เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
เกิดอาการ ว่าอยากกิน นี่ไม่ต้องพูดถึง ทำได้ทุกอย่างจริงๆ เอาน่าไหนๆก็ไหนๆละ มาบรรเลงเลยดีกว่า วันนี้ว่าด้วยเรื่องมัสมั่น แกงมัสมั่น เป็นอาหารประเภทแกงที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารมลายู ชาวไทยมุสลิมเรียกแกงชนิดนี้ว่า ซาละหมั่น แกงมัสมั่นแบบไทยออกรสหวานในขณะที่ตำรับดั้งเดิมของชาวมุสลิมออกรสเค็มมัน แกงมัสมั่นแบบชาวมุสลิมปักษ์ใต้ ต่างจากการปรุงแกงมัสมั่นของชาวไทยภาคกลางคือ จะไม่ทำเป็นน้ำพริกแกงมัสมั่น แต่จะผสมลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น พริกป่นอินเดีย และพริกไทยป่นไว้เป็นผงเครื่องแกง จากนั้นจึงนำลงไปผัดกับน้ำมันที่เจียวหัวหอมแล้ว ส่วนแกงมัสมั่นแบบมลายู-ชวา จะใส่กานพลู อบเชย ลงไปผัดกับน้ำมันและหอมแดงจนหอม แล้วจึงใส่พริกป่นอินเดีย ลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น พริกไทยป่นลงไปผัดให้เข้ากัน นอกจากนั้นยังใส่มะพร้าวคั่ว ผงขมิ้น ดอกไม้จีนและหน่อไม้จีนด้วย (ในวิกิว่าไว้อย่างนั้น) มาดูวิธีผม ก็ไม่ต้องโขลกอะไรทั้งสิ้น เดี๋ยวนี้อยากได้อะไรก็ไปหาซื้อมา เครื่องเทศสมัยนี้เขามีแบบผงจำหน่าย ก็ตักอย่างละนิดละหน่อย ลงเจียว ที่ผมใช้ก็มีแค่ ลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น พริกป่น พริกไทยป่น ก้านอบเชย โป๊ยกั๊ก ผงพะโล้วนิดหน่อย ผัดให้เข้ากันในน้ำมันใช้ไฟอ่อน ก็หอมแล้ว แก้ขัดไปพลางๆ ก็อยากกินนี้ ที่เตรียมไว้มี เนื้อไก่ มะขามเปียก น้ำตาลปี๊ป มันฝรั่ง หอมหัวใหญ่ ถั่วลิสงเม็ด หอมแดง กะทิ 500 Ml ทำเสร็จก็จะได้แกง มัสมั่นแบบนี้ ตามภาพครับ
น้ำส่วน ผสมที่ผมกล่าวข้างต้น อย่างละนิดละหน่อย ลงในหม้อ เทน้ำมันลงไป เจียว ไฟอ่อนๆ เพื่อให้น้ำมันหอมระเหยเครื่องเทศออกมา มันหอมมากเลย จนคิดว่าได้ที่แล้ว ก็เติมกะทิลงไป ครึ่งกล่อง บวกกับน้ำในปริมาณเท่า ๆกัน รอเดือด
ไก่สดที่ล้างแล้วพักไว้
เครื่องเทศเท่าที่มี อย่าไปอะไรมากเอาตามที่มี ขาดใบ กับลูกกระวาน แต่ไม่เป็นไร กลิ่นหอมเอาเรื่องอยู่ครับ
รอพอน้ำแกงเดือด ใส่ไก่ลงไป
ใส่มันฝรั่ง ถั่วลิสง โป๊ยกี๊ก อบเชย หอมใหญ่ หอมแดง น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊ป ตามลงไป ชอบเปรี้ยวอมหวานก็ปรุง เพราะอาหารที่เราทำ ทำตามรสที่เราชอบ ส่วนผสมก็ตามแบบฉบับ แต่รสชาติเป็นเอกลักษณ์ของเรา รอให้เดือด แล้วหรี่ไฟให้อ่อน ตุ่นไปเรื่อยๆ ไม่ต้องคน
พอน้ำเริ่มงวด โดยสังเกตุเอาว่าไก่เริ่มโผล่พ้นน้ำ เติมหัวกะทิส่วนที่เหลือลงไป เคี่ยวต่อ ให้ได้ที่ ใช้ไฟอ่อน ให้น้ำแกงปริ่มเนื้อไก่ พอขลุกขลิก ก็เป็นอันใช้ได้แล้ว แค่นี้ก็ได้แกงมัสมั่น หอมๆ แล้วละ
@@@___ แกงมัสมั่น เชิญชมได้เลยคราบ ___@@@
เกิดอาการ ว่าอยากกิน นี่ไม่ต้องพูดถึง ทำได้ทุกอย่างจริงๆ
เอาน่าไหนๆก็ไหนๆละ มาบรรเลงเลยดีกว่า
วันนี้ว่าด้วยเรื่องมัสมั่น
แกงมัสมั่น เป็นอาหารประเภทแกงที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารมลายู
ชาวไทยมุสลิมเรียกแกงชนิดนี้ว่า ซาละหมั่น
แกงมัสมั่นแบบไทยออกรสหวานในขณะที่ตำรับดั้งเดิมของชาวมุสลิมออกรสเค็มมัน
แกงมัสมั่นแบบชาวมุสลิมปักษ์ใต้ ต่างจากการปรุงแกงมัสมั่นของชาวไทยภาคกลางคือ
จะไม่ทำเป็นน้ำพริกแกงมัสมั่น แต่จะผสมลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น พริกป่นอินเดีย
และพริกไทยป่นไว้เป็นผงเครื่องแกง จากนั้นจึงนำลงไปผัดกับน้ำมันที่เจียวหัวหอมแล้ว
ส่วนแกงมัสมั่นแบบมลายู-ชวา จะใส่กานพลู อบเชย ลงไปผัดกับน้ำมันและหอมแดงจนหอม
แล้วจึงใส่พริกป่นอินเดีย ลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น พริกไทยป่นลงไปผัดให้เข้ากัน
นอกจากนั้นยังใส่มะพร้าวคั่ว ผงขมิ้น ดอกไม้จีนและหน่อไม้จีนด้วย (ในวิกิว่าไว้อย่างนั้น)
มาดูวิธีผม ก็ไม่ต้องโขลกอะไรทั้งสิ้น เดี๋ยวนี้อยากได้อะไรก็ไปหาซื้อมา
เครื่องเทศสมัยนี้เขามีแบบผงจำหน่าย ก็ตักอย่างละนิดละหน่อย ลงเจียว
ที่ผมใช้ก็มีแค่ ลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น พริกป่น พริกไทยป่น ก้านอบเชย โป๊ยกั๊ก ผงพะโล้วนิดหน่อย
ผัดให้เข้ากันในน้ำมันใช้ไฟอ่อน ก็หอมแล้ว แก้ขัดไปพลางๆ ก็อยากกินนี้
ที่เตรียมไว้มี เนื้อไก่ มะขามเปียก น้ำตาลปี๊ป มันฝรั่ง หอมหัวใหญ่ ถั่วลิสงเม็ด หอมแดง กะทิ 500 Ml
ทำเสร็จก็จะได้แกง มัสมั่นแบบนี้ ตามภาพครับ
น้ำส่วน ผสมที่ผมกล่าวข้างต้น อย่างละนิดละหน่อย ลงในหม้อ เทน้ำมันลงไป เจียว ไฟอ่อนๆ
เพื่อให้น้ำมันหอมระเหยเครื่องเทศออกมา มันหอมมากเลย
จนคิดว่าได้ที่แล้ว ก็เติมกะทิลงไป ครึ่งกล่อง บวกกับน้ำในปริมาณเท่า ๆกัน รอเดือด
ไก่สดที่ล้างแล้วพักไว้
เครื่องเทศเท่าที่มี อย่าไปอะไรมากเอาตามที่มี ขาดใบ กับลูกกระวาน แต่ไม่เป็นไร กลิ่นหอมเอาเรื่องอยู่ครับ
รอพอน้ำแกงเดือด ใส่ไก่ลงไป
ใส่มันฝรั่ง ถั่วลิสง โป๊ยกี๊ก อบเชย หอมใหญ่ หอมแดง น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊ป
ตามลงไป ชอบเปรี้ยวอมหวานก็ปรุง เพราะอาหารที่เราทำ ทำตามรสที่เราชอบ
ส่วนผสมก็ตามแบบฉบับ แต่รสชาติเป็นเอกลักษณ์ของเรา
รอให้เดือด แล้วหรี่ไฟให้อ่อน ตุ่นไปเรื่อยๆ ไม่ต้องคน
พอน้ำเริ่มงวด โดยสังเกตุเอาว่าไก่เริ่มโผล่พ้นน้ำ เติมหัวกะทิส่วนที่เหลือลงไป
เคี่ยวต่อ ให้ได้ที่ ใช้ไฟอ่อน ให้น้ำแกงปริ่มเนื้อไก่ พอขลุกขลิก ก็เป็นอันใช้ได้แล้ว
แค่นี้ก็ได้แกงมัสมั่น หอมๆ แล้วละ
ขอให้มีความสุขกับการ มองอาหารชามนี้นะครับ สวสัดีครับ