ราตรีสีอำพัน (107)
ยิ่งใกล้ฤดูหนาวอากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ ท่านชายและหมอเติ้ลแวะมาดูความพร้อมอีกที
หมอเติ้ลเอาเทียนแท่งที่เหลือจากวันลอยกระทง มาด้วย
“คุณว่าเราเอาเทียนตั้ง รอบต้นคริสมาสต์ดีไหมคะ”
“ดีทีเดียวพอเริ่มเล่นดนตรีเราหรี่ไฟลง จุดเทียนรวมกับไฟกระพริบ และดวงตาแวววับคู่สวยของเจ้า คืนนั้นจะงดงามเพียงใด” ท่านชายไม่พูดเปล่าสบตาเหมือนจะกลืนหมอเติ้ลลงไปไว้ในอก ตาคมเหมือนยิ้มได้ แทบทำหัวใจหมอเติ้ลเตลิดโบยบิน
“บ้า! ฉันถามสั้นๆ ตัวเองฝันไปไกลเลย ฮึ!” ท่านชายหยุด แต่ยิ้มอย่างมีความสุข
“เอาเถอะ ข้าไม่รู้ว่าข้าจะมีนางอยู่เคียงข้างอีกนานเท่าไร แต่ละวันที่ข้ามีนางอยู่ด้วย ข้าจะเก็บเกี่ยวทุกอย่างไว้ในดวงใจข้า” ท่านชายคิด
ท่านชายอะซัน ช่วยหมอเติ้ลวางเทียนแท่งโดยรอบ มีเหลืออีกห้าแท่ง
“วางไว้ที่เคาน์เตอร์บาร์ไหมครับ” “อือ! ดีนะสวยดี” คุณหมอเห็นด้วย
ช่วงบ่ายหมอเติ้ลสาละวนกับการห่อของขวัญ มีแป้ง และฟารีช่วย ส่วนมูซาเอาลูกโป่งรูปหัวใจหลากสีอัดแก๊ส
แล้วผูกด้วยลิ้บบิ้นเส้นเล็กๆสีขาวตัดสายยาวแค่ฟุตครึ่ง ไปปล่อยไว้จนเต็มห้องจัดเลี้ยงดูสวยงาม เป็นการเพิ่มสีสันและบรรยากาศ
ทุกคนเริ่มทยอยมา ท่านอาวุโส แต่งกายสุภาพเรียบร้อย
แป้งถึงจะล้ำสมัยหน่อยแต่แต่งกายพอรับได้ แม้กระโปรงบาน แขนตุก๊ตา และหน้าตาแป๋วแว๋วน่ารัก
แต่กระโปรงหนูแป้งก็ไม่สั้นเกิน ยาวลงมาระดับเข่า
ท่านชาย มูซา และอาดัม ใส่เสื้อโบโล สีสวยทับด้วยสูท คาดเข็มขัดกางเกงสแลค รองเท้าหนัง
พี่รองสวมเสื้อคอพันสีฟ้าเทาเป็นลายขวางเล็กๆ กางเกงสแลคสีน้ำเงินเข้มรองเท้าหนัง
ปิดท้ายด้วยท่านหมอที่มาในชุดเดรสยาวสีเขียวอ่อนริ้วสีครีมแทรกอยู่ดูพริ้วไปทั้งตัว
เแขนสามส่วนพอดีแขน ผ้าเนื้อหนาเข้ารูป หัวไหล่จีบย้ำแล้วปล่อยคอย่วยลงมา ประดับด้วยชุดมุกสวยของป๋า
ผมหนายาวสลวยถูกรวมแล้วเกล้าเป็นมวยยกสูงแลเห็นลำคอระหง ปักด้วยปิ่นปักผมทองคำขาว ปลายปิ่นเป็นรูปวงเดือน
เป็นของขวัญที่ท่านชายซื้อให้ในวันวาเลนไทน์อย่างเงียบๆ
โดยวางไว้หน้าเรือนแต่เช้า มีเพียงลายเซ็น หมอเติ้ลรับไว้อย่างปลื้มเงียบๆเหมือนกัน
เธอเดินเข้ามาตามด้วยฟารีอุ้มลังกระดาษใส่ของตามมา
ร่างสูงระโหงของหมอเติ้ลกับชุดที่แต่งดูสวยสง่าใบหน้าแต่งบางๆ ทาลิปสีชมพูอมส้ม
“โอ้! ลูกสาวพ่อแต่งตัวได้เหมาะสมนักดูสง่าเหลือเกิน” ป๋ากับมะเห็นลูกสาวแล้วปลื้มใจ
พาลจะทำให้มะแสดงบทโศกอีก
“อย่าร้องนะ วันนี้วันดี มะต้องดีใจและยิ้ม ดูซิลูกช่างสง่างามนัก” ป๋าพูดและสรุปเองเรียบร้อย
ท่านชายอะซันให้ท่านแม่เปิดพิธี เดินไปตักของที่จัดไว้ที่โต๊ะบุปเฟ่ ตามด้วยมะ ท่านป้า ท่านลุง ท่านหญิง
และคนอื่นตามลำดับ มีท่านแม่นั่งหัวโต๊ะตามด้วยท่านชายอะซัน และท่านหญิง ส่วนลุงหม่อมนั่งหัวโต๊ะอีกฝั่ง
ตามด้วยป๋า เติ้ล นั่งกลางประกบด้วยมะ พี่รองและแป้งที่เหลือก็หาที่ลงกันตามสะดวก
ไก่งวงตัวใหญ่เนื้อนุ่ม หอมด้วยเครื่องปรุง ยัดใส้ด้วยข้าวผัดกับน้ำมันมะกอกและสารพัดเครื่องเทศ หอมชวนกิน หมอเติ้ลทำสลัดผักโดยเอาผักที่ปลูกในเรือนเพาะชำ มาร่วมด้วยถาดใหญ่ อาดัมดูแลอยู่ที่โต๊ะบุปเฟ่
ส่วนมูซาดูแลเครื่องดื่มอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ ที่เคาน์เตอร์บาร์มีพั้นซ์ส้มซึ่งทำด้วยน้ำส้ม มะนาว เหล้า โซดา และน้ำหวานคนให้เข้ากัน ลอยหน้าอย่างสวยด้วยส้มผ่าเป็นแว่นๆให้ด้วย
ท่านแม่ว่า”พวกข้าดื่มไม่ได้ แต่ไม่ได้ห้ามให้มี ทำเถอะ ปีละครั้งไม่มีปัญหาหรอก” หน้าตาท่านผ่องใส
เห็นลูกๆมีความสุขทั้งแขกที่มาเยือนก็อัธยาศัยดีทุกคน
ทุกคนได้อาหารครบแล้วจะลงมือ ลุงหม่อมเอ่ยขึ้น
“ท่านชายเราขอบคุณพระเจ้ากันหน่อยเถอะ”
“เอาอย่างไรดีละครับ” ท่านชายคงไม่รู้ว่าจะเชิญพระเจ้าองค์ไหนลงมาแน่ๆ
“เอาเป็นของใครของมันแต่เอ่ยตามกันไปเถอะ” มุกนี้ทำให้แป้ง และหมอเติ้ลหัวเราะคิกๆ คนอื่นพลอยตามไปด้วยกว่าจะติดเบรคก็อีกครู่หนึ่ง
ท่านชายเริ่ม” ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงคุ้มครองสอดส่องดูแลเรา เรามีเวลาอันแสนวิเศษในวันนี้ร่วมกันทุกคน
พวกข้าขอขอบคุณในพระเมตตาของพระองค์ โปรดทรงช่วยคุ้มครองดูแลทุกคนที่เรารักด้วยเถิด”
มีแต่ท่านชายที่เอามือแตะหน้าอกและหน้าผากเขาหลับตาลงครู่เดียวหมอเติ้ลมองขนตายาวงอนดกหนา
คิ้วเป็นปื้นแต่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ “อ้า! หัวใจข้าอยู่ที่ไหนนะ”
เสียงเพลงจิงเกิลเบลล์ ซันต้าคัมทูทาวน์ ไซเร้นไนท์ ไวท์คริสมาสต์ บรรเลงเบาๆ ลมพัดโชยเข้ามาให้ได้เย็นอย่างได้อารมณ์ “อือ! ปิดกระจกแต่มีลมเข้ามาได้นะครับ” ป๋าเอ่ยขึ้น
“ครับ เพราะบนฝ้าถ้าดูดีๆ จะเหลื่อมกันสองชั้น ปรับบานเกล็ด หรือช่องลมได้ครับ” ท่านชายไขข้อข้องใจ
“อาหารอร่อยค่ะ” หมอเติ้ลเอ่ยขึ้น แป้งพยักหน้าเห็นด้วย
“รสชาติเยี่ยมเลยครับ” พี่รองเสริม
ท่านป้าเอ่ยว่า”ร้านอาหารฝรั่งนี่ เราสั่งเขาทุกปีตั้งแต่พ่อท่านชายอยู่ ทุกปีเราได้กินเช่นนี้ เพียงแต่ว่าไม่มีอะไรมากมายเหมือนเช่นปีนี้
ข้าว่าได้จัดแบบนี้ก็ดีนะน้องข้า” “ใช่ๆ”
“ข้าก็ชอบ แม้ข้ามองไม่เห็นแต่ข้าสัมผัสสิ่งต่างๆที่ดีจากพวกเราทุกคน” ท่านหญิงเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่สุขใจ
“เก่งมากท่านหญิงมาเรียม ท่านเป็นคนตัวอย่างที่เราต้องดูไว้ จงอย่าย่อท้อเพราะเรามีกันและกัน บางคนแย่กว่าพวกเขาไม่มีใครเลย”
“ท่านลุงพูดถูก นับจากข้ามีท่านหมอ เธอเป็นทั้งครู ทั้งพี่สาว ให้ความรู้ แนะนำ ฝึกข้าให้พึ่งตัวเอง และเห็นคุณค่าของตัวข้าด้วย
“ขอบคุณสวรรค์”
จานอาหารถูกเก็บออก สาวใช้นำฟรุตเค้ก และ ซินนามอลโรลมาเสริฟ
อาดัมมาถามว่าใครต้องการดื่มอะไร
“ผู้ใหญ่เอาเป็นชาร้อนดีกว่า แล้วเด็กๆเขาลุกไปจัดการเองดีไหม” ลุงหม่อมตัดสินใจให้
ท่านชายให้ท่านหมอเริ่มแจของขวัญก่อน
หมอเติ้ลให้ลุงหม่อมก่อนตามอาวุโส เธอก้มลงกราบที่ตัก”ขอให้สิ่งดีจงเกิดแก่ลูกนะ”
พอมาถึงป๋ากับมะหมอก้มลงกราบที่ตัก ทั้งสองกอดลูกแน่น “ขอให้พระคุ้มครองนะลูก” ของที่เหลือแจกไปตามชื่อจนหมด
ถึงตาท่านชายบ้าง เขาเอากล่องของขวัญมาแจกทุกคนเริ่มจากท่านแม่
เขาเข้าไปกอดนางไว้ ท่านแม่ลูบหลังน้ำตาคลอ” ข้าขอให้พรเจ้า ขอให้สิ่งที่เจ้าหวังจงสมประสงค์”
ท่านแม่มองมาทางหมอเติ้ลด้วยสายตาอ่อนโยน
ถัดมาเขาเข้ามากอดท่านหญิงไว้ในอ้อมแขนแข็งแรง “แด่น้องอันเป็นที่รักของข้า” “ท่านพี่..” ทั้งสองกอดกันแน่น ทุกคนมองด้วยสายตาชื่นใจในความรักพี่น้อง
”ใช่น่าสงสาร เขาเหลือกันเพียงสองคนพี่น้อง” หมอเติ้ลรีบยกกระดาษซับน้ำตา ท่านชายมีของขวัญให้ทุกคน ไม่เว้นมูซา และอาดัม
ยังเหลือกล่องสุดท้ายในมือมูซา ทุกคนลุ้นว่ามูซาจะเซอร์ไพรส์ใคร
เขาส่งให้ท่านชายๆส่งให้หมอเตื้ล”แด่เธออันเป็นที่รัก” หมอเอ่ยขอบคุณ
“โอ๊ย! ท่านชายมอบใจให้หมอเติ้ลจนหมด โรแมนติกจังเลย” แป้งถึงกับออกอาการ
หมอเติ้ลก็ส่งให้ท่านชายเป็นกล่องสุดท้ายเช่นกัน
“โอ้! พระเจ้าขอให้รักของทั้งสองนั้นนิรันดร” ท่านป้าภาวนาและมองตาลุงหม่อม
“อือ! ของๆใครก็ต้องเป็นเช่นนั้น” เขาพึมพรำเบาๆ
ราตรีสีอำพัน (107)
ยิ่งใกล้ฤดูหนาวอากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ ท่านชายและหมอเติ้ลแวะมาดูความพร้อมอีกที
หมอเติ้ลเอาเทียนแท่งที่เหลือจากวันลอยกระทง มาด้วย
“คุณว่าเราเอาเทียนตั้ง รอบต้นคริสมาสต์ดีไหมคะ”
“ดีทีเดียวพอเริ่มเล่นดนตรีเราหรี่ไฟลง จุดเทียนรวมกับไฟกระพริบ และดวงตาแวววับคู่สวยของเจ้า คืนนั้นจะงดงามเพียงใด” ท่านชายไม่พูดเปล่าสบตาเหมือนจะกลืนหมอเติ้ลลงไปไว้ในอก ตาคมเหมือนยิ้มได้ แทบทำหัวใจหมอเติ้ลเตลิดโบยบิน
“บ้า! ฉันถามสั้นๆ ตัวเองฝันไปไกลเลย ฮึ!” ท่านชายหยุด แต่ยิ้มอย่างมีความสุข
“เอาเถอะ ข้าไม่รู้ว่าข้าจะมีนางอยู่เคียงข้างอีกนานเท่าไร แต่ละวันที่ข้ามีนางอยู่ด้วย ข้าจะเก็บเกี่ยวทุกอย่างไว้ในดวงใจข้า” ท่านชายคิด
ท่านชายอะซัน ช่วยหมอเติ้ลวางเทียนแท่งโดยรอบ มีเหลืออีกห้าแท่ง
“วางไว้ที่เคาน์เตอร์บาร์ไหมครับ” “อือ! ดีนะสวยดี” คุณหมอเห็นด้วย
ช่วงบ่ายหมอเติ้ลสาละวนกับการห่อของขวัญ มีแป้ง และฟารีช่วย ส่วนมูซาเอาลูกโป่งรูปหัวใจหลากสีอัดแก๊ส
แล้วผูกด้วยลิ้บบิ้นเส้นเล็กๆสีขาวตัดสายยาวแค่ฟุตครึ่ง ไปปล่อยไว้จนเต็มห้องจัดเลี้ยงดูสวยงาม เป็นการเพิ่มสีสันและบรรยากาศ
ทุกคนเริ่มทยอยมา ท่านอาวุโส แต่งกายสุภาพเรียบร้อย
แป้งถึงจะล้ำสมัยหน่อยแต่แต่งกายพอรับได้ แม้กระโปรงบาน แขนตุก๊ตา และหน้าตาแป๋วแว๋วน่ารัก
แต่กระโปรงหนูแป้งก็ไม่สั้นเกิน ยาวลงมาระดับเข่า
ท่านชาย มูซา และอาดัม ใส่เสื้อโบโล สีสวยทับด้วยสูท คาดเข็มขัดกางเกงสแลค รองเท้าหนัง
พี่รองสวมเสื้อคอพันสีฟ้าเทาเป็นลายขวางเล็กๆ กางเกงสแลคสีน้ำเงินเข้มรองเท้าหนัง
ปิดท้ายด้วยท่านหมอที่มาในชุดเดรสยาวสีเขียวอ่อนริ้วสีครีมแทรกอยู่ดูพริ้วไปทั้งตัว
เแขนสามส่วนพอดีแขน ผ้าเนื้อหนาเข้ารูป หัวไหล่จีบย้ำแล้วปล่อยคอย่วยลงมา ประดับด้วยชุดมุกสวยของป๋า
ผมหนายาวสลวยถูกรวมแล้วเกล้าเป็นมวยยกสูงแลเห็นลำคอระหง ปักด้วยปิ่นปักผมทองคำขาว ปลายปิ่นเป็นรูปวงเดือน
เป็นของขวัญที่ท่านชายซื้อให้ในวันวาเลนไทน์อย่างเงียบๆ
โดยวางไว้หน้าเรือนแต่เช้า มีเพียงลายเซ็น หมอเติ้ลรับไว้อย่างปลื้มเงียบๆเหมือนกัน
เธอเดินเข้ามาตามด้วยฟารีอุ้มลังกระดาษใส่ของตามมา
ร่างสูงระโหงของหมอเติ้ลกับชุดที่แต่งดูสวยสง่าใบหน้าแต่งบางๆ ทาลิปสีชมพูอมส้ม
“โอ้! ลูกสาวพ่อแต่งตัวได้เหมาะสมนักดูสง่าเหลือเกิน” ป๋ากับมะเห็นลูกสาวแล้วปลื้มใจ
พาลจะทำให้มะแสดงบทโศกอีก
“อย่าร้องนะ วันนี้วันดี มะต้องดีใจและยิ้ม ดูซิลูกช่างสง่างามนัก” ป๋าพูดและสรุปเองเรียบร้อย
ท่านชายอะซันให้ท่านแม่เปิดพิธี เดินไปตักของที่จัดไว้ที่โต๊ะบุปเฟ่ ตามด้วยมะ ท่านป้า ท่านลุง ท่านหญิง
และคนอื่นตามลำดับ มีท่านแม่นั่งหัวโต๊ะตามด้วยท่านชายอะซัน และท่านหญิง ส่วนลุงหม่อมนั่งหัวโต๊ะอีกฝั่ง
ตามด้วยป๋า เติ้ล นั่งกลางประกบด้วยมะ พี่รองและแป้งที่เหลือก็หาที่ลงกันตามสะดวก
ไก่งวงตัวใหญ่เนื้อนุ่ม หอมด้วยเครื่องปรุง ยัดใส้ด้วยข้าวผัดกับน้ำมันมะกอกและสารพัดเครื่องเทศ หอมชวนกิน หมอเติ้ลทำสลัดผักโดยเอาผักที่ปลูกในเรือนเพาะชำ มาร่วมด้วยถาดใหญ่ อาดัมดูแลอยู่ที่โต๊ะบุปเฟ่
ส่วนมูซาดูแลเครื่องดื่มอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ ที่เคาน์เตอร์บาร์มีพั้นซ์ส้มซึ่งทำด้วยน้ำส้ม มะนาว เหล้า โซดา และน้ำหวานคนให้เข้ากัน ลอยหน้าอย่างสวยด้วยส้มผ่าเป็นแว่นๆให้ด้วย
ท่านแม่ว่า”พวกข้าดื่มไม่ได้ แต่ไม่ได้ห้ามให้มี ทำเถอะ ปีละครั้งไม่มีปัญหาหรอก” หน้าตาท่านผ่องใส
เห็นลูกๆมีความสุขทั้งแขกที่มาเยือนก็อัธยาศัยดีทุกคน
ทุกคนได้อาหารครบแล้วจะลงมือ ลุงหม่อมเอ่ยขึ้น
“ท่านชายเราขอบคุณพระเจ้ากันหน่อยเถอะ”
“เอาอย่างไรดีละครับ” ท่านชายคงไม่รู้ว่าจะเชิญพระเจ้าองค์ไหนลงมาแน่ๆ
“เอาเป็นของใครของมันแต่เอ่ยตามกันไปเถอะ” มุกนี้ทำให้แป้ง และหมอเติ้ลหัวเราะคิกๆ คนอื่นพลอยตามไปด้วยกว่าจะติดเบรคก็อีกครู่หนึ่ง
ท่านชายเริ่ม” ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงคุ้มครองสอดส่องดูแลเรา เรามีเวลาอันแสนวิเศษในวันนี้ร่วมกันทุกคน
พวกข้าขอขอบคุณในพระเมตตาของพระองค์ โปรดทรงช่วยคุ้มครองดูแลทุกคนที่เรารักด้วยเถิด”
มีแต่ท่านชายที่เอามือแตะหน้าอกและหน้าผากเขาหลับตาลงครู่เดียวหมอเติ้ลมองขนตายาวงอนดกหนา
คิ้วเป็นปื้นแต่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ “อ้า! หัวใจข้าอยู่ที่ไหนนะ”
เสียงเพลงจิงเกิลเบลล์ ซันต้าคัมทูทาวน์ ไซเร้นไนท์ ไวท์คริสมาสต์ บรรเลงเบาๆ ลมพัดโชยเข้ามาให้ได้เย็นอย่างได้อารมณ์ “อือ! ปิดกระจกแต่มีลมเข้ามาได้นะครับ” ป๋าเอ่ยขึ้น
“ครับ เพราะบนฝ้าถ้าดูดีๆ จะเหลื่อมกันสองชั้น ปรับบานเกล็ด หรือช่องลมได้ครับ” ท่านชายไขข้อข้องใจ
“อาหารอร่อยค่ะ” หมอเติ้ลเอ่ยขึ้น แป้งพยักหน้าเห็นด้วย
“รสชาติเยี่ยมเลยครับ” พี่รองเสริม
ท่านป้าเอ่ยว่า”ร้านอาหารฝรั่งนี่ เราสั่งเขาทุกปีตั้งแต่พ่อท่านชายอยู่ ทุกปีเราได้กินเช่นนี้ เพียงแต่ว่าไม่มีอะไรมากมายเหมือนเช่นปีนี้
ข้าว่าได้จัดแบบนี้ก็ดีนะน้องข้า” “ใช่ๆ”
“ข้าก็ชอบ แม้ข้ามองไม่เห็นแต่ข้าสัมผัสสิ่งต่างๆที่ดีจากพวกเราทุกคน” ท่านหญิงเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่สุขใจ
“เก่งมากท่านหญิงมาเรียม ท่านเป็นคนตัวอย่างที่เราต้องดูไว้ จงอย่าย่อท้อเพราะเรามีกันและกัน บางคนแย่กว่าพวกเขาไม่มีใครเลย”
“ท่านลุงพูดถูก นับจากข้ามีท่านหมอ เธอเป็นทั้งครู ทั้งพี่สาว ให้ความรู้ แนะนำ ฝึกข้าให้พึ่งตัวเอง และเห็นคุณค่าของตัวข้าด้วย
“ขอบคุณสวรรค์”
จานอาหารถูกเก็บออก สาวใช้นำฟรุตเค้ก และ ซินนามอลโรลมาเสริฟ
อาดัมมาถามว่าใครต้องการดื่มอะไร
“ผู้ใหญ่เอาเป็นชาร้อนดีกว่า แล้วเด็กๆเขาลุกไปจัดการเองดีไหม” ลุงหม่อมตัดสินใจให้
ท่านชายให้ท่านหมอเริ่มแจของขวัญก่อน
หมอเติ้ลให้ลุงหม่อมก่อนตามอาวุโส เธอก้มลงกราบที่ตัก”ขอให้สิ่งดีจงเกิดแก่ลูกนะ”
พอมาถึงป๋ากับมะหมอก้มลงกราบที่ตัก ทั้งสองกอดลูกแน่น “ขอให้พระคุ้มครองนะลูก” ของที่เหลือแจกไปตามชื่อจนหมด
ถึงตาท่านชายบ้าง เขาเอากล่องของขวัญมาแจกทุกคนเริ่มจากท่านแม่
เขาเข้าไปกอดนางไว้ ท่านแม่ลูบหลังน้ำตาคลอ” ข้าขอให้พรเจ้า ขอให้สิ่งที่เจ้าหวังจงสมประสงค์”
ท่านแม่มองมาทางหมอเติ้ลด้วยสายตาอ่อนโยน
ถัดมาเขาเข้ามากอดท่านหญิงไว้ในอ้อมแขนแข็งแรง “แด่น้องอันเป็นที่รักของข้า” “ท่านพี่..” ทั้งสองกอดกันแน่น ทุกคนมองด้วยสายตาชื่นใจในความรักพี่น้อง
”ใช่น่าสงสาร เขาเหลือกันเพียงสองคนพี่น้อง” หมอเติ้ลรีบยกกระดาษซับน้ำตา ท่านชายมีของขวัญให้ทุกคน ไม่เว้นมูซา และอาดัม
ยังเหลือกล่องสุดท้ายในมือมูซา ทุกคนลุ้นว่ามูซาจะเซอร์ไพรส์ใคร
เขาส่งให้ท่านชายๆส่งให้หมอเตื้ล”แด่เธออันเป็นที่รัก” หมอเอ่ยขอบคุณ
“โอ๊ย! ท่านชายมอบใจให้หมอเติ้ลจนหมด โรแมนติกจังเลย” แป้งถึงกับออกอาการ
หมอเติ้ลก็ส่งให้ท่านชายเป็นกล่องสุดท้ายเช่นกัน
“โอ้! พระเจ้าขอให้รักของทั้งสองนั้นนิรันดร” ท่านป้าภาวนาและมองตาลุงหม่อม
“อือ! ของๆใครก็ต้องเป็นเช่นนั้น” เขาพึมพรำเบาๆ