นนี้ ( 31 ส.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงงานสมศิริ ซึ่งตั้งอยู่บ้านสระธาร ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งเปิดเป็นโรงงานผลิตเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ต่างเต็มไปด้วยเครื่องปั้นดินเผาที่ออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดหลายหมื่นชิ้น เรียงทับซ้อนกันจนเต็มพื้นที่โรงงานเกือบ 20 ไร่ เนื่องจากในปีนี้แทบไม่มีการสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้าเข้ามาสู่โรงงาน จึงทำให้สินค้าต้องถูกวางทิ้งไว้เพื่อรอให้มีการสั่งซื้อจากลูกค้าเข้ามาก่อน สร้างความกังวลใจให้กับเจ้าของโรงงานเป็นอย่างมาก
นายสม เปล้ากระโทก อายุ 52 ปี เจ้าของโรงงานสมศิริ กล่าวว่า ตั้งแต่ที่เปิดโรงงานผลิตเครื่องปั้นดินเผามาเป็นเวลากว่า 7 ปี ปีนี้เป็นปีที่วิกฤติที่สุด เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีออเดอร์สั่งผลิตสินค้าเพียง 2 ครั้งเท่านั้น หากเทียบกับทุกๆ ปีที่ผ่านมาจะมีมาปีละอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ตอนนี้ก็เกือบจะสิ้นปีแล้วก็ยังไม่มีวี่แววการสั่งสินค้าเข้ามา ทำให้รายได้ขาดหายไปกว่า 60 เปอร์เซนต์ ปัญหาหลักส่วนใหญ่คาดว่าน่าจะมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ทำให้กลุ่มลูกค้าลดภาระค่าใช้จ่ายในการครองชีพ ประกอบกับสินค้าชนิดนี้เป็นสินค้าที่จัดอยู่ในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟื่อยไม่มีความจำเป็นมากนัก ทำให้ยอดการสั่งซื้อลดลงอย่างน่าใจหาย ผู้ประกอบการหลายรายต้องปิดกิจการ แรงงานในพื้นที่ต้องออกไปค้าแรงงานที่อื่น โรงงานต่างๆ ก็ไม่มีต้นทุนมาเป็นค่าจ้าง อย่างเช่นโรงงานของตน ต้องว่าจ้างให้คนงานที่มีอยู่ประมาณ 20 คน ผลิตเป็นชิ้นงานออกมาแลกเป็นเงินค่าแรง แทนที่จะเหมาจ้างเป็นรายวันหรือรายเดือน เพื่อประคับประคองให้แรงงานพอมีรายได้ ไม่ให้ตกงาน แต่ก็ถือเป็นภาระที่หนักหนามาก เพราะสินค้าที่ผลิตออกมาก็ไม่รู้ว่าจะนำไปจำหน่ายที่ไหน ทำได้เพียงนำไปวางไว้หน้าร้าน เพื่อให้ลูกค้าที่ผ่านไปผ่านมาได้แวะเลือกซื้อบ้างเท่านั้น บางวันก็แทบจะขายไม่ได้สักชิ้น เพราะเศรษฐกิจเช่นนี้กลุ่มนักท่องเที่ยวก็ลดลงอย่างมาก
นายสม กล่าวอีกว่า นอกจากสินค้าจะขายไม่ออกแล้ว ในช่วงนี้ต้นทุนการผลิตก็มีราคาสูงขึ้นทั้งสี อุปกรณ์ส่วนเสริมต่างๆ รวมไปถึงไม้ที่จะนำมาเป็นเชื้อเพลิงในการเผาอบเครื่องปั้นต่างก็ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์ที่ตั้งใจผลิตออกมาราคากลับคงที่ บางครั้งต้องมีการลดราคาลงเพื่อเอาใจลูกค้า โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ต้องลดราคากันเป็นพิเศษ เพราะสินค้าขายไม่ค่อยได้ โดยส่วนตัวคิดว่าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปธุรกิจเครื่องปั้นดินเผาต้องซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการอีกจำนวนมากจะต้องปิดกิจการเพิ่มอีก เพราะไม่สามารถแบกรับกับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในขณะที่รายได้ลดลง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาหาทางช่วยเหลือเพื่อให้ผู้ประกอบการและชาวบ้านอยู่รอดให้สมกับคำขวัญของจังหวัดที่ว่า “เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน”
http://www.dailynews.co.th/thailand/229825
-----------------------------------------------------------------
เข้าใจเลยตอนนี้ว่าตอนนี้มันคงทรุดกันทั้งประเทศ ข้าวของแพง ต้นทุนพุ่ง ค่าแรงสูง แต่ขายของไม่ได้ไม่มีคนซื้อ เพื่อนอยู่ลำปาง บอกเซรามิคก็กำลังจะเจ๊งเร็วๆนี้ เฮ้อ นโยบายบริหารได้ใจจริง เลือกมาแล้วก็ไ้ด้แต่ก้มหน้ารับกรรมไป
เศรษฐกิจแย่!! ธุรกิจเครื่องปั้นด่านเกวียนทรุดหนัก
นายสม เปล้ากระโทก อายุ 52 ปี เจ้าของโรงงานสมศิริ กล่าวว่า ตั้งแต่ที่เปิดโรงงานผลิตเครื่องปั้นดินเผามาเป็นเวลากว่า 7 ปี ปีนี้เป็นปีที่วิกฤติที่สุด เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีออเดอร์สั่งผลิตสินค้าเพียง 2 ครั้งเท่านั้น หากเทียบกับทุกๆ ปีที่ผ่านมาจะมีมาปีละอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ตอนนี้ก็เกือบจะสิ้นปีแล้วก็ยังไม่มีวี่แววการสั่งสินค้าเข้ามา ทำให้รายได้ขาดหายไปกว่า 60 เปอร์เซนต์ ปัญหาหลักส่วนใหญ่คาดว่าน่าจะมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ทำให้กลุ่มลูกค้าลดภาระค่าใช้จ่ายในการครองชีพ ประกอบกับสินค้าชนิดนี้เป็นสินค้าที่จัดอยู่ในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟื่อยไม่มีความจำเป็นมากนัก ทำให้ยอดการสั่งซื้อลดลงอย่างน่าใจหาย ผู้ประกอบการหลายรายต้องปิดกิจการ แรงงานในพื้นที่ต้องออกไปค้าแรงงานที่อื่น โรงงานต่างๆ ก็ไม่มีต้นทุนมาเป็นค่าจ้าง อย่างเช่นโรงงานของตน ต้องว่าจ้างให้คนงานที่มีอยู่ประมาณ 20 คน ผลิตเป็นชิ้นงานออกมาแลกเป็นเงินค่าแรง แทนที่จะเหมาจ้างเป็นรายวันหรือรายเดือน เพื่อประคับประคองให้แรงงานพอมีรายได้ ไม่ให้ตกงาน แต่ก็ถือเป็นภาระที่หนักหนามาก เพราะสินค้าที่ผลิตออกมาก็ไม่รู้ว่าจะนำไปจำหน่ายที่ไหน ทำได้เพียงนำไปวางไว้หน้าร้าน เพื่อให้ลูกค้าที่ผ่านไปผ่านมาได้แวะเลือกซื้อบ้างเท่านั้น บางวันก็แทบจะขายไม่ได้สักชิ้น เพราะเศรษฐกิจเช่นนี้กลุ่มนักท่องเที่ยวก็ลดลงอย่างมาก
นายสม กล่าวอีกว่า นอกจากสินค้าจะขายไม่ออกแล้ว ในช่วงนี้ต้นทุนการผลิตก็มีราคาสูงขึ้นทั้งสี อุปกรณ์ส่วนเสริมต่างๆ รวมไปถึงไม้ที่จะนำมาเป็นเชื้อเพลิงในการเผาอบเครื่องปั้นต่างก็ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์ที่ตั้งใจผลิตออกมาราคากลับคงที่ บางครั้งต้องมีการลดราคาลงเพื่อเอาใจลูกค้า โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ต้องลดราคากันเป็นพิเศษ เพราะสินค้าขายไม่ค่อยได้ โดยส่วนตัวคิดว่าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปธุรกิจเครื่องปั้นดินเผาต้องซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการอีกจำนวนมากจะต้องปิดกิจการเพิ่มอีก เพราะไม่สามารถแบกรับกับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในขณะที่รายได้ลดลง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาหาทางช่วยเหลือเพื่อให้ผู้ประกอบการและชาวบ้านอยู่รอดให้สมกับคำขวัญของจังหวัดที่ว่า “เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน”
http://www.dailynews.co.th/thailand/229825
-----------------------------------------------------------------
เข้าใจเลยตอนนี้ว่าตอนนี้มันคงทรุดกันทั้งประเทศ ข้าวของแพง ต้นทุนพุ่ง ค่าแรงสูง แต่ขายของไม่ได้ไม่มีคนซื้อ เพื่อนอยู่ลำปาง บอกเซรามิคก็กำลังจะเจ๊งเร็วๆนี้ เฮ้อ นโยบายบริหารได้ใจจริง เลือกมาแล้วก็ไ้ด้แต่ก้มหน้ารับกรรมไป