1. ไร้ยางอายในการบิดเบือนกฎหมาย เนื่องจากตัวเองไม่มีอำนาจในการรับเรื่องและวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ไม่มีกฎหมายรองรับ ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
จึงใช้วิธีขี้ขลาดด้วยการอ้างรัฐธรรมนูญมาตรานั้นมาตรานี้ อ้างหลักนิติธรรม อ้างความสมดุลทางอำนาจ
แล้วตีความอย่างหน้าด้าน ๆ ว่าตัวเองมีอำนาจในการรับเรื่องและวินิจฉัย
เป็นการตีความบิดเบือนกฎหมายเพื่อขยายขอบเขตอำนาจของตัวเองอย่างผิดรัฐธรรมนูญ
2. ไม่กล้าที่จะสั่งคดี เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 68 บัญญัติว่าให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งระงับการกระทำที่ล้มล้าง
แต่เมื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้นำขึ้นทูลเกล้าฯไปแล้ว การกระทำได้สำเร็จไปแล้ว สั่งระงับไม่ทันแล้ว
จึงบิดเบือนขยายอำนาจตัวเองมาวินิจฉัยและตัดสินในเรื่องข้อบังคับของรัฐสภาว่าด้วยเรื่องกระบวนการแก้ไข
ด้วยการอ้างเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวร่าง อ้างเรื่องการอภิปรายแปรญัตติ อ้างเรื่องสอดบัตรแทนกัน
ซึ่งเป็นเรื่องของรัฐสภา ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ (ไม่มีกฎหมายรองรับให้ศาลยุ่งได้)
แล้วก็อ้างเรื่องเนื้อหาอย่างน่ารังเกียจว่าสภาผัวเมีย เรื่องการเลือกตั้งทั้หมดจะทำให้.... บลา ๆ ๆ ๆ
แต่ก็ไม่กล้าสั่งยุบพรรค สั่งตัดสิทธิ์ตามที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจไว้ ด้วยเพราะคงกลัวว่าจะเกิดความวุ่นวาย
แล้วตัวเองต้องรับผิดชอบที่เป็นสาเหตุทำให้เิกิดความวุ่นวาย จึงใช้วิธียื่นดาบให้ฝ่ายอื่น
เพื่อให้สามารถยื่นถอดถอนและดำเนินคดีอาญากับฝ่ายรัฐบาลได้
เรียกว่าไม่กล้าทำเอง แต่โยนดาบให้คนอื่นฟันแทน
สรุป คือศาลรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ปกป้องรัฐธรรมนูญ 2550 อย่างสุดชีวิต ก็ถอยเข้าหลืบ
เรื่องการทำลายล้าง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนอื่นต่อไป
หากจะมีการแก้ไขอีก ศาลรัฐธรรมนูญก็จะมั่ว บิดเบือนกฎหมายเพื่อขยายอำนาจห้ามไม่ให้แก้ไขอีก
นอกจากจะแก้ไขเพื่อเป็นประโยชน์ต่อพวก ปชป. และแก็ง 40 ส.ว. เท่านั้น
พิลึกนะครับ ศาลรัฐธรรมนูญอ้างเรื่องเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ 2550
ซึ่งแบบนี้มันเหมือนจะเป็นข้อกำหนดว่า การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องใดที่ศาลไม่เห็นด้วย จะทำไม่ได้เลย
(รวมทั้งหาก ปชป. 40 ส.ว. หากไม่เห็นด้วย ศาลก็รับเรื่องรับคำร้องทันที)
เช่น การแก้ไขที่มาของ ส.ว. การยกเลิกมาตรา 309 การแก้ไขมาตรา 190 ฯลฯ
จะทำไม่ได้เลย เพราะศาลจะบอกว่าขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ 2550
เหมือนศาลไม่ใช่ศาล แต่คือเครื่องมือ คือองค์กรที่ทำหน้าที่ปกป้องรัฐธรรมนูญเผด็จการ
เพื่อใช้รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือเป็นอำนาจในการกุมอำนาจการปกครองประเทศ
เลือกตั้งกันไป มีรัฐบาลกันไป แต่อำนาจที่แท้จริงกับอยู่ในมืออำนาจนอกระบบ
ที่สามารถใช้รัฐธรรมนูญด้วยศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระอื่น ๆ ในการล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้งได้ตลอดเวลา
แถมตอนนี้มีการดึงสถาบันลงมาเป็นเครื่องมือทำลายทางการเมืองอีกรอบแล้ว
ฝ่ายประชาธิปไตยโดยหลอกและโดนคุมครอบอย่างเนียน ๆ
อีกนาน กว่าบ้านเมืองจะหลุดจากมืออำนาจนอกระบบเหนือรัฐธรรมนูญ
ผมเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญขี้ขลาดครับ
ไม่มีกฎหมายรองรับ ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
จึงใช้วิธีขี้ขลาดด้วยการอ้างรัฐธรรมนูญมาตรานั้นมาตรานี้ อ้างหลักนิติธรรม อ้างความสมดุลทางอำนาจ
แล้วตีความอย่างหน้าด้าน ๆ ว่าตัวเองมีอำนาจในการรับเรื่องและวินิจฉัย
เป็นการตีความบิดเบือนกฎหมายเพื่อขยายขอบเขตอำนาจของตัวเองอย่างผิดรัฐธรรมนูญ
2. ไม่กล้าที่จะสั่งคดี เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 68 บัญญัติว่าให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งระงับการกระทำที่ล้มล้าง
แต่เมื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้นำขึ้นทูลเกล้าฯไปแล้ว การกระทำได้สำเร็จไปแล้ว สั่งระงับไม่ทันแล้ว
จึงบิดเบือนขยายอำนาจตัวเองมาวินิจฉัยและตัดสินในเรื่องข้อบังคับของรัฐสภาว่าด้วยเรื่องกระบวนการแก้ไข
ด้วยการอ้างเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวร่าง อ้างเรื่องการอภิปรายแปรญัตติ อ้างเรื่องสอดบัตรแทนกัน
ซึ่งเป็นเรื่องของรัฐสภา ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ (ไม่มีกฎหมายรองรับให้ศาลยุ่งได้)
แล้วก็อ้างเรื่องเนื้อหาอย่างน่ารังเกียจว่าสภาผัวเมีย เรื่องการเลือกตั้งทั้หมดจะทำให้.... บลา ๆ ๆ ๆ
แต่ก็ไม่กล้าสั่งยุบพรรค สั่งตัดสิทธิ์ตามที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจไว้ ด้วยเพราะคงกลัวว่าจะเกิดความวุ่นวาย
แล้วตัวเองต้องรับผิดชอบที่เป็นสาเหตุทำให้เิกิดความวุ่นวาย จึงใช้วิธียื่นดาบให้ฝ่ายอื่น
เพื่อให้สามารถยื่นถอดถอนและดำเนินคดีอาญากับฝ่ายรัฐบาลได้
เรียกว่าไม่กล้าทำเอง แต่โยนดาบให้คนอื่นฟันแทน
สรุป คือศาลรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ปกป้องรัฐธรรมนูญ 2550 อย่างสุดชีวิต ก็ถอยเข้าหลืบ
เรื่องการทำลายล้าง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนอื่นต่อไป
หากจะมีการแก้ไขอีก ศาลรัฐธรรมนูญก็จะมั่ว บิดเบือนกฎหมายเพื่อขยายอำนาจห้ามไม่ให้แก้ไขอีก
นอกจากจะแก้ไขเพื่อเป็นประโยชน์ต่อพวก ปชป. และแก็ง 40 ส.ว. เท่านั้น
พิลึกนะครับ ศาลรัฐธรรมนูญอ้างเรื่องเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ 2550
ซึ่งแบบนี้มันเหมือนจะเป็นข้อกำหนดว่า การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องใดที่ศาลไม่เห็นด้วย จะทำไม่ได้เลย
(รวมทั้งหาก ปชป. 40 ส.ว. หากไม่เห็นด้วย ศาลก็รับเรื่องรับคำร้องทันที)
เช่น การแก้ไขที่มาของ ส.ว. การยกเลิกมาตรา 309 การแก้ไขมาตรา 190 ฯลฯ
จะทำไม่ได้เลย เพราะศาลจะบอกว่าขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ 2550
เหมือนศาลไม่ใช่ศาล แต่คือเครื่องมือ คือองค์กรที่ทำหน้าที่ปกป้องรัฐธรรมนูญเผด็จการ
เพื่อใช้รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือเป็นอำนาจในการกุมอำนาจการปกครองประเทศ
เลือกตั้งกันไป มีรัฐบาลกันไป แต่อำนาจที่แท้จริงกับอยู่ในมืออำนาจนอกระบบ
ที่สามารถใช้รัฐธรรมนูญด้วยศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระอื่น ๆ ในการล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้งได้ตลอดเวลา
แถมตอนนี้มีการดึงสถาบันลงมาเป็นเครื่องมือทำลายทางการเมืองอีกรอบแล้ว
ฝ่ายประชาธิปไตยโดยหลอกและโดนคุมครอบอย่างเนียน ๆ
อีกนาน กว่าบ้านเมืองจะหลุดจากมืออำนาจนอกระบบเหนือรัฐธรรมนูญ