พระพุทธเจ้า ตรัสสอน ศีลธรรมเบื้องต้น แก่ใคร ?

เรื่อง อุบาทว์ นี้ เริ่มต้นมาจาก นายคันโตนาซี กล่าวตู่พระพุทธเจ้าว่า ตรัสสอน ศีลธรรม แก่ ฆราวาส ไม่สอนแก่ภิกษุทั้งหลาย



แต่จากหลักฐานในพระไตรปิฎก ปรากฏชัดเจนว่า พระพุทธเจ้าตรัสสอน "ศีล" เป็นอันมากแก่ภิกษุ
ตามความจาก มหาปรินิพพานสูตร และ สีลขันธวรรค ทั้ง ๑๓ พระสูตร





แต่แทนที่ คันโตนาซี จะเกิดความสำนึกในความผิดบาปของตน มันกลับอาศัยความ "หน้าด้าน" โต้แย้งอย่างโง่ๆ
ในทำนองว่า ศีลที่เขาพูดนั้น หมายถึง ศีลธรรมเบื้องต้น ที่ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติ (!)



แต่โดยข้อเท็จจริง ก็คือ จุลศีล ย่อมได้ชื่อว่าเป็น ศีลเบื้องต้น อย่างแน่แท้อยู่แล้ว
ดังปรากฏว่า ตรัสสอนเริ่มต้นจาก เว้นขาดจากการ ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ฯลฯ เป็นต้น



ก็ในเมื่อ "ยอมรับ" ตามความเป็นจริงแล้วว่า จุลศีล คือ ศีลธรรมเบื้องต้น นั่นย่อมหมายความว่า
การที่นายคันโตนาซี กล่าวว่า พระพุทธเจ้าไม่ตรัสสอน ศีลธรรมเบื้องต้นแก่ภิกษุ จึงไม่เป็นความจริง !



แต่ด้วยความ "หน้าด้าน" นายคันโตนาซี  มันก็ยังไม่ยอมรับในความผิดบาป ที่มันกระทำเอาไว้ อยู่นั่นเอง
โดยในคราวนี้ พยายาม แถกแถ ด้วยการสร้าง "เงื่อนไข" เพื่อเอาตัวรอดอย่างโง่ๆ ว่า ......

"มีพระสูตรไหน สอนเฉพาะ(ศีล)เบื้องต้นให้ภิกษุบ้าง ?"



โดยธรรมดาของชาวพุทธที่มีความเชื่อมั่นศรัทธา(ด้วยปัญญา)ในพระพุทธศาสนา เมื่อเห็นพระบาลีจาก มหาปรินิพพานสูตร
ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พระพุทธเจ้าทรงให้ความสำคัญกับเรื่อง "ศีล" เป็นอย่างมาก แม้จวบจนช่วงสุดท้ายของพระชนม์ชีพ
ก็น่าจะเกิดความสำนึกในความผิดบาปของตน ที่ได้กระทำการ "กล่าวตู่" พระพุทธเจ้า แต่ไอ้หมอนี่ มันไม่มีความสลด เลยแม้แต่น้อย



จนแม้เมื่อได้เห็นข้อความจาก "จุลศีล" ซึ่งปรากฏความอย่างชัดเจนว่า พระพุทธเจ้าตรัสสอน "ศีล" ให้แก่ภิกษุทั้งหลายอย่างไร
มันก็น่าที่จะ รู้สึกตัว ได้บ้างแล้ว แต่ไอ้หมอนี่ ก็ยังคง "หน้าด้าน & เก้อยาก" ไม่ยอมรับผิด อยู่นั่นเอง !



นี่น่ะหรือ คือสภาพของคนที่อวดตัวอ้างตนว่า จะปกป้องพระธรรมวินัย จะรักษาพระไตรปิฎก ?

เพราะเมื่อถึงคราวที่ตนเองจะต้องถูกตรวจสอบว่า ได้กล่าวตู่บิดเบือนพระธรรมวินัย บ้างหรือไม่
มันกลับแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พร้อมจะทำทุกวิถีทางที่จะไม่ยอมรับในความผิด (ที่ตนเองเป็นผู้ก่อ)
ซึ่งมันย่อมมีความหมายไม่ต่างไปจากการ "ปฏิเสธ" พระธรรมวินัย หรือ หลักฐานจากพระไตรปิฎก นั่นเอง !

น่าแปลกเป็นอย่างยิ่ง ที่เวลาพวกมัน ทำการตรวจสอบท่านพุทธทาส ผมไม่เห็นว่า มันจะมี "เงื่อนไข" ใดๆ
ในทางที่จะให้ "ความยุติธรรม" แก่ท่านพุทธทาส บ้างเลยนี่ครับ จนแม้แต่มีผู้นำ "หลักฐาน" มาแก้ต่าง
พวกมันยังกลับทำเป็นเหมือน มองไม่เห็น หรือ ไม่ยอมรับหลักฐานข้อเท็จจริงไปเสียดื้อๆ !

แต่ทั้งนี้ ต่อให้มันตีกรอบขีดเส้นอย่างไรๆ ก็คงไม่เป็นผล เพราะโดยข้อเท็จจริงแล้ว ได้ปรากฏหลักฐานอย่างแจ่มชัดทีเดียวว่า
พระพุทธเจ้าย่อมตรัสสอน ศีลเบื้องต้นนี้ ทั้งแก่ ภิกษุ ภิกษุณี สามเณร สามเณรี และ อุบาสก อุบาสิกา เหมือนกันทั้งหมด



โดยหลักฐานชิ้นสุดท้าย ที่ คันโตนาซี ต้องการ ผมก็อุตส่าห์ "เก็บภาพ" มาให้เห็นอย่างชัดเจนว่า
พระสูตรนี้ ตรัสเฉพาะ "ศีลเบื้องต้น" อย่างเดียวจริงๆ ไม่ตรัสถึงการปฏิบัติอื่นใดอีกเลย
ซึ่งย่อมแสดงให้เห็นว่า พระสูตรเหล่านี้ ย่อมเป็นการตรัสสอนภิกษุบวชใหม่ ผู้ยังไม่รู้จักศีล ไม่รู้จักธรรม
เป็นคนจำพวก "ลูกเป็ดไก่อ่อน" ที่จำเป็นต้องสอน "ศีลธรรม" ด้วยนรกสวรรค์ !



ทีนี้ เรามาลองดูกันว่า นายคันโตนาซี ผู้ซึ่งได้กล่าวตู่พระพุทธเจ้า ด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา จะแสดงให้เห็นถึง
ความพยายามในการ "แถกแถ" เพื่อรักษา "หน้า-หนาๆ" ของตนเองยิ่งกว่ารักษา "พระศาสนา" และ "พระธรรมวินัย"  ด้วยวิธีการเช่นใด ?

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะไม่เอาตัวรอด ด้วยการฝลัดกระทู้แบบโง่ๆ อย่างที่ทำกันจนเป็นสันดาน นะจ๊ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่