ราตรีสีอำพัน (101)
รถวิ่งผ่านมาตามถนนของเมืองอัมมาน
บ้านเรือนที่เป็นทรงเรียบง่ายเหมือนกล่องสีขาวและเหลืองนวล ที่ตั้งอยู่สลับกันเป็นแถบ
สูงต่ำจากยอดเขาลดหลั่นลงมาอย่างสวยงามจนถึงพื้นล่างที่ติดถนน ข้างถนนสองฝั่งมีต้นมะกอกปลูกเป็นระยะๆ
ช่วงนี้เพิ่งหมดแล้งกำลังเข้าฤดูหนาว จึงไม่มีต้นไม้ให้เห็นมากนัก
“เติ้ลบ้านเขาเป็นทรงเดียวกันหมดเลยนะคล้ายกล่องวางตั้งสลับกันไปมา และมีโทนสีขาวนวลและเหลืองอ่อน เรียบและดูสวยดีนะเติ้ล”
แป้งพูด ตาก็มองไปตามทาง แป้งเองก็เดินทางไปหลายที่ทั้งดูงาน
และไปด้วยทรัพย์ส่วนตัว แต่ไม่เคยแม้แต่จะคิดอยากมาแถบตะวันออกกลาง เพราะแถบนี้โดนใส่ไข่ตีสีจนเลอะเทอะ และน่ากลัว แต่ตรงข้ามกับความเป็นจริง โดยเฉพาะจอร์แดนเป็นที่ๆน่าอยู่และปลอดภัย
ผู้คนส่วนใหญ่อัธยาศัยน่ารักและเป็นมิตร นั้นคือข้อตวามที่หมอเติ้ลเคยบอกเล่าให้ทุกคนที่เมืองไทยฟัง
หมอเติ้ลถาม “ชอบมั้ยล่ะ”
“ชอบค่ะ” พี่แดงตอบแทน “พี่แดงจะนอนหลับไหมเนี่ย อะไรก็ดูตื่นตาตื่นใจไปหมด นะค่ะน้องเติ้ล”
พี่พฤษาดูสองข้างทาง ”มีต้นไม้ไม่กี่ชนิดที่ปลูกได้คงเป็นเพราะพื้นที่ๆเป็นทราย และความแห้งแล้ง อย่างที่พี่พีระเคยเล่าให้ฟังครั้งที่มีประชุมและเจอเติ้ล ทางโครงการหลวงก็ให้ความช่วยเหลือและอีกหลายประเทศยื่นมือเข้ามาช่วย ใช่ไหมเติ้ล” พี่รองถาม
“เรากำลังดำเนินการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรหลายด้าน และบางส่วนที่เข้าร่วมในโครงการของเราเริ่มที่จะประสบความสำเร็จให้เห็นเป็นรูปร่างแล้วค่ะ”
ทั้งป๋า มะและพี่รองสดุดกับคำที่เติ้ลใช้ “เรา”
ป๋านึก “หรือว่าป๋าจะได้ลูกเขยเป็นท่านชายแขกแล้วล่ะมัง”
กับเสียงหัวเราะและการเล่าเรื่องต่างๆดูเหมือนป๋าจะคิดไม่ผิด
เมื่อรถวิ่งมาทางฝั่งตะวันตก อาคารหรู ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆเริ่มมีให้เห็นมากขึ้นเหมือนเมืองใหญ่ทั่วไป
แต่ที่เห็นตามฟุตบาททั่วไปคือต้นมะกอกที่ปลูกเป็นระยะๆ ออกลูกแล้วเป็นผลเล็กบ้างใหญ่บ้างทั้งมะกอกเขียวและดำ
“หมอเติ้ล ไอ้ที่ปลูกข้างทางมีลูกติดเต็มมันต้นอะไรจ้ะ” ป้าอำไพถาม
“ต้นมะกอกค่ะ ที่นี่ปลูกต้นไม้ได้ไม่กี่ชนิด มีมะกอก ปาล์ม หลิว ต้นสน ส้ม กล้วย และอินทผลัมค่ะ”
บ้านหลังใหญ่ราคาแพงทันสมัยและร้านอาหารหรูๆมีให้เห็นอยู่ทั่วไป
“บ้านท่านทูตอยู่ในละแวกนี้ถึงก่อนวังท่านชายค่ะ”
“เรียกว่าคฤหาสน์ก็ได้ครับ เพราะไม่หรูหรามากมายเหมือนเช่นวังอื่น”
“ค่ะที่นั้นเป็นอยู่เรียบง่าย แต่มีความสะดวกพร้อม” หมอเติ้ลเสริม แล้วชี้ให้ดูบ้านท่านทูต
“ป๋าแปลกใจที่เขาใช้หินไลมเป็นวัสดุก่อสร้างอาคารเป็นส่วนใหญ่นะ”
“ค่ะป๋าเพราะที่นี่มีหินไลมเยอะ”
“ประเทศเราเล็กครับ ขนาดน่าจะเท่าสองจังหวัดใหญ่ของคุณเท่านั้นเอง ประชาชนเรามีเพียงหกล้านคน ประมาณสี่สิบเปอร์เซ็นต์เป็นพวกอพยพมาจากปาเลสไตน์ครับ” ท่านชายอธิบายเสียงพูดมีน้ำหนักและจังหวะที่ดี
“อือ!พูดจาน่าฟัง”ป๋านึกชม
“ผมขออนุญาตเรียกทุกท่านเหมือนคุณหมอได้ไหมครับ”
“เอ้อ!ดีๆ เรียกเหมือนหมอเติ้ลง่ายดี หากท่านชายไม่รังเกียจ”ลุงหม่อมรีบสรุปแทนทุกคน
“ผมไม่รังเกียจหรอกครับ เป็นความยินดีด้วยซ้ำ” เขายิ้มหล่อ แป้งนึกเป็นห่วงเพื่อน “ไอ้หมอเติ้ลถลำตัวไปแค่ไหนแล้วนะ ทั้งหล่อทั้งสุภาพ “
“หมอเติ้ลก็เรียกทุกคนเหมือนผม ท่านแม่ขอร้อง เพราะหมอเติ้ลมาอยู่ทำงาน
และสร้างความสุขให้ทุกคนเหมือนดั่งครอบครัวเดียวกัน”ท่าชายพูดแล้วยิ้ม หมอเติ้ลหันมาทำหน้าดุใส่
“พูดหน้าตาเฉยเลย นับฉันเข้าสำมะโนประชากรตั้งแต่เมื่อไรฮึ!” หมอคิดแล้วอารมณ์เสีย
ป๋าและมะยิ้มอย่างชื่นใจที่ลูกทำงานได้เกินร้อย
แต่ลึกลงไปมะเองหวั่นไหวว่าอีกหน่อยเติ้ลคงจะต้องจากอกแม่ เป็นนกตัวใหญ่ที่แข็งแรง
รถวิ่งผ่านป้อมทหารรักษาการ เข้าสู่ถนนด้านหน้า มองเห็นรั้วไม้สีขาวสูงประมาณเอว
มีม้าอาหรับรูปร่างสวย แข็งแรงผูกไว้สองตัวในลานหญ้ากว้าง ถนนวิ่งเข้าสู่คฤหาสน์ สองข้างถนนปลูก
ต้นมะกอกเป็นแนวยาวไปจนถึงตัวเรือนใหญ่
เรือนใหญ่รูปทรงทันสมัย กับดงเฟื่องฟ้าที่หมอเติ้ลปลูกเป็นแนวขนานกับตัวเรือน
กำลังออกดอกดกงาม ตัวอาคารทำด้วยหินไลม ออกแบบเรียบสวย ทรงทันสมัย ความงดงามอย่างลงตัวของพรรณไม้ที่พอปลูกได้ และตัวเรือนที่ตั้งอยู่บนเนินเขา น่าอยู่ดีจริงๆ
ประตูด้านหน้าเรือนใหญ่ เป็นวงโค้งทำด้วยไม้เนื้อแข็งติดกระจดสีเป็นรูปดาวกับพระจันทร์เสี้ยว
รถจอดที่ประตูบ้าน ท่านแม่ ท่านป้า และท่านหญิงมาเรียมออกมารอรับพร้อมคนติดตาม
เมื่อรถจอดดีแล้ว หมอเติ้ลนำคณะพบกับครอบครัวท่านชายอะซัน
เธอแนะนำทุกคนกับท่านแม่ ท่านป้ารอง ท่านป้าใหญ่ และ ท่านหญิงมาเรียม มะเดินตามหมอเติ้ลเข้ามาทักทายเป็นคนแรก มะจับมือทุกคน และเอ่ยว่า ”อัสสลามอะลัยกุม” ท่านอาวุโสตอบกับพร้อมรอยยิ้ม “วะลัยกุมสสลาม”ตามด้วยผู้ชายจากลุงหม่อม มาป๋าและพี่รอง
ที่ใช้ภาอังกฤษ และก้มศีรษะให้ (เป็นข้อห้ามของการทักทายหญิง และชายจะไม่ถูกตัวกัน)
อาดัม มูซา และผู้ติดตาม เข้ามาช่วยกันเอาของไปยังห้องพักแขก
“ทุกท่านตามสบายท่านหมอมาอยู่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี และนำความสงบสุขกลับคืนสู่บ้านข้าอีกครั้ง เช่นนั้น โปรดอย่าเกรงใจ พวกท่านกับเราให้คิดว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน ท่านหมอข้าฝากดูแลทุกท่านด้วย ขาดเหลือสิ่งใดจงบอกข้า” ท่านแม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม ที่เป็นมิตร
"นางดูงดงามกว่าพี่น้องคนอื่น ท่านชายอะซันได้ความงามของนางมาด้วยหลายส่วน” มะคิดขณะที่ยิ้มตอบ และเดินตามหมอเติ้ล
ไปที่ห้องพักแขกซึ่งผ่านด้านข้างของห้องรับแขกไปทางด้านในของเรือนใหญ่
หมอเติ้ลยกห้องใหญ่ให้ป๋า มะและแป้ง ส่วนห้องกลางสองห้องเป็ของลุงหม่อมกับพี่รอง
อีกห้องเป็นของป้าอำไพกับพี่แดง “ทุกคนมีเวลาทำธุระประมาณสี่สิบห้านาทีนะคะ แล้วมารวมที่ห้องป๋าเราจะไปร่วมทานข้าวกับท่านแม่ที่ห้องอาหาร” หมอเติ้ลเอ่ยขึ้น และหันมาสั่งอาดัม “เจ้าช่วยเอากล่องสองกล่องนี้ไปไว้ที่เรือนหมอด้วย ขอบคุณมาก” ก่อนจะแยกเข้าห้องป๋าไป
ห้องป๋าแต่งไว้ดูหรูเลิศน่านอน มีเตียงใหญ่วางไว้ชิดผนังส่วนที่ติดกับห้องน้ำ มีเตียงเดียวค่อนข้างกว้างกว่าปกติอยู่ติด
กับระแนงไม้เนื้อแข็งทาด้วยสีโอ๊คดำเป็นส่วนที่แยกโซนนั่งเล่นมีโซฟาบุลายสดใสด้วยสีฟ้า น้ำเงิน และม่วงครามด้วยลายดอกที่เป็นแบบอาหรับ ห้องทาด้วยสีครีมดูน่าอยู่ ผ้าม่านลายถักสีเหลืองนวลรวบไว้ด้วยเกลียวเชือกสีขาวสลับส้มอ่อน
ปลายเท้ามีโต๊ะทำงาน และทีวีขนาดใหญ่
มีโคมไฟแชนเดอเลียร์ตกแต่งด้วยคริสตัลห้อยอยู่กลางห้อง ส่วนด้านหัวเตียงตกแต่งด้วยหินโมเสกเป็นรูปผู้หญิงผมยาวก้มลงดมดอกกุหลาบ ฝีมืองานละเอียด โทนสีอ่อนให้ความรู้สึกอบอุ่นนัก
ส่วนห้องน้ำเข้าเปิดห้องมาแล้วเจอเลยอยู่ทางซ้ายมือ
ตรงข้ามห้องน้ำเป็นตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำกว้าง มีชุดสบู่เหลว ครีมล้างหน้า ยาสะผม และอื่นๆครบจัดวางเรียงไว้ในตะกร้าสานด้วยเส้นทองเหลืองลวดลายสวยงามวางไว้ที่มุมขวามือหน้ากระจกบานใหญ่
ซ้ายมือมีโถเซรามิคจัดเป็นสวนหย่อม งดงาม
”โอโฮ้ !ในห้องน้ำสวยมากปูพื้นด้วยกระเบื้องโมเสก แล้วจัดสวนหย่อมไว้ในกระถางเซรามิคด้วย”
เสียงแป้งดังมาจากในห้องน้ำ หมอเติ้ลยิ้มกับมะ “สวนขนาดเล็กที่จัดไว้ในโถเซรามิค เติ้ลจัดให้ท่านแม่ ท่านป้า และท่านหญิง เขาคงยกมาแต่งห้องรับรองแขกค่ะ”
“อือ!ถ้าไม่บอกนี่ ป๋ายังคิดว่าอยู่ในโรงแรมหรูนะเนี่ย
ข้างโต๊ะทำงานยังมีตู้เย็นขนาดย่อมแช่น้ำดื่ม น้ำผลไม้ และนมสดกับชอคโกแล็ตบาร์ โอ้โฮ! อีกหลายอย่างเลย”
“ครับคล้ายห้องผม” เสียงพี่รองเดินเข้ามาแจมหลังจากล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนชุดแล้ว
“พื้นห้องปูพรหมสีเดียวกันเลยครับ เหมือนอยู่โรงแรมหรูจริงๆด้วยครับป๋า” พี่รองเห็นด้วย มะมองลูกสาวด้วยสายตาภูมิใจ
”หนูเก่งขึ้นมากเลย รู้จักทำสวนหย่อมได้สวยงาม และภาษาอาหรับหนูพูดคล่องเชียว การแต่งกายก็ดูเหมาะสม”
ป๋า และมะมองลูกสาวอย่างมีความสุข
ราตรีสีอำพัน (101)
รถวิ่งผ่านมาตามถนนของเมืองอัมมาน
บ้านเรือนที่เป็นทรงเรียบง่ายเหมือนกล่องสีขาวและเหลืองนวล ที่ตั้งอยู่สลับกันเป็นแถบ
สูงต่ำจากยอดเขาลดหลั่นลงมาอย่างสวยงามจนถึงพื้นล่างที่ติดถนน ข้างถนนสองฝั่งมีต้นมะกอกปลูกเป็นระยะๆ
ช่วงนี้เพิ่งหมดแล้งกำลังเข้าฤดูหนาว จึงไม่มีต้นไม้ให้เห็นมากนัก
“เติ้ลบ้านเขาเป็นทรงเดียวกันหมดเลยนะคล้ายกล่องวางตั้งสลับกันไปมา และมีโทนสีขาวนวลและเหลืองอ่อน เรียบและดูสวยดีนะเติ้ล”
แป้งพูด ตาก็มองไปตามทาง แป้งเองก็เดินทางไปหลายที่ทั้งดูงาน
และไปด้วยทรัพย์ส่วนตัว แต่ไม่เคยแม้แต่จะคิดอยากมาแถบตะวันออกกลาง เพราะแถบนี้โดนใส่ไข่ตีสีจนเลอะเทอะ และน่ากลัว แต่ตรงข้ามกับความเป็นจริง โดยเฉพาะจอร์แดนเป็นที่ๆน่าอยู่และปลอดภัย
ผู้คนส่วนใหญ่อัธยาศัยน่ารักและเป็นมิตร นั้นคือข้อตวามที่หมอเติ้ลเคยบอกเล่าให้ทุกคนที่เมืองไทยฟัง
หมอเติ้ลถาม “ชอบมั้ยล่ะ”
“ชอบค่ะ” พี่แดงตอบแทน “พี่แดงจะนอนหลับไหมเนี่ย อะไรก็ดูตื่นตาตื่นใจไปหมด นะค่ะน้องเติ้ล”
พี่พฤษาดูสองข้างทาง ”มีต้นไม้ไม่กี่ชนิดที่ปลูกได้คงเป็นเพราะพื้นที่ๆเป็นทราย และความแห้งแล้ง อย่างที่พี่พีระเคยเล่าให้ฟังครั้งที่มีประชุมและเจอเติ้ล ทางโครงการหลวงก็ให้ความช่วยเหลือและอีกหลายประเทศยื่นมือเข้ามาช่วย ใช่ไหมเติ้ล” พี่รองถาม
“เรากำลังดำเนินการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรหลายด้าน และบางส่วนที่เข้าร่วมในโครงการของเราเริ่มที่จะประสบความสำเร็จให้เห็นเป็นรูปร่างแล้วค่ะ”
ทั้งป๋า มะและพี่รองสดุดกับคำที่เติ้ลใช้ “เรา”
ป๋านึก “หรือว่าป๋าจะได้ลูกเขยเป็นท่านชายแขกแล้วล่ะมัง”
กับเสียงหัวเราะและการเล่าเรื่องต่างๆดูเหมือนป๋าจะคิดไม่ผิด
เมื่อรถวิ่งมาทางฝั่งตะวันตก อาคารหรู ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆเริ่มมีให้เห็นมากขึ้นเหมือนเมืองใหญ่ทั่วไป
แต่ที่เห็นตามฟุตบาททั่วไปคือต้นมะกอกที่ปลูกเป็นระยะๆ ออกลูกแล้วเป็นผลเล็กบ้างใหญ่บ้างทั้งมะกอกเขียวและดำ
“หมอเติ้ล ไอ้ที่ปลูกข้างทางมีลูกติดเต็มมันต้นอะไรจ้ะ” ป้าอำไพถาม
“ต้นมะกอกค่ะ ที่นี่ปลูกต้นไม้ได้ไม่กี่ชนิด มีมะกอก ปาล์ม หลิว ต้นสน ส้ม กล้วย และอินทผลัมค่ะ”
บ้านหลังใหญ่ราคาแพงทันสมัยและร้านอาหารหรูๆมีให้เห็นอยู่ทั่วไป
“บ้านท่านทูตอยู่ในละแวกนี้ถึงก่อนวังท่านชายค่ะ”
“เรียกว่าคฤหาสน์ก็ได้ครับ เพราะไม่หรูหรามากมายเหมือนเช่นวังอื่น”
“ค่ะที่นั้นเป็นอยู่เรียบง่าย แต่มีความสะดวกพร้อม” หมอเติ้ลเสริม แล้วชี้ให้ดูบ้านท่านทูต
“ป๋าแปลกใจที่เขาใช้หินไลมเป็นวัสดุก่อสร้างอาคารเป็นส่วนใหญ่นะ”
“ค่ะป๋าเพราะที่นี่มีหินไลมเยอะ”
“ประเทศเราเล็กครับ ขนาดน่าจะเท่าสองจังหวัดใหญ่ของคุณเท่านั้นเอง ประชาชนเรามีเพียงหกล้านคน ประมาณสี่สิบเปอร์เซ็นต์เป็นพวกอพยพมาจากปาเลสไตน์ครับ” ท่านชายอธิบายเสียงพูดมีน้ำหนักและจังหวะที่ดี
“อือ!พูดจาน่าฟัง”ป๋านึกชม
“ผมขออนุญาตเรียกทุกท่านเหมือนคุณหมอได้ไหมครับ”
“เอ้อ!ดีๆ เรียกเหมือนหมอเติ้ลง่ายดี หากท่านชายไม่รังเกียจ”ลุงหม่อมรีบสรุปแทนทุกคน
“ผมไม่รังเกียจหรอกครับ เป็นความยินดีด้วยซ้ำ” เขายิ้มหล่อ แป้งนึกเป็นห่วงเพื่อน “ไอ้หมอเติ้ลถลำตัวไปแค่ไหนแล้วนะ ทั้งหล่อทั้งสุภาพ “
“หมอเติ้ลก็เรียกทุกคนเหมือนผม ท่านแม่ขอร้อง เพราะหมอเติ้ลมาอยู่ทำงาน
และสร้างความสุขให้ทุกคนเหมือนดั่งครอบครัวเดียวกัน”ท่าชายพูดแล้วยิ้ม หมอเติ้ลหันมาทำหน้าดุใส่
“พูดหน้าตาเฉยเลย นับฉันเข้าสำมะโนประชากรตั้งแต่เมื่อไรฮึ!” หมอคิดแล้วอารมณ์เสีย
ป๋าและมะยิ้มอย่างชื่นใจที่ลูกทำงานได้เกินร้อย
แต่ลึกลงไปมะเองหวั่นไหวว่าอีกหน่อยเติ้ลคงจะต้องจากอกแม่ เป็นนกตัวใหญ่ที่แข็งแรง
รถวิ่งผ่านป้อมทหารรักษาการ เข้าสู่ถนนด้านหน้า มองเห็นรั้วไม้สีขาวสูงประมาณเอว
มีม้าอาหรับรูปร่างสวย แข็งแรงผูกไว้สองตัวในลานหญ้ากว้าง ถนนวิ่งเข้าสู่คฤหาสน์ สองข้างถนนปลูก
ต้นมะกอกเป็นแนวยาวไปจนถึงตัวเรือนใหญ่
เรือนใหญ่รูปทรงทันสมัย กับดงเฟื่องฟ้าที่หมอเติ้ลปลูกเป็นแนวขนานกับตัวเรือน
กำลังออกดอกดกงาม ตัวอาคารทำด้วยหินไลม ออกแบบเรียบสวย ทรงทันสมัย ความงดงามอย่างลงตัวของพรรณไม้ที่พอปลูกได้ และตัวเรือนที่ตั้งอยู่บนเนินเขา น่าอยู่ดีจริงๆ
ประตูด้านหน้าเรือนใหญ่ เป็นวงโค้งทำด้วยไม้เนื้อแข็งติดกระจดสีเป็นรูปดาวกับพระจันทร์เสี้ยว
รถจอดที่ประตูบ้าน ท่านแม่ ท่านป้า และท่านหญิงมาเรียมออกมารอรับพร้อมคนติดตาม
เมื่อรถจอดดีแล้ว หมอเติ้ลนำคณะพบกับครอบครัวท่านชายอะซัน
เธอแนะนำทุกคนกับท่านแม่ ท่านป้ารอง ท่านป้าใหญ่ และ ท่านหญิงมาเรียม มะเดินตามหมอเติ้ลเข้ามาทักทายเป็นคนแรก มะจับมือทุกคน และเอ่ยว่า ”อัสสลามอะลัยกุม” ท่านอาวุโสตอบกับพร้อมรอยยิ้ม “วะลัยกุมสสลาม”ตามด้วยผู้ชายจากลุงหม่อม มาป๋าและพี่รอง
ที่ใช้ภาอังกฤษ และก้มศีรษะให้ (เป็นข้อห้ามของการทักทายหญิง และชายจะไม่ถูกตัวกัน)
อาดัม มูซา และผู้ติดตาม เข้ามาช่วยกันเอาของไปยังห้องพักแขก
“ทุกท่านตามสบายท่านหมอมาอยู่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี และนำความสงบสุขกลับคืนสู่บ้านข้าอีกครั้ง เช่นนั้น โปรดอย่าเกรงใจ พวกท่านกับเราให้คิดว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน ท่านหมอข้าฝากดูแลทุกท่านด้วย ขาดเหลือสิ่งใดจงบอกข้า” ท่านแม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม ที่เป็นมิตร
"นางดูงดงามกว่าพี่น้องคนอื่น ท่านชายอะซันได้ความงามของนางมาด้วยหลายส่วน” มะคิดขณะที่ยิ้มตอบ และเดินตามหมอเติ้ล
ไปที่ห้องพักแขกซึ่งผ่านด้านข้างของห้องรับแขกไปทางด้านในของเรือนใหญ่
หมอเติ้ลยกห้องใหญ่ให้ป๋า มะและแป้ง ส่วนห้องกลางสองห้องเป็ของลุงหม่อมกับพี่รอง
อีกห้องเป็นของป้าอำไพกับพี่แดง “ทุกคนมีเวลาทำธุระประมาณสี่สิบห้านาทีนะคะ แล้วมารวมที่ห้องป๋าเราจะไปร่วมทานข้าวกับท่านแม่ที่ห้องอาหาร” หมอเติ้ลเอ่ยขึ้น และหันมาสั่งอาดัม “เจ้าช่วยเอากล่องสองกล่องนี้ไปไว้ที่เรือนหมอด้วย ขอบคุณมาก” ก่อนจะแยกเข้าห้องป๋าไป
ห้องป๋าแต่งไว้ดูหรูเลิศน่านอน มีเตียงใหญ่วางไว้ชิดผนังส่วนที่ติดกับห้องน้ำ มีเตียงเดียวค่อนข้างกว้างกว่าปกติอยู่ติด
กับระแนงไม้เนื้อแข็งทาด้วยสีโอ๊คดำเป็นส่วนที่แยกโซนนั่งเล่นมีโซฟาบุลายสดใสด้วยสีฟ้า น้ำเงิน และม่วงครามด้วยลายดอกที่เป็นแบบอาหรับ ห้องทาด้วยสีครีมดูน่าอยู่ ผ้าม่านลายถักสีเหลืองนวลรวบไว้ด้วยเกลียวเชือกสีขาวสลับส้มอ่อน
ปลายเท้ามีโต๊ะทำงาน และทีวีขนาดใหญ่
มีโคมไฟแชนเดอเลียร์ตกแต่งด้วยคริสตัลห้อยอยู่กลางห้อง ส่วนด้านหัวเตียงตกแต่งด้วยหินโมเสกเป็นรูปผู้หญิงผมยาวก้มลงดมดอกกุหลาบ ฝีมืองานละเอียด โทนสีอ่อนให้ความรู้สึกอบอุ่นนัก
ส่วนห้องน้ำเข้าเปิดห้องมาแล้วเจอเลยอยู่ทางซ้ายมือ
ตรงข้ามห้องน้ำเป็นตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำกว้าง มีชุดสบู่เหลว ครีมล้างหน้า ยาสะผม และอื่นๆครบจัดวางเรียงไว้ในตะกร้าสานด้วยเส้นทองเหลืองลวดลายสวยงามวางไว้ที่มุมขวามือหน้ากระจกบานใหญ่
ซ้ายมือมีโถเซรามิคจัดเป็นสวนหย่อม งดงาม
”โอโฮ้ !ในห้องน้ำสวยมากปูพื้นด้วยกระเบื้องโมเสก แล้วจัดสวนหย่อมไว้ในกระถางเซรามิคด้วย”
เสียงแป้งดังมาจากในห้องน้ำ หมอเติ้ลยิ้มกับมะ “สวนขนาดเล็กที่จัดไว้ในโถเซรามิค เติ้ลจัดให้ท่านแม่ ท่านป้า และท่านหญิง เขาคงยกมาแต่งห้องรับรองแขกค่ะ”
“อือ!ถ้าไม่บอกนี่ ป๋ายังคิดว่าอยู่ในโรงแรมหรูนะเนี่ย
ข้างโต๊ะทำงานยังมีตู้เย็นขนาดย่อมแช่น้ำดื่ม น้ำผลไม้ และนมสดกับชอคโกแล็ตบาร์ โอ้โฮ! อีกหลายอย่างเลย”
“ครับคล้ายห้องผม” เสียงพี่รองเดินเข้ามาแจมหลังจากล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนชุดแล้ว
“พื้นห้องปูพรหมสีเดียวกันเลยครับ เหมือนอยู่โรงแรมหรูจริงๆด้วยครับป๋า” พี่รองเห็นด้วย มะมองลูกสาวด้วยสายตาภูมิใจ
”หนูเก่งขึ้นมากเลย รู้จักทำสวนหย่อมได้สวยงาม และภาษาอาหรับหนูพูดคล่องเชียว การแต่งกายก็ดูเหมาะสม”
ป๋า และมะมองลูกสาวอย่างมีความสุข