มองผืนผ้าสีขาวในความว่าง
ในท่ามกลางเหล่าเฉดสีที่รายรอบ
ยืนเฝ้ามองเฝ้าคิดหาคำตอบ
ส่วนประกอบที่จะใส่ในสีขาว
แล้วหยิบจับหมู่ดวงดาวระยับระยิบ
พราวกะพริบวับวิบบนเวหาหาว
แล้วจึงไขว่คว้าสายน้ำที่หล่นพราว
เมฆขุ่นขาวประดับราวให้ต้องมนต์
ในตอนนี้ผ้าสีขาวมีท้องฟ้า
ช่วงเวลาฟ้ามัวหมองฟ้าสับสน
มีทั้งดาวทั้งฝนทั้งเมฆหม่น
ในบัดดลตาที่มองมีน้ำตา
จึงเพิ่มเติมด้วยดวงตะวันฉาย
ให้กล้ำกรายฉายแสงทองในเวหา
แล้วเติมแต่งรุ้งกินน้ำสุดสายตา
แล้วสร้างเหล่าปักษาให้โบยบิน
ผ้าสีขาวคราวนี้ช่างอบอุ่น
สีขุ่นขุ่นที่เคยมีหายไปสิ้น
แสงสีทองสายรุ้งเหล่านกบิน
กลบซึ่งกลิ่นแห่งเมฆฝนที่ฟ้ามัว
เริ่มต้นมีแสงดาวในผืนผ้า
แล้วต่อมาเมฆฝนบังดูสลัว
ก่อนตะวันจะฉายแสงไล่ความกลัว
ที่เคยหมองเคยมัวกลับแจ่มใส
จึงเปรียบเปรยผ้าสีขาวเช่นดวงจิต
ที่ความคิดเข้ากำหนดให้อ่อนไหว
ที่ตัวตนเข้าปรับเปลี่ยนจนเข้าใจ
จิตดวงเดิมจึงเปลี่ยนไปในมันที
จึงเฝ้ามองผ้าที่เคยเป็นสีขาว
หลากเรื่องราวแต่งแต้มด้วยหลากสี
หวนคิดถึงสีขาวที่เคยมี
หวนคิดถึงวันที่ไร้สิ่งใด
..........ผ้าสีขาว.........
ในท่ามกลางเหล่าเฉดสีที่รายรอบ
ยืนเฝ้ามองเฝ้าคิดหาคำตอบ
ส่วนประกอบที่จะใส่ในสีขาว
แล้วหยิบจับหมู่ดวงดาวระยับระยิบ
พราวกะพริบวับวิบบนเวหาหาว
แล้วจึงไขว่คว้าสายน้ำที่หล่นพราว
เมฆขุ่นขาวประดับราวให้ต้องมนต์
ในตอนนี้ผ้าสีขาวมีท้องฟ้า
ช่วงเวลาฟ้ามัวหมองฟ้าสับสน
มีทั้งดาวทั้งฝนทั้งเมฆหม่น
ในบัดดลตาที่มองมีน้ำตา
จึงเพิ่มเติมด้วยดวงตะวันฉาย
ให้กล้ำกรายฉายแสงทองในเวหา
แล้วเติมแต่งรุ้งกินน้ำสุดสายตา
แล้วสร้างเหล่าปักษาให้โบยบิน
ผ้าสีขาวคราวนี้ช่างอบอุ่น
สีขุ่นขุ่นที่เคยมีหายไปสิ้น
แสงสีทองสายรุ้งเหล่านกบิน
กลบซึ่งกลิ่นแห่งเมฆฝนที่ฟ้ามัว
เริ่มต้นมีแสงดาวในผืนผ้า
แล้วต่อมาเมฆฝนบังดูสลัว
ก่อนตะวันจะฉายแสงไล่ความกลัว
ที่เคยหมองเคยมัวกลับแจ่มใส
จึงเปรียบเปรยผ้าสีขาวเช่นดวงจิต
ที่ความคิดเข้ากำหนดให้อ่อนไหว
ที่ตัวตนเข้าปรับเปลี่ยนจนเข้าใจ
จิตดวงเดิมจึงเปลี่ยนไปในมันที
จึงเฝ้ามองผ้าที่เคยเป็นสีขาว
หลากเรื่องราวแต่งแต้มด้วยหลากสี
หวนคิดถึงสีขาวที่เคยมี
หวนคิดถึงวันที่ไร้สิ่งใด