สัตตานัง คือสิ่งที่เกิด ตายและวนเวียนไปเกิดไหม่ตามวัฏฏะสงสาร
ซึ่งเกิดขึ้นชัวกัป ชั่วกัลป ไม่มีวันจบสิ้น จนกว่าสัตตานังนั้นจะเกิดวิชาขึ้น
ก็จะหยุดการเกิดได้ เมื่อหยุดการเกิด ขั้นตอนตามปฏิจจะสมุปบาทก็ขาดลง
ชาวบ้านเรียก สัตตานังนี้ว่า วิญญาน เวียนว่ายตายเกิด
แต่ วิญญานของพุทธ บอกว่า วิญญาน คือ จิตรู้
ผัสสะเป็นปัจจัยจึงมีเวทนา เมื่อมีผัสสะเกิดขึ้น คือมีการกระทบกันของอายตนะภายในและภายนอก
และมีการรับรู้ คือ วิญญาณ ก็จะบังเกิดเป็นเวทนา คือการเสวยอารมณ์ คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส (โผฏฐัพพะ)
ธรรมารมณ์ ที่มากระทบ โดยมีความจํา (สัญญา) มาจําแนกการรับรู้นั้นว่าเป็นถูกใจ ไม่ถูกใจ หรือเฉยๆ จึงแยกเป็น
สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุข หรือเฉยๆ ตามมาเป็นธรรมชาติ ผัสสะเป็นปัจจัยจึงมีเวทนา
สัตตานัง ดูความหมายคล้ายกับ อาตมันต์ ของ พราหม ที่ว่า อาตมันต์ มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน
อาตมันต์แยกออกมาจาก วิญญานสากลที่เรียกว่า ปรมาตมันต์ หรือ พรหมมันต์ และ บุคคลที่บรรลุธรรมที่เรียกว่า
โมกษะ วิญญาน หรือ อาตมันของคนนั้นก็จะกลับไปรวมอยู่กับ ปรมาตมันต์เช่นเดิม
ปรมาตมันต์ คือวิญญานเดิมแท้ที่มีมาแต่เดิม ไม่มีการเกิดขึ้น ไม่มีการดับสูญ ความหมายคล้ายกับ นิพพาน
เรียนเชิญท่านที่สนใจ ลองวิจารณ์ หรือ วิเคราะกันดูตามแต่ภูมิที่แต่ละท่านมี เพื่อความแจ้งแห่งปัญญา
สัตตานัง มีความหมายคล้ายกับที่ชาวบ้านเรียกว่า วิญญาน
ซึ่งเกิดขึ้นชัวกัป ชั่วกัลป ไม่มีวันจบสิ้น จนกว่าสัตตานังนั้นจะเกิดวิชาขึ้น
ก็จะหยุดการเกิดได้ เมื่อหยุดการเกิด ขั้นตอนตามปฏิจจะสมุปบาทก็ขาดลง
ชาวบ้านเรียก สัตตานังนี้ว่า วิญญาน เวียนว่ายตายเกิด
แต่ วิญญานของพุทธ บอกว่า วิญญาน คือ จิตรู้
ผัสสะเป็นปัจจัยจึงมีเวทนา เมื่อมีผัสสะเกิดขึ้น คือมีการกระทบกันของอายตนะภายในและภายนอก
และมีการรับรู้ คือ วิญญาณ ก็จะบังเกิดเป็นเวทนา คือการเสวยอารมณ์ คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส (โผฏฐัพพะ)
ธรรมารมณ์ ที่มากระทบ โดยมีความจํา (สัญญา) มาจําแนกการรับรู้นั้นว่าเป็นถูกใจ ไม่ถูกใจ หรือเฉยๆ จึงแยกเป็น
สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุข หรือเฉยๆ ตามมาเป็นธรรมชาติ ผัสสะเป็นปัจจัยจึงมีเวทนา
สัตตานัง ดูความหมายคล้ายกับ อาตมันต์ ของ พราหม ที่ว่า อาตมันต์ มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน
อาตมันต์แยกออกมาจาก วิญญานสากลที่เรียกว่า ปรมาตมันต์ หรือ พรหมมันต์ และ บุคคลที่บรรลุธรรมที่เรียกว่า
โมกษะ วิญญาน หรือ อาตมันของคนนั้นก็จะกลับไปรวมอยู่กับ ปรมาตมันต์เช่นเดิม
ปรมาตมันต์ คือวิญญานเดิมแท้ที่มีมาแต่เดิม ไม่มีการเกิดขึ้น ไม่มีการดับสูญ ความหมายคล้ายกับ นิพพาน
เรียนเชิญท่านที่สนใจ ลองวิจารณ์ หรือ วิเคราะกันดูตามแต่ภูมิที่แต่ละท่านมี เพื่อความแจ้งแห่งปัญญา