็นหัวขบวน

“ขืนให้ทั้งสองช่วยตัดสินใจคงอีกนานกว่าจะเสร็จ” หมอเติ้ลได้ของที่ต้องการแล้วเดินกลับมาสมทบกับท่านชาย

ทั้งหมดเดินต่อไปดูของ”ก็เหมือนบ้านเรานะครับ” พี่รองพูดกับท่านชาย

“ผมว่าไว้ซื้อเป็นครีมโคลนพอกหน้ากับพวกโลชั่น ที่นี่มียี่ห้อชื่อดังส่งไปขายทั่วโลก ผมรู้ที่ซื้อซึ่งเป็นร้านส่ง
แล้วจะพาไป ของที่นี่ส่วนใหญ่น่าจะคล้ายบ้านคุณ เว้นแต่พวกเสื้อหนัง”

“อ้าว! มูซาซื้อของด้วยเหรอจ้ะ แปลก ไม่เคยเห็นซื้ออะไรมาก่อน” หมอเติ้ลทักอย่างแปลกใจ

“ผู้ชายเขาซื้อให้แฟนอันเป็นที่รักครับ”เป็นคำตอบสั้นๆของมูซา
ทุกคนอยากรู้ขึ้นมาทันทีว่าที่รักในความหมายของเขาคือใคร

กล่องสีแดงลายทองคาดด้วยลิบบิ้นเขียว

“โอ้โฮ! หนักด้วย กล่องผูกโบว์สวย ใครจะเป็นหญิงผู้โชคดีนะค่ะท่านชาย” แป้งหันมาหาตัวช่วยท่านชายยิ้มกว้างในรอยยิ้มนั้นช่างมีความสุขนัก    

ทั้งหมดเดินตามกันมา เพื่อไปสมทบกับกลุ่มป๋า ลุงหม่อม มะ
ที่พาป้าอำไพกับพี่แดงลงไปซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต เพราะกะจะทำเลี้ยงที่วังอีกมื้อ หลังวันคริสมาสต์
ท่านชายเดินคู่มากับหมอเติ้ล ตามหลังด้วยคู่พี่รองกับแป้ง หลายคนในห้างจำท่านชายได้ ทำความเคารพ
ท่านชายยิ้มหล่อให้

“พี่รองดูซิ ทั้งสองเดินคู่กันเหมาะมากเลยอีกคนสวยมีราศี อีกคนหล่อสง่างาม”

มาถึงที่ๆนัดกัน ลุงหม่อมเอ่ยขึ้นคล้ายแป้ง

“ดูซิมีแต่คนชงักดูและทำความเคารพ ท่านชายยิ้มตอบอย่างสุภาพ”

“ลุงหม่อม หากเป็นคนอื่นมะคงดีใจด้วย แต่นี้ลูกสาว เพียงแค่ห่างกันมาปีเดียวมะได้แต่เฝ้าคิดถึง”

“มะหากทั้งสองเป็นคู่กัน อะไรก็ห้ามเขาไม่ได้ แต่หากเขาไม่ได้ทำบุญมาด้วยกันถึงจับมาคู่กันเขาก็อยู่กันไม่ได้
มะอย่ากังวลไปเลย”

“อือ! ป๋าก็คิดเช่นเดียวกับลุงหม่อม”

“ตัวผมเองมีเรื่องบางอย่างจะเล่าให้ฟัง เมื่อมีเวลา ทั้งป๋ากับมะเมื่อรู้เรื่องแล้ว ในอนาคตหากมีอะไรขึ้นจะได้ไม่ตกใจ

”ลุงหม่อมทำไมพูดแบบนี้ล่ะ เพียงได้ยินแค่นี้ใจมะก็เหลือแค่ปลายนิ้วแล้ว”

“มะที่ลุงหม่อมจะเล่าเมื่อมีโอกาสไม่ใช่เรื่องร้ายอะไรหรอก”

“เอาน่า มะทำใจให้สบายถ้าเป็นเรื่องไม่ดี ลุงหม่อมไม่ใจเย็นแบบนี้หรอก เขาก็รักเติ้ลเหมือนลูก”

“ใช่ๆ”ลุงหม่อมเสริม ช่วยทำให้มะใจชื้นขึ้น

” มะ What’ s ever will be, will be” ป๋าเอ่ยปิดประเด็น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่