กลับมาในเวลาอันรวดเร็ว เพราะช่วงนี้หยุดยาวไปทั้งสัปดาห์เลยค่ะ เลยมีเวลานั่งเขียนเรื่องโม้ให้คนอื่นได้อ่านเอาความันเทิงกัน ฮี่ๆๆ
เมื่อเร็วๆนี้ จขกท ได้คุยกะหนุ่มนุปปี้ค่ะ ตกลงกันว่าฮีน่าจะมาเมืองไทยช่วงเดือนตุลา (น่าจะมาช่วงๆวันเกิด จขกท เพื่อมาเริ่มนับถอยหลังสู่ตัวเลขที่มากขึ้นกัน (ไม่ดีใจเลยนะ บอกเลย)) และ จขกท ก็กะว่าจะไปญี่ปุ่นช่วงคริสต์มาสนี้ ยิงยาวยันปีใหม่เลย การทำงานฟรีแลนซ์มันสบายยังงี้นี่เอง ไม่ต้องลางานวุ่นวาย วะฮะฮ่า
อันเนื่องมาจากช่งงนี้เรามีเวลาคุยกันเยอะขึ้น และช่วงนี้หนุ่มน้อยก็ดูจะพูดเยอะขึ้นเหมือนกัน ดังนั้นเราก็เลยได้คุยเรื่องเก่าๆสมัยอยู่นิวยอร์คกันบ้าง และได้รู้ว่าจริงๆแล้วฮีเองก็แอบมองเรามานานเหมือนกันแฮะ แต่ไม่รู้ทำไม มันถึงมีแต่เรื่องประหลาดๆสิน่า ="=
เรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ
เรา : นี่ ตอนอยู่นิวยอร์คน่ะ เธอเริ่มสนใจเราตอนไหนหรอ
ฮี : ตั้งแต่แรกแล้วอะ
เรา : แล้วเธอจำอะไรเกี่ยวกับเราได้มั่ง
ฮี : อืม...ก็จำได้ว่าเธอน่ารักดี แล้วก้ออออออออออ
เรา : แล้วก็?
ฮี : จำได้ว่าเธอชอบโดดเรียน (เฮ้ย) เวลาเรียนเธียเตอร์ก็ชอบอยู่หลังห้อง ไม่ยอมขึ้นไปข้างหน้า
เรา : ก็ไม่ต่างกันอะ เธอก็ไม่ยอมขึ้นไปด้านหน้าเหมือนกัน
ฮี : แต่เธอชอบโดดเรียนตอนกลางคลาสนะ พอวอร์มอัพเสร็จ เธอก็หายไปจากคลาสเลย
เรา : ..................(คือถ้าผ่านครึ่งคลาสก็เช็คให้ ถือว่ามาเข้าคลาสแล้วค่ะ)
ฮี : แล้วก็ ประตูหนีไฟ เธอชอบออกไปอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ทำไม (โดดไง ไม่เห็นต้องถาม)
เรา : ก็ในห้องมันร้อนนี่นา
ฮี : แล้วเธอก็ชอบไปนั่งเล่นอยู่ที่บันไดด้วย
เรา : ก็ออกไปซ้อมร้องเพลงอ้ะ
ฮี : แล้วก็ วันอังคาร พอเรียนเธียเตอร์แดนซ์เสร็จ เธอก็จะเข้าคลาสเบสิคพ้อยท์ต่อ ใช่มะ
เรา : รู้ด้วยเหรอ (มันคือคลาสที่คนเริ่มใส่รองเท้าพ้อยท์แรกๆมาเรียนน่ะค่ะ นัยว่าคงเพื่อความแข็งแรงของข้อเท้ามั้ง แต่ จขกท ใส่แค่บัลเล่ต์สลิปเปอร์นิ่มๆไปเรียนนะคะ ไม่มีกะตังค์ซื้อพ้อยท์ชูส์ ฮ่าๆๆๆ)
ฮี : อื้อ ก็มองอยู่นี่
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่ได้เขินนะ แต่ดูนางจำอะไรได้แต่ละอย่าง มีดีๆมั่งมั้ย ตอบบบบบบบบ ตอบม๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
แต่เรื่องดีๆก็พอมีนะคะ อย่างเช่นตอนที่ จขกท ทำขนมมาให้กิน หรือว่าตอนที่เรากลับบ้านพร้อมกัน (ครั้งแรก และครั้งเดียว) หรือตอนที่...ไม่มีแล้วมั้ง ^^"
แล้วเราก็คุยกันเรื่องที่ จขกท จะไปญี่ปุ่นดีมั้ย ฮีก็เลยบอกว่า เราจะมีแสดงวันที่ 23 ธันวานะ (ใครอยู่โอซาก้าเชิญชมและกรี๊ดให้ฮีด้วยนะฮ้าาาาาา (พื้นที่โฆษณา 55555)) จขกท ก็เลยตั้งใจว่าจะไปถึงเช้าวันนั้นแหละค่ะ ซึ่งคุณชายก็บอกว่าเดี่ยวจะให้พ่อมารับ ที่สำคัญคือเดี๋ยวฮีจะรีบจองตั๋วให้ก่อน แล้ว จขกท ค่อยไปคืนเงินทีหลังเอา เพราะขืนรอ จขกท เก็บเงินได้ครบค่าตั๋ว สงสัยจะเป็นธันวานู่น และค่าตั๋วคงพุ่งขึ้นไปเกือบเท่าตัวแหงๆ (เป็นคนดีจริงๆเลยอะ ไม่คืนเลยได้มะ ฮ่าๆๆๆ) และเราจะได้อยู่ด้วยกันวันคริสต์มาสอีฟซักที หลังจากที่ปีที่แล้ว จขกท เหี่ยวแล้วเหี่ยวอีกเพราะทำแต่งาน ตั้งกะคริสต์มาสยันปีใหม่ ฮือๆๆๆๆๆ
ช่วงนี้เห็นว่าฮีเหนื่อยๆ คงเพราะซ้อมเยอะมาก ก็เลยกลับมาบ้านในสภาพปางตายแทบทุกวัน เรียกว่าพอเปิดเฟสไทม์คุยปุ๊บ หัวหนุนหมอนปั๊บ ก็เริ่มตาปิดและกรนครอกๆทันที เราเลยต้องปฏิวัติรูปแบบการคุยใหม่ โดยที่ฮีมักจะชอบขอให้อยู่เป้นเพื่อนทั้งคืน...ใช่ค่ะ เปิดกล้องนอนปิดไฟอยู่ด้วยกันยังงั้น แล้วก็นอนฟังฮีกรนครอกๆไปสิ ซึ่งอย่าว่าแต่ฮีเลย จขกท พอกลับมาถึงบ้านก็อาการไม่ต่างกันเท่าไหร่ ส่วนมากสี่ทุ่มกว่าก็เริ่มสลบแล้วค่ะ โดยที่แพทเทิร์นการสนทนาก่อนสลบจะเป็นประมาณนี้
เรา : นี่ ง่วงแล้วใช่มะ
ฮี : งืออออออ นอนกันเถอะ
เรา : เดี๋ยวขออ่านหนังสืออีกแป๊บ นอนก่อนมั้ย ให้เราวางสายมะ
ฮี : ม่ายอาววว ไม่วางได้มั้ย
เรา : กลัวเสียงดังแล้วเธอนอนไม่ได้อะ
ฮี : ไม่เป็นไร Please stay with me
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ตอบมางี้ไม่อยู่ยังไงไหวล่ะค้าาาาาาา
ไม่รู้ว่าไอ้การขี้อ้อน ทำหน้าแอ๊บแบ๊วนี่มันเป็นบุคลิกปกติของคนญี่ปุ่นมั้ย เพราะทุกครั้งเวลาที่คุยกัน ฮีมักจะทำหน้าแบ๊ว เอียงซ้าย เอียงขวาทุกครั้ง คือไม่ใช่อะไรนะคะ แต่มันเป้นอารมณ์ว่า แบ๊วกว่าตูอีก ^^" ยิ่งเห็นรูปสาวๆญี่ปุ่นในโรงเรียนบัลเล่ต์ของท่านแม่ฮีแล้วยิ่งคิด ไปๆมาๆเลยรู้สึกว่า เออ ที่ฮีมาคบเราได้นี่อาจเป็นเพราะว่าฮีคงเอียนสาวแบ๊วโนเนะน่ารัก เลยมาคว้าสาวถึกแทนก็เป็นได้นะ เพราะบางครั้งที่ถามฮีกลับไปว่าทำไมถึงชอบเรา ฮีมักจะบอกว่า เพราะเธอเป้นสาวเข้มแข็ง แข็งแรงอะดิ (เจี๊ยกกกกกกกก)
แปลว่า ไอ้ที่เคยบอกเราว่าเธอชอบชกต่อย ก็ชอบสินะ ="=
พักหลังๆเริ่มพูดจาลามปามไปถึงอนาคตที่ยังมองไม่เห็นเอาซะเลย เคยถามฮีเล่นๆว่า ถ้ามีลูป อยากได้ลูกสาวหรือลูกชาย ฮีตอบแบบไม่คิดเลยว่า ทั้งสองเลย ซึ่งเราแอบเซ็งนิดๆ เพราะเราเองชอบเด็กผู้หญิงมากกว่า ก็เลยอยากมีลูกสาวไว้ซักสองคน ให้ตบตีกัน (ไม่ใช่ละ) แต่ฮีก็ยังยืนยันคำเดิมว่า เค้าอยากมีทั้งลูกชายลูกสาวอย่างละคนนะ
สุดท้ายมันเลยนำมาซึ่งการสนทนาแบบแปลกๆ...
ฮี : มีทั้งลูกชายลูกสาวเลยละกันนะ
เรา : แล้วถ้าเรามีลูกสาวสองคนละ ฝาแฝด
ฮี : ฝาแฝดเหรอ...
เรา : อื้อ จะพยายามมีลูกชายอีกคนมั้ยเนี่ย
ฮี : นั่นสิ...
เรา : แล้วถ้ามีคนที่สามแล้วเป็นลูกสาวอีกล่ะ (ฉันชอบบบบ)
ฮี : ก็มีแค่สองคนน่ะแหละ
เรา : แล้วถ้า เรามีลูกคนโตเป็นผู้ชายแล้ว แล้วได้ลูกคนที่สองเป็นผู้ชายเหมือนกันอีกคนล่ะ บ้านแตกแน่
ฮี : ไม่ชอบเด็กผู้ชายเหรอ
เรา : ชอบผู้หญิงมากกว่า อยากมีลูกสาวง่ะ อยากแต่งตัวเป็นตุ๊กตา เป้นเจ้าหญิง
ฮี : (คิดอยู่แป๊บก่อนจะดีดนิ้วอย่างมั่นใจ) งั้นจับคนนึงเป็นเกย์ไป ดีมะ
เรา : หา???????????????
ฮี : จะได้แต่งหญิงไง
บอกเลย ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือพูดเล่น เพราะหน้าฮีจริงจังมากค่ะ ณ จุดนั้น แพนจังช๊อคไปเสียแล้ว แต่ว่าไม่ว่ายังไง ฮีก็ยังคงยืนยันว่าเมื่อลูกเริ่มเดินได้เมื่อไหร่คงพามาขลุกอยู่ที่สตูดิโอบัลเล่ต์เป็นแน่แท้ เพื่อให้ซึมซับไปแต่เล็กแต่น้อย และสร้างปีศาจนักบัลเล่ต์ขึ้นมาอีกคู่นึงให้ได้ (ยิ่งถ้าเป็นพี่ชายกับน้องสาวยิ่งดีใหม่ ฮีจะเอามาทำเป็นพาร์ทเนอร์กันเหมือยฮีกะพี่สาวนั่นเองงงง)
ว่าแต่ แล้วเปียโนกะเชลโล่ชั้นล่ะ??????? ชั้นก็อยากสร้างทายาทปีศาจนักดนตรีเหมือนกันนะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ร้องไห้แป๊บ...
ช่วงนี้ดูเหมือนว่าพออากาศร้อน คนบ้านไม่มีแอร์อย่าง จขกท จะหงุดหงิดง่ายเป็นพิเศษเมื่อเห็นคนบางคน(คือฮี)เข้าห้อง เปิดแอร์นอนสบายใจเฉิบ ในขณะที่เราเอาพัดลมจ่อสามตัวแล้วยังไม่ช่วยอะไร แถมทำให้เช้ามาเจ็บคออีกต่างหาก ช่วงนี้ฮีเลยไม่ค่อยกวนประสาทกันเท่าไหร่ บอกเลยว่า จขกท ยังโหยหาอากาศหนาวของนิวยอร์คอยู่ค่ะ (แต่ตอนนั้นเธอก็บนว่าหนาวไม่ใช่เรอะ)
แวะมาส่งกระทู้ให้เอากลับไปนั่งขำๆกันหลังสงกรานต์เรียบร้อย และจะขอจรลีกลับไปจัดตู้ต่อแล้วนะคะ (เพิ่งซื้อตู้เสื้อผ้ามา ได้ฤกษ์เอาของออกจากกระเป๋าเดินทางสักทีหลังจากกลับมาไทยได้สามเดือนพอดีเด๊ะๆ นานไปเนอะ 5555555)
ก่อนแวบกลับไป เลยเอารูปหนุ่มมาฝากกันอีกสักสองรูปละกันค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
ปล. ใครอยากได้แมวบ้างงงงงงงงงง ที่บ้านเหลืออีกห้าตัว เลี้ยงไม่ไหวละคร้าบบบบบ >_< รอเดือนหน้าครบหกเดือนจะจับไปเชือด เอ้ย ทำหมันให้หมดละค่ะ หวังว่าจะไม่มีตัวไหนใจแตกหนีออกไปท้องกลับมาอีกเหมือนยัยตัวแม่ก็แล้วกัน เพี้ยงงงงงง
เมี้ยวววววววววววววววววว ป๋มน่ารักมั้ยฮ้าบบบบบบบ
เต้นออกฉากไปแบบไม่ค่อยเนียนเพราะเแมวพันขาอยู่ค่ะ 5555555
ปล. สุดท้ายก็ยังไม่ได้เขียนนินทายัยป้าเจ้าของบ้านจนแล้วจนรอด ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
เรื่องเล่าจากสาวเอ๋อ :: จากกรุงเทพถึงโอซาก้า เราจะเจอกันแล้ววววว Snoopy Boy!!
เมื่อเร็วๆนี้ จขกท ได้คุยกะหนุ่มนุปปี้ค่ะ ตกลงกันว่าฮีน่าจะมาเมืองไทยช่วงเดือนตุลา (น่าจะมาช่วงๆวันเกิด จขกท เพื่อมาเริ่มนับถอยหลังสู่ตัวเลขที่มากขึ้นกัน (ไม่ดีใจเลยนะ บอกเลย)) และ จขกท ก็กะว่าจะไปญี่ปุ่นช่วงคริสต์มาสนี้ ยิงยาวยันปีใหม่เลย การทำงานฟรีแลนซ์มันสบายยังงี้นี่เอง ไม่ต้องลางานวุ่นวาย วะฮะฮ่า
อันเนื่องมาจากช่งงนี้เรามีเวลาคุยกันเยอะขึ้น และช่วงนี้หนุ่มน้อยก็ดูจะพูดเยอะขึ้นเหมือนกัน ดังนั้นเราก็เลยได้คุยเรื่องเก่าๆสมัยอยู่นิวยอร์คกันบ้าง และได้รู้ว่าจริงๆแล้วฮีเองก็แอบมองเรามานานเหมือนกันแฮะ แต่ไม่รู้ทำไม มันถึงมีแต่เรื่องประหลาดๆสิน่า ="=
เรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ
เรา : นี่ ตอนอยู่นิวยอร์คน่ะ เธอเริ่มสนใจเราตอนไหนหรอ
ฮี : ตั้งแต่แรกแล้วอะ
เรา : แล้วเธอจำอะไรเกี่ยวกับเราได้มั่ง
ฮี : อืม...ก็จำได้ว่าเธอน่ารักดี แล้วก้ออออออออออ
เรา : แล้วก็?
ฮี : จำได้ว่าเธอชอบโดดเรียน (เฮ้ย) เวลาเรียนเธียเตอร์ก็ชอบอยู่หลังห้อง ไม่ยอมขึ้นไปข้างหน้า
เรา : ก็ไม่ต่างกันอะ เธอก็ไม่ยอมขึ้นไปด้านหน้าเหมือนกัน
ฮี : แต่เธอชอบโดดเรียนตอนกลางคลาสนะ พอวอร์มอัพเสร็จ เธอก็หายไปจากคลาสเลย
เรา : ..................(คือถ้าผ่านครึ่งคลาสก็เช็คให้ ถือว่ามาเข้าคลาสแล้วค่ะ)
ฮี : แล้วก็ ประตูหนีไฟ เธอชอบออกไปอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ทำไม (โดดไง ไม่เห็นต้องถาม)
เรา : ก็ในห้องมันร้อนนี่นา
ฮี : แล้วเธอก็ชอบไปนั่งเล่นอยู่ที่บันไดด้วย
เรา : ก็ออกไปซ้อมร้องเพลงอ้ะ
ฮี : แล้วก็ วันอังคาร พอเรียนเธียเตอร์แดนซ์เสร็จ เธอก็จะเข้าคลาสเบสิคพ้อยท์ต่อ ใช่มะ
เรา : รู้ด้วยเหรอ (มันคือคลาสที่คนเริ่มใส่รองเท้าพ้อยท์แรกๆมาเรียนน่ะค่ะ นัยว่าคงเพื่อความแข็งแรงของข้อเท้ามั้ง แต่ จขกท ใส่แค่บัลเล่ต์สลิปเปอร์นิ่มๆไปเรียนนะคะ ไม่มีกะตังค์ซื้อพ้อยท์ชูส์ ฮ่าๆๆๆ)
ฮี : อื้อ ก็มองอยู่นี่
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่ได้เขินนะ แต่ดูนางจำอะไรได้แต่ละอย่าง มีดีๆมั่งมั้ย ตอบบบบบบบบ ตอบม๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
แต่เรื่องดีๆก็พอมีนะคะ อย่างเช่นตอนที่ จขกท ทำขนมมาให้กิน หรือว่าตอนที่เรากลับบ้านพร้อมกัน (ครั้งแรก และครั้งเดียว) หรือตอนที่...ไม่มีแล้วมั้ง ^^"
แล้วเราก็คุยกันเรื่องที่ จขกท จะไปญี่ปุ่นดีมั้ย ฮีก็เลยบอกว่า เราจะมีแสดงวันที่ 23 ธันวานะ (ใครอยู่โอซาก้าเชิญชมและกรี๊ดให้ฮีด้วยนะฮ้าาาาาา (พื้นที่โฆษณา 55555)) จขกท ก็เลยตั้งใจว่าจะไปถึงเช้าวันนั้นแหละค่ะ ซึ่งคุณชายก็บอกว่าเดี่ยวจะให้พ่อมารับ ที่สำคัญคือเดี๋ยวฮีจะรีบจองตั๋วให้ก่อน แล้ว จขกท ค่อยไปคืนเงินทีหลังเอา เพราะขืนรอ จขกท เก็บเงินได้ครบค่าตั๋ว สงสัยจะเป็นธันวานู่น และค่าตั๋วคงพุ่งขึ้นไปเกือบเท่าตัวแหงๆ (เป็นคนดีจริงๆเลยอะ ไม่คืนเลยได้มะ ฮ่าๆๆๆ) และเราจะได้อยู่ด้วยกันวันคริสต์มาสอีฟซักที หลังจากที่ปีที่แล้ว จขกท เหี่ยวแล้วเหี่ยวอีกเพราะทำแต่งาน ตั้งกะคริสต์มาสยันปีใหม่ ฮือๆๆๆๆๆ
ช่วงนี้เห็นว่าฮีเหนื่อยๆ คงเพราะซ้อมเยอะมาก ก็เลยกลับมาบ้านในสภาพปางตายแทบทุกวัน เรียกว่าพอเปิดเฟสไทม์คุยปุ๊บ หัวหนุนหมอนปั๊บ ก็เริ่มตาปิดและกรนครอกๆทันที เราเลยต้องปฏิวัติรูปแบบการคุยใหม่ โดยที่ฮีมักจะชอบขอให้อยู่เป้นเพื่อนทั้งคืน...ใช่ค่ะ เปิดกล้องนอนปิดไฟอยู่ด้วยกันยังงั้น แล้วก็นอนฟังฮีกรนครอกๆไปสิ ซึ่งอย่าว่าแต่ฮีเลย จขกท พอกลับมาถึงบ้านก็อาการไม่ต่างกันเท่าไหร่ ส่วนมากสี่ทุ่มกว่าก็เริ่มสลบแล้วค่ะ โดยที่แพทเทิร์นการสนทนาก่อนสลบจะเป็นประมาณนี้
เรา : นี่ ง่วงแล้วใช่มะ
ฮี : งืออออออ นอนกันเถอะ
เรา : เดี๋ยวขออ่านหนังสืออีกแป๊บ นอนก่อนมั้ย ให้เราวางสายมะ
ฮี : ม่ายอาววว ไม่วางได้มั้ย
เรา : กลัวเสียงดังแล้วเธอนอนไม่ได้อะ
ฮี : ไม่เป็นไร Please stay with me
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ตอบมางี้ไม่อยู่ยังไงไหวล่ะค้าาาาาาา
ไม่รู้ว่าไอ้การขี้อ้อน ทำหน้าแอ๊บแบ๊วนี่มันเป็นบุคลิกปกติของคนญี่ปุ่นมั้ย เพราะทุกครั้งเวลาที่คุยกัน ฮีมักจะทำหน้าแบ๊ว เอียงซ้าย เอียงขวาทุกครั้ง คือไม่ใช่อะไรนะคะ แต่มันเป้นอารมณ์ว่า แบ๊วกว่าตูอีก ^^" ยิ่งเห็นรูปสาวๆญี่ปุ่นในโรงเรียนบัลเล่ต์ของท่านแม่ฮีแล้วยิ่งคิด ไปๆมาๆเลยรู้สึกว่า เออ ที่ฮีมาคบเราได้นี่อาจเป็นเพราะว่าฮีคงเอียนสาวแบ๊วโนเนะน่ารัก เลยมาคว้าสาวถึกแทนก็เป็นได้นะ เพราะบางครั้งที่ถามฮีกลับไปว่าทำไมถึงชอบเรา ฮีมักจะบอกว่า เพราะเธอเป้นสาวเข้มแข็ง แข็งแรงอะดิ (เจี๊ยกกกกกกกก)
แปลว่า ไอ้ที่เคยบอกเราว่าเธอชอบชกต่อย ก็ชอบสินะ ="=
พักหลังๆเริ่มพูดจาลามปามไปถึงอนาคตที่ยังมองไม่เห็นเอาซะเลย เคยถามฮีเล่นๆว่า ถ้ามีลูป อยากได้ลูกสาวหรือลูกชาย ฮีตอบแบบไม่คิดเลยว่า ทั้งสองเลย ซึ่งเราแอบเซ็งนิดๆ เพราะเราเองชอบเด็กผู้หญิงมากกว่า ก็เลยอยากมีลูกสาวไว้ซักสองคน ให้ตบตีกัน (ไม่ใช่ละ) แต่ฮีก็ยังยืนยันคำเดิมว่า เค้าอยากมีทั้งลูกชายลูกสาวอย่างละคนนะ
สุดท้ายมันเลยนำมาซึ่งการสนทนาแบบแปลกๆ...
ฮี : มีทั้งลูกชายลูกสาวเลยละกันนะ
เรา : แล้วถ้าเรามีลูกสาวสองคนละ ฝาแฝด
ฮี : ฝาแฝดเหรอ...
เรา : อื้อ จะพยายามมีลูกชายอีกคนมั้ยเนี่ย
ฮี : นั่นสิ...
เรา : แล้วถ้ามีคนที่สามแล้วเป็นลูกสาวอีกล่ะ (ฉันชอบบบบ)
ฮี : ก็มีแค่สองคนน่ะแหละ
เรา : แล้วถ้า เรามีลูกคนโตเป็นผู้ชายแล้ว แล้วได้ลูกคนที่สองเป็นผู้ชายเหมือนกันอีกคนล่ะ บ้านแตกแน่
ฮี : ไม่ชอบเด็กผู้ชายเหรอ
เรา : ชอบผู้หญิงมากกว่า อยากมีลูกสาวง่ะ อยากแต่งตัวเป็นตุ๊กตา เป้นเจ้าหญิง
ฮี : (คิดอยู่แป๊บก่อนจะดีดนิ้วอย่างมั่นใจ) งั้นจับคนนึงเป็นเกย์ไป ดีมะ
เรา : หา???????????????
ฮี : จะได้แต่งหญิงไง
บอกเลย ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือพูดเล่น เพราะหน้าฮีจริงจังมากค่ะ ณ จุดนั้น แพนจังช๊อคไปเสียแล้ว แต่ว่าไม่ว่ายังไง ฮีก็ยังคงยืนยันว่าเมื่อลูกเริ่มเดินได้เมื่อไหร่คงพามาขลุกอยู่ที่สตูดิโอบัลเล่ต์เป็นแน่แท้ เพื่อให้ซึมซับไปแต่เล็กแต่น้อย และสร้างปีศาจนักบัลเล่ต์ขึ้นมาอีกคู่นึงให้ได้ (ยิ่งถ้าเป็นพี่ชายกับน้องสาวยิ่งดีใหม่ ฮีจะเอามาทำเป็นพาร์ทเนอร์กันเหมือยฮีกะพี่สาวนั่นเองงงง)
ว่าแต่ แล้วเปียโนกะเชลโล่ชั้นล่ะ??????? ชั้นก็อยากสร้างทายาทปีศาจนักดนตรีเหมือนกันนะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ร้องไห้แป๊บ...
ช่วงนี้ดูเหมือนว่าพออากาศร้อน คนบ้านไม่มีแอร์อย่าง จขกท จะหงุดหงิดง่ายเป็นพิเศษเมื่อเห็นคนบางคน(คือฮี)เข้าห้อง เปิดแอร์นอนสบายใจเฉิบ ในขณะที่เราเอาพัดลมจ่อสามตัวแล้วยังไม่ช่วยอะไร แถมทำให้เช้ามาเจ็บคออีกต่างหาก ช่วงนี้ฮีเลยไม่ค่อยกวนประสาทกันเท่าไหร่ บอกเลยว่า จขกท ยังโหยหาอากาศหนาวของนิวยอร์คอยู่ค่ะ (แต่ตอนนั้นเธอก็บนว่าหนาวไม่ใช่เรอะ)
แวะมาส่งกระทู้ให้เอากลับไปนั่งขำๆกันหลังสงกรานต์เรียบร้อย และจะขอจรลีกลับไปจัดตู้ต่อแล้วนะคะ (เพิ่งซื้อตู้เสื้อผ้ามา ได้ฤกษ์เอาของออกจากกระเป๋าเดินทางสักทีหลังจากกลับมาไทยได้สามเดือนพอดีเด๊ะๆ นานไปเนอะ 5555555)
ก่อนแวบกลับไป เลยเอารูปหนุ่มมาฝากกันอีกสักสองรูปละกันค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
ปล. ใครอยากได้แมวบ้างงงงงงงงงง ที่บ้านเหลืออีกห้าตัว เลี้ยงไม่ไหวละคร้าบบบบบ >_< รอเดือนหน้าครบหกเดือนจะจับไปเชือด เอ้ย ทำหมันให้หมดละค่ะ หวังว่าจะไม่มีตัวไหนใจแตกหนีออกไปท้องกลับมาอีกเหมือนยัยตัวแม่ก็แล้วกัน เพี้ยงงงงงง
เมี้ยวววววววววววววววววว ป๋มน่ารักมั้ยฮ้าบบบบบบบ
เต้นออกฉากไปแบบไม่ค่อยเนียนเพราะเแมวพันขาอยู่ค่ะ 5555555
ปล. สุดท้ายก็ยังไม่ได้เขียนนินทายัยป้าเจ้าของบ้านจนแล้วจนรอด ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ