สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
นั่นไม่ใช่พลทหารนะคะ เป็น หน่วย SS (หน่วยรบพิเศษ) ที่ฮิตเล่อร์ตั้งขึ้นมา มียศระดับผู้กอง..
เหตุเกิดขั้นในโปแลนด์ ประเทศชายเขตที่ติดกับรัสเซีย...ดังนั้นเมื่อท้ายของสงครามในยามที่รัสเซียยกทัพมา"เอาคืน" กับเยอรมัน กลุ่มนาซีจึงหนีไปไหนไม่รอด จึงต้องถูกกวาดต้อนไปอยู่ในค่ายกักกันของฝ่ายรัสเซีย
ถึงแม้พระเอกจะเห็นและจำได้ว่าเป็นคนที่เคยช่วยเหลือ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากหรอกค่ะ เพราะชาวโปล์เองก็แทบย่ำแย่..ไม่ได้มีเครดิตอะไรกับพวกรัสเซีย..แถมออกจะติดลบด้วยซ้ำ เนื่องจากเพิ่งก่อการจราจลไปกับนาซี (Warsaw Uprising) แถมไม่สำเร็จอีกต่างหาก ทำให้กองทัพรัสเซียต้องมาเสียเวลาหยุดคอยให้ฆ่ากันไปให้เสร็จๆเสียก่อน (ตอนนั้นทั้งรัสเซียและ อังกฤษที่ร่วมแพคคู่กับอเมริกา กำลังเร่งรีบแข่งกันพาทัพเข้าสู่กรุงเบอร์ลิน เป็นสงครามชิงสื่อ...เนื่องจากทั้งโลกกำลังจับตา)
พ่อหนุ่มผู้กองนาซีคนนั้น ได้มีชีวิตยืนยาวต่อไปในค่ายกักกันของรัสเซียจนถึงปี 1955 ก็นับว่ามีชีวิตรอดมาได้อีกตั้งสิบปี เพราะสงครามเลิกเมื่อปี 1945 ก็คงไม่ได้ลำบากอะไรนัก เนื่องจากตอนนั้นได้มีองค์กรสิทธิมนุษยชนหลายองค์กรได้เข้ามาดูแลนักโทษหรือเชลยสงครามอย่างเต็มที่
ผิดกับเมื่อครั้งที่นาซีบุกรัสเซียใหม่ๆเมื่อต้นสงคราม เพราะนั่นไม่มีคำว่าค่ายกักกัน นอกจากต้อนไปฆ่าทิ้งอย่างเดียว ไม่ว่า หญิงหรือชาย เด็กหรือคนแก่...
ถ้าคุณเจ้าของกระทู้สนใจหนังสงครามและเบื้องหลังสงครามแบบนี้...แนะนำให้อีกเรื่องหนึ่งค่ะ
Jakob the Liar โดย Robin Williams
เหตุเกิดขั้นในโปแลนด์ ประเทศชายเขตที่ติดกับรัสเซีย...ดังนั้นเมื่อท้ายของสงครามในยามที่รัสเซียยกทัพมา"เอาคืน" กับเยอรมัน กลุ่มนาซีจึงหนีไปไหนไม่รอด จึงต้องถูกกวาดต้อนไปอยู่ในค่ายกักกันของฝ่ายรัสเซีย
ถึงแม้พระเอกจะเห็นและจำได้ว่าเป็นคนที่เคยช่วยเหลือ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากหรอกค่ะ เพราะชาวโปล์เองก็แทบย่ำแย่..ไม่ได้มีเครดิตอะไรกับพวกรัสเซีย..แถมออกจะติดลบด้วยซ้ำ เนื่องจากเพิ่งก่อการจราจลไปกับนาซี (Warsaw Uprising) แถมไม่สำเร็จอีกต่างหาก ทำให้กองทัพรัสเซียต้องมาเสียเวลาหยุดคอยให้ฆ่ากันไปให้เสร็จๆเสียก่อน (ตอนนั้นทั้งรัสเซียและ อังกฤษที่ร่วมแพคคู่กับอเมริกา กำลังเร่งรีบแข่งกันพาทัพเข้าสู่กรุงเบอร์ลิน เป็นสงครามชิงสื่อ...เนื่องจากทั้งโลกกำลังจับตา)
พ่อหนุ่มผู้กองนาซีคนนั้น ได้มีชีวิตยืนยาวต่อไปในค่ายกักกันของรัสเซียจนถึงปี 1955 ก็นับว่ามีชีวิตรอดมาได้อีกตั้งสิบปี เพราะสงครามเลิกเมื่อปี 1945 ก็คงไม่ได้ลำบากอะไรนัก เนื่องจากตอนนั้นได้มีองค์กรสิทธิมนุษยชนหลายองค์กรได้เข้ามาดูแลนักโทษหรือเชลยสงครามอย่างเต็มที่
ผิดกับเมื่อครั้งที่นาซีบุกรัสเซียใหม่ๆเมื่อต้นสงคราม เพราะนั่นไม่มีคำว่าค่ายกักกัน นอกจากต้อนไปฆ่าทิ้งอย่างเดียว ไม่ว่า หญิงหรือชาย เด็กหรือคนแก่...
ถ้าคุณเจ้าของกระทู้สนใจหนังสงครามและเบื้องหลังสงครามแบบนี้...แนะนำให้อีกเรื่องหนึ่งค่ะ
Jakob the Liar โดย Robin Williams
กุ้งบก ถูกใจ, จิตรางคทา ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3429597 ถูกใจ, L.hideki ถูกใจ, มังกรน้อยในสายฝน ถูกใจ, menie277 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1395326 ถูกใจ, สาวผู้ควบคุมความมืด ถูกใจ, Dearance ถูกใจ, สาวน้อยถอย Jazz ถูกใจรวมถึงอีก 6 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
เพิ่งดู The pianist จบค่ะ ขอถามหน่อยนะคะ
และพร้อมบอกว่าตายในฐานะนักโทษโซเวียตในปีค.ศ.1955 ขอสรุปคำถามอีกทีนะคะ
1.สรุปว่าพระเอกช่วยไว้ได้หรือไม่ หรือแค่มารู้ชื่อของทหารเยอรมันคนนั้นภายหลัง
2.เห็นว่าหนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริง เพื่อนๆคิดว่าตอนที่พระเอกโดนทหารเยอรมันจับได้ แล้วให้พระเอกเล่นเปียโนให้ฟัง
เพลงที่พระเอกเล่นจะเป็นเพลงเดียวกันกับตอนที่เกิดเหตุการณ์ตอนนั้นจริงๆหรือไม่
ขอบคุณนะคะ พอดีดูแล้วอินจัด อยากให้ทหารเยอรมันคนนั้นรอดอ่ะค่ะ แอบหวังว่าพระเอกอาจจะช่วยออกมาได้
แล้วมาโดนจับเป็นนักโทษอีกครั้งภายหลังรึเปล่า เพราะตอนดูก็ไม่ได้สังเกตปีค.ศ.ที่ขึ้นน่ะค่ะ