ยังไม่ต้องพูดถึงจิต มาดูว่าเกิดตัวตนได้อย่างไร
การตอบสนองต่อสิ่งมากระทบ ทำให้เกิดความรู้สึก
สิ่งมากระทบคือรูปกับนาม รูปคืออนุภาคทั้งหมดในธรรมชาติรวมทั้งรูปตัวเราเอง อนุภาคเสียง แสง
นามคือผลจากการมีการกระทบของรูป คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน(กริยาจิต) และวิญญานตัวดั้งเดิมที่มีอยู่อันเป็นธรรมชาติรู้
รูปนามจึงคือผัสสะ กระทบกับความรู้สึก ผลการกระทบเป็นอย่างไรจึงทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนแปลง ดังนั้นตรงนี้จะเห็นจิต จิตคือความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลง ที่มีเหตุมาจากการกระทบของผัสสะ การเห็นจิตจึงเห็นเป็นขณะๆ ขณะนั้นเป็นอย่างไร จึงทำให้จิตหมุนวนอยู่ใน กามภพ รูปภพ อรูปภพ แต่ละช่วงเวลา
การปฏิบัติเป็นการทวนกระแส เมื่อมีผัสสะให้จิตไม่ไหลไปตามกะแส อันทำให้เกิดวัฏฏะ ซึ่งต้องอาศัย สติ สมาธิ ที่คมกล้ามาก จึงจะทันกระบวนการนี้ดังนั้นทำอย่างไรให้จิตตั้งมั่นอยู่กับการเห็นการเปลี่ยนแปลง ก็ให้รู้อยู่กับกาย การรู้อยู่กับกายจึงเป็นดังหลักให้วัวอยู่กับหลัก ให้วัวซึ่งเป็นจิตไม่เตลิดไปตามหญ้าที่เป็นอาหารของจิตทางอายตน6
ศาสนาพุทธสอนอะไร
การตอบสนองต่อสิ่งมากระทบ ทำให้เกิดความรู้สึก
สิ่งมากระทบคือรูปกับนาม รูปคืออนุภาคทั้งหมดในธรรมชาติรวมทั้งรูปตัวเราเอง อนุภาคเสียง แสง
นามคือผลจากการมีการกระทบของรูป คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน(กริยาจิต) และวิญญานตัวดั้งเดิมที่มีอยู่อันเป็นธรรมชาติรู้
รูปนามจึงคือผัสสะ กระทบกับความรู้สึก ผลการกระทบเป็นอย่างไรจึงทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนแปลง ดังนั้นตรงนี้จะเห็นจิต จิตคือความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลง ที่มีเหตุมาจากการกระทบของผัสสะ การเห็นจิตจึงเห็นเป็นขณะๆ ขณะนั้นเป็นอย่างไร จึงทำให้จิตหมุนวนอยู่ใน กามภพ รูปภพ อรูปภพ แต่ละช่วงเวลา
การปฏิบัติเป็นการทวนกระแส เมื่อมีผัสสะให้จิตไม่ไหลไปตามกะแส อันทำให้เกิดวัฏฏะ ซึ่งต้องอาศัย สติ สมาธิ ที่คมกล้ามาก จึงจะทันกระบวนการนี้ดังนั้นทำอย่างไรให้จิตตั้งมั่นอยู่กับการเห็นการเปลี่ยนแปลง ก็ให้รู้อยู่กับกาย การรู้อยู่กับกายจึงเป็นดังหลักให้วัวอยู่กับหลัก ให้วัวซึ่งเป็นจิตไม่เตลิดไปตามหญ้าที่เป็นอาหารของจิตทางอายตน6