สิ้นแสงทองส่องฉายปลายฟากฟ้า
มืดหม่นมาทาทาบขึ้นฉาบแสง
สลัวเงาเศร้าสลดหมดเรี่ยวแรง
สุดเสแสร้งแข็งขืนให้ฝืนทน
จะเหลียวซ้ายแลขวาหาใดนั่น
ความหวาดหวั่นปานแฝงทุกแห่งหน
สิ้นแสงสีสดใสในกมล
เหงาปะปนดลสำแดงดุจแกล้งกัน
สิ้นแสงทองผ่องประกายฉายปรากฏ
น้ำตาหลั่งรดใจใครเปลี่ยนผัน
มีแต่เจ็บเก็บย้อนซ่อนจาบัลย์
จะหาฝันที่ไหนไว้เคียงคืน
หากฟ้าสิ้นสีทองพราวผ่องใส
คงต้องเศร้าอาลัยร่ำไห้ฝืน
เพราะสุดทนระกำแสนกล้ำกลืน
นอนสะอื้นขื่นขมระทมทรวง.....
“สุนันยา”
***หากฟ้าสิ้นสีทองพราวผ่องใส***
สิ้นแสงทองส่องฉายปลายฟากฟ้า
มืดหม่นมาทาทาบขึ้นฉาบแสง
สลัวเงาเศร้าสลดหมดเรี่ยวแรง
สุดเสแสร้งแข็งขืนให้ฝืนทน
จะเหลียวซ้ายแลขวาหาใดนั่น
ความหวาดหวั่นปานแฝงทุกแห่งหน
สิ้นแสงสีสดใสในกมล
เหงาปะปนดลสำแดงดุจแกล้งกัน
สิ้นแสงทองผ่องประกายฉายปรากฏ
น้ำตาหลั่งรดใจใครเปลี่ยนผัน
มีแต่เจ็บเก็บย้อนซ่อนจาบัลย์
จะหาฝันที่ไหนไว้เคียงคืน
หากฟ้าสิ้นสีทองพราวผ่องใส
คงต้องเศร้าอาลัยร่ำไห้ฝืน
เพราะสุดทนระกำแสนกล้ำกลืน
นอนสะอื้นขื่นขมระทมทรวง.....
“สุนันยา”