ที่จริงแล้ว ในฐานะที่อ้างว่าเป็นชาวพุทธ แม้ว่าจะเป็นแค่พวก "นอกรีต" มิใช่ "เถรวาทเดิมแท้" ก็ตาม
(พิจารณา ข้อมูล โดยละเอียดได้จาก กระทู้ นักอภิธรรม ชั้นปลายแถว ...... เนื้อร้าย ใน พระพุทธศาสนา
http://ppantip.com/topic/31075867)
แต่เมื่อปรากฏหลักฐานอย่างชัดแจ้งว่าได้ "กล่าวตู่" พระพุทธเจ้า และ "บิดเบือน" พระธรรมวินัย ก็น่าที่จะยอมรับผิด อย่างลูกผู้ชาย นะครับ
แต่ คันโตนาซี สาวก นิกาย อุตตราปถะ ซึ่งเป็นเดียรถีย์นอกรีต (ที่ท่านพระโมคคัลลีบุตรติสสะ จับสึกไปเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ ๓)
กลับ หน้าด้าน ไร้ยางอาย เพราะนอกจากจะไม่ยอมรับผิด อย่างตรงไปตรงมาแล้ว
มันยังพยายาม "บิดเบือน" หลักการทางพระธรรมวินัย ในทำนองว่า การกล่าวตู่นั้นเป็นเพียงแค่ "ความเข้าใจผิด" เท่านั้น !
ด้วยเหตุดังนี้ ในฐานะที่ผมเป็นชาวพุทธเถรวาท จึงจำเป็นต้อง "สะสาง" ทิฐิลามก ของอัญเดียรถีย์ผู้นี้
โดยมีกรณีของ ภิกษุสาติ บุตรชาวประมง เป็นกรณีเปรียบเทียบ ดังต่อไปนี้
การที่ คันโตนาซี จนด้วยหลักฐานแล้วว่า พระพุทธเจ้าตรัสสอน "ศีลเบื้องต้น" แก่ภิกษุทั้งหลายจริง
แต่กลับ กระมิดกระเมี้ยน แบ่งรับแบ่งสู้ว่า มันเป็นเพียงแค่ ความเข้าใจผิด ดูแล้วช่าง "น่าขัน" ยิ่งนัก !
เหตุที่กล่าวว่า "น่าขัน" ก็เพราะ ถ้าเข้าใจ "ถูกต้อง" แล้วผมจะกล่าวหาว่ามัน กล่าวตู่พระพุทธเจ้า และ บิดเบือนพระวินัย ได้อย่างไรกัน ?
เฉกเช่นเดียวกับ กรณี ภิกษุสาติ ที่กล่าวว่า เขารู้ทั่วถึงธรรม(ประมาณว่า อวดรู้ เหมือนพวกเม็ดมะขาม)
กล่าวคือ พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า "วิญญาณนี้นั่นแหละ ย่อมท่องเที่ยวไป แล่นไป มิใช่อื่น"
คำถาม ก็คือ ความเห็นของภิกษุสาตินี้ นับได้ว่าเป็น "ความเข้าใจผิด" ใช่หรือไม่ ?
แต่แล้วเหตุใด เพียงความเข้าผิด ดังกล่าว พระบาลีจึงระบุด้วยคำว่า (๑) ทิฐิลามก และ (๒) กล่าวตู่พระพุทธเจ้า
ทั้งนี้ พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้อย่างชัดเจนว่า การกระทำของ ภิกษุสาตินั้น คือการ กล่าวตู่พระองค์
เนื่องจาก พระพุทธเจ้า ไม่เคยตรัสสอน "วิญญาณ" โดยเว้นจาก "เหตุปัจจัย" เหมือนดังที่ภิกษุสาติ กล่าวอ้าง เลยสักครั้ง
ฉันใดก็ฉันนั้น นะครับ การที่ คันโตนาซี กล่าวอ้างว่า พระพุทธเจ้า มิได้ตรัสสอน "ศีลเบื้องต้น" แก่ภิกษุทั้งหลาย ย่อมเป็นความเท็จ
เนื่องจาก เป็นไปไม่ได้เลยที่พระพุทธเจ้าจะ "อบรม" ภิกษุ ตามหลัก "ไตรสิกขา" โดยไม่สอน "ศีลเบื้องต้น" แก่ภิกษุทั้งหลายเสียก่อน
ก็ในเมื่อ คันโตนาซี ได้แสดงในสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ภาษิตไว้(ดีแล้ว) ว่าเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้ามิได้ตรัสไว้ มิได้ภาษิตไว้
การกระทำของ คันโตนาซี ซึ่งเกิดจากความโง่เขลาเบาปัญญา(แต่มักอวดฉลาด) จึงเป็นการ "กล่าวตู่" พระพุทธเจ้า อย่างชัดเจน
พระพุทธเจ้า ระบุความข้อนี้ไว้ ตามหลักฐานจาก พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ อังคุตตรนิกาย
ยังมีใคร ที่มองไม่เห็นหลักฐานนี้ อีกหรือไม่ ?
นั่นจึงหมายความว่า ทั้ง คันโตนาซี รวมไปถึง ภิกษุสาติ ได้กล่าวตู่พระพุทธเจ้า และ บิดเบือนพระธรรมวินัย
ด้วยความเข้าใจผิด หรือ ควรกล่าวให้ชัดเจนว่า เป็นการกระทำด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา แต่มักชอบอวดฉลาด นั่นเอง
*********************************************************************************************
ประเด็นที่น่าสนใจ ข้อต่อมา ก็คือ การกระทำของ คันโตนาซี นับได้ว่าเป็น การกล่าวเท็จ(มุสาวาท) หรือไม่ ?
ก่อนอื่น ท่านทั้งหลาย พึงตรวจสอบ "หลักการ" ให้ดีเสียก่อนว่า องค์ประกอบของ มุสาวาท นั้นมีอะไรบ้าง
โดยอ้างอิงบทความ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ของท่านปยุตโต จากตำรา พุทธธรรม ซึ่งท่านก็ได้อ้างอิงมติของ อรรถกถาจารย์ มาอีกที
ทั้งนี้ ด้วยเหตุที่ผมเห็นว่า การอ้าง ท่านปยุตโต สนุกกว่าการอ้าง อรรถกถาจารย์ ตั้งเยอะ (จริงไหมครับ ?)
ดังนั้น ท่านทั้งหลาย ก็อย่าสงสัยไปเลยว่า เหตุใด ช่วงหลังๆ มานี้ ผมจึงชอบอ้าง หลักฐาน "ผ่าน" ท่านปยุตโต บ่อยครั้งนัก (คริคริ)
กล่าวโดยสรุป ก็คือ องค์ประกอบของ มุสาวาท มี ๔ ประการ คือ (๑) เรื่องไม่จริง (๒) จิตคิดจะกล่าวให้คลาดเคลื่อน
(๓) มีความพยายาม เกิดจากจิต ที่คิดจะกล่าวให้คลาดเคลื่อน และ (๔) ผู้อื่นเข้าใจความที่พูดนั้น
๑) ถามว่า สิ่งที่ คันโตนาซี กล่าวอ้างมานั้นเป็น "ความจริง" หรือ "ความเท็จ" ?
ตอบได้ว่า เป็นความเท็จ อย่างแน่นอน
๒) ถามว่า คันโตนาซี มี "เจตนา" ที่จะกล่าวให้คลาดเคลื่อน หรือไม่ ?
ขออนุญาต กล่าวตามหลักฐานว่า มีเจตนา อย่างชัดเจน ทั้งถ้อยคำที่กล่าวกับผม(จ้าวนครเมฆขาว) และ ที่กล่าวกับผู้อื่น
๓) หากถามว่า คันโตนาซี มี "ความพยายาม" ในการกล่าว หรือไม่ ?
คำตอบ ก็คือ คันโตนาซี มีความพยายาม ในการยืนยัน คำเท็จ ของมัน เป็นอย่างมาก
ที่สำคัญ ก็คือ ผมต้องใช้เวลามากกว่า เดือนเศษ มันถึงจะยอมรับว่า .............. มันเข้าใจผิด(แต่มิได้กล่าวตู่?) !
๔) คำถามสุดท้าย ก็คือ มีผู้อื่นเข้าใจ "ข้อความ" ที่ คันโตนาซี กล่าวหรือไม่ ?
จำเพาะ ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับถ้อยคำของ คันโตนาซี ยกไว้
แต่ ผู้ที่เข้าใจข้อความ มดเท็จ ดังกล่าว และ เห็นดีเห็นงาม ตามไปด้วยนั้น มีอยู่แน่ๆ
ทั้งนี้ ท่านทั้งหลาย ย่อมเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อพิจารณา องค์ประกอบของ มุสาวาท อย่างถี่ถ้วนรอบคอบแล้ว
จึงเป็นอันสรุปได้ว่า การกระทำดังกล่าวของ คันโตนาซี จัดว่าเป็น มุสาวาท(การกล่าวเท็จ) อย่างแน่นอน !
ทั้งนี้ การกล่าวมุสาวาท ดังกล่าว จะมีโทษมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับว่า
การกระทำดังกล่าว "ตัดรอน" ประโยชน์ของตนและผู้อื่น มากน้อยเพียงใด
ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว เล็กๆ น้อยๆ ก็โทษน้อย แต่ถ้าเกี่ยวพันกับ "ผลประโยชน์" ของคนหมู่มาก ก็โทษมาก
ดังนั้น ท่านทั้งหลาย ก็พึงพิจารณาโดยแยบคายเถิดว่า หาก มุสาวาท นั้นหมายถึง การกล่าวตู่พระพุทธเจ้า และ บิดเบือนพระธรรมวินัย
โดยเผยแพร่ ความเท็จ เหล่านั้น ในที่สาธารณะ และปรากฏว่ามีคนเชื่อถือ เห็นดีเห็นงาม ตามไปด้วย จะมีโทษมาก หรือว่าน้อย ?
สรุปในสรุป ได้ความว่า คันโตนาซี เข้าใจผิดด้วย กล่าวมุสาวาทด้วย และ กล่าวตู่พระพุทธเจ้า บิดเบือนพระธรรมวินัยด้วย
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ผมสรุปความจาก "หลักฐาน" ตามที่ปรากฏอยู่จริง นะครับ !
ดังนั้น ถ้าหาก คันโตนาซี และผองเพื่อน ต้องการ โต้แย้ง บทความนี้ ก็จงแย้งด้วยเหตุผล และ หลักฐาน ให้ชัดเจนแจ่มแจ้งเถิด
อย่าได้เข้ามา แก้เก้อ ด้วยการฝลัดกระทู้ อย่างที่เคยปฏิบัติมา(อย่างโง่ๆ) อีกเลย
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คันโตนาซีและพวก จะสามารถอยู่กับ "ความจริง" ให้ได้ นะครับ
สวัสดี
ภิกษุสาติ เข้าใจผิด หรือ มุสาวาท หรือ กล่าวตู่พระพุทธเจ้า ?
(พิจารณา ข้อมูล โดยละเอียดได้จาก กระทู้ นักอภิธรรม ชั้นปลายแถว ...... เนื้อร้าย ใน พระพุทธศาสนา http://ppantip.com/topic/31075867)
แต่เมื่อปรากฏหลักฐานอย่างชัดแจ้งว่าได้ "กล่าวตู่" พระพุทธเจ้า และ "บิดเบือน" พระธรรมวินัย ก็น่าที่จะยอมรับผิด อย่างลูกผู้ชาย นะครับ
แต่ คันโตนาซี สาวก นิกาย อุตตราปถะ ซึ่งเป็นเดียรถีย์นอกรีต (ที่ท่านพระโมคคัลลีบุตรติสสะ จับสึกไปเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ ๓)
กลับ หน้าด้าน ไร้ยางอาย เพราะนอกจากจะไม่ยอมรับผิด อย่างตรงไปตรงมาแล้ว
มันยังพยายาม "บิดเบือน" หลักการทางพระธรรมวินัย ในทำนองว่า การกล่าวตู่นั้นเป็นเพียงแค่ "ความเข้าใจผิด" เท่านั้น !
ด้วยเหตุดังนี้ ในฐานะที่ผมเป็นชาวพุทธเถรวาท จึงจำเป็นต้อง "สะสาง" ทิฐิลามก ของอัญเดียรถีย์ผู้นี้
โดยมีกรณีของ ภิกษุสาติ บุตรชาวประมง เป็นกรณีเปรียบเทียบ ดังต่อไปนี้
การที่ คันโตนาซี จนด้วยหลักฐานแล้วว่า พระพุทธเจ้าตรัสสอน "ศีลเบื้องต้น" แก่ภิกษุทั้งหลายจริง
แต่กลับ กระมิดกระเมี้ยน แบ่งรับแบ่งสู้ว่า มันเป็นเพียงแค่ ความเข้าใจผิด ดูแล้วช่าง "น่าขัน" ยิ่งนัก !
เหตุที่กล่าวว่า "น่าขัน" ก็เพราะ ถ้าเข้าใจ "ถูกต้อง" แล้วผมจะกล่าวหาว่ามัน กล่าวตู่พระพุทธเจ้า และ บิดเบือนพระวินัย ได้อย่างไรกัน ?
เฉกเช่นเดียวกับ กรณี ภิกษุสาติ ที่กล่าวว่า เขารู้ทั่วถึงธรรม(ประมาณว่า อวดรู้ เหมือนพวกเม็ดมะขาม)
กล่าวคือ พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า "วิญญาณนี้นั่นแหละ ย่อมท่องเที่ยวไป แล่นไป มิใช่อื่น"
คำถาม ก็คือ ความเห็นของภิกษุสาตินี้ นับได้ว่าเป็น "ความเข้าใจผิด" ใช่หรือไม่ ?
แต่แล้วเหตุใด เพียงความเข้าผิด ดังกล่าว พระบาลีจึงระบุด้วยคำว่า (๑) ทิฐิลามก และ (๒) กล่าวตู่พระพุทธเจ้า
ทั้งนี้ พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้อย่างชัดเจนว่า การกระทำของ ภิกษุสาตินั้น คือการ กล่าวตู่พระองค์
เนื่องจาก พระพุทธเจ้า ไม่เคยตรัสสอน "วิญญาณ" โดยเว้นจาก "เหตุปัจจัย" เหมือนดังที่ภิกษุสาติ กล่าวอ้าง เลยสักครั้ง
ฉันใดก็ฉันนั้น นะครับ การที่ คันโตนาซี กล่าวอ้างว่า พระพุทธเจ้า มิได้ตรัสสอน "ศีลเบื้องต้น" แก่ภิกษุทั้งหลาย ย่อมเป็นความเท็จ
เนื่องจาก เป็นไปไม่ได้เลยที่พระพุทธเจ้าจะ "อบรม" ภิกษุ ตามหลัก "ไตรสิกขา" โดยไม่สอน "ศีลเบื้องต้น" แก่ภิกษุทั้งหลายเสียก่อน
ก็ในเมื่อ คันโตนาซี ได้แสดงในสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ภาษิตไว้(ดีแล้ว) ว่าเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้ามิได้ตรัสไว้ มิได้ภาษิตไว้
การกระทำของ คันโตนาซี ซึ่งเกิดจากความโง่เขลาเบาปัญญา(แต่มักอวดฉลาด) จึงเป็นการ "กล่าวตู่" พระพุทธเจ้า อย่างชัดเจน
พระพุทธเจ้า ระบุความข้อนี้ไว้ ตามหลักฐานจาก พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ อังคุตตรนิกาย
ยังมีใคร ที่มองไม่เห็นหลักฐานนี้ อีกหรือไม่ ?
นั่นจึงหมายความว่า ทั้ง คันโตนาซี รวมไปถึง ภิกษุสาติ ได้กล่าวตู่พระพุทธเจ้า และ บิดเบือนพระธรรมวินัย
ด้วยความเข้าใจผิด หรือ ควรกล่าวให้ชัดเจนว่า เป็นการกระทำด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา แต่มักชอบอวดฉลาด นั่นเอง
*********************************************************************************************
ประเด็นที่น่าสนใจ ข้อต่อมา ก็คือ การกระทำของ คันโตนาซี นับได้ว่าเป็น การกล่าวเท็จ(มุสาวาท) หรือไม่ ?
ก่อนอื่น ท่านทั้งหลาย พึงตรวจสอบ "หลักการ" ให้ดีเสียก่อนว่า องค์ประกอบของ มุสาวาท นั้นมีอะไรบ้าง
โดยอ้างอิงบทความ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ของท่านปยุตโต จากตำรา พุทธธรรม ซึ่งท่านก็ได้อ้างอิงมติของ อรรถกถาจารย์ มาอีกที
ทั้งนี้ ด้วยเหตุที่ผมเห็นว่า การอ้าง ท่านปยุตโต สนุกกว่าการอ้าง อรรถกถาจารย์ ตั้งเยอะ (จริงไหมครับ ?)
ดังนั้น ท่านทั้งหลาย ก็อย่าสงสัยไปเลยว่า เหตุใด ช่วงหลังๆ มานี้ ผมจึงชอบอ้าง หลักฐาน "ผ่าน" ท่านปยุตโต บ่อยครั้งนัก (คริคริ)
กล่าวโดยสรุป ก็คือ องค์ประกอบของ มุสาวาท มี ๔ ประการ คือ (๑) เรื่องไม่จริง (๒) จิตคิดจะกล่าวให้คลาดเคลื่อน
(๓) มีความพยายาม เกิดจากจิต ที่คิดจะกล่าวให้คลาดเคลื่อน และ (๔) ผู้อื่นเข้าใจความที่พูดนั้น
๑) ถามว่า สิ่งที่ คันโตนาซี กล่าวอ้างมานั้นเป็น "ความจริง" หรือ "ความเท็จ" ?
ตอบได้ว่า เป็นความเท็จ อย่างแน่นอน
๒) ถามว่า คันโตนาซี มี "เจตนา" ที่จะกล่าวให้คลาดเคลื่อน หรือไม่ ?
ขออนุญาต กล่าวตามหลักฐานว่า มีเจตนา อย่างชัดเจน ทั้งถ้อยคำที่กล่าวกับผม(จ้าวนครเมฆขาว) และ ที่กล่าวกับผู้อื่น
๓) หากถามว่า คันโตนาซี มี "ความพยายาม" ในการกล่าว หรือไม่ ?
คำตอบ ก็คือ คันโตนาซี มีความพยายาม ในการยืนยัน คำเท็จ ของมัน เป็นอย่างมาก
ที่สำคัญ ก็คือ ผมต้องใช้เวลามากกว่า เดือนเศษ มันถึงจะยอมรับว่า .............. มันเข้าใจผิด(แต่มิได้กล่าวตู่?) !
๔) คำถามสุดท้าย ก็คือ มีผู้อื่นเข้าใจ "ข้อความ" ที่ คันโตนาซี กล่าวหรือไม่ ?
จำเพาะ ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับถ้อยคำของ คันโตนาซี ยกไว้
แต่ ผู้ที่เข้าใจข้อความ มดเท็จ ดังกล่าว และ เห็นดีเห็นงาม ตามไปด้วยนั้น มีอยู่แน่ๆ
ทั้งนี้ ท่านทั้งหลาย ย่อมเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อพิจารณา องค์ประกอบของ มุสาวาท อย่างถี่ถ้วนรอบคอบแล้ว
จึงเป็นอันสรุปได้ว่า การกระทำดังกล่าวของ คันโตนาซี จัดว่าเป็น มุสาวาท(การกล่าวเท็จ) อย่างแน่นอน !
ทั้งนี้ การกล่าวมุสาวาท ดังกล่าว จะมีโทษมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับว่า
การกระทำดังกล่าว "ตัดรอน" ประโยชน์ของตนและผู้อื่น มากน้อยเพียงใด
ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว เล็กๆ น้อยๆ ก็โทษน้อย แต่ถ้าเกี่ยวพันกับ "ผลประโยชน์" ของคนหมู่มาก ก็โทษมาก
ดังนั้น ท่านทั้งหลาย ก็พึงพิจารณาโดยแยบคายเถิดว่า หาก มุสาวาท นั้นหมายถึง การกล่าวตู่พระพุทธเจ้า และ บิดเบือนพระธรรมวินัย
โดยเผยแพร่ ความเท็จ เหล่านั้น ในที่สาธารณะ และปรากฏว่ามีคนเชื่อถือ เห็นดีเห็นงาม ตามไปด้วย จะมีโทษมาก หรือว่าน้อย ?
สรุปในสรุป ได้ความว่า คันโตนาซี เข้าใจผิดด้วย กล่าวมุสาวาทด้วย และ กล่าวตู่พระพุทธเจ้า บิดเบือนพระธรรมวินัยด้วย
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ผมสรุปความจาก "หลักฐาน" ตามที่ปรากฏอยู่จริง นะครับ !
ดังนั้น ถ้าหาก คันโตนาซี และผองเพื่อน ต้องการ โต้แย้ง บทความนี้ ก็จงแย้งด้วยเหตุผล และ หลักฐาน ให้ชัดเจนแจ่มแจ้งเถิด
อย่าได้เข้ามา แก้เก้อ ด้วยการฝลัดกระทู้ อย่างที่เคยปฏิบัติมา(อย่างโง่ๆ) อีกเลย
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คันโตนาซีและพวก จะสามารถอยู่กับ "ความจริง" ให้ได้ นะครับ
สวัสดี