10 ข้อที่คุณอาจจะยังไม่รู้หรือเข้าใจผิด การเมืองไทย

1. เราคิดว่า "ทักษิณ ชินวัตรทำความเสียหายให้ประเทศชาติ มากที่สุด"
ข้อเท็จจริง: คดีชินคอร์ป ปี 53 ตัดสินว่า นายกทักษิณมีความผิดฐานใช้อำนาจหน้าที่ให้ยึดทรัพย์ ประมาณ 46,000 ล้านบาท
ref: http://www.komchadluek.net/detail/20100226/49989/สรุปคำวินิจฉัยคดียึดทรัพย์ทักษิณ7.6หมื่นล้าน.html

ส่วนคดีปิดพันธมิตรปิดสนามบิน (ปี 51) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินความเสียหายไว้ 2 แสนล้านบาท ในด้านระบบยุติธรรม คดีนี้ยังไม่ได้เริ่มการพิจารณาคดีอาญาจนถึงวันนี้ (ธ.ค.​56)
ref: http://decha.com/main/showTopic.php?id=2958

2. เราคิดว่า "ทักษิณ ชินวัตรเป็น นายกที่ดีที่สุดที่เคยมีมา"
Quote "บวกลบคูณหารแล้ว เค้าเป็นนายกที่ดีที่สุดที่ประเทศนี้เคยมีมา"
สนธิ ลิ้มทองกุล
เมืองไทยรายสัปดาห์ปี 2547

ข้อเท็จจริง:

ขอยกตัวอย่างนายกรัฐมนตรีที่ "ดี" มา 2 ท่านครับ
ประวัติท่านปรีดี พนมยงค์
ดำรงตำแหน่ง 24 มีนาคม พ.ศ. 2489 – 23 สิงหาคม พ.ศ. 2489
- คณะราษฎร
- ผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรก
- ผู้ก่อตั้งธนาคารชาติไทย(ธนาคารแห่งประเทศไทย)
- ก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง
- เสรีไทย เจรจาประกาศสันติภาพกับจีน เจรจาประกาศสันติภาพกับอเมริกา(ร่วมกับมรว.เสนีย์ และนายควง อภัยวงศ์)
- เสนอสมุดปกเหลือง (ปัจจุบันคือแผนพัฒนาเศรษฐกิจแลสังคมแห่งชาติ)
- คนเขียน "ประมวลรัษฎากรฉบับแรก"

หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช
ดำรงตำแหน่ง 14 มีนาคม พ.ศ. 2518 – 12 มกราคม พ.ศ. 2519 (พรรคกิจสังคม)
- ก่อตั้งพรรคการเมืองพรรคแรก พรรคก้าวหน้า
- ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์
- ผู้ก่อตั้งพรรคกิจสังคม
- ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ประจำ พ.ศ. 2528

ทั้งสองท่านนี้ องค์การยูเนสโก้ ยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก (มีนายกรัฐมนตรีเพียงสองท่านที่ได้รับเกียรตินี้)

ผมต่อให้อีก 20 ปี ไม่มีนายกคนไหน ทั้งอดีตและปัจจุบันที่จะใกล้เคียงทั้งสองท่านเลยครับ
อ้างอิง
http://th.wikipedia.org/wiki/รายพระนามและรายนามบุคคลสำคัญของโลกชาวไทยโดยยูเนสโก

3. เราคิดว่า "รัฐบาล ไทยรักไทยมีการคอร์รัปชั่นมากที่สุด"
ข้อเท็จจริง: ข้อมูลจาก องค์กรเพื่อความโปร่งใสสากลหรือ TI ที่มีสำนักงานที่เบอร์ลินเผยแพร่รายงานดัชนีชี้วัดคอรัปชั่น (CPI)
(คะแนนมากยิ่งคอร์รัปชั่นน้อย สิงคโปร์ได้ 9)
ในปี 2549 ไทยได้ 3.60 คะแนน (ทักษิณ)
ในปี 2550 ไทยได้คะแนน 3.30 คะแนน (สุรยุทธ์)
ในปี 2551 ไทยได้คะแนนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.50 คะแนน (สมัคร)
และในปี 2552 ไทยได้ 3.40 คะแนน (อภิสิทธิ์)

รัฐบาลที่ถูกรัฐประหาร - ตุลาการภิวัฒน์ มีคะแนนสูงกว่ารัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร - ตุลาการภิวัฒน์ "เล็กน้อย"

อ้างอิง http://blogazine.in.th/blogs/headline/post/2674

4. เราคิดว่า "งบประมาณ โครงการรถคันแรก สามารถสร้างถนน รถไฟฟ้า และรถไฟความเร็วสูงได้"
ข้อเท็จจริง: งบประมาณที่ใช้ในโครงการลดคันแรก มาจากการคืนภาษี ดังนั้นถ้าไม่มีคนซื้อก้อจะไม่มีภาษีที่ต้องคืน ดังนั้นหากจะเให้เอางบประมาณรถคันแรกไปใช้ทำอย่างอื่นต้องสำรวจว่าในเวลาปกติมีคนซื้อรถเท่าไหร่ ที่อยู่ในเงื่อนไขของรถคันแรก ซึ่งยังไม่มีใครทำวิจัย

5.เราคิดว่า "พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง"
ข้อเท็จจริง:
- ปี 2490 มีการรัฐประหาร โดย พล. โท ผิน ชุณหะวัน โดยมี นายควง อภัยวงศ์(หัวหน้าพรรค ปชป.)เป็น นายกฯ รักษาการต่อมา 29 ม.ค.2491 พรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้ง (ขณะนั้นปรีดี ต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศแล้ว)
- 26 ม.ค. ปชป. ชนะเลือกตั้ง แถลงนโยบายไม่ผ่าน มรว.เสนีย์จึงลาออก (มรว. คึกฤทธิ์ พรรคกิจสังคมได้จัดตั้งรัฐบาล)
- ปชป.ชนะเลือกตั้ง 4 เม.ย.2519 ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล (จากนั้นเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา)
- ปชป.ชนะเลือกตั้ง 13 ก.ย.2535 (นายกชวน หลีกภัย หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ)
- 20 ธ.ค. 51 มีการย้ายพรรคจากพลังประชาชน ออกไปตั้งพรรคภูมิใจไทย (นายกอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ)

ไม่มีครั้งไหนเลยที่บ้านเมืองปกติแล้วพรรค ปชป. ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ถ้านับเฉพาะว่าเป็นรัฐบาล(ไม่ได้เป็นแกนนำ) สมัย พล.อ.เปรม เป็นนายกฯ พรรค ปชป.​ได้ร่วมรัฐบาลทุกสมัยครับ

6. มีคนบอกว่ากรณี "ตะโกนในโรงหนัง"ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์
Quote:
"ประเทศไทยหลังสงครามโลก ถึงแม้มีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น คณะรัฐมนตรีส่วนใหญ่เป็นสมาชิกขบวนการเสรีไทย อาทิ รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส. จากอีสาน เช่น เตียง ศิริขันธ์, ทองอินทร์ ภูริพัฒน์, ถวิล อุดล และจำลอง ดาวเรือง เป็นต้นมา ซึ่งได้รวมตัวกันจัดตั้งพรรคประชาธิปัตย์ขึ้น พรรคฯ นี้ได้โจมตีรัฐบาลมาโดยตลอด และที่ร้ายที่สุดก็คือการใส่ร้ายป้ายสี นายปรีดี พนมยงค์ ด้วยวิธีการที่สกปรกโสมมที่สุด ด้วยการจ้างคนไปตะโกนในโรงหนังเฉลิมกรุงว่า "ปรีดีฆ่าในหลวง"

    แม้ว่าต่อมา นายเลียง ไชยกาล ส.ส.ประชาธิปัตย์ สมัยนั้น ที่ได้ร่วมกับ ม.ร.ว.เสนีย์-คึกฤทธิ์ และ ควง อภัยวงศ์ ได้มาขอขมาต่อนายปรีดีในที่สุด อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าเสียดายว่าบุคคลชั้นนำในพรรคประชาธิปัตย์ในปัจจุบัน ก็ยังยกย่องอดีตหัวหน้าพรรคของตนว่าเป็นปูชนียบุคคล เพื่อแสวงหาความชอบธรรมของตนในทางการเมืองโดยมิได้คิดหรือศึกษาดูว่าข้อเท็จจริงที่ผ่านมาเป็นอย่างไร"

ข้อความข้างบน ปรากฏในหน้า 129 ของ

ศุขปรีดา พนมยงค์, โฮจิมินห์ เทพเจ้าผู้ยังมีลมหายใจ (พิมพ์ครั้งแรก กรกฏาคม 2549)

7. มีคนบอกว่า "จากการรายงานข่าวของ BBC การชุมนุมของ กปปส. มีผู้มาชุมนุม 5 ล้าน เป็นการชุมนุมที่มีคนมาเข้าร่วมมากที่สุดในโลก"
ข้อเท็จจริง: การรวมตัวกันเพื่อ "ประท้วง" ที่ใหญ่ที่สุดคือ การชุมนุมต่อต้านสงครามอิรักที่ โรม เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2003 (Guiness book of World record, BBC)
อ้างอิง:
http://people.howstuffworks.com/largest-protest1.htm

ส่วนการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. มีรายงานทั้งจากฝ่ายความมั่นคง และสำนักข่าวต่างประเทศ ว่าจำนวนสูงสุดอยู่ที่ 98,000 - 150,000 คน (BBC ไม่เคยรายงานตัวเลขหลักล้าน) ส่วนตัวเลข 4 ล้าน 5 ล้าน หรือ 6 ล้าน เป็นไปไม่ได้ เพราะกทม. มีประชากร และประชากรแฝงรวมกัน 8.7 ล้านคน (ข้อมูลจาก กทม.  http://www.polsci.chula.ac.th/qapolsci/BKK2032/Document/BKKvision.pptx‎) ถ้ามีผู้ชุมนุม 5 ล้านคน เท่ากับว่า จะมีผู้ชุมนุมมากกว่าผู้ไม่เข้าร่วมชุมนุมใน กทม. (เท่ากับว่า บริษัท ห้างร้าน ทุกแห่งต้องมีคนทำงานแค่ครึ่งเดียว ทั้งกรุงเทพฯ)

8. การมีนายกคนกลางหรือมีสภาเฉพาะกิจเพื่อร่างรัฐธรรมนูญจะทำให้บ้านเมืองสงบ
ข้อเท็จจริง:
- สภาสนามม้า รัฐธรรมนูญปี 2517 (อ.สัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกฯ) หลัง 14 ตุลา 16 อีก 3 ปีเกิด 6 ตุลา 19
- ปี 2534-2535 นายกอานันท์รักษาการ หลังจากเลือกตั้งเกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
- สภานิติบัญญัติ แห่งชาติร่างรัฐธรรมนูญ 50  (พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี) ปีถัดมาเกิดเหตุการณ์ยึดสนามบิน
ทั้ง 3 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังยุค เผด็จการทหาร และไม่ได้ทำให้บ้านเมืองสงบขึ้นแต่อย่างใด

9. ส.ส. เสื้อแดง ไม่ถูกตำรวจจับในกรณีเผาห้างเซ็นทรัลเวิร์ล ปี 2553
ข้อเท็จจริง: กรณี Central World มีการต่อสู้คดีในชั้นศาล ส่วน ส.ส. เสื้อแดงใช้ สิทธิ์ในทางกฏหมายสู้คดี คดีส่วนใหญ่ที่กลุ่มเสื้อแดงถูกตัดสินว่าผิด ได้ถูกคุมขังเข้าเรือนจำ ส่วนคดี "Central World" ศาลแพ่งและศาลอาญา "ยกฟ้อง"
อ้างอิง
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk5EWTJPRGt5TWc9PQ

10. ถ้ารัฐบาล ยังมีอำนาจอยู่ ไม่สามารถเอาผิดในคดีคอร์รัปชั่นได้
ข้อเท็จจริง: การทำงาน ของ ปปช. ปปง. ผู้ตรวจการแผ่นดิน DSI ศาลอาญา แผนกคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทั้งหมดนี้ใช้พยานหลักฐาน และข้อกฏหมาย การประท้วงหรือการบอยคอตไม่อยู่ในข้อกฏหมายใดๆทั้งสิ้น

แถม 10.1 การฉีกบัตรเลือกตั้ง ไม่มีความผิด ไม่ต้องติดคุก
ข้อเท็จจริง: ถึงแม้ว่าคดี ที่อ.ไชยันต์ ฉีกบัตรเลือกตั้ง (2 เม.ย. 49) จะถูก ยกฟ้องเนื่องจากว่าศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินว่าการเลือกตั้งครั้งนั้นไม่เป็นธรรม ทำให้ กกต. ชุด พล.ต.เอก วาสนา เพิ่มลาภ ต้องโทษจำคุก
http://www.thairath.co.th/content/pol/122822

อย่างไรก็ตาม คดีในส่วนของ พล.ต.เอก วาสนา เพิ่มลาภ ในชั้น ศาลฎีกา ศาลตัดสินว่า "ยกฟ้อง"
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM01USXpOREF6Tmc9PQ==

พูดง่ายๆ ว่าข้อกฏหมายที่ทำให้ยกฟ้องคดี อ.ไชยันต์ ตอนนี้โดนศาลฎีกายกฟ้องไปแล้ว สรุปคือถ้ามีใครทำแบบ อ.ไชยันต์ อีก อาจจะติดคุกได้เพราะแนวทาง สู้คดีแบบเดิมใช้ไม่ได้แล้ว (การอ้างอิงแนวการตัดสิน ในทางกฏหมายใช้คำพิพากษาศาลอาญาครับ)
Q: ถามต่อว่าทำไม อัยการ ไม่ฟ้อง อ.ไชยันต์ อีกที
A: หลักกฏหมาย มีไว้เพื่อให้บ้านเมือง สงบ ถ้าอัยการฟ้องอีกที มันเป็นการ "จองเวร" ครับ ไม่ใช่การทำให้บ้านเมืองสงบผิดหลักนิติรัฐ