ราตรีสีอำพัน (108)

กระทู้สนทนา
ราตรีสีอำพัน (108)

อาดัมก็เริ่มตั้งสาย  มูซาหรี่ไฟ และจุดเทียน เปลวเทียนส่ายเบาๆ ส่องแสงนวลตา
เสียงอินโทขึ้น  “ลวดลายการเล่นไม่เบาเลย” พี่รองมองแล้วทึ่ง

เขาร้องเพลงเป็นภาษาอาหรับอันไพเราะ
เนื้อเพลงหวานที่เอ่ยถึงราตรีกาลอันอบอุ่นไปด้วยมิตรภาพ และความรัก ของคนสองคนที่ไม่กล้าเปิดใจให้แก่กัน เขาจบลงและจ้องหน้าท่านชาย ผิวหน้าท่านชายแดงระเรื่อ หมอเติ้ลทำเป็นหลบตาต่ำ มะถอนใจเบาๆ เธอพอเข้าใจเนื้อความ

ป๋าโอบทั้งสองแม่ลูกไว้ในวงแขน

“เติ้ลก็เหมือนนกที่โตแล้วย่อมบินออกจากรวงรังไปไม่ช้าก็เร็วดั่งเช่นลูกสาวคนโต” ป๋าคิด เอาคางถูแก้มลูกสาวเบาๆ

“ไม่นานนี้เองที่หนูเติ้ลยังเกเร ช่างเล่นช่างแหย่ แป๊บเดียว ลูกป๋าก็โตเป็นสาวแล้ว"

แสงไฟในห้องที่ถูกหรี่ลง กับเปลวเทียนที่ส่องสว่างรอบต้นคริสมาสต์ และไฟกระพริบระยิบดั่งดวงดาว
ครอบครัวอันอบอุ่นและเสียงดนตรี พี่รองต่อด้วยเพลงรักเช่นเดิม “For You, Annie’s Song ตบท้ายด้วย
Unchained Melody”                                            

I've hungered for your touch, a long lonely time                      “โอ้ความรักของฉัน ความว้าเหว่และความเหงา
And time goes by, so slowly and time can do so much            ฉันต้องการอ้อมแขนที่อบอุ่นของเธอ
Are you, still mine?                                                                      เธอยังเป็นของฉันอยู่เช่นเดิมใช่ไหม
I need your love, I need your love                                              ฉันยังต้องการอ้อมกอดและความรักของงเธอ
God speed your love to me                                                         ณ.ริมฝั่งแม่น้ำที่แสนเหงาที่ไหลลงสู้ท้องทะเล

Lonely rivers flow to the sea, to the sea                                     เสียงครวญหาความรักของเธอ..โปรดรอฉันด้วย
To the waiting arms of the sea                                                   ความเปล่าเปลี่ยวของแม่น้ำ บอกให้รู้ว่า

Lonely rivers cry, wait for me, wait for me                                  สิ่งที่ฉันต้องการคืออ้อมกอดอันอบอุ่นของเธอ....
To the open arms, wait for me

My love, my darling, I've hungered for your kiss
Are you still mine?
I need your love, I need your love
God, speed your love, to me (เอวิส เพรสลี่ย์)

เพลงมากความหมายของความรัก ที่คนหนึ่งมีให้อีกคนหนึ่ง “โอ้พระเจ้าช่างไพเราะนัก”

***ฤาดวงใจข้าถูกจองจำ
***เพียงเพราะคำหวานๆที่เอื้อนเอ่ย
***เพียงได้ยินใจข้ามิละเลย
***เอื้อนเอ่ยขานรับขับทำนอง

ท่านอาวุโสขอตัวกลับที่พัก ทุกคนเอ่ย “Merry Christmas” แล้วกล่าวลา
ที่เหลือมีหมอเติ้ลกับแป้งยืนจับมือกัน มองเสียงไฟที่เห็นเปิดอยู่ตามอาคาร และรถที่พอมีให้เห็นวิ่งผ่านไปมา
แสงจันทร์ส่องสีนวลตา แม้ท้องฟ้าสลัวแต่ได้ใจและอารมณ์ พี่รองมายืนชิดน้องสาว เอาแขนโอบไหล่
แป้งก็ยื่นมือขึ้นโอบไหล่เพื่อน ด้านหลังคือต้นคริสมาสต์และแสงเทียน ท่านชายถ่ายภาพให้ พี่รองเดินมาเปลี่ยนให้ท่านชายเข้าไป เขาโอบไหล่มองเติ้ลดึงเข้าชิดตัว แป้งต้องเอนตาม พี่รองนับสามกด “แชะ”

อาดัมอาสาถ่ายรูปหมู่ พี่รองเข้าไปประกบแป้ง นับสาม “แชะ” “สวยครับท่านชาย”
แล้วราตรีอันดึกดื่นก็มาเยือนก่อนทุกคนจะกล่าว”ราตรีสวัสดิ์” ไม่มีงานเลี้ยงไดไม่เลิกลา....

เมื่อคืนในงานเลี้ยง ฟารีเอาะห์ได้ผ้าพันคอผ้าไหมผืนสวยจากท่านหมอ
และช่วงนี้เป็นเวลาที่ฟารีเอาะห์ต้องอยู่ดูแลคลินิก กับท่านหญิงมาเรียม มีจีเลาะห์เป็นเพื่อนอีกคน

หลังอาหารเที่ยง หมอเติ้ลพาทั้งคณะเข้าไปที่ดงต้นอินทผลัม ที่สุกเต็มที่
คนงานเริ่มเก็บแต่เช้า เมื่อไปถึง ยังพอมีให้คณะหมอเติ้ล แสดงผีมือ อินทผลัมลูกใหญ่ หนักจนห้อยละพื้นดิน
ถูกตัดมากอง มีผ้าใบปู ทุกคนช่วยกันปลิดผลออกจากพวงใส่เข่ง ป๋ามองเห็นที่เต็มแล้วมีเข่งหลายใบทีเดียว
พวกมือสมัครเล่นก็ได้เป็นเข่งเหมือนกัน

ฟารีเอาะห์จะวิ่งมาตามหากมีคนไข้ แต่ถ้าเพียงจ่ายยาตามอาการ เธอกับท่านหญิงดูแลได้

“ท่านหมออย่างห่วงเลยหากจำเป็นต้องตรวจคนไข้ ข้าจะวิ่งมาตาม ท่านใช้เวลากับครอบครัวท่านเถอะ อย่าได้ห่วงเลย”

ป้าอำไพอยู่สนุกได้ไม่นานก็ต้องเข้าครัวเพราะอาหารมื้อค่ำเป็นอาหารไทยอีก

แกเดินมาบอกหมอเติ้ลๆทำท่าจะนำไป “ไม่ต้องหรอกคุณหมอ เดี๋ยวป้าเดินไปกับแดงเอง จำทางได้ค่ะ”

“ค่ะ หากขาดอะไร ให้อัสต้าส่งเด็กมาบอกที่หมอนะคะป้า”
ป้าอำไพพยักหน้า ยิ้มและดินไปกับแดง

“โอ๊ยไม่ไหวแล้ว พอแก่เฒ่า หลังไหล่มันยอกไปหมด” แกลุกขึ้น มีป๋าลุกตาม  
ท่านชายอะซันเดินไปที่เรือนหมอกับมูซา ยกเก้าอี้มาให้ทั้งสองอาวุโสได้นั่ง

“ขอบคุณท่านชาย”  ทั้งสองยิ้มแล้วนั่งลง ฟาติมาพาสาวๆเอาชุดน้ำชามาเสริฟพร้อมอินทผลัมลูกสวยๆ

“เอ!เห็นรองบอกว่าอยากได้ไปฝากเพื่อนๆอาจารย์ จะหาซื้อได้ที่ไหนครับท่านชาย”
ป๋าถามขึ้นขณะนั่งจิบชาใต้ต้นอินทผลัม เงาแดดเริ่มเบี่ยงไปแล้ว ลมโชยมาเย็นชื่นใจ

“ผมว่าไม่ต้องหาซื้อหรอกครับ เพราะผมเห็นท่านแม่ให้อัสต้าสั่งเด็กๆจัดเรียงอย่างสวยลงกล่องพาสติกไว้มากมายทีเดียว ท่านพูดว่าจะฝากให้พวกคณะหมอเติ้ลกลับเมืองไทยครับ”

“อ้าว! แล้วเอาทีละหลายๆกล่อง จะมีเหลือไว้ทานกันหรือครับ” ลุงหม่อมถามอย่างเป็นห่วงและเกรงใจ

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับที่เห็นเก็บกันนี้ก็ต้องเอามาล้างแล้วผึ่งแดดสิบวัน พอเก็บก็แจกไปตามบ้านคนรู้จักบ่อยๆ
ยังเหลือมากมายเลย ครับ  ครั้งแรกจะเอาชุดใหม่ให้แต่คงแห้งไม่ทันแน่เลยครับ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะท่านชายเราได้แค่นี้ก็ดีแล้ว” มะเอ่ยอย่างสุภาพพร้อมรอยยิ้ม

ลุงหม่อมชิมผลที่ตากแห้ง ”อือ!อร่อยมากหวานชื่นใจ”

“ค่ะและมีประโยชน์มากมายด้วยนะคะ”หมอเติ้ลซึ่งนั่งล้อมวงอยู่เอ่ยขึ้น มือก็ปลิดผลที่เก็บใหม่ใส่เข่ง

ป๋าลองเอาจากเข่งมาสองลูกส่งให้ลุงหม่อม “ลองชิมเทียบกันดูซิครับ”

ทั้งสองลองแล้วสรุปแบบเดียวกัน  “ผลที่ยังไม่ตากแดดจะแข็ง ไม่นุ่มและหวานละมุนเหมือนที่ตากแล้วนะครับ”
ลุงหม่อมสรุป

มะนั่งพักจิบชา และผลอินทผลัม มองดูคนงานทำงานอย่างว่องไว และหันมามองกลุ่มเรา
ที่มีท่าทางแบบไม่ชินกับงานแบบนี้แล้วอดหัวเราะไม่ได้ พี่รองเห็นมะแล้วหัวเราะตาม

“มะครับ คนเราถนัดไปเสียทุกอย่างไม่ได้หรอกครับ”

“มะไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” ป๋ามองภรรยาแล้วยิ้ม

ท่านชายนั่งไม่ไกลจากหมอเติ้ลนัก
วันนี้หมอเอาผ้ามาคาดผม ทบแล้วผูกเป็นปมเล็กๆที่กลางหน้าผากใบหน้าแดงด้วยกระไอแดด
ลมพัดเอาปลายผมมาละจมูกท่านชาย เขาดมแล้วหอมชื่นใจ กลิ่นที่ไม่ว่าอยู่ที่ไหนเขาจำได้เสมอ

“คุณหมอ ผมมีโปรแกรมจะพาทั้งคณะไปเที่ยวชมจอร์แดนคล้ายกับที่เราเคยไป คุณจะว่าอย่างไรครับ”

“ดีค่ะ แต่ทางนี้จะขาดหมอนะคะ”

“เราไปทริปสั้นๆคงประมาณห้าหรือหกวัน เพราะเราไม่ได้แวะพบพวกเกษตรกรเหมือนคราวก่อน
ทางนี้ทุกคนก็แข็งแรงดี เราไม่ต้องขอหมอที่วังก็ได้ให้ฟารีดูแลจัดยาได้อยู่แล้วครับ”

“อือ! ฉันเกรงใจท่านแม่น่ะค่ะ”

“เช่นนั้นเย็นนี้ผมจะลองคุยกับท่านแม่ดูอีกที อ้อ! ผมได้รายงานจากดัมนีมและนูรีม เขาพาคณะออกรอบกันอีก และเรือขนดินจากออสเตรเลียมาถึงแล้ว ทางกรมกำลังวางแผนกระจายของออกไปให้แก่ชาวสวน
ผมว่าโครงการนี้ท่านอาต้องการให้ดัมนีมและนูรีมคอยตรวจสอบด้วย การจัดสรรดินจะได้ทั่วถึงชาวสวน”

“ดีค่ะ”

“เราพยายามปัดบ้างก็ได้ ให้ทางนั้นทำกันเองจะได้ไม่ไปขวางตาใครเข้า”

“ครับ ดัมนีมติดต่อมาต้องการให้หมอช่วยสอนเจ้าหน้าที่ของกรม ให้ทำปุ๋ยชีวอินทรีย์ เพื่อทางนั้นจะได้ถ่ายทอดไปอย่างทั่วถึงชาวสวนทุกที่ เพราะต้นแบบที่เราทดลองทำได้ผลเป็นที่น่าพอใจทีเดียว “

“ได้ค่ะ ท่านชายนัดมาแล้วฉันจะได้เตรียมการ”

อาหารค่ำวันนี้ ป้าอำไพ ทำผัดไทยกุง้สด ปูผักพริกไทดำ ต้มข่าไก่ และไข่ลูกเขยทรงเครื่อง ทุกมาถึงพร้อมกันที่ห้องอาหาร

“โอ้โฮ! ได้กินไข่ลูกเขยด้วย ทำไมต้องมีเครื่องทรง สงสัยเป็นเขยที่เป็นท่านชายหรือเปล่า” แป้งแหย่เล่น

“แป้งเราน่ะพูดอะไรให้ระวังหน่อยนะ”พี่รองดุให้ คู่ที่ถูดพาดพิงถึงทำเฉยเหมือนไม่ได้ยิน ลุงหม่อมอมยิ้ม

“แม่ครัวท่านชายฉัตราทัศน์นี่เก่งจริงๆ อาหารอร่อยอย่างนี้ก่อนกลับขออีกสักมือ้นะ”
ท่านแม่พูดแล้วยิ้มให้ป้าอำไพ

“ได้ค่ะ” แกตอบได้สั้นๆ  

หลังอาหารทุกคนย้ายไปต่อที่ห้องรับแขก วันนี้ได้กินมันต้มน้ำขิง

ท่านป้ารองเอ่ยชม”เป็นของว่างหลังอาหารที่ดีทีเดียว ทานแล้วสบายท้องด้วย “

“ครับท่านป้า ขิงเป็นสมุนไพรที่ช่วยลดการท้องอืดได้ดี มีประโยชน์หลายอย่างครับ” พี่รองชี้แจง
หมอเติ้ลยิ้มให้พี่ชาย

ท่านชายอะซันนั่งคุยกับท่านแม่ และท่านป้าใหญ่อยู่ครู่หนึ่ง
สรุปคือท่านแม่เห็นว่าไม่จำเป็นต้องขอหมอมา หากขาดเหลือแล้วค่อยว่ากัน ท่านชายจะให้อาดัมดูแลที่วัง
ส่วนมูซาจะเป็นคนขับรถตู้พาคณะเดินทาง โดยประมาณห้าหรือหกวัน
แวะเมาท์ เนโบ จุดชมวิวที่เข้าใจว่าเป็นที่ฝั่งศพของนักบุญโมเสส และ แกรนด์แคนยอนแห่งจอร์แดน
เพตรามหานครที่เคยรุ่งเรืองในอดีต  ทะเลทรายวาดิรัม หมู่บ้านเบดูอิน และเดดซี  

ท่านป้าใหญ่จะตามไปกับน้องชายอาดัมและสาวใช้โดยนัดเจอกันที่หมู่บ้านท่านเซียด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่