ขอให้การประชุมรัฐสภาวันที่ 27-30/8/56 นี้ดำเนินไปด้วยดีครับ เลิกเหอะส.ว. สรรหานะครับ
พวกกากเดนเผด็จการ ปากประชาธิปไตยใจมันเผด็จการสุดๆ เลิกเหอะตอบผมหน่อยมีเพื่ออะไรครับ???
ขอทบทวนความจำการเมืองของไทยหน่อยเหอะไหนๆตอนนี้ก็เป็นกระแสการแก้รัฐธรรมนูญนะครับ
สว.สรรหา เท่าที่ผมจำได้ เริ่มมาจากรัฐธรรมนูญ 2490 ที่ทำให้พรรค ปชป ได้เป็นรัฐบาลหลังการรัฐประหารของจอมพลผิน ชุณหวะวัน และอยู่ต่อมาในรัฐธรรมนูญ 2492 ที่พรรค ปชป มันเทอดทูนเชิดชูเหลือเกินนั่นแหละ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญอีแอบที่ฟื้นฟูกลุ่มนิยมระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์หรือพวกเจ้าให้ได้รับผลประโยชน์และอภิสิทธิของตนกลับคืนมา หลังจากคณะราษฏรเคยกำหนดไว้ว่า ห้ามไม่ให้ชนชั้นศักดินาตั้งแต่ระดับหม่อมเจ้าขึ้นไปเกี่ยวข้องกับการเมืองการปกครองโดยเด็ดขาด หลังจากมีอภิสิทธิล้นเหลือมาตั้งแต่ก่อนการอภิวัฒน์ 2475
ส่วน สว.ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดนั้น เริ่มต้นครั้งแรกในรัฐธรรมนูญ 2489 หลังสงครามโลกครั้งที่สอง และถ้าใครได้อ่านก็จะรู้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่มีความเป็นประชาธิปไตยสูงมากฉบับหนึ่ง สภาสูงยุคนั้นเรียกกันว่า “พฤฒิสภา” มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด โดยมีหน้าที่เป็นสภาผู้อาวุโสมีประสบการณ์ ทำหน้าที่ในการกลั่นกรองกฎหมายที่ผ่านสภาผู้แทนราษฏรมาแล้วเท่านั้น ไม่ได้มีอภิมหาอำนาจล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ตั้งองค์กรโน้น ปลดองค์กรนี้ ปลดนายกรัฐมนตรี ปลด สส. สว.ฯลฯได้ อย่างวุฒิสภาแบบ รธน. 2550 หรอก สว.เลือกตั้งมีได้แค่ครั้งนั้นในยุคนั้น เพราะโดนรัฐประหาร 2490
ต่อมาในสมัยรัฐบาลจอมพลถนอม ตามมาถึงรัฐบาลเผด็จการทหารและพลเรือนยุคหลัง ๆ ก็จะมี วุฒิสมาชิก ที่ส่วนใหญ่หรือทั้งหมดก็ว่าได้ เป็นนายทหาร นายตำรวจ ข้าราชการพลเรือนระดับสูงที่เป็นมือไม้แขนขาของรัฐบาลเผด็จการให้มาเป็น สว.กันเป็นแถว เพื่อให้ทำหน้าที่ค้ำจุนรัฐบาลในรัฐสภา และตอบแทนผลประโยชน์ด้วยเงินเดือนและอิทธิพลจากการเป็น สว.
ดังนั้น ในยุคที่ชอบอ้างว่าเป็นประชาธิปไตยแบบไทย ๆ นั้น สว.สรรหาก็คือส้นเกือกของรัฐบาล ทำหน้าที่รองรับประคับประคองนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งทั้งหลาย ที่รวมถึงยุคของรัฐบาล พลเอกเปรม ฯ ด้วย ให้ยืนอยู่ได้ในการเมืองไทย และให้เที่ยวไปคุยโม้โอ้อวดชาวโลกได้ว่าเมืองไทยก็เป็นประเทศประชาธิปไตยนะ แต่เป็นประชาธิปไตยแบบไทย ๆ เมียนมาร์ตอนนี้ก็เอาวิธีนี้ไปใช้ จึงมีวุฒิสภาที่เต็มไปด้วยทหาร ทำหน้าที่ควบคุมและชี้แนวทางให้รัฐบาลเดินไปตามที่พวกนี้ต้องการได้
รัฐธรรมนูญ 2540 มี สว.ที่มาจากการเลือกตั้ง และทำหน้าที่สภาผู้มีประสบการณ์อย่างแท้จริง ใกล้เคียงกับ House of Lord ของสหราชอาณาจักร แต่รัฐธรรมนูญ 2550 กลับไปสู่ยุคประชาธิปไตยแบบหน้าด้านและอ้างเอาเองว่าเป็นประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ด้วยการมี สว.สรรหา ที่เนื้อแท้และที่มาของคนพวกนี้ ไปตรวจสอบดูเถิด เอี่ยวกับอำนาจอำมาตย์ไทยทุกระดับชั้นทุกคน รวมไปถึงพวกองค์กรอิสระและผู้บริหารใหญ่ของระบอบตุลาการจำนวนมากด้วย คนพวกนี้เลือกกันเอง ชงกันเอง เอาสมัครพรรคพวกและลูกสมุน รวมทั้งไอ้พวกพันธมิตร ฯ เข้ามาเป็น สว.สรรหา เต็มไปหมด ใครเลือก สว.สรรหาพวกนี้ล่ะ มันก็สารพัดตุลาการและองค์กรอิสระต่าง ๆ ทั้งนั้น นี่แหละคือวงจรอุบาทว์ของอำมาตย์ที่แท้จริง ที่จะพิทักษ์รักษาอำนาจของพวกนี้ โดยหมกเม็ดไว้ในรัฐธรรมนูญ 2550 นั่นเอง
แล้วจะเก็บ สว.สรรหาเหล่านี้ไว้ทำไม ผมว่าเคลียร์พวกมันออกไปให้หมดเถอะ อยู่ก็เป็นหอกข้างแคร่คอยทิ่มตำประชาธิปไตยเปล่า ๆ
เลิกเหอะส.ว. สรรหา หนักแผ่นดินจริงๆ กากเดนเผด็จการ
พวกกากเดนเผด็จการ ปากประชาธิปไตยใจมันเผด็จการสุดๆ เลิกเหอะตอบผมหน่อยมีเพื่ออะไรครับ???
ขอทบทวนความจำการเมืองของไทยหน่อยเหอะไหนๆตอนนี้ก็เป็นกระแสการแก้รัฐธรรมนูญนะครับ
สว.สรรหา เท่าที่ผมจำได้ เริ่มมาจากรัฐธรรมนูญ 2490 ที่ทำให้พรรค ปชป ได้เป็นรัฐบาลหลังการรัฐประหารของจอมพลผิน ชุณหวะวัน และอยู่ต่อมาในรัฐธรรมนูญ 2492 ที่พรรค ปชป มันเทอดทูนเชิดชูเหลือเกินนั่นแหละ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญอีแอบที่ฟื้นฟูกลุ่มนิยมระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์หรือพวกเจ้าให้ได้รับผลประโยชน์และอภิสิทธิของตนกลับคืนมา หลังจากคณะราษฏรเคยกำหนดไว้ว่า ห้ามไม่ให้ชนชั้นศักดินาตั้งแต่ระดับหม่อมเจ้าขึ้นไปเกี่ยวข้องกับการเมืองการปกครองโดยเด็ดขาด หลังจากมีอภิสิทธิล้นเหลือมาตั้งแต่ก่อนการอภิวัฒน์ 2475
ส่วน สว.ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดนั้น เริ่มต้นครั้งแรกในรัฐธรรมนูญ 2489 หลังสงครามโลกครั้งที่สอง และถ้าใครได้อ่านก็จะรู้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่มีความเป็นประชาธิปไตยสูงมากฉบับหนึ่ง สภาสูงยุคนั้นเรียกกันว่า “พฤฒิสภา” มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด โดยมีหน้าที่เป็นสภาผู้อาวุโสมีประสบการณ์ ทำหน้าที่ในการกลั่นกรองกฎหมายที่ผ่านสภาผู้แทนราษฏรมาแล้วเท่านั้น ไม่ได้มีอภิมหาอำนาจล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ตั้งองค์กรโน้น ปลดองค์กรนี้ ปลดนายกรัฐมนตรี ปลด สส. สว.ฯลฯได้ อย่างวุฒิสภาแบบ รธน. 2550 หรอก สว.เลือกตั้งมีได้แค่ครั้งนั้นในยุคนั้น เพราะโดนรัฐประหาร 2490
ต่อมาในสมัยรัฐบาลจอมพลถนอม ตามมาถึงรัฐบาลเผด็จการทหารและพลเรือนยุคหลัง ๆ ก็จะมี วุฒิสมาชิก ที่ส่วนใหญ่หรือทั้งหมดก็ว่าได้ เป็นนายทหาร นายตำรวจ ข้าราชการพลเรือนระดับสูงที่เป็นมือไม้แขนขาของรัฐบาลเผด็จการให้มาเป็น สว.กันเป็นแถว เพื่อให้ทำหน้าที่ค้ำจุนรัฐบาลในรัฐสภา และตอบแทนผลประโยชน์ด้วยเงินเดือนและอิทธิพลจากการเป็น สว.
ดังนั้น ในยุคที่ชอบอ้างว่าเป็นประชาธิปไตยแบบไทย ๆ นั้น สว.สรรหาก็คือส้นเกือกของรัฐบาล ทำหน้าที่รองรับประคับประคองนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งทั้งหลาย ที่รวมถึงยุคของรัฐบาล พลเอกเปรม ฯ ด้วย ให้ยืนอยู่ได้ในการเมืองไทย และให้เที่ยวไปคุยโม้โอ้อวดชาวโลกได้ว่าเมืองไทยก็เป็นประเทศประชาธิปไตยนะ แต่เป็นประชาธิปไตยแบบไทย ๆ เมียนมาร์ตอนนี้ก็เอาวิธีนี้ไปใช้ จึงมีวุฒิสภาที่เต็มไปด้วยทหาร ทำหน้าที่ควบคุมและชี้แนวทางให้รัฐบาลเดินไปตามที่พวกนี้ต้องการได้
รัฐธรรมนูญ 2540 มี สว.ที่มาจากการเลือกตั้ง และทำหน้าที่สภาผู้มีประสบการณ์อย่างแท้จริง ใกล้เคียงกับ House of Lord ของสหราชอาณาจักร แต่รัฐธรรมนูญ 2550 กลับไปสู่ยุคประชาธิปไตยแบบหน้าด้านและอ้างเอาเองว่าเป็นประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ด้วยการมี สว.สรรหา ที่เนื้อแท้และที่มาของคนพวกนี้ ไปตรวจสอบดูเถิด เอี่ยวกับอำนาจอำมาตย์ไทยทุกระดับชั้นทุกคน รวมไปถึงพวกองค์กรอิสระและผู้บริหารใหญ่ของระบอบตุลาการจำนวนมากด้วย คนพวกนี้เลือกกันเอง ชงกันเอง เอาสมัครพรรคพวกและลูกสมุน รวมทั้งไอ้พวกพันธมิตร ฯ เข้ามาเป็น สว.สรรหา เต็มไปหมด ใครเลือก สว.สรรหาพวกนี้ล่ะ มันก็สารพัดตุลาการและองค์กรอิสระต่าง ๆ ทั้งนั้น นี่แหละคือวงจรอุบาทว์ของอำมาตย์ที่แท้จริง ที่จะพิทักษ์รักษาอำนาจของพวกนี้ โดยหมกเม็ดไว้ในรัฐธรรมนูญ 2550 นั่นเอง
แล้วจะเก็บ สว.สรรหาเหล่านี้ไว้ทำไม ผมว่าเคลียร์พวกมันออกไปให้หมดเถอะ อยู่ก็เป็นหอกข้างแคร่คอยทิ่มตำประชาธิปไตยเปล่า ๆ