วิ่งทุกวันกับวิ่งวันเว้นวัน วิ่งแบบไหนได้ประโยชน์กว่ากัน

1. วิ่งทุกวัน วันละ 5 กม.
2. วิ่งวันเว้นวัน วันวิ่ง 10 กม.

หมายเหตุ วิ่งทุกวัน วันละ 10 กม ทำไม่ไหวครับ ปวดขามาก พอวิ่งครบอาทิตย์ ต้องพักติดต่อกัน 4-5 วัน เลยครับถึงจะมีแรงกลับมาวิ่งอีก
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ที่ว่าดีกว่านี้  ถูกตื้อถามต่อ
ตอบว่า
ต้องหาระดับของเราว่าความฟิตเราขนาดไหน
มีความจริงอยู่ประการหนึ่งว่า
การออกกำลังมากเกินไปจะเดี้ยง.............ออกกำลังน้อยเกินไปเสียโอกาส
ก้าวหน้าช้า   เสียเวลา  ไม่คุ้มค่า  ฯลฯ

น่าเสียใจที่ผมบอกคุณไม่ได้ว่าคุณมีเรือนร่างอยู่ระดับไหน
เพราะระยะทางห่างทางภูมิประเทศเคยให้ประสบการณ์กับผมว่า
ควบคุมนักกีฬาไม่ได้อยู่ดี  คุณต้องหาโค้ช ไม่ก็ดูแลตัวเอง
จากการเพาะสร้างองค์ความรู้ตัวเอง

การวิ่งทุกวันวันละ5ก.ม.ก็ดีกว่าไม่ได้ทำ
แต่มีใครอยากวิ่งแค่นี้ต่อไปบ้าง  หากรู้ว่าตนเองสามารถวิ่งได้ไกลกว่า  วิ่งได้เร็วกว่า

บอกคร่าวๆได้ว่า  หากคุณวิ่งวันละ5นาทีต่อเนื่องได้ 5 วัน(พัก2วัน)ในสัปดาห์
สามารถต่อเนื่องอย่างนี้ได้สักเดือนหนึ่งโดยทำได้ ไม่เมื่อยล้าสะสม
คุณน่าจะเพิ่มโหลดได้

เพิ่มโหลดได้ใน2ช่องทาง
คือเพิ่มระยะเวลา หรือเพิ่มกิโลเมตร
ในปริมาณ ไม่เกิน 10% ต่อสัปดาห์
เช่นจาก5โล  ไม่เพิ่มเป็น6  แต่เพิ่มเพียง5.5 เท่านั้น
เพิ่มเพียงอย่างเดียว อย่าเพิ่ม2อย่าง อย่างสงไหนก็ได้

เป็นจุดอ่อนเพื่อนนักวิ่งทุกท่าน  ที่นึกอะไรไม่ออกนอกจากเพิ่มขึ้นไปมากเท่าที่ตัวเองจะวิ่งไหว
นั่นใครก็ไหวทุกคนนั่นแหละ  แต่จะนานแค่ไหน
แต่ฤทธิ์ของการสะสม  ทำให้คุณต้องถอยหลังวันหนึ่ง  นั่นแปลว่า
คุณ  "ถือครองไว้ไม่ได้"   หรือ  "ยืนระยะไม่สำเร็จ"   ซึ่งนั้นก็คือ  ล้มเหลว
เราต้องการ5.5  เพื่อเป็นฐานให้กับ6 กิโลต่อไปนั่นเอง
แช่เย็นไปสัปดาห์หนึ่ง   สัปดาห์ต่อไปขึ้นเป็น6.6  ขึ้นไปเรื่อยๆ

นี่เป็นเรื่องทฤษฎี  ที่ยังมีรายละเอียดแต่ละรายอีกมาก
จะรีบไปไย...มีเวลาวิ่งทั้งชีวิต  อย่าเดี้ยงไปก่อนเหมือนนักวิ่งรุ่นพี่ที่ชอบโดดข้ามสเต็ป

ผมรู้ดี  อ่านตามกันมาจะร้องยี้  อะไรกัน  แค่ 5 โล   อะไรกัน เพิ่มเป็น5.5
ทั้งๆที่หลายคนเพิ่มไปเป็น 8 โล  เป็น10 โลล่วงหน้าตั้งนานแล้ว

ครับ....หนังไม่จบม้วน   ดูไปนานๆ  สงครามยังไม่สิ้นอย่าเพิ่งนับศพทหาร

แปลกไหม...วันดีคืนดี  นักกีฬาประเภทอื่นหาญกล้าเข้ามาแหย่วงการวิ่งว่า
"อย่าวิ่งเลย"  ไปกีฬา.....นั้นๆดีกว่า   วิ่งเดี้ยงไปเยอะแล้ว  เข่าเอย  ข้อเอย
ก็เพราะอย่างนี้ไง

(คำแนะนำนี้สำหรับนักวิ่งหน้าใหม่เพื่อสุขภาพไม่ใช่เพื่อการอื่น)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่