ราตรีสีอำพัน (98)
ท่านชายไม่ค่อยยอมอยู่ติดห้องเลยนะครับ” อาดัมเอ่ยขึ้น
มูซาพยักหน้าตาม “เจ้ากลายมาเป็นภรรยาข้าตั้งแต่เมื่อไร” ท่านชายอะซันพูดแล้วหัวเราะ
มูซาหัวเราะตามเพราะขำคำพูดท่านชายและนึกถึงแม่ตนเอง นางก็ชอบกล่าวเช่นนี้
จนท่านพ่อชินและไม่สนใจนาง ท่านชายพูดต่อหลังจากหยุดหัวเราะ
” เจ้าสองคนมีปัญหาอะไรหรือ”
ท่านชายถามกวนๆ “มีซิครับ เราไม่มีคู่แข่งมือหนึ่งเล่นหมากกระดานด้วย” มูซาอธิบาย
“อย่าเพิ่งมายุ่งเลย ข้ากำลังสุขใจ”
“ข้าว่าท่านชายยิ่งกว่าสุขใจมังครับ” อาดัมแซว และมองดูหน้าหล่อเหลาที่ขลิบไรหนวดไว้เป็นระเบียบ
ท่านชายไม่สนใจหันไปพูดคนเดียวเบาๆ
“นางจัดสวนลงโถเซรามิค งดงามนัก ข้าจะวางไว้หัวเตียงมันจะได้แสงดีในเวลากลางวัน”
“มูซาเจ้าดูแลให้ข้าด้วย ห้ามตายเด็ดขาด” มูซารับปากแล้วหันไปหลิ่วตากับอาดัม
อาดัมเดินไปหยิบหลอดพาสติกที่เป็นก้านสีชมพูบนสุดดัดเป็นรูปหัวใจ ได้มากับตะกร้าดอกไม้ที่ท่านหญิงให้พี่ชายในวันวาเลนไทน์ เสียบลงข้างต้นกระบองเพขรทรงอ้วนกลม
”ฮะฮ่า!รู้ใจข้าจริงๆท่านพี่” มูซาหน้าเสีย”ข้าขอล่ะ อย่าเรียกข้าเช่นนั้นเลยท่านชาย”
“เอาล่ะข้าล้อเล่นน่ะ” “ไปเถอะข้าจะอาบน้ำแล้วนอน พรุ่งนี้เจอกันช่วงเช้าที่ห้องยิมนะ”
ทั้งสองรับคำแล้วออกไปจากห้องท่านชาย
รุ่งขึ้นเป็นวันลอยกระทง หมอเติ้ลเลิกงานตามเวลาปกติ แล้วเธอก็เข้าไปในเรือนเพาะชำ
ตัดใบกล้วยกับลำต้นตัดเป็นฐานวงกลม แล้วเริ่มทำกระทงใบตองตามที่เคยเรียนมากับปป้าอำไพ
เกือบลืมไปบ้างเหมือนกัน เพราะได้วิชามาแต่ทำปีละครั้ง มือใหม่อย่างหมอเติ้ลต้องงมอยู่พักหนึ่ง
ถึงมาถูกทาง การจีบใบตองกระทงที่สองดูคล่องขึ้น และออกมาลงตัวดูสวยงามสุดๆ
”แล้วจะเอาดอกอะไรประดับดีนะ อากาศแล้งอย่างนี้ อ้อ!นึกออกแล้ว ฟารีจ้ะ “
ฟารีนั่งมองกระทงที่ออกมาสวยอย่างทึ่ง
“ค่ะท่านหมอ”
“ช่วยเอาตะกร้าสานใบเล็กไปตัดดอกเฟื่องฟ้าเป็นช่อสั้นๆ คละสีมาให้หมอหน่อย หมอจะเอามาใส่ในกระทง”
ฟารีกลับมา หมอเติ้ลจัดช่อดอกเฟื่องฟ้าคละสีลงในกระทง
“สวยกว่าเมื่อครู่มากเลยค่ะท่านหมอ ท่านหมอเก่งจริงๆ ทำนั้น โน่น นี่ได้สวยๆหลายอย่าง”
“ครับ อย่างท่านหมอต้องเรียกว่าอัจฉริยะ แล้วครับ เก่งหลายอย่างไม่ดีนะครับ ผู้ชายกลัว”
“แล้วท่านชายกลัวฉันไหมล่ะ” เขายิ้มแล้วส่ายหน้า
ท่านชายเข้ามาแจมด้วย หลังจากเข้ามายื่นดูได้ครู่หนึ่งเงียบๆ
แต่หมอเติ้ลมัวก้มหน้าก้มตาทำกระทงอย่างใจจดจ่อ เธอใส่เสื้อยืดสีขาว สกีน
“Thailand, The Land of Smile มีช่อกล้วยไม้งามสกีนไว้ใกล้ๆ สวมกางเกงเลสีมะกอก
ท่านชายและฟารีช่วยท่านหมอเอาเทียนตั้งตามจุดรอบๆบ้าน ตะวับลับแสงไปแล้ว
หมอส่งไฟแช็คให้ท่านชายเดินจุดจนรอบ ท่านแม่และท่านป้าย้ายมุมจิบน้ำชามาอยู่ชานเรือนด้านหลัง
ซึ่งมองเห็นไฟที่จุดขึ้นรอบๆอาคาร เป็นแสงระยิบระยับดูงดงาม บนท้องฟ้ามีเดือนกระจ่างเต็มดวง
หมอเติ้ลเปิดเพลงลอยกระทงช่วยสร้างบรรยากาศครื้นเครง
ท่านหญิงมาเรียมมาถึงตอนที่เทียนจุดเสร็จพอดี จีเลาะห์พูดให้ฟังว่ามีอะไรบ้าง เธอใช้จินตนาการ
“โอ้พระจันทร์ดวงโตทอแสงนวล กับแสงไฟจากแท่งเทียนรอบบ้าน ช่างโรแมนติคมาก ได้อารณ์จริงๆ” ท่านหญิงเอ่ยอย่างอารมณ์ดี
หมอเติ้ลยิ้ม แล้วเอามือนางจับที่โคม “อันนี้ของท่านหญิง หมอจะช่วยจับจุดไฟแล้วเราค่อยๆปล่อยพร้อมกันนะคะ” “เอาล่ะไฟติดแล้ว ความร้อนจะช่วยให้เกิดเป็นมวลอากาศ ยกโคมให้ลอยขึ้นไปบนฟ้า นะคะ”
“เอาล่ะ มากันแล้ว ไมทา ฟาติมา และทุกคนมาหยิบไปแล้วทำตามที่หมอกับท่านหญิงทำ
ให้ขึ้นพร้อมๆกันหลายอันจะสวยมาก”
“ของผมมีไหมครับ” “มีค่ะ ตั้งอยู่ที่ชานบ้าน ฉันเอามาจาก เมืองไทยมากเลย”
“เร็วเข้าของท่านหญิงลอยไปไกลแล้ว” เสียงหมอเร่ง และโคมอื่นก็จุดตามกัน ลอยสูงขึ้น
อาดัมก็เล่นกับเขาด้วย มูซาใช้กล้องวิดีโอที่เก็บรายละเอียดได้ดี โฟกัสชั้นหนึ่ง และถ่ายภาพได้ในยามค่ำคืน
“อือ! สวยมากจริงๆ” ท่านแม่เอ่ย ป้ารองพยักหน้าเห็นด้วย
ท่านป้าใหญ่เอ่ยว่า “ประเทศนางมีประเพณีมากมาย ลอยกระทงก็จะจัดทุกปียามเดือนสิบสอง น้ำตามแม่น้ำเต็มตลิ่ง เดิมทีเริ่มจากสมัยสุโขทัย
จัดขึ้นครั้งแรกโดยนางนพมาศ มเหสีองค์หนึ่งของพ่อขุนรามคำแหง” นางอธิบายให้ฟังอย่างผู้รู้เพราะ ท่านป้าใหญ่นับเป็นหนอนหนังสือที่สะสมหนังสือมากมายในห้องนาง
เสียงปรบมือสนุกสนานของบรรดาสาวๆ เมื่อเห็นความงามของโคมลอยที่ลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า
หมอเติ้ลยิ้มอย่างมีความสุข มันเป็นกิจกรรมที่หลายๆคนทำด้วยกันได้อย่างสนุกสนาน
“ท่านชาย ฉันมีพุด้วย คุณแจ้งกับทหารหน้าป้อมหรือเปล่าไม่งั้นเขาจะตกใจเสียงนะ”
“ผมบอกแล้วล่ะ” “งั้นคุณถือพุใหญ่อันนี้เดี๋ยวฉันจุดให้” พอหมอจุด ครู่เดียวพุก็ดังขึ้นพร้อมพุ่งสู่ท้องฟ้าเป็นประกายสว่างสีสวยงาม
หมอเติ้ลส่งให้อาดัมอีกอัน ท้องฟ้าตอนนี้มีโคมลอยไปไกลแล้ว และพุที่จุดเป็นประกายดาวสีต่างๆ
“โอ้ช่างงดงามนักน้องข้า” ท่านป้ารองเอ่ยขึ้น
”ดูลูกๆข้า และบริวาร หน้าตามีความสุข เสียงดั่งนกแตกรัง” ท่านแม่พูดขึ้นอย่างมีความสุข
หมอเติ้ลจับมือท่านหญิงไว้และบอกให้นางฟังถึงเสียงและความงามของพลุ
ท่านชายมองภาพเหล่านั้น “ความสุขกลับคืนสู่บ้านข้าอีกครั้ง เสียงหัวเราะสดใสของน้องข้าแว่วมาไม่หยุด
นางคงมีความสุขมาก
วันเพ็ญดวงเดือนเด่นฟ้า
ตัวข้ามีเจ้าดั่งดวงดารา
ส่องแสงระยิบเต็มฟากฟ้า
อยากสอยเจ้าลงมาเก็บไว้ในดวงฤดี
ราตรีสีอำพัน (98)
ท่านชายไม่ค่อยยอมอยู่ติดห้องเลยนะครับ” อาดัมเอ่ยขึ้น
มูซาพยักหน้าตาม “เจ้ากลายมาเป็นภรรยาข้าตั้งแต่เมื่อไร” ท่านชายอะซันพูดแล้วหัวเราะ
มูซาหัวเราะตามเพราะขำคำพูดท่านชายและนึกถึงแม่ตนเอง นางก็ชอบกล่าวเช่นนี้
จนท่านพ่อชินและไม่สนใจนาง ท่านชายพูดต่อหลังจากหยุดหัวเราะ
” เจ้าสองคนมีปัญหาอะไรหรือ”
ท่านชายถามกวนๆ “มีซิครับ เราไม่มีคู่แข่งมือหนึ่งเล่นหมากกระดานด้วย” มูซาอธิบาย
“อย่าเพิ่งมายุ่งเลย ข้ากำลังสุขใจ”
“ข้าว่าท่านชายยิ่งกว่าสุขใจมังครับ” อาดัมแซว และมองดูหน้าหล่อเหลาที่ขลิบไรหนวดไว้เป็นระเบียบ
ท่านชายไม่สนใจหันไปพูดคนเดียวเบาๆ
“นางจัดสวนลงโถเซรามิค งดงามนัก ข้าจะวางไว้หัวเตียงมันจะได้แสงดีในเวลากลางวัน”
“มูซาเจ้าดูแลให้ข้าด้วย ห้ามตายเด็ดขาด” มูซารับปากแล้วหันไปหลิ่วตากับอาดัม
อาดัมเดินไปหยิบหลอดพาสติกที่เป็นก้านสีชมพูบนสุดดัดเป็นรูปหัวใจ ได้มากับตะกร้าดอกไม้ที่ท่านหญิงให้พี่ชายในวันวาเลนไทน์ เสียบลงข้างต้นกระบองเพขรทรงอ้วนกลม
”ฮะฮ่า!รู้ใจข้าจริงๆท่านพี่” มูซาหน้าเสีย”ข้าขอล่ะ อย่าเรียกข้าเช่นนั้นเลยท่านชาย”
“เอาล่ะข้าล้อเล่นน่ะ” “ไปเถอะข้าจะอาบน้ำแล้วนอน พรุ่งนี้เจอกันช่วงเช้าที่ห้องยิมนะ”
ทั้งสองรับคำแล้วออกไปจากห้องท่านชาย
รุ่งขึ้นเป็นวันลอยกระทง หมอเติ้ลเลิกงานตามเวลาปกติ แล้วเธอก็เข้าไปในเรือนเพาะชำ
ตัดใบกล้วยกับลำต้นตัดเป็นฐานวงกลม แล้วเริ่มทำกระทงใบตองตามที่เคยเรียนมากับปป้าอำไพ
เกือบลืมไปบ้างเหมือนกัน เพราะได้วิชามาแต่ทำปีละครั้ง มือใหม่อย่างหมอเติ้ลต้องงมอยู่พักหนึ่ง
ถึงมาถูกทาง การจีบใบตองกระทงที่สองดูคล่องขึ้น และออกมาลงตัวดูสวยงามสุดๆ
”แล้วจะเอาดอกอะไรประดับดีนะ อากาศแล้งอย่างนี้ อ้อ!นึกออกแล้ว ฟารีจ้ะ “
ฟารีนั่งมองกระทงที่ออกมาสวยอย่างทึ่ง
“ค่ะท่านหมอ”
“ช่วยเอาตะกร้าสานใบเล็กไปตัดดอกเฟื่องฟ้าเป็นช่อสั้นๆ คละสีมาให้หมอหน่อย หมอจะเอามาใส่ในกระทง”
ฟารีกลับมา หมอเติ้ลจัดช่อดอกเฟื่องฟ้าคละสีลงในกระทง
“สวยกว่าเมื่อครู่มากเลยค่ะท่านหมอ ท่านหมอเก่งจริงๆ ทำนั้น โน่น นี่ได้สวยๆหลายอย่าง”
“ครับ อย่างท่านหมอต้องเรียกว่าอัจฉริยะ แล้วครับ เก่งหลายอย่างไม่ดีนะครับ ผู้ชายกลัว”
“แล้วท่านชายกลัวฉันไหมล่ะ” เขายิ้มแล้วส่ายหน้า
ท่านชายเข้ามาแจมด้วย หลังจากเข้ามายื่นดูได้ครู่หนึ่งเงียบๆ
แต่หมอเติ้ลมัวก้มหน้าก้มตาทำกระทงอย่างใจจดจ่อ เธอใส่เสื้อยืดสีขาว สกีน
“Thailand, The Land of Smile มีช่อกล้วยไม้งามสกีนไว้ใกล้ๆ สวมกางเกงเลสีมะกอก
ท่านชายและฟารีช่วยท่านหมอเอาเทียนตั้งตามจุดรอบๆบ้าน ตะวับลับแสงไปแล้ว
หมอส่งไฟแช็คให้ท่านชายเดินจุดจนรอบ ท่านแม่และท่านป้าย้ายมุมจิบน้ำชามาอยู่ชานเรือนด้านหลัง
ซึ่งมองเห็นไฟที่จุดขึ้นรอบๆอาคาร เป็นแสงระยิบระยับดูงดงาม บนท้องฟ้ามีเดือนกระจ่างเต็มดวง
หมอเติ้ลเปิดเพลงลอยกระทงช่วยสร้างบรรยากาศครื้นเครง
ท่านหญิงมาเรียมมาถึงตอนที่เทียนจุดเสร็จพอดี จีเลาะห์พูดให้ฟังว่ามีอะไรบ้าง เธอใช้จินตนาการ
“โอ้พระจันทร์ดวงโตทอแสงนวล กับแสงไฟจากแท่งเทียนรอบบ้าน ช่างโรแมนติคมาก ได้อารณ์จริงๆ” ท่านหญิงเอ่ยอย่างอารมณ์ดี
หมอเติ้ลยิ้ม แล้วเอามือนางจับที่โคม “อันนี้ของท่านหญิง หมอจะช่วยจับจุดไฟแล้วเราค่อยๆปล่อยพร้อมกันนะคะ” “เอาล่ะไฟติดแล้ว ความร้อนจะช่วยให้เกิดเป็นมวลอากาศ ยกโคมให้ลอยขึ้นไปบนฟ้า นะคะ”
“เอาล่ะ มากันแล้ว ไมทา ฟาติมา และทุกคนมาหยิบไปแล้วทำตามที่หมอกับท่านหญิงทำ
ให้ขึ้นพร้อมๆกันหลายอันจะสวยมาก”
“ของผมมีไหมครับ” “มีค่ะ ตั้งอยู่ที่ชานบ้าน ฉันเอามาจาก เมืองไทยมากเลย”
“เร็วเข้าของท่านหญิงลอยไปไกลแล้ว” เสียงหมอเร่ง และโคมอื่นก็จุดตามกัน ลอยสูงขึ้น
อาดัมก็เล่นกับเขาด้วย มูซาใช้กล้องวิดีโอที่เก็บรายละเอียดได้ดี โฟกัสชั้นหนึ่ง และถ่ายภาพได้ในยามค่ำคืน
“อือ! สวยมากจริงๆ” ท่านแม่เอ่ย ป้ารองพยักหน้าเห็นด้วย
ท่านป้าใหญ่เอ่ยว่า “ประเทศนางมีประเพณีมากมาย ลอยกระทงก็จะจัดทุกปียามเดือนสิบสอง น้ำตามแม่น้ำเต็มตลิ่ง เดิมทีเริ่มจากสมัยสุโขทัย
จัดขึ้นครั้งแรกโดยนางนพมาศ มเหสีองค์หนึ่งของพ่อขุนรามคำแหง” นางอธิบายให้ฟังอย่างผู้รู้เพราะ ท่านป้าใหญ่นับเป็นหนอนหนังสือที่สะสมหนังสือมากมายในห้องนาง
เสียงปรบมือสนุกสนานของบรรดาสาวๆ เมื่อเห็นความงามของโคมลอยที่ลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า
หมอเติ้ลยิ้มอย่างมีความสุข มันเป็นกิจกรรมที่หลายๆคนทำด้วยกันได้อย่างสนุกสนาน
“ท่านชาย ฉันมีพุด้วย คุณแจ้งกับทหารหน้าป้อมหรือเปล่าไม่งั้นเขาจะตกใจเสียงนะ”
“ผมบอกแล้วล่ะ” “งั้นคุณถือพุใหญ่อันนี้เดี๋ยวฉันจุดให้” พอหมอจุด ครู่เดียวพุก็ดังขึ้นพร้อมพุ่งสู่ท้องฟ้าเป็นประกายสว่างสีสวยงาม
หมอเติ้ลส่งให้อาดัมอีกอัน ท้องฟ้าตอนนี้มีโคมลอยไปไกลแล้ว และพุที่จุดเป็นประกายดาวสีต่างๆ
“โอ้ช่างงดงามนักน้องข้า” ท่านป้ารองเอ่ยขึ้น
”ดูลูกๆข้า และบริวาร หน้าตามีความสุข เสียงดั่งนกแตกรัง” ท่านแม่พูดขึ้นอย่างมีความสุข
หมอเติ้ลจับมือท่านหญิงไว้และบอกให้นางฟังถึงเสียงและความงามของพลุ
ท่านชายมองภาพเหล่านั้น “ความสุขกลับคืนสู่บ้านข้าอีกครั้ง เสียงหัวเราะสดใสของน้องข้าแว่วมาไม่หยุด
นางคงมีความสุขมาก
วันเพ็ญดวงเดือนเด่นฟ้า
ตัวข้ามีเจ้าดั่งดวงดารา
ส่องแสงระยิบเต็มฟากฟ้า
อยากสอยเจ้าลงมาเก็บไว้ในดวงฤดี