ราตรีสีอำพัน (92)
ท่านแม่จัดชุดอาหารมากมายพร้อมกับขนมเค้ก เพื่อฉลองให้แก่ท่านชายและท่านหมอ
ท่านชายเชิญอาดัมและมูซามาร่วมด้วย ทุกคนนั่งลงและได้คุยกันอย่างสนุกสนาน
เพียงไม่นานอาหารนานาชนิดก็หมดลง
ทุกคนไปนั่งต่อที่ห้องรับแขก สาวใช้เสริฟน้ำชา และขนมเค้กหน้าชอกโกแลต ตัดแจกให้ทุกคน
ท่านแม่สั่งให้ทำสำหรับบรรดาสาวใช้เพื่อได้กินด้วย มูซาตั้งจอผ้าขาวเพื่อเปิดวิดีโอที่เชื่อมเข้ากับ
เครื่องยิงโปรเจคเตอร์ เป็นการแข่งขันการขี่ม้าเมื่อวานให้ทุกคนดู คนใช้ทั้งหญิง ชาย ใครว่างก็มานั่งบนพื้น
ร่วมด้วยในห้องรับแขก ซึ่งแม้จะก้าวขวางมาก ก็ดูแคบลง
เมื่อเปิดเครื่องเล่น เสียงในห้องเบาลงครู่ใหญ่
แล้วเสียงเฮก็ดังขึ้นเมื่อท่านชายกับหมอตีคู่เข้าเส้นชัยพร้อมกัน
“ข้าว่าแล้ว อย่าได้ดูถูกฝีมือท่านหมอเชียวนะ” ท่านป้าใหญ่เอ่ยขึ้น
แล้วการแข่งรอบสองที่สนุกสนาน โดยมีท่านชายเข้าเส้นชัย มูซาอยู่ข้างสนามกับอาดัม
แพนกล้องกลับไปที่เหตุซึ่งเกิดระหว่างหมอเติ้ลท่านชายฮัสเซน
“โอ้!พระเจ้าคนที่ฟาดกระหน่ำท่านชายอัสเซนเป็นหมอจริงๆด้วยแต่ทำไม...”
หมอเติ้ลหยุดพูด ท่านป้ามองหน้าแลเห็นสีหน้าท่านหมอเหมือนมีท่าสงสัย
“หรือว่าท่านหมอลงมือ รู้เพียงว่ามีการปะทะกับท่านชายฮัสเซน แต่นางไม่ได้รู้ถึงรายละเอียดทั้งหมด
นางออกตกใจที่ตัวเองกราดเกี้ยวสั่งสอนฮัสเซนดั่งผู้มีอำนาจในกาลครั้งก่อนกระทำ
“แปลก! เมื่อวันเกิดท่านหญิง ท่านหมอก็ออกฉงนเมื่อท่านชานอะซันเล่ารายละเอียดให้ฟังเช่นกัน”
“ข้าจำได้ที่ท่านหมอมีท่าทางเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนและเอ่ยว่า “ข้าจำได้เพียงว่าข้าว่าใส่ท่านชายฮัสเซนอย่างแรง” ท่านป้าหวลนึกถึงเมื่อครั้งก่อนและครั้งนี้อย่างแปลกใจ “ข้ามีการบ้านเพิ่มอีกแล้ว”นางคิด
ทุกคนมองหมอเติ้ลที่เห็นท่าทางแปลกใจกับเหตุที่เกิด แล้วท่านแม่ก็สั่งให้ทุกคนกลับไปทำงาน เหลือเพียงกลุ่มท่านแม่และหมอเติ้ล
“เมื่อเช้าข้าถูกเรียกไปที่วัง ท่านอาของเจ้าขอเทปจากซีเอ็นเอ็น มาดู เพราะเขาจับภาพตั้งแต่ท่านชายกำแส้มา
จนยกขึ้นจะฟาดให้เจ้าล้ม และเหตุในสนาม ท่านอาเจ้า ส่งท่านชายฮัสเซนไปอยู่ที่อังกฤษกับพระญาติแล้วเป็นการลงโทษ
“ท่านแจ้งให้แม่รู้และท่านแม่ของฮัสเซนนางก็ขอโทษข้า ข้ามิได้โกรธนางหรอก นางก็เคยเป็นเพื่อนเรียนกับข้า
และเป็นคนดีหากแต่โชคร้ายที่บุตรชายนางเป็นเช่นนี้ “
“หมออยากขออนุญาตกับไปพัก” หมอเติ้ลพูดขึ้นหลังจบการสนทนา
ท่าทางสับสนและใบหน้าซีดๆของท่านหมอ ท่านชายมองอย่างเป็นห่วง
“เจ้าไปส่งท่านหมอเถอะหลานข้า” ท่านป้าเอ่ยปากเอง
เมื่อทั้งคู่กลับไป “ท่านหมอค่อนข้างสับสน ท่าทางใช้อำนาจแบบนั้น เป็นเช่นสมัยกาลก่อนที่เจ้านายลงทันต์คนชั่ว” ท่านป้าใหญ่พูดขึ้น
“นั่นซิ เกิดอะไรกันแน่พวกเรางง! ไปหมดแล้ว”ท่านแม่เอ่ยถามพี่สาวนาง
“ข้ากำลังเอาภาพต่างๆเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน เกือบไขข้อข้องใจได้แล้ว เพียงแต่ข้าอยากให้ทุกคนสงบใจอยู่เฉยๆอย่าทำให้งานข้าเสียเป็นพอ” ท่านป้าใหญ่เอ่ยเหมือนเป็นคำสั่ง
ท่านชายเข้าไปนั่งในเรือนเล้กกับหมอเติ้ลที่ห้องกลางบนโซฟา
ฟารียกนมร้อนมาสองแก้วกับเหยือกน้ำเปล่าและแก้ว “เจ้าไปก่อนเถอะ”
ฟารีลับไปแล้วหมอเติ้ลโผเข้ากอดท่านชาย ตัวเธอสั่นเหมือนนกที่โดนฝนจนบินไม่ไหว
ท่านชายโอบกอดเธอไว้โยกตัวไปมา “น้องหญิงของข้าอย่าได้ตื่นตกใจไปเลย”
หมอเติ้ลเงยหน้าขึ้นดวงตาแดงคล้ายจะร้องให้
“ทำไมท่านชายเรียกฉันอย่างนั้น”
เขาใช้มือกดเบาให้หมอซบลงที่อกกว้าง แล้วเล่าเรื่องต่างๆ
“ตั้งแต่ที่ผมยังเด็กแล้วพลัดหลงเข้าไปในเมืองโบราณเพตรา มีนางหนึ่งพาออกมาและเรียกผมว่า
“ท่านขุนศึกจงรออยู่ที่นี่จะมีคนมารับท่าน” กับที่หมอเองฝัน และเจอสิ่งต่างๆในนครเพตราและยิ่งกว่านั้น
เมื่อครั้งหมอมีไข้สูง หมอเพ้อว่า”โซเฟีย เจ้าไปเถอะ ข้าไปต่อไม่ไหวแล้ว หากท่านขุนศึกกลับมาจากการรบ เจ้าจงบอกเขาว่าหัวใจดวงนี้จะติดตามเขาไปทุกภพทุกชาติ” เขารู้สึกว่าขนหมอเติ้ลลุกชัน เพราะตอนไม่สบายเธอฝันคล้ายๆกับที่เขาเล่ามา
“อย่ากลัวเลย ปัจจุปันคือปัจจุปัน ส่วนอดีตที่เกิดกับผมและคุณ
เป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้าต้องการให้เรารู้เพื่อทำการใดที่ยังค้างอยู่”
“หรือเป็นดวงวิญญาณของแม่นางโซเฟียที่ร้องขอให้เราช่วยปลดปล่อยนาง” หมอเติ้ล เงยหน้ามองท่านชาย
“อือ!นั้นเป็นเรื่องเดียวที่ค้างอยู่ในอดีตนับพันๆปี คุณหมอพูดมีเหตุผลทีเดียว
“ทำไมเหมือนฉันดูโหดร้ายขนาดนั้น โดยนิสัยกับคนเลว ฉันไม่ปล่อยอยู่แล้ว
แต่นี่มันค่อนข้างดุดันและลุแก่อำนาจทีเดียว”
“หากเป็นเหมือนก่อนท่านพ่อข้าเคยเล่าถึงท่านปู่ว่าการลงทันต์รุนแรงขนาดนั้น เป็นเรื่องปกติที่เจ้านายทำกับคนผิด
หากให้ผมเดา เหมือนหมอหากตกอยู่ในเหตุการณ์เช่นนี้ทุกครั้ง ลึกลงไปที่ดูคล้ายมีเมล็ดพันธุ์ แห่งอำนาจ ติดค้างถ่ายทอดมา
ยังอยู่ลึกๆในจิตใจ จะถูกดึงขึ้นมาใช้อย่างเคยชิน”
อ้อมแขนนั้นอบอุ่น คำตอบทำให้คลายใจ “โอ้พระเจ้า”
ราตรีสีอำพัน (92)
ท่านแม่จัดชุดอาหารมากมายพร้อมกับขนมเค้ก เพื่อฉลองให้แก่ท่านชายและท่านหมอ
ท่านชายเชิญอาดัมและมูซามาร่วมด้วย ทุกคนนั่งลงและได้คุยกันอย่างสนุกสนาน
เพียงไม่นานอาหารนานาชนิดก็หมดลง
ทุกคนไปนั่งต่อที่ห้องรับแขก สาวใช้เสริฟน้ำชา และขนมเค้กหน้าชอกโกแลต ตัดแจกให้ทุกคน
ท่านแม่สั่งให้ทำสำหรับบรรดาสาวใช้เพื่อได้กินด้วย มูซาตั้งจอผ้าขาวเพื่อเปิดวิดีโอที่เชื่อมเข้ากับ
เครื่องยิงโปรเจคเตอร์ เป็นการแข่งขันการขี่ม้าเมื่อวานให้ทุกคนดู คนใช้ทั้งหญิง ชาย ใครว่างก็มานั่งบนพื้น
ร่วมด้วยในห้องรับแขก ซึ่งแม้จะก้าวขวางมาก ก็ดูแคบลง
เมื่อเปิดเครื่องเล่น เสียงในห้องเบาลงครู่ใหญ่
แล้วเสียงเฮก็ดังขึ้นเมื่อท่านชายกับหมอตีคู่เข้าเส้นชัยพร้อมกัน
“ข้าว่าแล้ว อย่าได้ดูถูกฝีมือท่านหมอเชียวนะ” ท่านป้าใหญ่เอ่ยขึ้น
แล้วการแข่งรอบสองที่สนุกสนาน โดยมีท่านชายเข้าเส้นชัย มูซาอยู่ข้างสนามกับอาดัม
แพนกล้องกลับไปที่เหตุซึ่งเกิดระหว่างหมอเติ้ลท่านชายฮัสเซน
“โอ้!พระเจ้าคนที่ฟาดกระหน่ำท่านชายอัสเซนเป็นหมอจริงๆด้วยแต่ทำไม...”
หมอเติ้ลหยุดพูด ท่านป้ามองหน้าแลเห็นสีหน้าท่านหมอเหมือนมีท่าสงสัย
“หรือว่าท่านหมอลงมือ รู้เพียงว่ามีการปะทะกับท่านชายฮัสเซน แต่นางไม่ได้รู้ถึงรายละเอียดทั้งหมด
นางออกตกใจที่ตัวเองกราดเกี้ยวสั่งสอนฮัสเซนดั่งผู้มีอำนาจในกาลครั้งก่อนกระทำ
“แปลก! เมื่อวันเกิดท่านหญิง ท่านหมอก็ออกฉงนเมื่อท่านชานอะซันเล่ารายละเอียดให้ฟังเช่นกัน”
“ข้าจำได้ที่ท่านหมอมีท่าทางเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนและเอ่ยว่า “ข้าจำได้เพียงว่าข้าว่าใส่ท่านชายฮัสเซนอย่างแรง” ท่านป้าหวลนึกถึงเมื่อครั้งก่อนและครั้งนี้อย่างแปลกใจ “ข้ามีการบ้านเพิ่มอีกแล้ว”นางคิด
ทุกคนมองหมอเติ้ลที่เห็นท่าทางแปลกใจกับเหตุที่เกิด แล้วท่านแม่ก็สั่งให้ทุกคนกลับไปทำงาน เหลือเพียงกลุ่มท่านแม่และหมอเติ้ล
“เมื่อเช้าข้าถูกเรียกไปที่วัง ท่านอาของเจ้าขอเทปจากซีเอ็นเอ็น มาดู เพราะเขาจับภาพตั้งแต่ท่านชายกำแส้มา
จนยกขึ้นจะฟาดให้เจ้าล้ม และเหตุในสนาม ท่านอาเจ้า ส่งท่านชายฮัสเซนไปอยู่ที่อังกฤษกับพระญาติแล้วเป็นการลงโทษ
“ท่านแจ้งให้แม่รู้และท่านแม่ของฮัสเซนนางก็ขอโทษข้า ข้ามิได้โกรธนางหรอก นางก็เคยเป็นเพื่อนเรียนกับข้า
และเป็นคนดีหากแต่โชคร้ายที่บุตรชายนางเป็นเช่นนี้ “
“หมออยากขออนุญาตกับไปพัก” หมอเติ้ลพูดขึ้นหลังจบการสนทนา
ท่าทางสับสนและใบหน้าซีดๆของท่านหมอ ท่านชายมองอย่างเป็นห่วง
“เจ้าไปส่งท่านหมอเถอะหลานข้า” ท่านป้าเอ่ยปากเอง
เมื่อทั้งคู่กลับไป “ท่านหมอค่อนข้างสับสน ท่าทางใช้อำนาจแบบนั้น เป็นเช่นสมัยกาลก่อนที่เจ้านายลงทันต์คนชั่ว” ท่านป้าใหญ่พูดขึ้น
“นั่นซิ เกิดอะไรกันแน่พวกเรางง! ไปหมดแล้ว”ท่านแม่เอ่ยถามพี่สาวนาง
“ข้ากำลังเอาภาพต่างๆเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน เกือบไขข้อข้องใจได้แล้ว เพียงแต่ข้าอยากให้ทุกคนสงบใจอยู่เฉยๆอย่าทำให้งานข้าเสียเป็นพอ” ท่านป้าใหญ่เอ่ยเหมือนเป็นคำสั่ง
ท่านชายเข้าไปนั่งในเรือนเล้กกับหมอเติ้ลที่ห้องกลางบนโซฟา
ฟารียกนมร้อนมาสองแก้วกับเหยือกน้ำเปล่าและแก้ว “เจ้าไปก่อนเถอะ”
ฟารีลับไปแล้วหมอเติ้ลโผเข้ากอดท่านชาย ตัวเธอสั่นเหมือนนกที่โดนฝนจนบินไม่ไหว
ท่านชายโอบกอดเธอไว้โยกตัวไปมา “น้องหญิงของข้าอย่าได้ตื่นตกใจไปเลย”
หมอเติ้ลเงยหน้าขึ้นดวงตาแดงคล้ายจะร้องให้
“ทำไมท่านชายเรียกฉันอย่างนั้น”
เขาใช้มือกดเบาให้หมอซบลงที่อกกว้าง แล้วเล่าเรื่องต่างๆ
“ตั้งแต่ที่ผมยังเด็กแล้วพลัดหลงเข้าไปในเมืองโบราณเพตรา มีนางหนึ่งพาออกมาและเรียกผมว่า
“ท่านขุนศึกจงรออยู่ที่นี่จะมีคนมารับท่าน” กับที่หมอเองฝัน และเจอสิ่งต่างๆในนครเพตราและยิ่งกว่านั้น
เมื่อครั้งหมอมีไข้สูง หมอเพ้อว่า”โซเฟีย เจ้าไปเถอะ ข้าไปต่อไม่ไหวแล้ว หากท่านขุนศึกกลับมาจากการรบ เจ้าจงบอกเขาว่าหัวใจดวงนี้จะติดตามเขาไปทุกภพทุกชาติ” เขารู้สึกว่าขนหมอเติ้ลลุกชัน เพราะตอนไม่สบายเธอฝันคล้ายๆกับที่เขาเล่ามา
“อย่ากลัวเลย ปัจจุปันคือปัจจุปัน ส่วนอดีตที่เกิดกับผมและคุณ
เป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้าต้องการให้เรารู้เพื่อทำการใดที่ยังค้างอยู่”
“หรือเป็นดวงวิญญาณของแม่นางโซเฟียที่ร้องขอให้เราช่วยปลดปล่อยนาง” หมอเติ้ล เงยหน้ามองท่านชาย
“อือ!นั้นเป็นเรื่องเดียวที่ค้างอยู่ในอดีตนับพันๆปี คุณหมอพูดมีเหตุผลทีเดียว
“ทำไมเหมือนฉันดูโหดร้ายขนาดนั้น โดยนิสัยกับคนเลว ฉันไม่ปล่อยอยู่แล้ว
แต่นี่มันค่อนข้างดุดันและลุแก่อำนาจทีเดียว”
“หากเป็นเหมือนก่อนท่านพ่อข้าเคยเล่าถึงท่านปู่ว่าการลงทันต์รุนแรงขนาดนั้น เป็นเรื่องปกติที่เจ้านายทำกับคนผิด
หากให้ผมเดา เหมือนหมอหากตกอยู่ในเหตุการณ์เช่นนี้ทุกครั้ง ลึกลงไปที่ดูคล้ายมีเมล็ดพันธุ์ แห่งอำนาจ ติดค้างถ่ายทอดมา
ยังอยู่ลึกๆในจิตใจ จะถูกดึงขึ้นมาใช้อย่างเคยชิน”
อ้อมแขนนั้นอบอุ่น คำตอบทำให้คลายใจ “โอ้พระเจ้า”