กลับมารีวิวสานต่อประสบการณ์การท่องเที่ยวในทริปตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะอีสานตอนใต้ต่อกัมพูชาตอนเหนือกันอีกนะครับ โดยกระทู้ที่เขียนเล่าประสบการณ์ในการท่องเที่ยวของผมในตอนที่ 4 นี้จะเป็นการไปเที่ยวชมปราสาทขอมในฝั่งกัมพูชาที่เมืองเสียมเรียบ และปราสาทตามรายทางระหว่างเสียมเรียบไปยังกำปงธมในวันที่ 7 - 8 ของทริปนี้
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับการเดินทางท่องเที่ยวของผมในทริปตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะอีสานตอนใต้ต่อกัมพูชาตอนเหนือ 13 วัน กันก่อนนะครับ
วันที่ 1 : เดินทางจากกรุงเทพฯ – บุรีรัมย์ เที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวในเขตอำเภอเมืองบุรีรัมย์
วันที่ 2 : เที่ยวปราสาทหินและสถานที่ท่องเที่ยวในเขตอำเภอละหานทราย โนนดินแดง และปะคำ และชมการแสดงแสงสีเสียง
ในงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง
วันที่ 3 : เที่ยวปราสาทหินในเขตบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ และอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ และร่วมชมขบวนแห่ประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง
วันที่ 4 : เที่ยวปราสาทหินในเขตอำเภอปราสาท สังขะ และบัวเชดของจังหวัดสุรินทร์
วันที่ 5 : เดินทางจากสุรินทร์ไปจังหวัดสระแก้ว และเที่ยวปราสาทหินในจังหวัดสระแก้ว
วันที่ 6 : เที่ยวปราสาทหินและสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสระแก้ว (ต่อ)
วันที่ 7 : เดินทางไปเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา และเที่ยวปราสาทหินในเมืองเสียมเรียบ
วันที่ 8 : เที่ยวปราสาทหินกลุ่มหริหราลัย และปราสาทหินรายทางระหว่างทางจากเสียมเรียบไปกำปงธม
วันที่ 9 : เที่ยวกลุ่มปราสาทสมโบร์ไพรกุกที่เมืองกำปงธม
วันที่ 10 : เดินทางไปเมืองพระตะบอง และเที่ยวปราสาทหินในเมืองพระตะบอง
วันที่ 11 : เที่ยวปราสาทหินและสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองพระตะบอง
วันที่ 12 : เที่ยวกลุ่มปราสาทหินบันทายฉมาร์ที่เมืองบันเตียเมียนเจย
วันที่ 13 : เที่ยวเก็บตกในเมืองพระตะบอง และเดินทางกลับบ้าน
วันที่ 7 : เดินทางไปเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา และเที่ยวปราสาทหินในเมืองเสียมเรียบ
วันนี้เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมที่พักตอน 8 โมงเช้าเพราะต้องข้ามด่านไปฝั่งกัมพูชาเพื่อไปเที่ยวชมปราสาทหินในฝั่งกัมพูชากันต่อ โดยผมได้ขี่รถจากโรงแรมที่พักไปคืนรถเช่าที่ตลาดโรงเกลือ และส่งสัมภาระที่ใช้แล้วไม่จำเป็นกลับบ้านทาง kerry เพื่อประหยัดพื้นที่กระเป๋าไปใส่ของฝากที่ระลึกที่จะซื้อมาจากเมืองเสียมเรียบต่อ
ใช้เวลาทำเรื่องไม่นานเราก็มายืนเต๊ะท่าที่ฝั่งปอยเปตของกัมพูชาแล้ว วันที่ผมข้ามแดนไปนี้มีชาวเขมรทยอยข้ามด่านกลับบ้านกันมาก เพราะร้านรวงในตลาดโรงเกลือจะปิดเกือบเงียบเหงาเลยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะชาวเขมรที่เข้าทำงานในตลาดโรงเกลือและละแวกใกล้เคียงจะกลับไปฉลองปีใหม่เขมรกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั่นเอง
รอบนี้ผมเดินทางจากด่านปอยเปตไปยังเมืองเสียมเรียบด้วยการนั่งรถเก๋งแชร์แท๊กซี่นะครับ พอดีได้พี่คนเขมรแถวนั้นเค้าทราบว่าเราจะไปเสียมเรียบ ตอนแรกต้องรอรถรอบ 10.30 น. ซึ่งนานเป็นชั่วโมง เค้าเลยเรียกให้เรานั่งไปกับคนไทยที่เค้านั่งไปเสียมเรียบด้วย ราคาก็เหมาะสมนะรับได้ 400 บาท ส่งเราถึงโรงแรมที่พักในเสียมเรียบเลยสะดวกดีไม่ต้องเสียค่ารถตุ๊กตุ๊กต่ออีกรอบ
โดยปกติราคารถมินิแวนหรือรถบัสจากสถานีขนส่งปอยเปตไปยังเสียมเรียบจะอยู่ที่ราคา 10 ดอลลาร์นะครับ เพราะผมเคยไปมาเมื่อ 5 ปีก่อน แต่รถดังกล่าวจะส่งเรานอกเมืองเสียมเรียบ เค้าจะส่งต่อเราให้ต้องนั่งรถตุ๊กตุ๊กจ้างไปส่งที่โรงแรมที่พักในเสียมเรียบอีกทีหนึ่ง ราคาตุ๊กตุ๊กจะแพงมหาโหดรู้สึกว่า 8 - 10 ดอลลาร์นะ แต่ตอนนั้นผมไม่ได้จ้างเพราะรอบก่อนผมเหมารถให้เค้าพานำเที่ยวในกลุ่มเราอยู่แล้ว ส่วนราคาปกติแชร์แท๊กซี่ที่คนท้องถิ่นเค้านั่งกันจากด่านปอยเปตไปเสียมเรียบจะอยู่ที่ 8 ดอลลาร์ หรือราคา 300 บาทนะครับ
ระยะทางจากด่านปอยเปตไปถึงโรงแรมที่พักของผมในเมืองเสียมเรียบก็ประมาณ 150 ก.ม. รถวิ่งเร็วดีมากและไม่มีการจอดแวะพักทานข้าวเหมือนรถสาธารณะที่เคยนั่ง ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง ผมก็มาถึงโรงแรมที่เสียมเรียบในเวลาตอนเที่ยงวันพอดี เร็วจริงแท้ ฮิฮิ...
เช็คอินดูห้องพักและเก็บสัมภาระก่อน แล้วไปสอบถามโรงแรมที่พักว่ามีให้บริการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่ไหม พนักงานโรงแรมก็แสนดีบอกไม่มี และที่เมืองเสียมเรียบเค้าไม่มีรถเช่าให้นักท่องเที่ยวขี่ชมปราสาทกัน แฮม ! มาถึงหลอกตูเลยนะ เคยมาครั้งก่อนเห็นฝรั่งขี่รถมอเตอร์ไซค์กันให้คึกไปหมด เรื่องอะไรจะใช้บริการรถตุ๊กตุ๊กที่จำกัดให้เราชมปราสาทตามโปรแกรมของเค้า เพราะรอบนี้ผมตั้งใจใช้เมืองเสียมเรียบเป็นเพียงทางผ่าน เน้นไปดูปราสาทเล็ก ๆ ด้านหน้าพอ ไม่ได้เข้าไปชมด้านใน ดังนั้น ผมจึงไม่ใช้บริการรถตุ๊กตุ๊ก และไม่ได้ซื้อบัตรเข้าชมเหมือนรอบก่อน
ผมเดินไปในซอยซอกซานถัดจากโรงแรมที่พักไปไม่ไกลก็เจอร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์ เจ้าของร้านเช่ารถ 2 คนผัวเมียชาวเชมรก็ดีใจที่ทราบว่าเราเป็นคนไทย เพราะเค้าชอบคนไทยมาก รู้สึกไปมา 3 เมืองในทริปนี้ เจอคนเขมรอัธยาศัยไมตรีดีมากมีน้ำใจกับคนไทยจริง ๆ ซึ่งแตกต่างไปจากรอบก่อนที่เจอแต่พวกรถตุ๊กตุ๊กจ้องจะโกงเงินเราและเล่นตุกติกเวลาพาชมปราสาท
เจ้าของรถหารถใหม่เกียร์ออโต้ให้ผมเช่าเลย เค้าบอกรถที่เหลือจากฝรั่งเช่าที่โชว์อยู่หน้าร้านไม่ดี สภาพเก่า เดี๋ยวเค้าไปเอารถจากร้านน้องชายอีกร้านมาให้ เจ้าของพูดภาษาไทยได้มากเพราะเค้าบอกเคยไปทำงานที่เมืองไทยที่สมุทรปราการมาหลายปี ราคาค่าเช่ารถตกวันละ 10 ดอลลาร์หรือ 320 บาท คิดรอบชนรอบ ก็ถือว่าราคาเหมาะสมนะครับกับการบริการและคุณภาพของรถ
ภาพรถที่เช่าจากร้านเช่ารถในเมืองเสียมเรียบ ใช้ขี่รถไปชมปราสาทในเมืองเสียมเรียบ และกลุ่มปราสาทสมโบร์ไพรกุกที่เมืองกำปงธม แต่ทะเบียนรถเป็นพนมเปญนะครับ
จริง ๆ ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์และรถจักรยานให้ขี่กันชมปราสาทขอมในเมืองเสียมเรียบก็มีให้บริการหลายร้านนะครับ ส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้กับตลาดปซาจ๊ะ และริมถนนใกล้กับตลาดไนท์มาร์เก็ตก่อนถึงแยกวงเวียน และก็มีในซอยซอกซานที่ผมพัก มีทั้งรถธรรมดากับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้เช่า เจ้าของร้านเช่ารถบอกว่า เวลาขี่รถให้เลี่ยงตรงถนนที่ผ่านตลาดไนท์มาร์เก็ตหรือตรงผับสรีทเพราะจะมีตำรวจดักตรวจจับนักท่องเที่ยวที่ขี่รถเองไปชมปราสาท ไม่รู้จริงแท้แค่ไหน แต่ผมก็ขี่รถเลี่ยงไปในซอยไปออกตรงทางเลี่ยงเมืองเลยเพราะรถน้อยกว่าถนนเส้นหลักที่ผ่านตลาดนะครับ
เป้าหมายแรกขี่รถไปชม
บารายตะวันตก และปราสาทออกยม ก่อนเพราะเป็นสถานที่ที่ผมยังไม่เคยไปชม ทั้ง ๆ ที่เคยมาเมืองเสียมเรียบถึง 2 ครั้งแล้ว ใช้เวลาขี่รถไปไม่นานแค่ 20 นาทีก็ถึงแล้ว ระยะทางประมาณ 12 ก.ม.ได้
บารายตะวันตกเป็นบารายขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองพระนคร ยังคงมีน้ำเก็บกับอยู่กว้างใหญ่เหมือนทะเลสาบเลย กลางบารายจะมีปราสาทแม่บุญตะวันตกตั้งอยู่ และริมบารายมีร้านอาหารเหมือนแพตั้งเรียงรายขายอาหารให้นักท่องเที่ยวกันหลายร้าน ด้านบนริมถนนมีร้านขายของฝากที่ระลึกมากมาย วันที่ผมไปมีรถบัสกรุ๊ปทัวร์เกาหลีและญี่ปุ่นแวะมากันเพียบ เพราะจุดนี้บรรยากาศดีนั่งกินข้าวชมวิวทะเลสาบกันไปว่างั้น
ถัดจากการชมบารายตะวันตกแล้ว ผมก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ต่อไปชมปราสาทเล็ก ๆ ที่อยู่ริมบารายตะวันตก ไม่ไกลจากจุดที่ผมยืนชมบารายอยู่มากนัก นั่นก็คือ
ปราสาทออกยม ซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ไปราว 1 กิโลเมตรกว่าแค่นั่นเอง
สภาพปราสาทออกยมในปัจจุจันมีชำรุดและพังทลายลงจนเกือบไม่หลงเหลือเค้าเดิมอยู่เลย พบแท่นประดิษฐานศิวลึงค์ขนาดใหญ่กองอยู่บริเวณปราสาท ตามประวัติบอกว่า ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 14 ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 และมีการสร้างต่อเติมอีกหลายสมัย เป็นศิลปะขอมแบบกำพงพระ
ผมใช้เวลาชมปราสาทออกยมไม่นานเพราะไม่ค่อยหลงเหลืออะไรให้ชมสักเท่าไหร่ก็ขี่รถกลับไปโรงแรมก่อนแล้วจึงค่อยขี่รถต่อไปชม
ปราสาทนครวัด แต่เนื่องจากรอบนี้ผมไม่ได้กะจะเข้าไปชมภายในปราสาทต่าง ๆ ที่เคยไปชมมาแล้ว จึงไม่ได้ซื้อบัตรเข้าชมเหมือนทุกครั้ง จึงแวะถ่ายรูปแค่ด้านหน้าปราสาทนครวัดเท่านั้น
แวะมาถ่ายรูปเช็คอินที่ด้านหน้าปราสาทนครวัด แสดงถึงสัญลักษณ์ของการมาถึงเมืองเสียมเรียบโดยสมบูรณ์สักหน่อย มาชมปราสาทนครวัดถ้านับครั้งนี้ก็ครั้งที่ 3 แล้ว แต่ก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจชอบชมปราสาทขอมทุกครั้งเหมือนเช่นเคย มาครั้งนี้ทางเดินข้ามสระน้ำด้านหน้าปราสาทกำลังซ่อมแซมกันอยู่เลย เลยปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมปราสาททางด้านนี้ เห็นทางกัมพูชาเค้าทำสะพานข้ามสระน้ำอีกฝั่งแทนไม่ไกลจากจุดนี้ให้นักท่องเที่ยวใช้ข้ามไปชมด้านในของปราสาท
หลังจากถ่ายรูปด้านหน้าปราสาทนครวัดเสร็จแล้ว ผมก็ขี่รถต่อไปยัง
ปราสาทบายนของเมืองนครธม ที่อยู่ห่างจากที่นี่เพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น
ก่อนไปถ่ายรูปด้านหน้าปราสาทบายน ไหน ๆ ก็ต้องผ่านประตูเมืองนครธมที่มีงานประติมากรรมตอนกวนเกษีณสมุทรที่สวยงามและซุ้มประตูทางเข้าทำเป็นรูปหน้าคน 4 ทิศ เลยถือโอกาสแวะถ่ายรูปเช็คอินสักหน่อยเพราะชอบนะดูออกแบบเก๋ดี
ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะอีสานตอนใต้ต่อกัมพูชาตอนเหนือ ตอนที่ 4
กลับมารีวิวสานต่อประสบการณ์การท่องเที่ยวในทริปตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะอีสานตอนใต้ต่อกัมพูชาตอนเหนือกันอีกนะครับ โดยกระทู้ที่เขียนเล่าประสบการณ์ในการท่องเที่ยวของผมในตอนที่ 4 นี้จะเป็นการไปเที่ยวชมปราสาทขอมในฝั่งกัมพูชาที่เมืองเสียมเรียบ และปราสาทตามรายทางระหว่างเสียมเรียบไปยังกำปงธมในวันที่ 7 - 8 ของทริปนี้
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับการเดินทางท่องเที่ยวของผมในทริปตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะอีสานตอนใต้ต่อกัมพูชาตอนเหนือ 13 วัน กันก่อนนะครับ
วันที่ 1 : เดินทางจากกรุงเทพฯ – บุรีรัมย์ เที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวในเขตอำเภอเมืองบุรีรัมย์
วันที่ 2 : เที่ยวปราสาทหินและสถานที่ท่องเที่ยวในเขตอำเภอละหานทราย โนนดินแดง และปะคำ และชมการแสดงแสงสีเสียง
ในงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง
วันที่ 3 : เที่ยวปราสาทหินในเขตบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ และอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ และร่วมชมขบวนแห่ประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง
วันที่ 4 : เที่ยวปราสาทหินในเขตอำเภอปราสาท สังขะ และบัวเชดของจังหวัดสุรินทร์
วันที่ 5 : เดินทางจากสุรินทร์ไปจังหวัดสระแก้ว และเที่ยวปราสาทหินในจังหวัดสระแก้ว
วันที่ 6 : เที่ยวปราสาทหินและสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสระแก้ว (ต่อ)
วันที่ 7 : เดินทางไปเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา และเที่ยวปราสาทหินในเมืองเสียมเรียบ
วันที่ 8 : เที่ยวปราสาทหินกลุ่มหริหราลัย และปราสาทหินรายทางระหว่างทางจากเสียมเรียบไปกำปงธม
วันที่ 9 : เที่ยวกลุ่มปราสาทสมโบร์ไพรกุกที่เมืองกำปงธม
วันที่ 10 : เดินทางไปเมืองพระตะบอง และเที่ยวปราสาทหินในเมืองพระตะบอง
วันที่ 11 : เที่ยวปราสาทหินและสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองพระตะบอง
วันที่ 12 : เที่ยวกลุ่มปราสาทหินบันทายฉมาร์ที่เมืองบันเตียเมียนเจย
วันที่ 13 : เที่ยวเก็บตกในเมืองพระตะบอง และเดินทางกลับบ้าน
วันที่ 7 : เดินทางไปเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา และเที่ยวปราสาทหินในเมืองเสียมเรียบ
วันนี้เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมที่พักตอน 8 โมงเช้าเพราะต้องข้ามด่านไปฝั่งกัมพูชาเพื่อไปเที่ยวชมปราสาทหินในฝั่งกัมพูชากันต่อ โดยผมได้ขี่รถจากโรงแรมที่พักไปคืนรถเช่าที่ตลาดโรงเกลือ และส่งสัมภาระที่ใช้แล้วไม่จำเป็นกลับบ้านทาง kerry เพื่อประหยัดพื้นที่กระเป๋าไปใส่ของฝากที่ระลึกที่จะซื้อมาจากเมืองเสียมเรียบต่อ
ใช้เวลาทำเรื่องไม่นานเราก็มายืนเต๊ะท่าที่ฝั่งปอยเปตของกัมพูชาแล้ว วันที่ผมข้ามแดนไปนี้มีชาวเขมรทยอยข้ามด่านกลับบ้านกันมาก เพราะร้านรวงในตลาดโรงเกลือจะปิดเกือบเงียบเหงาเลยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะชาวเขมรที่เข้าทำงานในตลาดโรงเกลือและละแวกใกล้เคียงจะกลับไปฉลองปีใหม่เขมรกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั่นเอง
รอบนี้ผมเดินทางจากด่านปอยเปตไปยังเมืองเสียมเรียบด้วยการนั่งรถเก๋งแชร์แท๊กซี่นะครับ พอดีได้พี่คนเขมรแถวนั้นเค้าทราบว่าเราจะไปเสียมเรียบ ตอนแรกต้องรอรถรอบ 10.30 น. ซึ่งนานเป็นชั่วโมง เค้าเลยเรียกให้เรานั่งไปกับคนไทยที่เค้านั่งไปเสียมเรียบด้วย ราคาก็เหมาะสมนะรับได้ 400 บาท ส่งเราถึงโรงแรมที่พักในเสียมเรียบเลยสะดวกดีไม่ต้องเสียค่ารถตุ๊กตุ๊กต่ออีกรอบ
โดยปกติราคารถมินิแวนหรือรถบัสจากสถานีขนส่งปอยเปตไปยังเสียมเรียบจะอยู่ที่ราคา 10 ดอลลาร์นะครับ เพราะผมเคยไปมาเมื่อ 5 ปีก่อน แต่รถดังกล่าวจะส่งเรานอกเมืองเสียมเรียบ เค้าจะส่งต่อเราให้ต้องนั่งรถตุ๊กตุ๊กจ้างไปส่งที่โรงแรมที่พักในเสียมเรียบอีกทีหนึ่ง ราคาตุ๊กตุ๊กจะแพงมหาโหดรู้สึกว่า 8 - 10 ดอลลาร์นะ แต่ตอนนั้นผมไม่ได้จ้างเพราะรอบก่อนผมเหมารถให้เค้าพานำเที่ยวในกลุ่มเราอยู่แล้ว ส่วนราคาปกติแชร์แท๊กซี่ที่คนท้องถิ่นเค้านั่งกันจากด่านปอยเปตไปเสียมเรียบจะอยู่ที่ 8 ดอลลาร์ หรือราคา 300 บาทนะครับ
ระยะทางจากด่านปอยเปตไปถึงโรงแรมที่พักของผมในเมืองเสียมเรียบก็ประมาณ 150 ก.ม. รถวิ่งเร็วดีมากและไม่มีการจอดแวะพักทานข้าวเหมือนรถสาธารณะที่เคยนั่ง ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง ผมก็มาถึงโรงแรมที่เสียมเรียบในเวลาตอนเที่ยงวันพอดี เร็วจริงแท้ ฮิฮิ...
เช็คอินดูห้องพักและเก็บสัมภาระก่อน แล้วไปสอบถามโรงแรมที่พักว่ามีให้บริการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่ไหม พนักงานโรงแรมก็แสนดีบอกไม่มี และที่เมืองเสียมเรียบเค้าไม่มีรถเช่าให้นักท่องเที่ยวขี่ชมปราสาทกัน แฮม ! มาถึงหลอกตูเลยนะ เคยมาครั้งก่อนเห็นฝรั่งขี่รถมอเตอร์ไซค์กันให้คึกไปหมด เรื่องอะไรจะใช้บริการรถตุ๊กตุ๊กที่จำกัดให้เราชมปราสาทตามโปรแกรมของเค้า เพราะรอบนี้ผมตั้งใจใช้เมืองเสียมเรียบเป็นเพียงทางผ่าน เน้นไปดูปราสาทเล็ก ๆ ด้านหน้าพอ ไม่ได้เข้าไปชมด้านใน ดังนั้น ผมจึงไม่ใช้บริการรถตุ๊กตุ๊ก และไม่ได้ซื้อบัตรเข้าชมเหมือนรอบก่อน
ผมเดินไปในซอยซอกซานถัดจากโรงแรมที่พักไปไม่ไกลก็เจอร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์ เจ้าของร้านเช่ารถ 2 คนผัวเมียชาวเชมรก็ดีใจที่ทราบว่าเราเป็นคนไทย เพราะเค้าชอบคนไทยมาก รู้สึกไปมา 3 เมืองในทริปนี้ เจอคนเขมรอัธยาศัยไมตรีดีมากมีน้ำใจกับคนไทยจริง ๆ ซึ่งแตกต่างไปจากรอบก่อนที่เจอแต่พวกรถตุ๊กตุ๊กจ้องจะโกงเงินเราและเล่นตุกติกเวลาพาชมปราสาท
เจ้าของรถหารถใหม่เกียร์ออโต้ให้ผมเช่าเลย เค้าบอกรถที่เหลือจากฝรั่งเช่าที่โชว์อยู่หน้าร้านไม่ดี สภาพเก่า เดี๋ยวเค้าไปเอารถจากร้านน้องชายอีกร้านมาให้ เจ้าของพูดภาษาไทยได้มากเพราะเค้าบอกเคยไปทำงานที่เมืองไทยที่สมุทรปราการมาหลายปี ราคาค่าเช่ารถตกวันละ 10 ดอลลาร์หรือ 320 บาท คิดรอบชนรอบ ก็ถือว่าราคาเหมาะสมนะครับกับการบริการและคุณภาพของรถ
ภาพรถที่เช่าจากร้านเช่ารถในเมืองเสียมเรียบ ใช้ขี่รถไปชมปราสาทในเมืองเสียมเรียบ และกลุ่มปราสาทสมโบร์ไพรกุกที่เมืองกำปงธม แต่ทะเบียนรถเป็นพนมเปญนะครับ
จริง ๆ ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์และรถจักรยานให้ขี่กันชมปราสาทขอมในเมืองเสียมเรียบก็มีให้บริการหลายร้านนะครับ ส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้กับตลาดปซาจ๊ะ และริมถนนใกล้กับตลาดไนท์มาร์เก็ตก่อนถึงแยกวงเวียน และก็มีในซอยซอกซานที่ผมพัก มีทั้งรถธรรมดากับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้เช่า เจ้าของร้านเช่ารถบอกว่า เวลาขี่รถให้เลี่ยงตรงถนนที่ผ่านตลาดไนท์มาร์เก็ตหรือตรงผับสรีทเพราะจะมีตำรวจดักตรวจจับนักท่องเที่ยวที่ขี่รถเองไปชมปราสาท ไม่รู้จริงแท้แค่ไหน แต่ผมก็ขี่รถเลี่ยงไปในซอยไปออกตรงทางเลี่ยงเมืองเลยเพราะรถน้อยกว่าถนนเส้นหลักที่ผ่านตลาดนะครับ
เป้าหมายแรกขี่รถไปชม บารายตะวันตก และปราสาทออกยม ก่อนเพราะเป็นสถานที่ที่ผมยังไม่เคยไปชม ทั้ง ๆ ที่เคยมาเมืองเสียมเรียบถึง 2 ครั้งแล้ว ใช้เวลาขี่รถไปไม่นานแค่ 20 นาทีก็ถึงแล้ว ระยะทางประมาณ 12 ก.ม.ได้
บารายตะวันตกเป็นบารายขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองพระนคร ยังคงมีน้ำเก็บกับอยู่กว้างใหญ่เหมือนทะเลสาบเลย กลางบารายจะมีปราสาทแม่บุญตะวันตกตั้งอยู่ และริมบารายมีร้านอาหารเหมือนแพตั้งเรียงรายขายอาหารให้นักท่องเที่ยวกันหลายร้าน ด้านบนริมถนนมีร้านขายของฝากที่ระลึกมากมาย วันที่ผมไปมีรถบัสกรุ๊ปทัวร์เกาหลีและญี่ปุ่นแวะมากันเพียบ เพราะจุดนี้บรรยากาศดีนั่งกินข้าวชมวิวทะเลสาบกันไปว่างั้น
ถัดจากการชมบารายตะวันตกแล้ว ผมก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ต่อไปชมปราสาทเล็ก ๆ ที่อยู่ริมบารายตะวันตก ไม่ไกลจากจุดที่ผมยืนชมบารายอยู่มากนัก นั่นก็คือ ปราสาทออกยม ซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ไปราว 1 กิโลเมตรกว่าแค่นั่นเอง
สภาพปราสาทออกยมในปัจจุจันมีชำรุดและพังทลายลงจนเกือบไม่หลงเหลือเค้าเดิมอยู่เลย พบแท่นประดิษฐานศิวลึงค์ขนาดใหญ่กองอยู่บริเวณปราสาท ตามประวัติบอกว่า ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 14 ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 และมีการสร้างต่อเติมอีกหลายสมัย เป็นศิลปะขอมแบบกำพงพระ
ผมใช้เวลาชมปราสาทออกยมไม่นานเพราะไม่ค่อยหลงเหลืออะไรให้ชมสักเท่าไหร่ก็ขี่รถกลับไปโรงแรมก่อนแล้วจึงค่อยขี่รถต่อไปชม ปราสาทนครวัด แต่เนื่องจากรอบนี้ผมไม่ได้กะจะเข้าไปชมภายในปราสาทต่าง ๆ ที่เคยไปชมมาแล้ว จึงไม่ได้ซื้อบัตรเข้าชมเหมือนทุกครั้ง จึงแวะถ่ายรูปแค่ด้านหน้าปราสาทนครวัดเท่านั้น
แวะมาถ่ายรูปเช็คอินที่ด้านหน้าปราสาทนครวัด แสดงถึงสัญลักษณ์ของการมาถึงเมืองเสียมเรียบโดยสมบูรณ์สักหน่อย มาชมปราสาทนครวัดถ้านับครั้งนี้ก็ครั้งที่ 3 แล้ว แต่ก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจชอบชมปราสาทขอมทุกครั้งเหมือนเช่นเคย มาครั้งนี้ทางเดินข้ามสระน้ำด้านหน้าปราสาทกำลังซ่อมแซมกันอยู่เลย เลยปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมปราสาททางด้านนี้ เห็นทางกัมพูชาเค้าทำสะพานข้ามสระน้ำอีกฝั่งแทนไม่ไกลจากจุดนี้ให้นักท่องเที่ยวใช้ข้ามไปชมด้านในของปราสาท
หลังจากถ่ายรูปด้านหน้าปราสาทนครวัดเสร็จแล้ว ผมก็ขี่รถต่อไปยัง ปราสาทบายนของเมืองนครธม ที่อยู่ห่างจากที่นี่เพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น
ก่อนไปถ่ายรูปด้านหน้าปราสาทบายน ไหน ๆ ก็ต้องผ่านประตูเมืองนครธมที่มีงานประติมากรรมตอนกวนเกษีณสมุทรที่สวยงามและซุ้มประตูทางเข้าทำเป็นรูปหน้าคน 4 ทิศ เลยถือโอกาสแวะถ่ายรูปเช็คอินสักหน่อยเพราะชอบนะดูออกแบบเก๋ดี