รบกวนปรึกษาทางกฎหมายด้วยครับว่า ควรทำอย่างไร
ความเดิมจากกระทู้นี้ http://ppantip.com/topic/31292635 ผมตั้งกระทู้ไว้เมื่อ 26 พ.ย. 56
           เรื่องเกิดจากผมได้เขียนคำร้องเรียน ข้างบ้านที่สร้างบ้านชิดเขตผิดกม. มีผลกระทบกับบ้านผมไว้ที่เทศบาล ครั้งที่ 1 เมื่อปลายเดือน มิถุนายน(บ้านยังไม่เสร็จดี เหลือทำรั้วหน้าบ้าน เก็บรายละเอียด ตกแต่ง) จากนั้นช่วงกลางเดือน กรกฎาคม เจ้าหน้าที่เทศบาล(จำคนนี้ไว้ครับ) จึงนัดทั้งสองฝ่าย มารับทราบเรื่องต่อหน้าจนท. และชี้แจงให้คู่กรณีทำการรื้อถอน ส่วนที่ผิด และผมได้บอกคู่กรณีกับ จนท.ว่าผมจะสอบเขตที่ดินทางบ้านผมใหม่ เพื่อดูว่ามีการล้ำเขตหรือไม่ ในวันเดียวกันนี้ จนท.ให้ผมเขียนคำร้องใหม่(เป็นครั้งที่ 2 /เดือน ก.ค.)ต่อหน้าจนท. และผมให้สำเนาบัตรปชช.(ลงลายเซ็น แจ้งเรื่องและวันที่)ไว้
           ต้นเดือนกันยายนมีการสอบเขตต่อหน้าคู่กรณีและเจ้าหน้าที่เทศบาลคนเดิม ช่างรังวัดบอกมีการล้ำ2-3 ซม.(ทุกคนรับรู้) ในเวลาที่ผ่านมาคู่กรณีก็ยังไม่แก้ไข  จนท.บอกว่าแจ้งเรื่องเรียบร้อยรอคู่กรณีแก้ไข ถ้าไม่แก้ ก็จะส่งเรื่องให้นิติกรฟ้องศาล (1 เดือนกว่าแล้ว)
           ช่วงเดือน ตุลาคม ผมก็โทรถามกับจนท.คนเดิมอีกว่า เรื่องถึงขั้นตอนไหนแล้ว ได้บอกว่า สงสัยคู่กรณียื้อขึ้นศาล
           22 พฤศจิกายน ผมเห็นไม่มีการแก้ไขใดๆ และเรื่องนานมากแล้ว ถ้าต้องไปศาลก็น่าจะต้องไปแล้ว จึงโทรถามกับเจ้าหน้าที่เทศบาลคนเดิม ก็บอกว่าจะส่งหนังสือแจ้งคู่กรณีอีกครั้ง รอ 30 วัน ถ้าไม่แก้ไข ก็จะส่งเรื่องให้นิติกร... ผมมาคิดได้หลังวางสาย ทำไมเรื่องยังอยู่ในขั้นตอนแรกเหมือนเดิม???
           27 พ.ย. ผมจึงโทรไปถามว่าทำไมเรื่องยังอยู่ในขั้นตอนเดิม และบอกว่าจะเข้าไปขอสำเนาเอกสารที่ผมได้ยื่นไว้ พร้อมกับหนังสือที่แจ้งไปยังคู่กรณีว่าส่งไปกี่ครั้งแล้ว จนท.เทศบาลคนเดิมบอกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอาหมายแจ้งให้ทำการรื้อถอนไปติดหน้าบ้านคู่กรณีเลย และจะส่งรูปให้ผมดู ผมบอกไม่ต้องส่ง เพราะจะเข้าไปเอาสำเนาเอกสารที่ขออยู่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่พร้อม ขอเป็นช่วงอาทิตย์หน้าวันพฤหัสบดี วางสายไปถึงได้รู้ว่าเป็นวันหยุด(5 ธ.ค.)!!!
           3 ธันวาคม ผมจึงโทรบอกว่าจะเข้าไปขอสำเนาเอกสารมาก่อนไม่น่ายุ่งยากอะไร  แต่จนท.คนเดิมอ้างว่าต้องรอให้ผู้บริหารเซ็นรับรองเอกสาร ไม่น่าจะทันผมจึงถามว่าได้ไปติดหมายแจ้งที่หน้าบ้านคู่กรณีแล้วใช่ไหม ก็อ้างว่างานยุ่งมาก กำลังยื่นหนังสือให้ผู้บริหารเซ็น แล้วขอเลื่อนไปเป็นวันที่ 6 ธ.ค. ให้ผมค่อยมารับสำเนาฯ พร้อมแจงเรื่องที่ทำให้กับผม
            6 ธันวาคม ประมาณบ่ายสามโมงกว่า ผมเข้าไปที่เทศบาลแต่กลับไม่พบเจ้าหน้าที่คนเดิมนั้น  จนท.คนอื่นโทรถามให้ผมว่าเอกสารที่ผมขออยู่ไหน แล้วให้ผมคุยกับจนท.คนนั้น กลับบอกว่ายังให้สำเนาไปไม่ได้  และไม่รู้วางแฟ้มไว้ไหน ผมเลยถามเค้าตรงๆว่าที่ผ่านมาร่วม 5 เดือน ไม่ได้ทำหนังสือแจ้งอะไรเลยใช่รึไม่ ก็ตอบอึกอักว่าใช่!! ขอโทษผม นัดวันจันทร์หน้าให้มาพบใหม่
             แต่บังเอิญ!!!!ครับ จนท.คนอื่นเจอแฟ้มพอดี ผมเลยให้เค้าโทรหาจนท.คนเดิมว่าผมจะขอถ่ายเอกสารคำร้องที่ผมเขียนไว้ ก็ยังจะบอกว่าไม่ได้อีก อ้างว่าเป็นหนังสือราชการ ผมเลยแย้งว่าทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อเป็นเอกสารของผมที่เขียนไว้เอง(เขียนครั้งที่2 เดือนกรกฎาคม เอกสารครั้งแรกไม่มีในแฟ้ม)
             เป็นเรื่อง!!!!!!แน่ครับ ที่ต้นฉบับมีการแก้ "เดือน"!! ที่ผมเขียนคำร้องไว้จากเดือน "กรกฎาคม" เป็น "พฤศจิกายน" แต่สำเนาบัตรปชช.ที่ผมเซ็นให้ไว้ ไม่ได้แก้(ก.ค.)  และมีข้อความว่าส่งเรื่องให้ผู้บริหาร 3 ธ.ค. 56 เซ็นรับเรื่อง 4 ธ.ค. 56 (เท่ากับเรื่องเพิ่งส่ง ที่ผ่านมาคงไม่ทำอะไรเลยจริงๆ) ผมเลยให้จนท.ถ่ายเอกสารให้ผมทั้งหนังสือคำร้องกับสำเนาบัตรฯ และเซ็นรับรองว่าเค้าทำสำเนาให้ผม พร้อมลงวันที่
             ออกมาจากเทศบาลก็บ่ายสี่โมงแล้ว ผมดูว่าไม่น่าเชื่อถือ จึงไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพื่อปรึกษา ช่วงแรกจนท.คุยไม่ตรงประเด็น และย้ำกับผมว่าจะเอาเรื่องจนท.เทศบาลคนนั้นใช่ไหม ซึ่ง ณ ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าจะแจ้งอย่างไร เพียงแค่อยากให้เรื่องที่เคยร้องเรียนมันเดินหน้า สรุปก็ให้ผมเขียนร้องเรียนไว้พร้อมสำเนาเอกสารที่ผมได้จากเทศบาลติดไป(ผมถามว่า ผมต้องเซ็นรับรองที่สำเนาฯหรือไม่ จนท.บอกว่าไม่ต้องก็ได้) และบอกว่าวันจันทร์จะยื่นเรื่องให้ เพราะวันนี้หมดเวลาราชการแล้ว แล้วก็อธิบายขั้นตอนให้ฟัง 30 วันน่าจะรู้ผล พร้อมให้สำเนาคำร้องที่เขียนเมื่อครู่มา 1 แผ่น พอออกมาจึงเห็นว่าหนังสือคำเรียนที่เขียนเมื่อสักครู่ ไม่มีคนเซ็นรับแจ้งเรื่อง!!!...(เลยเริ่มคิดว่าไม่รู้ศูนย์ดำรงธรรมจะดำเนินเรื่องได้แค่ไหน เพราะอยู่ในพืนที่เดียวกัน)
               9 ธันวาคม(วันจันทร์ที่นัด) ได้เจอจนท.คนเดิมที่ทำเรื่อง ขอโทษผมสำหรับที่ผ่านมา อ้างว่าวางใจกับคู่กรณีและหลงลืม ทั้งงานยุ่งมากแล้วให้ผมดูหนังสือแจ้งคู่กรณี(ประกอบด้วย ค.... เป็นตัวย่อราชการ เช่น ค.7 ค.9) รอผู้บริหารเซ็นรับรองวันพุธ ไม่เกินวันศุกร์นี้ก็จะไปติดหมายแจ้งที่หน้าบ้านคู่กรณี ภายใน 30 วัน ถ้าไม่รื้ออีก ก็ส่งเรื่องนิติกรทันที ปีหน้าเดือน"มีนาคม"อาจต้องขึ้นศาล ผมเลยแย้งว่าทำไมต้องรอ 30 วันอีก ที่ผ่านมาชัดเจนแล้วว่าคู่กรณีผิด จนท.ก็ผิด (ขอโทษขอโพยผม) อ้างว่าเป็นระเบียบราชการต้องทำตาม และบอกว่าสัปดาห์หน้าจะสำเนาหนังสือที่ส่งคู่กรณีทั้งหมดนี้ให้ผม ผมเลยบอกว่าให้จนท.ทำหนังสือชี้แจงให้ผมด้วยว่าที่ผ่านมาล่าช้าเพราะอะไร มีการแก้เดือนที่คำร้อง ใครเป็นคนแก้(ตอบแบบอึกอักว่า ให้ลูกน้องแก้) แก้เพื่ออะไร ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนไหน และต่อไปต้องทำอะไร แต่ที่ผมกลัวจะมาอีหรอบเดิมคือ มาบอกให้ผมช่วง 30 วันที่คอยโทรบอกและถามไถ่เรื่องกับเค้า เพราะช่วงนี้งานยุ่งมาก(อ้าว!!! เหมือนเดิมเป๊ะ)
                ปล. ผมลงรูปไม่ได้ ไม่งั้นคงเห็นชัดเจนกว่านี้ ก่อนเกิดกรณีกับผม ข้างบ้านซ้ายขวาของบ้านคู่กรณีเคยร้องเรียนที่เทศบาลมาก่อนผมแล้ว(ตอนแรกเค้าจะสร้างเต็มพื้นที่เขตที่ดินทั้ง 3 ด้าน) แต่ช่วงนั้นและตอนก่อสร้างผมไม่รู้เรื่อง และจากที่ได้เจรจากับคู่กรณี ก็ดูไม่น่าเห็นใจ ที่ผ่านมาผมคุยด้วยความประนีประนอมไม่เอาเรื่องที่คู่กรณีทำรั้วผมพังไปหนึ่งจุด มีทำรั้วทิ่มปลายเหล็กแหลมมาทางบ้านผม ก็ถือว่าช่วยกันไปเห็นต้องรื้อแก้ไข รวมทั้งผมคิดว่าต่อไปทางบ้านผมจะก่อสร้างบ้านขึ้นมาใหม่ อาจสร้างความเสียหายแก่บ้านเค้าได้ เพราะใกล้ชิดกันมากใครจะรับผิดชอบไหว ส่วนตัวคิดว่าป้องกันไว้ดีกว่าแก้ครับ ผมจึงสรุปที่จะไม่ยินยอม แล้วไปๆมาๆเจ้าหน้าที่ก็มาทำอย่างนี้อีก ทั้งๆที่ผ่านมาผมวางใจกับคู่กรณีและเจ้าหน้าที่คนนี้มาโดยตลอด เห็นว่าเป็นผู้ใหญ่มากแล้วทั้งคู่ หน้าที่การงานน่าจะเป็นหลักเชื่อถือได้ แต่นี่เหมือนผมถูกหลอกมาเรื่อยและยังจะเล่นแง่กับผมอีก ไม่มีใครน่าไว้ใจเลย... ผมจึงสรุปว่าควรเดินเรื่องให้ถึงที่สุด ไม่ให้ไปทำกับชาวบ้านคนอื่นอีกครับ
               
                5 เดือนกว่ามาแล้วไม่ดำเนินการใดๆ มีการแก้ไขเอกสาร... ขอคำแนะนำด้วยครับ ผมควรทำอย่างไรดี...
                1. ผมไม่รออีก 30 วันได้ไหมครับ ถ้าเค้ายังจงใจไม่รื้อถอน ให้จนท.ส่งเรื่องนิติกรเลย เพราะนี่กลายเป็นผมต้องทำจดหมายตามเรื่องกับเทศบาลอีก ผมเสียสมาธิเสียเวลาในการทำงานไปมากแล้วครับ
                2. เรื่องเป็นแบบนี้ ผมต้องทำอะไรไว้เป็นหลักฐานหรือเปล่า และทำอย่างไรครับ
                3. ผมควรต้องดำเนินเรื่องตามกฎหมายอย่างไรบ้าง
                4. มีหน่วยงานไหนที่จัดการเรื่องให้ผมได้บ้างไหมครับ
                  หรือถ้าผู้รู้ท่านใดมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ก็ขอความกรุณาด้วยครับ เพื่อจะได้เป็นกรณีตัวอย่างให้ความรู้กับคนทั่วไป ชาวบ้านธรรมดาใครจะไปรู้เรื่องกม.ครับถ้าไม่เคยเจอ(ผมเองก็หาดูให้วุ่นเป็นอันเสียงานการหมด) อย่างตอนนี้ที่ผมแนะนำได้คือ เวลาเรายื่นเรื่องอะไร ให้สำเนาเอกสารนั้นมาพร้อมให้จนท.เซ็นรับรอง และการเซ็นรับรองเอกสารของเรา เช่น บัตรปชช. ควรลงรายละเอียดให้ชัดเจนครบถ้วน ตามเรื่องที่ร้องเรียนสม่ำเสมอเป็นรายลักษณ์อักษร เป็นต้น ประมาณนี้ก่อนครับ ข้อความในกระทู้รายละเอียดมากหน่อย เพื่อจะได้ไม่เข้าใจไปคนละทาง ขอบคุณครับ...