การชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนตุลาคม จนถึงปัจจุบัน  และการประกาศ Shutdown กรุงเทพ ในวันที่ 13 มกราคมนี้ ทำให้ผู้ประกอบการทั้งผู้ผลิตสินค้าและธุรกิจบริการในกรุงเทพได้รับผลกระทบ จากการเลื่อนเปิดตัวสินค้าใหม่ของธุรกิจเครื่องดื่ม อย่างเครือโออิชิ  และการยกเลิกการจัดงานประชุมในโรงแรมในเครือเซ็นทรัล  

บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ปรับแผนธุรกิจเฉพาะกิจ ด้วยการเลื่อนเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ 3 โครงการ จากเดิมจะเปิดตัวในไตรมาส 1 ล่าสุดต้องเลื่อนออกไปเป็นไตรมาส 2 แทน เพื่อรอดูสถานการณ์การเมือง ว่าจะส่งผลกระทบมากน้อยแค่ไหน แต่ปริมาณของโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวยังเท่าเดิมที่ 15 โครงการรวมทั้งควบคุมงบประมาณโฆษณาทีวี ปกติจัดแคมเปญใหญ่เฉลี่ยปีละ2-3 ครั้ง ใช้งบฯ ครั้งละ 10-20 ล้านบาท แต่ภายใต้สถานการณ์การเมืองที่เป็นอยู่อาจต้องตัดส่วนนี้ออกไป

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ตัดสินใจรีวิวแผนพัฒนาโครงการในปีนี้ใหม่หมด โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัดซึ่งได้ลงทุนถึง 24 โครงการ ในปี 2556 ขณะที่ปีนี้เหลือลงทุนเพียง 3 โครงการ

กลุ่มบริษัทซีคอน ผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้าน "ซีคอนโฮม" ทบทวนแผนการตลาดใหม่ จากเดิมกำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายครั้งแรกของปีในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ ล่าสุดประกาศงดจัดงานออกไปแบบไม่มีกำหนด ต้องรอประเมินสถานการณ์ว่าจะสามารถจัดงานแทรกในช่วงจังหวะเวลาใดได้บ้าง

รวมถึงเตรียมลดงบฯ ด้านการตลาดลงเหลือ 15 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่ใช้ไปกว่า 20 ล้านบาท โดยเน้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่สำนักงานขายเป็นหลัก กับออกบูทในงานรับสร้างบ้าน 2014

บริษัท โออิชิ จำกัด (มหาชน) เดิมมีแผนจะรีแบรนด์กาแฟบรรจุขวด "คอฟฟิโอ" ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่นิ่งและมู้ดการจับจ่าย จึงเลื่อนการเปิดตัวออกไปก่อน โดยหันมาโฟกัสในกลุ่มชาเขียวพร้อมดื่มที่เป็นสินค้าหลักแทน

บริษัท เทสโก้ โลตัส ได้สต๊อกสินค้ามากกว่าช่วงปกติ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำดื่ม น้ำตาล เป็นต้น ซึ่งได้ทยอยทำไปบ้างแล้ว

บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) เตรียมแผนรับมือไว้แล้ว เช่น การบริหารสต๊อกสินค้าอย่างเป็นระบบ เป็นแผนระยะสั้น หากสถานการณ์บานปลายก็จะมีแผนระยะยาว ส่วนแผนขยายสาขายังคงเดินหน้าต่อไป รวมทั้งการเพิ่มการจัดงานอีเวนต์โดยจะเน้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น

นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า สัญญาณการจองห้องพักในกรุงเทพฯ ช่วงเดือนมกราคมนี้ลดลงแล้ว 15-20% พอกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศชัตดาวน์กรุงเทพฯ วันที่ 13 มกราคมนี้ คาดเดาไม่ได้เลยว่าผลจะออกมาอย่างไร ตอนนี้นักท่องเที่ยวเองก็ปรับแผนโยกการจองห้องพักไปต่างจังหวัดแทนแล้ว

นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนรับมือของโรงแรมในเครือเซ็นทารา 2 แห่งในกรุงเทพฯ ทั้งเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณการชุมนุม ได้มอนิเตอร์สถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมตุนสินค้าพวกอาหารเอาไว้นานเป็นเดือน

ขณะนี้อัตราการเข้าพักของทั้ง 2 แห่งอยู่ที่ประมาณ 60% น้อยกว่าปกติ ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 80% ส่วนโรงแรมในต่างจังหวัดที่ภูเก็ต สมุย พัทยา มีอัตราเข้าพักที่ 80-90% นับตั้งแต่ชุมนุม รายได้ของโรงแรมทั้ง 2 แห่งของเครือเซ็นทรัลหายไป 70-80 ล้านบาทแล้ว จากปกติเซ็นทารา แอท เซ็นทรัลเวิลด์ สร้างรายได้ 1,400 ล้านบาทต่อปี ลาดพร้าวสร้างรายได้ 900 ล้านบาท

โดยเดือนมกราคมมีการยกเลิกงานประชุมสัมมนา สูญรายได้ 32 ล้านบาท ส่วนเดือนกุมภาพันธ์สูญรายได้ 10 ล้านบาท

ส่วนราชประสงค์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเวทีหลักที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะมาปักหลักนั้น ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เบื้องต้นบริษัทจะไม่ประกาศปิดศูนย์การค้า และได้เตรียมแผนรับมือเอาไว้แล้ว พร้อมยอมรับว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้น หากลากยาวอาจส่งผลต่อภาพรวมไตรมาส 1

ที่มา :  รายการ Voice Market ทาง Voice TV
          10 มกราคม 2557