คอมบังวะ.........หล่า.....
คุยกันต่อจากเมื่อวานนี้เลยนะครับ......ตอนนี้ผมไปนอนค้างอยู่ที่เมืองบันเตเมียนเจย.......แล้ววันรุ่งขึ้นก็จะเดินทางไปที่เมืองเสียมราฐ.....เพื่อจะต่อไปยังเมืองกำปงธมและกำปงจาม...แล้วจะไปเมืองมณฑลคีรี ตามลำดับ......ขอย้อนเล่าย้อนหลัง2บรรทัดให้เห็นภาพว่า เมืองเขมรนั่น เขามีทะเลสาปขนาดใหญ่ที่สึดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.....
มันมีความกว้าง 80 กม.และยาวกว่า 180 กม. พาดขวางจากเมืองเสียมเรียบทะแยงผ่านเมืองกำปงจามแล้วก็ไปถึงเมืองพนมเพ็ญ...ที่เริ่มวกลงส่วนใต้ของทะเลสาป จากเมืองพนมเพ็ญซึ่งเริ่มมาอยู่ส่วนใต้ของทะเลสาปเส้นทางก็จะยาวไปจนถึงเมืองสวายเรียงออกเวียตนามได้
หากไม่ไปเวียตนามเราก็ตั้งต้นจากพนมเพ็ญขับรถอ้อมทางใต้ทะเลสาป มายังเมืองกำปงชนังที่ผมเคยขับรถมากินปลาช้าง ถนนสายนี้จะดี 80%และมีหลุมบ่อประมาณ 20%...
....(ปลาช้างของเขมรคือปลาบู่ของไทยเรา...เมืองเขมรมีนิทานเรื่องนางปลาบู่ทองด้วย..เขาเลยไม่กินปลาบู่กัน เพราะสงสาร-คล้ายๆคนไทยบางคนที่ยังยึดติดอยู่กับนิทานพื้นบ้าน.........ส่วนตัวผมนั้น เมื่อขี่รถเที่ยวอยู่ในประเทศไทย...ตอนที่ขับผ่านอำเภอตาพระยา(จากอรัญฯจะไปจังหวัดบุรีรัมย์-ที่อำเภอโนนดินแดง.....จะผ่านเขื่อนลำนางรอง......ผมมักจะแวะเข้าไปดูตลาดปลาที่อยู่ใกล้ๆกันนั้น.......ปลาบู่เขื่อนตัวใหญ่ๆเขาขายกันกิโละ60บาทเองแหละ
สาเหตุที่ราคามันถูกอย่างนี้เพราะคนไทยเราก็มีคตินิยมแบบเดียวกับคนในเอเซียที่มีนิทานพื้นบ้านเหมือนกันนั่นแหละ......ผมมักจะหาเรื่องขี่รถไปแวะเวียนอยู่แถวๆบุรีรัมย์และเส้นทางสายอิสานใต้บ่อยๆ...เรียกว่าคุ้นกับพื้นที่แถวนั้นค่อนข้างดี.....เพราะคลุ้มคลั่งเพลงกันตรึมเป็นประเด็นสำคัญ......ตอนขากลับจากพื้นที่สายอิสานใต้...ผมก็จะเหมาปลาบู่จากแม่ค้าที่มีคุ้นเคย(บางทีก็สั่งไว้ล่วงหน้า...ให้เขาเก็บใส่กล่องโฟมเอาไว้ทีละหลายกิโล...เอามาทอดแกล้มเบียร์บ้าง-นึ่งบ้าง....ก็บ้าๆบอๆผมไปตามเรื่องแหละ)
ฮ่วยๆๆๆๆๆ....เกือบจะไม่ได้ไปไหนอีกแล้วแฮะ....
หลังจากเช็ครถและเติมน้ำมันออโต้ลูปจนเต็มในกระเปาะสำรอง เราก็เริ่มเดินทางออกจากเมืองบันเตเมียนเจยหลังจากบรรจุกระเพาะด้วย
ก๋วยเตี๋ยวและกาแฟคนละแก้วในช่วงเช้าของวันนั้น.....เส้นทางยังคงเป็นทางเกวียนไปตามเดิม
นี่คือเขากูปรีที่สมบูรณ์ๆ........เขาขายกันคู่ละเป็นแสนบาทนะครับ......แต่เชื่อแน่ว่าหายากมากแล้ว...ส่วนมากจะเป็นเขาเทียมที่ทำจากเรซิ่น.......ผมไปเที่ยวตลาดโรงเกลือ.....ยังเห็นพ่อค้าเขมร เอามาขายอยู่.....คู่ละ5-6พันบาท.....แต่ร้อยทั้งร้อย....เป็นของเทียมที่ทำจากเรซิ่น
ส่วนเจ้านี่คือนายเคี้ยงโมโต.....ที่ผมยืมชื่อเขามาตั้งเป็นล้อคอิน.....
อยากให้กระทู้มีสาระ(มารู้จักกับนายเคี้ยงกันหน่อย3)
คุยกันต่อจากเมื่อวานนี้เลยนะครับ......ตอนนี้ผมไปนอนค้างอยู่ที่เมืองบันเตเมียนเจย.......แล้ววันรุ่งขึ้นก็จะเดินทางไปที่เมืองเสียมราฐ.....เพื่อจะต่อไปยังเมืองกำปงธมและกำปงจาม...แล้วจะไปเมืองมณฑลคีรี ตามลำดับ......ขอย้อนเล่าย้อนหลัง2บรรทัดให้เห็นภาพว่า เมืองเขมรนั่น เขามีทะเลสาปขนาดใหญ่ที่สึดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.....
มันมีความกว้าง 80 กม.และยาวกว่า 180 กม. พาดขวางจากเมืองเสียมเรียบทะแยงผ่านเมืองกำปงจามแล้วก็ไปถึงเมืองพนมเพ็ญ...ที่เริ่มวกลงส่วนใต้ของทะเลสาป จากเมืองพนมเพ็ญซึ่งเริ่มมาอยู่ส่วนใต้ของทะเลสาปเส้นทางก็จะยาวไปจนถึงเมืองสวายเรียงออกเวียตนามได้
หากไม่ไปเวียตนามเราก็ตั้งต้นจากพนมเพ็ญขับรถอ้อมทางใต้ทะเลสาป มายังเมืองกำปงชนังที่ผมเคยขับรถมากินปลาช้าง ถนนสายนี้จะดี 80%และมีหลุมบ่อประมาณ 20%...
....(ปลาช้างของเขมรคือปลาบู่ของไทยเรา...เมืองเขมรมีนิทานเรื่องนางปลาบู่ทองด้วย..เขาเลยไม่กินปลาบู่กัน เพราะสงสาร-คล้ายๆคนไทยบางคนที่ยังยึดติดอยู่กับนิทานพื้นบ้าน.........ส่วนตัวผมนั้น เมื่อขี่รถเที่ยวอยู่ในประเทศไทย...ตอนที่ขับผ่านอำเภอตาพระยา(จากอรัญฯจะไปจังหวัดบุรีรัมย์-ที่อำเภอโนนดินแดง.....จะผ่านเขื่อนลำนางรอง......ผมมักจะแวะเข้าไปดูตลาดปลาที่อยู่ใกล้ๆกันนั้น.......ปลาบู่เขื่อนตัวใหญ่ๆเขาขายกันกิโละ60บาทเองแหละ
สาเหตุที่ราคามันถูกอย่างนี้เพราะคนไทยเราก็มีคตินิยมแบบเดียวกับคนในเอเซียที่มีนิทานพื้นบ้านเหมือนกันนั่นแหละ......ผมมักจะหาเรื่องขี่รถไปแวะเวียนอยู่แถวๆบุรีรัมย์และเส้นทางสายอิสานใต้บ่อยๆ...เรียกว่าคุ้นกับพื้นที่แถวนั้นค่อนข้างดี.....เพราะคลุ้มคลั่งเพลงกันตรึมเป็นประเด็นสำคัญ......ตอนขากลับจากพื้นที่สายอิสานใต้...ผมก็จะเหมาปลาบู่จากแม่ค้าที่มีคุ้นเคย(บางทีก็สั่งไว้ล่วงหน้า...ให้เขาเก็บใส่กล่องโฟมเอาไว้ทีละหลายกิโล...เอามาทอดแกล้มเบียร์บ้าง-นึ่งบ้าง....ก็บ้าๆบอๆผมไปตามเรื่องแหละ)
ฮ่วยๆๆๆๆๆ....เกือบจะไม่ได้ไปไหนอีกแล้วแฮะ....
หลังจากเช็ครถและเติมน้ำมันออโต้ลูปจนเต็มในกระเปาะสำรอง เราก็เริ่มเดินทางออกจากเมืองบันเตเมียนเจยหลังจากบรรจุกระเพาะด้วย
ก๋วยเตี๋ยวและกาแฟคนละแก้วในช่วงเช้าของวันนั้น.....เส้นทางยังคงเป็นทางเกวียนไปตามเดิม
นี่คือเขากูปรีที่สมบูรณ์ๆ........เขาขายกันคู่ละเป็นแสนบาทนะครับ......แต่เชื่อแน่ว่าหายากมากแล้ว...ส่วนมากจะเป็นเขาเทียมที่ทำจากเรซิ่น.......ผมไปเที่ยวตลาดโรงเกลือ.....ยังเห็นพ่อค้าเขมร เอามาขายอยู่.....คู่ละ5-6พันบาท.....แต่ร้อยทั้งร้อย....เป็นของเทียมที่ทำจากเรซิ่น
ส่วนเจ้านี่คือนายเคี้ยงโมโต.....ที่ผมยืมชื่อเขามาตั้งเป็นล้อคอิน.....