"แกงผักคันทรงกุ้งสด"
คันทรง เป็นผักพื้นบ้านริมรั่ว ที่รับประทานกันมาหลายชั่วอายุคน มีสรรพคุณทางยาสมุนไพร และปลอดสารพิษ 100%
คันทรงมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Colubrina asiatica L. ex Brongn. อยู่ในวงศ์ RHAMNACEAE
ชื่อสามัญ - ชื่อท้องถิ่น : ผักก้านถึง ,ก้านเถิง(เชียงใหม่) กะทง(ภาคใต้) ผักคันทรง,ผักก้านตง,ผักหวานโยน,ผักแก่นทรง(สุโขทัย)
ลักษณะทาง พฤกษ์ศาสตร์ : ไม้ยืนต้นขนาดย่อม สูง ๒ – ๓ เมตร ใบกลมขอบหยักเล็กน้อย ปลายใบแหลม ดอก ออกเป็นช่อขนาดเล็กตามง่ามใบ ดอกมีสีเหลือง ผลทรงกลมสีเขียว
ส่วนที่ใช้เป็นยา : เปลือก ต้น ใบ
ประโยชน์และสรรพคุณด้านยาไทย : เปลือกต้น,ใบ ต้มอาบแก้บวมเนื่องจากไตและหัวใจพิการ แก้ น้ำเหลืองเสีย แก้เหน็บชา
ทางเหนือใช้แกงกับปลาย่าง ทางภาคกลางใช้ทำแกงเลียง ทอดไข่ ห่อหมก ต้มจิ้มน้ำพริก และแกงจืด แม้คันทรงจะเป็นผักที่ปลูกขึ้นได้ง่าย แต่ในปัจจุบันกลับไม่ค่อยมีให้พบเห็นมากนัก เนื่องจากถูกตัดทิ้งทำลายเพราะไม่มีใครเห็นคุณค่า ทั้งๆที่คุณค่านั้นแสนจะมากมาย
"วัตถุดิบและเครื่องปรุงมีดังนี้..."
ยอดผักคันทรง ๒๕๐ กรัม, เห็ดนางฟ้าฉีก ๑๕๐ กรัม, เห็ดเข็มทองหั่นท่อน ๑๐๐ กรัม, หัวปลีสับ ๑ หัว, กุ้งสดแกะเปลือกผ่าหลัง ๓๐๐ กรัม, กุ้งแห้ง ๔ ช.ต., พริกขี้หนูแดง ๖-๗ เม็ด, หอมแดงซอย ๑๐๐ กรัม, กระชายซอย ๒ ช.ต., กะปิอย่างดี ๑ ช.ช., เกลือป่น, น้ำปลาดี, น้ำซุปต้มกระดูกหรือน้ำเปล่า ๒ ลิตร
"วิธีทำ"
โขลกพริกขี้หนู หอมแดง กระชาย กุ้งแก้ง และกะปิรวมกันจนละเอียด
ใส่น้ำซุปต้มกระดูกหรือน้ำเปล่าลงหม้อตั้งไฟ ละลายพริกแกงที่เราโขลกเอาไว้ลงไป
พอเดือดจึงใส่หัวปลีสับ แต่ก่อนที่จะนำหัวปลีมาแกงเราควรนำหัวปลีมาขยำกับเกลือป่น บีบเอาน้ำเกลือออกแล้วนำไปล้างน้ำ กรองด้วยกระชอนบีบน้ำออกให้หมาดเสียก่อน วิธีนี้จะช่วยลดความฝาดของหัวปลี และช่วยให้หัวปลีไม่ดำ
ปรุงรสด้วยเกลือป่นและน้ำปลาตามชอบ จากนั้นให้ใส่เห็ดทั้งสองชนิดที่เราเตรียมไว้
ตามด้วยผักคันทรง และกุ้งสด รอให้เดือดพลุ่งอีกครั้งก็ใช้ได้ค่ะ
หากสนใจวิธีทำอาหารแบบอื่นๆ สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/pages/Create-Food-Idea/625503067479601
[CR] "แกงผักคันทรงกุ้งสด" Create Food Idea เพื่อการรับประทานพืชผักสมุนไพรพื้นบ้านให้อร่อยมากยิ่งขึ้น ๒
"แกงผักคันทรงกุ้งสด"
คันทรง เป็นผักพื้นบ้านริมรั่ว ที่รับประทานกันมาหลายชั่วอายุคน มีสรรพคุณทางยาสมุนไพร และปลอดสารพิษ 100%
คันทรงมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Colubrina asiatica L. ex Brongn. อยู่ในวงศ์ RHAMNACEAE
ชื่อสามัญ - ชื่อท้องถิ่น : ผักก้านถึง ,ก้านเถิง(เชียงใหม่) กะทง(ภาคใต้) ผักคันทรง,ผักก้านตง,ผักหวานโยน,ผักแก่นทรง(สุโขทัย)
ลักษณะทาง พฤกษ์ศาสตร์ : ไม้ยืนต้นขนาดย่อม สูง ๒ – ๓ เมตร ใบกลมขอบหยักเล็กน้อย ปลายใบแหลม ดอก ออกเป็นช่อขนาดเล็กตามง่ามใบ ดอกมีสีเหลือง ผลทรงกลมสีเขียว
ส่วนที่ใช้เป็นยา : เปลือก ต้น ใบ
ประโยชน์และสรรพคุณด้านยาไทย : เปลือกต้น,ใบ ต้มอาบแก้บวมเนื่องจากไตและหัวใจพิการ แก้ น้ำเหลืองเสีย แก้เหน็บชา
ทางเหนือใช้แกงกับปลาย่าง ทางภาคกลางใช้ทำแกงเลียง ทอดไข่ ห่อหมก ต้มจิ้มน้ำพริก และแกงจืด แม้คันทรงจะเป็นผักที่ปลูกขึ้นได้ง่าย แต่ในปัจจุบันกลับไม่ค่อยมีให้พบเห็นมากนัก เนื่องจากถูกตัดทิ้งทำลายเพราะไม่มีใครเห็นคุณค่า ทั้งๆที่คุณค่านั้นแสนจะมากมาย
"วัตถุดิบและเครื่องปรุงมีดังนี้..."
ยอดผักคันทรง ๒๕๐ กรัม, เห็ดนางฟ้าฉีก ๑๕๐ กรัม, เห็ดเข็มทองหั่นท่อน ๑๐๐ กรัม, หัวปลีสับ ๑ หัว, กุ้งสดแกะเปลือกผ่าหลัง ๓๐๐ กรัม, กุ้งแห้ง ๔ ช.ต., พริกขี้หนูแดง ๖-๗ เม็ด, หอมแดงซอย ๑๐๐ กรัม, กระชายซอย ๒ ช.ต., กะปิอย่างดี ๑ ช.ช., เกลือป่น, น้ำปลาดี, น้ำซุปต้มกระดูกหรือน้ำเปล่า ๒ ลิตร
"วิธีทำ"
โขลกพริกขี้หนู หอมแดง กระชาย กุ้งแก้ง และกะปิรวมกันจนละเอียด
ใส่น้ำซุปต้มกระดูกหรือน้ำเปล่าลงหม้อตั้งไฟ ละลายพริกแกงที่เราโขลกเอาไว้ลงไป
พอเดือดจึงใส่หัวปลีสับ แต่ก่อนที่จะนำหัวปลีมาแกงเราควรนำหัวปลีมาขยำกับเกลือป่น บีบเอาน้ำเกลือออกแล้วนำไปล้างน้ำ กรองด้วยกระชอนบีบน้ำออกให้หมาดเสียก่อน วิธีนี้จะช่วยลดความฝาดของหัวปลี และช่วยให้หัวปลีไม่ดำ
ปรุงรสด้วยเกลือป่นและน้ำปลาตามชอบ จากนั้นให้ใส่เห็ดทั้งสองชนิดที่เราเตรียมไว้
ตามด้วยผักคันทรง และกุ้งสด รอให้เดือดพลุ่งอีกครั้งก็ใช้ได้ค่ะ
หากสนใจวิธีทำอาหารแบบอื่นๆ สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/pages/Create-Food-Idea/625503067479601