วอชิงตัน (วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2556)สภาคองเกรสหรือสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกาที่มีพรรครีพับลิกัน ฝั่งตรงข้ามของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เป็นผู้ครองเสียงข้างมาก เดินเกมด้วยการปฏิเสธการนำร่างการใช้เงินฉุกเฉินเป็นกรณีพิเศษเพื่อใช้จ่ายในงบประมาณประจำปี อันเนื่องจากรัฐบาลมีปัญหากับยอดหนี้สาธารณะที่ชนเพดานตามกฎหมายกำหนด

          ทำให้คาดกันว่า หน่วยงานของรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาจะต้องหยุดดำเนินกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากไม่มีงบประมาณจ่ายให้กับเงินเดือนพนักงาน และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทุกประการ นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี

          รายงานระบุว่า ในวันนี้ พรรครีพับลิกันหลีกเลี่ยงการพิจารณาอนุมัติงบประมาณฉุกเฉินดังกล่าว ด้วยการนำเอากฎหมายการจัดตั้งกองทุนเพื่อดูแลสุขภาพประชาชนชาวอเมริกัน หรือที่เรียกกันว่า โอบามาแคร์ มาพิจารณา แทน ด้วยคะแนนเสียง 231-192 คะแนน ทั้งๆที่ กฏหมายอนุมัติงบประมาณฉุกเฉินได้รับการอนุมัติอย่างงเร่งด่วนจากวุฒิสภา หรือสภาซีเนท มาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้

          นอกเหนือจากนั้น ที่น่าสนใจก็คือ ในที่ประชุมสภาคองเกรส ได้มีการโหวตด้วยคะแนนเสียง 248-174 ให้ยกเลิกการเก็บภาษีอากรในอัตราต่ำต่ออุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนในโครงการดูแลสุขภาพดังกล่าว

          การลงคะแนนเสียงเช่นนี้ นั่นเท่ากับเป็นการ ยืดระยะเวลาการออกกองทุนเพื่อป้องกันสุขภาพที่เสนอโดยนายบารัค โอบามา ไปอย่างน้อยก็อีก 1 ปี

          ถึงกระนั้นเชื่อกันว่า วุฒิสภาที่ครองโดยพรรคเดโมแครตนั้น ก็คงไม่อาจยอมผ่านร่างแก้ไขที่ออกมาจากสภาผู้แทนราษฎรที่ครองโดยพรรครีพับลิกันชุดนี้เช่นกัน ขณะที่ประธานาธิบดีโอบามาเองก็ได้ลั่นปากไว้ว่า จะใช้สิทธิยับยั้งหากร่างกฎหมายฉบับนี้มาถึงมือ

          แต่ปัญหาที่หวั่นวิตกกันก็คือ หากสภาคองเกรส เบี่ยงเบนประเด็นไปอยู่ที่การต้องแก้ไขปัญหากับกฎหมายกองทุนเพื่อประกันสุขภาพแล้ว   การพิจารณาอนุมัติขอใช้จ่ายเงินพิเศษ ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม จะไม่ทันการณ์        


ปล. อเมริกาเล่นบทเดิมอีกแล้ว จะผ่านไม่ผ่านร่าง แบบล่อแล่ ให้โลกมาร่วมกดดันสภาอีกแล้ว  ท้ายที่สุดมันก็ดันกันจนได้หล่ะ แต่ก่อนจะผ่าน คงจะสอยหุ้นทั้งโลกก่อนเอามันส์  ตรูระเบื่อประเทศสาระขันนี่ซะจริง