อะแฮ่มมมมมม ขออภัยนะคะ ที่ จขกท หายไปนานมากกกกกก นานจนใครๆอาจลืมกันไปหมดแล้ว (มั่นใจว่าอาจจะยังไม่ลืมตาสนูปี้บอย หุหุหุ) แบบว่าช่วงนี้มีเรื่องต้องคิด ต้องตัดสินใจ และต้องทำงานเยอะมากกกกก เพื่อหาเงินมาเป้นกองทุนสำหรับโปรเจ็กต์ที่กำลังจะเล่าให้ฟังนี่ล่ะค่ะ
เรื่องของเรื่องก็คือ ท่านแม่ของ จขกท เริ่มถามๆแล้วว่า มะไหร่จะกลับไทย ซึ่ง จขกท เองก็เริ่มคิดถึงบ้าน คิดถึงแมว6ตัวที่เพิ่งลืมตาแป๋วๆมาดูโลกเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็เลยคิดหนักพอสมควรว่าควรจะลับดี หรืออยู่ต่อดี ในที่สุดก็เลยตัดสินใจว่า เอาวะ กลับก็ลับ ไม่เป้นไร ไปต่ามฝันต่อที่เมืองไทย ดูแลแม่ไปด้วย ดูแลแมวไปด้วย และก็คงใกล้คนบางคนขึ้นอีกนิดล่ะน่า
สรุปก็คือ จขกท กำลังจะกลับเมืองไทยในอีกไม่นานนี้นะค้าาาาาา
ทีนี่ เมื่อคิดได้ตามนั้น แน่นอนว่า จขกท ก็ย่อมจะต้องแวะญี่ปุ่นก่อนตามที่หลายๆคนคงเดาได้ (และอาจจะลุ้นให้แวะอยู่) เพราะช่วงหลังมานี่มีคนบางคนมานั่งง้องแง้งงอแงอยู่หน้ากล้องลอดเวลาที่วีดีโอคอลล์คุยกัน ว่าคิดถึงแล้ว อยากคุยกับเธอตัวเป็นๆแล้วง่าาาาาา
วันนั้นก็เลยคุยกัน
เรา : นี่ เราจะกลับไทยดีมั้ยอะ หรือเราจะอยู่ที่นี่ต่อดี
ฮี : เธออยากไปไหนมากกว่าล่ะ
เรา : ไม่รู้สิ เธอว่าไงล่ะ อยากให้เราอยู่ที่ไหนมากกว่า นิวยอร์ค หรือไทยแลนด์ แบบไหนเธอโอเคกว่า
ฮี : อืมมมมมมมมมม ไม่รู้อะ
เรา : เหยยยย ก็แค่ขอความเห้นไง ว่าที่ไหนเหมาะกับเรามากกว่า
ฮี : (เงียบไปพักนึง แล้วตอบด้วยเสียงค่อยๆ) ญี่ปุ่น ได้ไหม
จบข่าว!!!! ปรึกษาอะไรไม่เคยได้!!!!!!!
หลังจากคิดอยู่พักใหญ่ ก็เลยตกลงใจว่าจะกลับ ก็ทันทีเลย มาญี่ปุ่นไหม เดี๋ยวพาไปเที่ยว นะ...แหม เอาเที่ยวมาล่อแบบนี้ จะให้ปฏิเสธลงได้ยังไง จขกท ก็เลยใขง่าย ตัดสิยใจจะไปญี่ปุ่นก่อนกลับในที่สุดค่ะ
แต่ว่า เราก็ได้ทะเลาะกันเป้นครั้งแรกตั้งแต่คบกันมา เพื่อไอ้เรื่องจะไปญี่ปุ่นนี่แล...
เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะว่า เราหาตั๋วไปลงโอซาก้าจากนิวยอร์คยากมากค่ะ ประเด็นก็เลยเกิดขึ้นว่า ฮีจะมารับเราได้มั้ย เพราะบอกตรงๆว่าให้ลากกระเป๋ายักษ์แล้วงมหาทางไปโอซาก้าเอง ในประเทศที่คนไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษ...บอกตรงๆ ยากกกกกส์ (ถึงแม้ว่าจะเคยทำมาแล้วในเกาหลีก็ตาม แต่ตอนนี้มีแฟน อยากสำออยบ้างอะไรบ้าง...)
เรา : ตัวเองงงงงง มารับเก๊าหน่อยจิ นะๆๆ
ฮี : ที่สนามบินหรอ
เรา : อื้อ เนี่ย ถึงนาริตะบ่ายสาม
ฮี : นาริตะ!?! ไกลมากอ้ะ
เรา : งั้นมารับไมไ่ด้หรอ
ฮี : มันไกลไปอ่ะ
เรา : แต่เราไปจากนิวยอร์ค มันไกลกว่านะ
ฮี : อือ แ่ต่มันไกลจริงๆนะ
เรา : สรุปคือไม่มารับ?
ฮี : นั่งเครื่องต่อมาลงโอซาก้าไม่ได้หรอ
เรา : ไม่มีตังค์เฟ้ยยยยยยยย
และก็เถียงกันอีกพักใหญ่ สรุปได้ว่า เราจะนั่งรถไฟไปเองก็ได้(ฟะ) และประเด็นก็มาเป้นเรื่องที่พักต่อ เพราะเราบอกฮีไปหลายรอบแล้วว่าช่วยดูที่พักให้หน่อย โรงแรมแบบไม่แพงมากก็ได้ ซึ่งด้วยความเฉื่อบของคุณชาย ก็ไม่ได้หาซะที ในขณะที่เราก็ต้องเตรียมเช็คเรื่องเงิน เรื่องนู่นนี่นั่น ก็เลยโมโหขึ้นมาอีกรอบ จนต้องเหวี่ยงปรี๊ดและวีนแตกไปตามระเบียบ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็แอบแถไปเรื่องอื่นด้วยตามประสาคนขี้วีนแบบ จขกท ^^"
เรา : ตกลงดูที่พักให้เรารึยังอ่ะ
ฮี : โรงแรมมันแพงอยู่นะ
เรา : ก็ถึงบอกให้หาให้หน่อยไง ไม่งั้นเราจะไปนอนบ้านเพื่อนละนะ เพื่อนเราเรียนอยู่โอซาก้า
ฮี : ผู้ชาย?
เรา : อืม เค้าบอกว่าไปรับเราที่สนามบินได้ แล้วก็ให้เราไปพักที่บ้านได้ด้วย คนนี้เราเคยกิ๊กกันมา ไว้ใจได้ (ในใจคิด หึงใช่ม้าาาา มารับชั้นเสะ)
ฮี : เพื่อนเธอใจดีนะ
เรา : ห๊ะ แค่นี้???
ฮี : ทำไมหรอ
เรา : นี่อยากให้ไปจริงปะเนี่ย (เริ่มหงุดหงิดเพราะฮีไม่หึง ^^")
ฮี : อยากสิ
เรา : แต่ให่คนอื่นมารับเรา ให้เราไปนอนบ้านเค้าได้ เธอไม่ห่วงเราเลยใช่มะ
ฮี : แต่เรายังไม่รู้ตารางตัวเองเลย (คือ...ไมไ่ด้หงุดหงิดเรื่องนั้นอะ เข้าใจป้ะ)
เรา : นี่คือไม่แคร์กันเลยใช่มะ เราจะไปอยู่ที่ไหน กับใคร ยังไง
ฮี : ก็...
เรา : คือ เราเหนือ่ยนะ เราทำงานเยอะมากเพื่อเก็บตังค์ไปหาเนี่ย เรากลับไทยเพราะเราอยากไปอยู่ให้ใกล้เธอมากขึ้น(จริงๆไม่ใช่หรอก ฮาาา)
ฮี : เราเข้าใจ
เรา : เข้าใจแล้วทำงี้หรอ เราเหนื่อยอะ Let's stop everything...from now on
ฮี : ถ้าเธอเหนื่อยมากขนาดนั้น เราหยุดก็ได้นะ
เรา : (ช๊อค) จะเอาแบบนั้นใช่มั้ย
ฮี : (เงียบไปนานมาก ก่อนจะพูดเสียงอ่อยๆ) เราแคร์เธอนะ
เรา : เนี่ยอะนะ
ฮี : เดี๋ยวเรา...เราจะไปรับเธอนะ เราจะพยายาม แล้วเธอมาบ้านเรานะ มาพักที่บ้านเราก็ได้ นอนห้องเราเลยก็ได้นะ นะๆ
เรา : (ใจอ่อนยวบตั้งกะเจอหน้าจ๋อยๆ เสียงอ่อยๆแล้ว) ไม่เป้นไร เราไปนอนกะเพื่อนเราก็ได้ เธอไม่แคร์นี่
ฮี : เราหึงนะ (เย้!!!!!!) แต่เราไม่รู้จะพูดยังไงดี เธอก็รู้ว่าเราภาษาอังกฤษไม่เก่ง
เรา : หึงจริงอะ
ฮี : หึงสิ มากด้วย (กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ) จขกท โรคจิตมาก ="=))
เรา : ตกลงมารับจริงอะ
ฮี : อื้อ เราจะพยายามนะ เธออย่าโมโหเลยนะ
เรา : แล้วให้พักที่บ้านด้วยจริงอะ
ฮี : (นิ่งไปนิดเหมือนเพิ่งนึกได้) เดี๋ยวเราไปถามแม่ให้นะ แต่น่าจะโอเคแหละ
เรา : อยากเจอเราจริงๆนะ
ฮี : อื้อ อยากเจอสิ อยากคุยกับเธอแบบตัวเป็นๆ ไม่ใช่แบบนี้ อยากแตะตัวกันได้จริงๆ (เฮ้ยยย คิดแต๊ะอั๋งเรอะ??)
ในที่สุด คดีก็จบ ทะเลาะจนเกือบเลิกและดีกันได้ภายในสิบห้านาที ไชโย...
ทีนี้ เราก็เริ่มแพลนนู่นนี่กันอย่างเมามันส์ ว่าเราน่าจะไปเที่ยวไหนกันได้บ้าง บลาๆ แล้วจู่ๆ จขกท ก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมา
เรา : นี่ ไปไทยแลนด์ต่อกันมะ
ฮี : ไทยแลนด์หรอ
เรา : อือ ไปมะ เดี๋ยวพาไปเที่ยวทะเลด้วย กินผลไม้อร่อยๆ อาหารไทยอร่อยๆ ซีฟู้ดก็อร่อย ซี้ดดดดดดดดดดด
ฮี : อยากไป
เรา : ไปกัน ค่าตั๋วหกเจ็ดร้อยเหรียญอะ เก็บตังค์สิ ยังมีเวลานะ
ฮี : อื้อ งั้นไปกัน
เรา : ห๊ะ ไปกัน? คือตกลงจะไปเหรอ
ฮี : อื้อ จะได้อยู่ด้วยกันอีกหน่อย
โอยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย น่ารักเกินไปแล้วนะ อีตาบ้า!!!!
หลังจากนั้น ประเด็นที่คุยส่วนใหญ่ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นไทยแลนด์แทน ว่าเราจะไปไหนกันบ้าง เธออยากไปไหน บลาๆๆ จนกระทั่งเรากำลังจะจองตั๋ว ก็เลยเช็คกับฮีอีกทีเพื่อความชัวร์
เรา : นี่ ตกลงมารับที่สนามบินจริงๆใช่ป้ะ
ฮี : อ่า...เอางี้ เราซื้อตั๋วให้เธอจากนาริตะมาโอซาก้าได้มั้ย เดี๋ยวเราไปรับที่โอซาก้า นะ
เรา : เฮ้ย บ้า เปลืองเงิน
ฮี : ไม่เป็นไร เราเป้นแฟนเธอนะ
เรา : นั่นแหละ ไม่เอา บ้าเหรอ ต้องมาจ่ายเงินตั้งเยอะ
ฮี : ก็ไม่ไ่ด้เยอะขนาดนั้น
เรา : ไม่เอาๆ เอางี้ พอเราไปถึง เอลิซาเบ็ธอยู่ญี่ปุ่นพอดี เดี๋ยวเราไปบ้านเอลิซาเบ็ธก่อนก็ได้ แล้วเธอมารับเราที่นาโงย่าแทน ดีมั้ย ครึ่งทาง
ฮี : แบบนั้นได้นะ เดี๋ยวเราไปรับ
เรา : อื้อ เพราะเอลิซาเบ็ธจะได้ไปรับเราที่นาริตะแทนเดินทางคนละครึ่ง ง่ายดี
ฮี : อื้อ โอเคเลย
และแล้ว แพลนก็เป็นไปตามนั้น ลงตัวในที่สุด ฮ่าๆๆๆๆ
แต่ปัญหาก็มาเยือนอีกครั้งจนได้ค่ะ เมื่อตึกแถวที่แม่เพิ่งเซ้งไว้ใกล้ๆที่ทำงานยังไม่เรียบร้อย ชั้นสองยังเป้นห้องโล่งๆ ไม่ได้กั้นผนัง ก็เลยเกิดประเด็นว่าจะให้ฮีไปนอนไหน เำพราะบ้านเราก็ไม่มีทั้งแอร์และเตียง ทุกวันนี้แม่เราก็ยังคงปูผ้านวมนอนกะพื้นเหมือนเดิม ^^" ก็สรุปว่า อาจหาห้องเช่ารายวัน หรือรายเดือนที่อยู่แค่เดือนเดียวได้ให้ฮี ซึ่งพอรู้ราคา ฮีก็ทำตาโตแบบว่า นี่มันถูกเว่อออออออออออออออออออออออออออออออออออร์ และก็โอเคตามนั้น แต่ว่า...
เรา : นี่ ถ้านอนโรงแรม เราคงไปอยู่กับเธอไมไ่ด้นะ
ฮี : (ทำหน้าเหมือนโลกจะแตกไปตรงหน้า) ทำไมล่ะ
เรา : แม่ชั้นได้ฆ่าตายอะดิ
ฮี : ไม่เข้าใจ
เรา : หนูน้อย คัลเจอร์ของเรามันต่างกันนะ ที่นี่ถ้ายังไม่แต่งงาน ค้าง้วยกัน...ไม่ดีหรอก จริงๆ
ฮี : แต่เราอยากอยู่กับเธอนี่นา
เรา : (โอ่ยยยยย อย่าอ้อนสิวะคะ เดี๋ยวใจอ่อน) เอาน่า เดี๋ยวเรามารับแต่เช้าไปกินข้าวด้วยกัน แล้วดึกๆค่อยพามาส่ง ดีมั้ย นะๆ
ฮี : งั้นเราไปนอนบ้านเธอก็ได้นะ
เรา : อยู่ไม่ได้หรอก บ้านเราเล็กติ๊ดเดียว ไม่มีน้ำร้อน ไม่มีแอร์ ไม่มีเตียง ห้องนอนยังไม่มีเลย แมวอีกเจ็ดตัว อยู่ได้เหรอ (เรื่องจริง...)
ฮี : งั้นเดี๋ยวค่อยว่ากันก็ได้
...จนบัดนี้ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าจะให้ฮีไปอยู่ที่ไหนค่ะ ฮาาาาาาาา แม่ก็ยังบ่นว่า จะเอามาตอนนี้ทำม้ายยยย บ้านไม่พร้อม
และสรุปอีกครั้งว่า เราจะไปเมืองไทยด้วยกันนนนนนนนนนนนนน วะฮะฮ่า!!!!!!!
ใครมีที่ไหนแนะนำบ้างไหมคะ ไม่รู้จะพาไปเที่ยวไหนเลยง่า
ปล. ช่วงนี้นิวยอร์คหนาวมาก สัญญาว่ากระทู้หน้าจะมาเล่าให้ฟังเรื่องความหนาวกับ จขกท ซึ่งไม่ถูกกันอย่างแรงค่ะ จะงดเว้นจากการนินทาสนูปี้บอยสักพัก...จริงๆนะ (ไม่สัญญาเรื่องนี้ ฮ่าๆๆๆ)
ได้ข่าวว่าที่เมืองไทยช่วงนี้เริ่มหนาวแล้วเหมือนกัน ดูแลสุขภาพนะคะ จขกท เจออากาศเปลี่ยนก็เปื่อยไปร่วมสามวีค คอนนี้ยังไอค่อกแค่กไม่หายสักที
แล้วเจอกันกระทู้หน้าก๊าบบบบบบบบ
ปล. แอบเอารูปมาฝากอีกรูป เนื่องจากเวลาคุยกันแล้วฮีชอบเอาตุ๊กตาไดโนเสาร์เขียวๆมาเล่นพัพเพ็ทโชว์ทุกครั้งที่เขิน ก็เลยวาดรูปแซวซะเลย หุหุหุ
เต้นบัลเล่ต์ออกไปตามฟอรฺมค่า อิอิ
ปล. แถมค่ะ
เมื่อเช้านั่งคุยกัน เราก็คุยถึงเรื่องการเรียนดนตรีในเมืองไทย ก็เลยพาดไปถึงเรื่องอนาคต(ของเรา)
เรา : เนี่ย ถ้าเรามีลูกนะ เราจะให้ลูกเรียนไวโอลินกับเชลโล่ แล้วก็ให้ร้องเพลงไปด้วย เดี่ยวเราสอนเอง
ฮื : เหรอ
เรา : ช่าย จะฝึกให้เก่งๆเลย เด็กถ้าฟังจนชินมาแต่เล็ก ยังไงก็มีแนวโน้มว่าจะชอบแหละ ให้เรียนเปียโนเป้นทักษะดนตรีพื้นฐานไว้ ดีกับเด็กด้วย
ฮี : เอ่อ...(เสียงค่อย และสีหน้าเกรงใจมาก) แล้ว...บัลเล่ต์ล่ะ?
เรา : ห๊ะ
ฮี : ให้ลูกเรียนบัลเล่ต์ด้วยสิ
เรา : เธอสอนมั้ยล่ะ
ฮี : อื้อ
เรา : จะบ้าเรอะ จะให้เราหอบลูกไปเรียนกะเธอที่ญี่ปุ่นอะนะ (คือตั้งแต่แรก เราใช้คำว่า My kids นะคะ ไม่ใช่ Our Kids)
ฮี : (เสียงเกรงใจสุดๆเหมือนกำลังพูดกับบอสใหญ่) ก็ตอนนั้นเธอจะอยู่ญี่ปุ่น...กับเราไง
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
The End!!!
เรื่องเล่าจากสาวเอ๋อ :: กว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้ง...Snoopy Boy's story
เรื่องของเรื่องก็คือ ท่านแม่ของ จขกท เริ่มถามๆแล้วว่า มะไหร่จะกลับไทย ซึ่ง จขกท เองก็เริ่มคิดถึงบ้าน คิดถึงแมว6ตัวที่เพิ่งลืมตาแป๋วๆมาดูโลกเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็เลยคิดหนักพอสมควรว่าควรจะลับดี หรืออยู่ต่อดี ในที่สุดก็เลยตัดสินใจว่า เอาวะ กลับก็ลับ ไม่เป้นไร ไปต่ามฝันต่อที่เมืองไทย ดูแลแม่ไปด้วย ดูแลแมวไปด้วย และก็คงใกล้คนบางคนขึ้นอีกนิดล่ะน่า
สรุปก็คือ จขกท กำลังจะกลับเมืองไทยในอีกไม่นานนี้นะค้าาาาาา
ทีนี่ เมื่อคิดได้ตามนั้น แน่นอนว่า จขกท ก็ย่อมจะต้องแวะญี่ปุ่นก่อนตามที่หลายๆคนคงเดาได้ (และอาจจะลุ้นให้แวะอยู่) เพราะช่วงหลังมานี่มีคนบางคนมานั่งง้องแง้งงอแงอยู่หน้ากล้องลอดเวลาที่วีดีโอคอลล์คุยกัน ว่าคิดถึงแล้ว อยากคุยกับเธอตัวเป็นๆแล้วง่าาาาาา
วันนั้นก็เลยคุยกัน
เรา : นี่ เราจะกลับไทยดีมั้ยอะ หรือเราจะอยู่ที่นี่ต่อดี
ฮี : เธออยากไปไหนมากกว่าล่ะ
เรา : ไม่รู้สิ เธอว่าไงล่ะ อยากให้เราอยู่ที่ไหนมากกว่า นิวยอร์ค หรือไทยแลนด์ แบบไหนเธอโอเคกว่า
ฮี : อืมมมมมมมมมม ไม่รู้อะ
เรา : เหยยยย ก็แค่ขอความเห้นไง ว่าที่ไหนเหมาะกับเรามากกว่า
ฮี : (เงียบไปพักนึง แล้วตอบด้วยเสียงค่อยๆ) ญี่ปุ่น ได้ไหม
จบข่าว!!!! ปรึกษาอะไรไม่เคยได้!!!!!!!
หลังจากคิดอยู่พักใหญ่ ก็เลยตกลงใจว่าจะกลับ ก็ทันทีเลย มาญี่ปุ่นไหม เดี๋ยวพาไปเที่ยว นะ...แหม เอาเที่ยวมาล่อแบบนี้ จะให้ปฏิเสธลงได้ยังไง จขกท ก็เลยใขง่าย ตัดสิยใจจะไปญี่ปุ่นก่อนกลับในที่สุดค่ะ
แต่ว่า เราก็ได้ทะเลาะกันเป้นครั้งแรกตั้งแต่คบกันมา เพื่อไอ้เรื่องจะไปญี่ปุ่นนี่แล...
เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะว่า เราหาตั๋วไปลงโอซาก้าจากนิวยอร์คยากมากค่ะ ประเด็นก็เลยเกิดขึ้นว่า ฮีจะมารับเราได้มั้ย เพราะบอกตรงๆว่าให้ลากกระเป๋ายักษ์แล้วงมหาทางไปโอซาก้าเอง ในประเทศที่คนไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษ...บอกตรงๆ ยากกกกกส์ (ถึงแม้ว่าจะเคยทำมาแล้วในเกาหลีก็ตาม แต่ตอนนี้มีแฟน อยากสำออยบ้างอะไรบ้าง...)
เรา : ตัวเองงงงงง มารับเก๊าหน่อยจิ นะๆๆ
ฮี : ที่สนามบินหรอ
เรา : อื้อ เนี่ย ถึงนาริตะบ่ายสาม
ฮี : นาริตะ!?! ไกลมากอ้ะ
เรา : งั้นมารับไมไ่ด้หรอ
ฮี : มันไกลไปอ่ะ
เรา : แต่เราไปจากนิวยอร์ค มันไกลกว่านะ
ฮี : อือ แ่ต่มันไกลจริงๆนะ
เรา : สรุปคือไม่มารับ?
ฮี : นั่งเครื่องต่อมาลงโอซาก้าไม่ได้หรอ
เรา : ไม่มีตังค์เฟ้ยยยยยยยย
และก็เถียงกันอีกพักใหญ่ สรุปได้ว่า เราจะนั่งรถไฟไปเองก็ได้(ฟะ) และประเด็นก็มาเป้นเรื่องที่พักต่อ เพราะเราบอกฮีไปหลายรอบแล้วว่าช่วยดูที่พักให้หน่อย โรงแรมแบบไม่แพงมากก็ได้ ซึ่งด้วยความเฉื่อบของคุณชาย ก็ไม่ได้หาซะที ในขณะที่เราก็ต้องเตรียมเช็คเรื่องเงิน เรื่องนู่นนี่นั่น ก็เลยโมโหขึ้นมาอีกรอบ จนต้องเหวี่ยงปรี๊ดและวีนแตกไปตามระเบียบ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็แอบแถไปเรื่องอื่นด้วยตามประสาคนขี้วีนแบบ จขกท ^^"
เรา : ตกลงดูที่พักให้เรารึยังอ่ะ
ฮี : โรงแรมมันแพงอยู่นะ
เรา : ก็ถึงบอกให้หาให้หน่อยไง ไม่งั้นเราจะไปนอนบ้านเพื่อนละนะ เพื่อนเราเรียนอยู่โอซาก้า
ฮี : ผู้ชาย?
เรา : อืม เค้าบอกว่าไปรับเราที่สนามบินได้ แล้วก็ให้เราไปพักที่บ้านได้ด้วย คนนี้เราเคยกิ๊กกันมา ไว้ใจได้ (ในใจคิด หึงใช่ม้าาาา มารับชั้นเสะ)
ฮี : เพื่อนเธอใจดีนะ
เรา : ห๊ะ แค่นี้???
ฮี : ทำไมหรอ
เรา : นี่อยากให้ไปจริงปะเนี่ย (เริ่มหงุดหงิดเพราะฮีไม่หึง ^^")
ฮี : อยากสิ
เรา : แต่ให่คนอื่นมารับเรา ให้เราไปนอนบ้านเค้าได้ เธอไม่ห่วงเราเลยใช่มะ
ฮี : แต่เรายังไม่รู้ตารางตัวเองเลย (คือ...ไมไ่ด้หงุดหงิดเรื่องนั้นอะ เข้าใจป้ะ)
เรา : นี่คือไม่แคร์กันเลยใช่มะ เราจะไปอยู่ที่ไหน กับใคร ยังไง
ฮี : ก็...
เรา : คือ เราเหนือ่ยนะ เราทำงานเยอะมากเพื่อเก็บตังค์ไปหาเนี่ย เรากลับไทยเพราะเราอยากไปอยู่ให้ใกล้เธอมากขึ้น(จริงๆไม่ใช่หรอก ฮาาา)
ฮี : เราเข้าใจ
เรา : เข้าใจแล้วทำงี้หรอ เราเหนื่อยอะ Let's stop everything...from now on
ฮี : ถ้าเธอเหนื่อยมากขนาดนั้น เราหยุดก็ได้นะ
เรา : (ช๊อค) จะเอาแบบนั้นใช่มั้ย
ฮี : (เงียบไปนานมาก ก่อนจะพูดเสียงอ่อยๆ) เราแคร์เธอนะ
เรา : เนี่ยอะนะ
ฮี : เดี๋ยวเรา...เราจะไปรับเธอนะ เราจะพยายาม แล้วเธอมาบ้านเรานะ มาพักที่บ้านเราก็ได้ นอนห้องเราเลยก็ได้นะ นะๆ
เรา : (ใจอ่อนยวบตั้งกะเจอหน้าจ๋อยๆ เสียงอ่อยๆแล้ว) ไม่เป้นไร เราไปนอนกะเพื่อนเราก็ได้ เธอไม่แคร์นี่
ฮี : เราหึงนะ (เย้!!!!!!) แต่เราไม่รู้จะพูดยังไงดี เธอก็รู้ว่าเราภาษาอังกฤษไม่เก่ง
เรา : หึงจริงอะ
ฮี : หึงสิ มากด้วย (กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ) จขกท โรคจิตมาก ="=))
เรา : ตกลงมารับจริงอะ
ฮี : อื้อ เราจะพยายามนะ เธออย่าโมโหเลยนะ
เรา : แล้วให้พักที่บ้านด้วยจริงอะ
ฮี : (นิ่งไปนิดเหมือนเพิ่งนึกได้) เดี๋ยวเราไปถามแม่ให้นะ แต่น่าจะโอเคแหละ
เรา : อยากเจอเราจริงๆนะ
ฮี : อื้อ อยากเจอสิ อยากคุยกับเธอแบบตัวเป็นๆ ไม่ใช่แบบนี้ อยากแตะตัวกันได้จริงๆ (เฮ้ยยย คิดแต๊ะอั๋งเรอะ??)
ในที่สุด คดีก็จบ ทะเลาะจนเกือบเลิกและดีกันได้ภายในสิบห้านาที ไชโย...
ทีนี้ เราก็เริ่มแพลนนู่นนี่กันอย่างเมามันส์ ว่าเราน่าจะไปเที่ยวไหนกันได้บ้าง บลาๆ แล้วจู่ๆ จขกท ก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมา
เรา : นี่ ไปไทยแลนด์ต่อกันมะ
ฮี : ไทยแลนด์หรอ
เรา : อือ ไปมะ เดี๋ยวพาไปเที่ยวทะเลด้วย กินผลไม้อร่อยๆ อาหารไทยอร่อยๆ ซีฟู้ดก็อร่อย ซี้ดดดดดดดดดดด
ฮี : อยากไป
เรา : ไปกัน ค่าตั๋วหกเจ็ดร้อยเหรียญอะ เก็บตังค์สิ ยังมีเวลานะ
ฮี : อื้อ งั้นไปกัน
เรา : ห๊ะ ไปกัน? คือตกลงจะไปเหรอ
ฮี : อื้อ จะได้อยู่ด้วยกันอีกหน่อย
โอยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย น่ารักเกินไปแล้วนะ อีตาบ้า!!!!
หลังจากนั้น ประเด็นที่คุยส่วนใหญ่ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นไทยแลนด์แทน ว่าเราจะไปไหนกันบ้าง เธออยากไปไหน บลาๆๆ จนกระทั่งเรากำลังจะจองตั๋ว ก็เลยเช็คกับฮีอีกทีเพื่อความชัวร์
เรา : นี่ ตกลงมารับที่สนามบินจริงๆใช่ป้ะ
ฮี : อ่า...เอางี้ เราซื้อตั๋วให้เธอจากนาริตะมาโอซาก้าได้มั้ย เดี๋ยวเราไปรับที่โอซาก้า นะ
เรา : เฮ้ย บ้า เปลืองเงิน
ฮี : ไม่เป็นไร เราเป้นแฟนเธอนะ
เรา : นั่นแหละ ไม่เอา บ้าเหรอ ต้องมาจ่ายเงินตั้งเยอะ
ฮี : ก็ไม่ไ่ด้เยอะขนาดนั้น
เรา : ไม่เอาๆ เอางี้ พอเราไปถึง เอลิซาเบ็ธอยู่ญี่ปุ่นพอดี เดี๋ยวเราไปบ้านเอลิซาเบ็ธก่อนก็ได้ แล้วเธอมารับเราที่นาโงย่าแทน ดีมั้ย ครึ่งทาง
ฮี : แบบนั้นได้นะ เดี๋ยวเราไปรับ
เรา : อื้อ เพราะเอลิซาเบ็ธจะได้ไปรับเราที่นาริตะแทนเดินทางคนละครึ่ง ง่ายดี
ฮี : อื้อ โอเคเลย
และแล้ว แพลนก็เป็นไปตามนั้น ลงตัวในที่สุด ฮ่าๆๆๆๆ
แต่ปัญหาก็มาเยือนอีกครั้งจนได้ค่ะ เมื่อตึกแถวที่แม่เพิ่งเซ้งไว้ใกล้ๆที่ทำงานยังไม่เรียบร้อย ชั้นสองยังเป้นห้องโล่งๆ ไม่ได้กั้นผนัง ก็เลยเกิดประเด็นว่าจะให้ฮีไปนอนไหน เำพราะบ้านเราก็ไม่มีทั้งแอร์และเตียง ทุกวันนี้แม่เราก็ยังคงปูผ้านวมนอนกะพื้นเหมือนเดิม ^^" ก็สรุปว่า อาจหาห้องเช่ารายวัน หรือรายเดือนที่อยู่แค่เดือนเดียวได้ให้ฮี ซึ่งพอรู้ราคา ฮีก็ทำตาโตแบบว่า นี่มันถูกเว่อออออออออออออออออออออออออออออออออออร์ และก็โอเคตามนั้น แต่ว่า...
เรา : นี่ ถ้านอนโรงแรม เราคงไปอยู่กับเธอไมไ่ด้นะ
ฮี : (ทำหน้าเหมือนโลกจะแตกไปตรงหน้า) ทำไมล่ะ
เรา : แม่ชั้นได้ฆ่าตายอะดิ
ฮี : ไม่เข้าใจ
เรา : หนูน้อย คัลเจอร์ของเรามันต่างกันนะ ที่นี่ถ้ายังไม่แต่งงาน ค้าง้วยกัน...ไม่ดีหรอก จริงๆ
ฮี : แต่เราอยากอยู่กับเธอนี่นา
เรา : (โอ่ยยยยย อย่าอ้อนสิวะคะ เดี๋ยวใจอ่อน) เอาน่า เดี๋ยวเรามารับแต่เช้าไปกินข้าวด้วยกัน แล้วดึกๆค่อยพามาส่ง ดีมั้ย นะๆ
ฮี : งั้นเราไปนอนบ้านเธอก็ได้นะ
เรา : อยู่ไม่ได้หรอก บ้านเราเล็กติ๊ดเดียว ไม่มีน้ำร้อน ไม่มีแอร์ ไม่มีเตียง ห้องนอนยังไม่มีเลย แมวอีกเจ็ดตัว อยู่ได้เหรอ (เรื่องจริง...)
ฮี : งั้นเดี๋ยวค่อยว่ากันก็ได้
...จนบัดนี้ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าจะให้ฮีไปอยู่ที่ไหนค่ะ ฮาาาาาาาา แม่ก็ยังบ่นว่า จะเอามาตอนนี้ทำม้ายยยย บ้านไม่พร้อม
และสรุปอีกครั้งว่า เราจะไปเมืองไทยด้วยกันนนนนนนนนนนนนน วะฮะฮ่า!!!!!!!
ใครมีที่ไหนแนะนำบ้างไหมคะ ไม่รู้จะพาไปเที่ยวไหนเลยง่า
ปล. ช่วงนี้นิวยอร์คหนาวมาก สัญญาว่ากระทู้หน้าจะมาเล่าให้ฟังเรื่องความหนาวกับ จขกท ซึ่งไม่ถูกกันอย่างแรงค่ะ จะงดเว้นจากการนินทาสนูปี้บอยสักพัก...จริงๆนะ (ไม่สัญญาเรื่องนี้ ฮ่าๆๆๆ)
ได้ข่าวว่าที่เมืองไทยช่วงนี้เริ่มหนาวแล้วเหมือนกัน ดูแลสุขภาพนะคะ จขกท เจออากาศเปลี่ยนก็เปื่อยไปร่วมสามวีค คอนนี้ยังไอค่อกแค่กไม่หายสักที
แล้วเจอกันกระทู้หน้าก๊าบบบบบบบบ
ปล. แอบเอารูปมาฝากอีกรูป เนื่องจากเวลาคุยกันแล้วฮีชอบเอาตุ๊กตาไดโนเสาร์เขียวๆมาเล่นพัพเพ็ทโชว์ทุกครั้งที่เขิน ก็เลยวาดรูปแซวซะเลย หุหุหุ
เต้นบัลเล่ต์ออกไปตามฟอรฺมค่า อิอิ
ปล. แถมค่ะ
เมื่อเช้านั่งคุยกัน เราก็คุยถึงเรื่องการเรียนดนตรีในเมืองไทย ก็เลยพาดไปถึงเรื่องอนาคต(ของเรา)
เรา : เนี่ย ถ้าเรามีลูกนะ เราจะให้ลูกเรียนไวโอลินกับเชลโล่ แล้วก็ให้ร้องเพลงไปด้วย เดี่ยวเราสอนเอง
ฮื : เหรอ
เรา : ช่าย จะฝึกให้เก่งๆเลย เด็กถ้าฟังจนชินมาแต่เล็ก ยังไงก็มีแนวโน้มว่าจะชอบแหละ ให้เรียนเปียโนเป้นทักษะดนตรีพื้นฐานไว้ ดีกับเด็กด้วย
ฮี : เอ่อ...(เสียงค่อย และสีหน้าเกรงใจมาก) แล้ว...บัลเล่ต์ล่ะ?
เรา : ห๊ะ
ฮี : ให้ลูกเรียนบัลเล่ต์ด้วยสิ
เรา : เธอสอนมั้ยล่ะ
ฮี : อื้อ
เรา : จะบ้าเรอะ จะให้เราหอบลูกไปเรียนกะเธอที่ญี่ปุ่นอะนะ (คือตั้งแต่แรก เราใช้คำว่า My kids นะคะ ไม่ใช่ Our Kids)
ฮี : (เสียงเกรงใจสุดๆเหมือนกำลังพูดกับบอสใหญ่) ก็ตอนนั้นเธอจะอยู่ญี่ปุ่น...กับเราไง
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
The End!!!