พิษรัก ตอนที่ 2

กระทู้สนทนา

    เช้าของวันใหม่แบงค์รีบร้อนออกจากห้องไปมหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็ว เพราะเขามีนัดส่งงานชิ้นสุดท้ายก่อนเรียนจบกับอาจารย์นารีจอมโหด
“นายแบงค์เธออยากเรียนจบไหมถ้าไม่ก็ออกจากห้องไปได้เลย แต่ถ้าเธออยากจะจบก็เชิญเอารายงายมาส่งเดี๋ยวนี้”
อาจารย์นารีบ่นเป็นชุดเมื่อเห็นแบงค์เดินเข้ามาในห้อง
“ส่งสิครับอาจารย์ผมจะส่งเดี๋ยวนี้แหละครับ”
แบงค์พูดนอบน้อมก่อนจะยื่นรายงานให้คุณครูนารี
“ผมไปได้หรือยังครับอาจารย์”
“แหม.....นี่พ่อคุณร้อยวันพันปีจะโผล่หน้ามาให้เห็นก็จะรีบไปเชียวนะ”
อาจารย์นารีหันมาค้อนใส่แบงค์อย่างนึกหมันไส้
“โธ่อาจารย์ครับผมมีธุระด่วนนี่ครับไม่อย่างนั้นผมคงไม่คิดจะโดดเรียนวิชาที่อาจารย์ผู้สอนน่ารักๆอย่างอาจารย์หรอกครับ”
แบงค์ส่งลูกอ้อนไปเรียกคะแนนสงสารอย่างเคย
“จะไปไหนก็เชิญเถอะคุณพ่อแต่อย่าลืมขอบคุณยายปูนล่ะที่ช่วยเอาชื่อของเธอใส่ไปในรายงานกลุ่มไม่อย่างนั้นเธอไม่จบแน่”
เพราะคำพูดของอาจารย์นารีทำให้แบงค์หันไปมอง “ปูน”เพื่อนสาวของเขาด้วยความหนักใจเพราะความสัมพันเก่าๆของเขาและเธอ
“ขอบคุณมากนะสำหรับเรื่องรายงาน”
แบงค์พูดเดินหนีปูนเอาดื้อๆ
“เดี๋ยวก่อนซิแบงค์..........รอปูนด้วย”
เธอเรียกแบงค์เสียงลั่นวิ่งตามเขาไปติดๆ
“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นเลี้ยงข้าวซักมื้อได้ไหมคะ”
“ไม่ได้หรอกแต่เอาเงินนี้ไปแล้วกันเป็นค่ารายงาน”
แบงค์ยื่นเงินห้ารอยบาทให้ปูนก่อนจะเดินหนีเธอไปอีก
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
ปูนตะโกนเสียงลั่นวิ่งไปดักหน้าแบงค์ด้วยความโมโห
“ไม่พอเหรอให้อีกร้อยก็ได้......ทุ่มหมดตัวแล้วนะ”
ยังไม่ทันที่เงินในมือจะถูกส่งไปให้ปูนใบหน้าคมเข้มของแบงค์ก็ต้องสะบัดไปตามแรงตบของปูน
“ยังเหมือนเดิมเลยนะแบงค์เมื่อก่อนเธอเลือดเย็นยังไงตอนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยน เงินนี่เธอเอาไปเถอะเพราะว่าค่าตัวฉันมันไม่มากขนาดนี้หรอก เธอเองก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าตัวฉันมันไม่มีค่าอะไรเลย”
ปูนพูดเสียงสั่นก่อนจะเดินไปจากตรงนั้นก่อนที่เธอจะต้องเสียน้ำตาตาหน้าแบงค์
“คนบ้า......คนผีทะเล........คนไม่มีหัวใจ....นายมันร้ายกาจที่สุดเลย......ฮือ”
ปูนร้องไห้โฮทรุดกายลงแอบอยู่หลังมุมตึก
“ไปกินข้าวกันไหม”
แบงค์เอ่ยชวนปูนเมื่อรู้สึกว่าเขาเองทำกับเธอเกินไปจริงๆ
“ทำไม.....นายรู้สึกผิดอย่างนั้นเหรอที่ทำกับฉันแบบนี้”
ปูนเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นแบงค์ยืนทำหน้าจ๋อย
“ว่าไงนายรู้สึกผิดใช่ไหมที่ใจร้ายกับฉันเกินไป”
แบงค์ไม่ได้พูดตอบคำถามปูนแต่เขาพยักหน้าให้เธอเป็นคำตอบ
                     ในร้านอาหารข้างๆมหาวิทยาลัยพันธมิตรพาน้ำตาลมากินข้าวที่นี่ในขณะที่แบงค์เองก็พาปูนมาเช่นกัน
“ต้องเจอกันทุกทีไปซิน่า”
น้ำตาลแอบบ่นคนเดียวเมื่อเห็นแบงค์เดินควงสาวหุ่นเนี๊ยบเข้ามาในร้าน
“หุ่นดีจังนะ”
น้ำตาลบ่นและสังเกตต่อไปเพื่อดูใบหน้าของเธอ
“มีอะไรหรือปล่าวครับน้ำตาล”
“ปล่าวคะไม่มีอะไร”
น้ำตาลหันกลับมายิ้มหวานให้พันธมิตรแต่สายตาก็ยังคงแอบเหล่แบงค์และปูนป็นระยะๆ
“ปูนรู้สึกเหมือนมีคนจับตาดูอยู่ตลอดเวลาเลย พวกสาวๆในเครือของคุณหรือ ปล่าวแบงค์”
ปูนเอ่ยถามแบงค์ที่นั่งนิ่งกินข้าว
“คิดมา......”
ยังไม่ทันที่แบงค์จะพูดจบประโยคเขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นน้ำตาลจ้องเขม็งมาทางนี้อยู่
“มีอะไรหรือปล่าวคะ”
ปูนถามจะหันไปมองแต่แบงค์รีบจับหน้าเธอไว้ให้มองตรงมาที่เขา
“ไม่มีอะไรหรอก..........ผมขอเตือนนะถ้าไม่อยากมีเรื่องอย่าหันไปด้านหลัง”
“ทำไมคะสาวๆของคุณจะฆ่าปูนอย่างนั้นเหรอ”
ปูนเอ่ยถามหัวเราะออกมาเป็นเรื่องขำขัน
“ผมขอเตือนอีกครั้งว่าอย่าหันรอยยิ้มพิมใจของคุณไปข้างหลังเด็ดขาด”
แบงค์พูดมองดูปูนที่มีใบหน้างดงามไม่มีที่ติ
“ฉันชักจะอยากรู้แล้วซิว่าใครกันนะที่ทำให้นายดูไม่มั่นคงได้เหมือนอย่างตอนนี้”
ปูนพูดเสียงเรียบหันกลับไปข้างหลังพบว่าน้ำตาลจ้องมองมาทางนี้อยู่
“เธอสวยจังดูมั่นใจในตัวเองและน่ารักที่สำคัญเธอเซ็กซี่มากๆด้วย ไม่เหมือนฉันที่นุ่มนิ่มน่ารำคาญ”
“ฉันไม่เคยเอาใครมาเปรียบเทียบใครแล้วที่สำคัญผู้หญิงทุกคนมีเสน่ห์อยู่แล้วในตัวเอง มันขึ้นอยู่ที่ว่าพวกเธอจะหามันเจอหรือปล่าวก็เท่านั้นเอง แล้วดูเหมือนว่าเธอจะพบมันแล้วด้วย”
แบงค์พูดยิ้มเล็กๆให้ปูนที่เปลี่ยนไปมากจากเมื่อสองปีที่แล้ว
“แต่เธอก็ยังไม่รักฉันอยู่ดีใช่ไหม”
เพราะคำถามของปูนทำให้แบงค์นิ่งไปอย่างไม่อยากพูดอะไร
“ใจตรงกันอีกแล้วนะ”
น้ำเสียงแข็งที่ดังขึ้นทำให้แบงค์และปูนหันมาหาต้นเสียงที่ยืนสีหน้าเรียบเฉยอยู่หัวโต๊ะ
“มากับไอ้หน้าหล่อพ่อรวยนั่นอีกแล้วเหรอ”
แบงค์เปิดประเด็นขึ้นก่อน
“ถ้าไม่อยากมีปัญหาลุกออกมาเดี๋ยวนี้เลย”
น้ำตาลยื่นคำขาดก่อนจะเดินออกจากร้านไป
“ขอตัวก่อนนะ”
แบงค์หมุนตัวจะลุกออกจากโต๊ะแต่ปูนกลับรั้งข้อมือเขาไว้
“ถึงมื่อไหร่กันนะที่ฉันจะต้องทุกคุณทิ้งไว้ข้างหลังแบบนี้”
“ผมขอโทษที่เข้าใจผิดว่าคุณเป็นผู้หญิงง่ายๆและขอโทษที่ทำให้คุณสับสน แต่ผมก็ขอโทษด้วยเหมือนกันที่ต้องบอกคุณอีกครั้งว่าอย่ารอผม”
แบงค์พูดจบวิ่งตามน้ำตาลออกไปโดยไม่หันกลับมาสนใจปูนอีก
                     “เดี๋ยวก่อนซิน้ำตาล”   แบงค์คว้าข้อมือน้ำตาลไว้และพบว่าเธอโกรธจนใบหน้าแดงกร่ำ
“นี่เธอหึงเราเหรอน้ำตาล”
แบงค์เอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มเมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงของน้ำตาลเพราะเธอไม่เคยแคร์ใครนอกจากตัวเอง
“ขำอะไรของเธอ..........คนบ้า.........แล้วฉันก็ไม่ได้หึงเธอด้วย”
น้ำตาลปฏิเสธเสียงแข็งแต่ดวงตาของเธอกลับขวางจนหน้าหวาดหวั่น
“ไม่หึงเลยนะเนี๊ย.....ไม่ได้หึงเลยจริงๆ”
แบงค์ยังคงยิ้มไม่ยอมหยุด
“บอกว่าไม่หึงไงเล่าแค่ไม่ชอบคนทำผิดสัญญา ไหนบอกว่าจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงที่สวยกว่าฉันหรือแม้แต่สวยพอกันก็ไม่ได้”
“ใครบอกเธอล่ะว่าเขาสวยพอๆกับเธอ เธอน่ารักกว่าเป็นกองอย่าคิดมากไปเลย ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นใครสวยกว่าเธอเลยจริงๆนะ.......คุณน้ำตาลที่รัก”
เพราะคำพูดออดอ้อนของแบงค์ทำให้น้ำตาลแอบยิ้มออกมาแต่ก็ยังแสร้งเก็กหน้าดุใส่แบงค์
“อย่าให้จับได้อีกแล้วกันไม่งั้นเธอตายแน่”
“ครับคุณแม่”
แบงค์ตอบรับเสียงหวานทำให้น้ำตาลยิ้มออกได้อีกครั้ง
                     หลังจากแยกกับแบงค์น้ำตาลก็เข้าคณะสีตามคำสั่งของรุ่นพี่ปีสี่ เพราะหน้าตาและทรวดทรงที่ได้สัดส่วนทำให้น้ำตาลถูกเลือกให้ทำหน้าที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์อย่างไม่ต้องสงสัย
“แต่พี่คะน้ำตาลไม่ถนัดเต้นเป็นงานเป็นการแบบนี้นะคะ”
“อย่าปฏิเสธครับน้องน้ำตาลเกิดมาเป็นคนสวยก็ต้องอวดกันหน่อย แล้วอีกอย่างพี่เห็นน้องมาสามปีไม่ค่อยเห็นทำกิจกรรมอะไรเลย”
รุ่นพี่ยืนยันคำเดิม
“น้ำตาลไม่เคยเต้นเชียร์เลยนะคะพี่”
“ไม่มีใครเป็นจากท้องพ่อท้องแม่หรอกครับคนสวย คนอื่นเขาก็ฝึกกันทั้งนั้นแหละ”
“แต่พี่คะให้ตาลทำอย่างอื่นไม่ได้เหรอคะ”
“ไม่มีแต่ครับน้อง แล้วก็เริ่มเต้นกันได้แล้ว”
รุ่นพี่ออกคำสั่งทำให้น้ำตาลไม่มีทางเลือกต้องวิ่งรอบสนามบาสกับเพื่อนๆอีกกว่ายี่สิบชีวิต
“โอ๊ย.......”
เสียงน้ำตาลร้องลั่นก่อนร่างสมส่วนจะล้มลงกับพื้นสนาม
“เป็นอะไรครับน้ำตาล”
พันธมิตรวิ่งหน้าตื่นเข้าไปหาน้ำตาลทันทีที่มาถึงสนามบาสและเห็นน้ำตาลล้มลงพอดี
“สงสัยข้อเท้าพลิกคะ”
น้ำตาลตอบเสียงเรียบนั่งหน้าซีดเพราะความเจ็บปวด
“งั้นไปห้องพยาบาลเถอะเดี๋ยวพี่พาไปเอง”
พันธมิตรรับอาสาไม่รอช้าอุ้มน้ำตาลตรงไปที่ห้องพยาบาลอย่างรวดเร็ว
“พวกผู้ชายนี่โง่กันหมดเลยหรือไงนะรู้ทั้งรู้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว ยังยอมคบอยู่ได้อีก”
“ไว้รอเธอหน้าตาเหมือนน้ำตาลเมื่อไหร่เธอก็จะรู้เองว่าทำไมพวกผู้ชายถึงยอมโง่แบบนั้น”
รุ่นพี่คนนึงกล่าวขึ้นเมื่อรุ่นน้องปากดีคนนึงนินทาเพื่อนลับหลัง
                     “ขอบคุณนะคะพี่แนคที่พาน้ำตาลมาที่นี่ แต่ว่าตอนนี้น้ำตาลอยากนอนพักให้ขาค่อยยังชั่วหน่อยน้ำตาลถึงจะกลับบ้าน พี่แนคไปทำธุระเถอะคะไม่ต้องห่วงน้ำตาล”
น้ำตาลเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
“แน่ใจนะว่าจะอยู่คนเดียวให้พี่อยู่ด้วยก็ได้นะครับ”
พันธมิตรรับอาสา
“ขอบคุณจริงๆคะพี่แต่น้ำตาลไม่รบกวนดีกว่าคะ”
“งั้นพี่ไปนะครับ”
พันธมิตรจำต้องเดินออกจากห้องไปแต่โดยดีทั้งที่อยากจะเฝ้าน้ำตาลต่อแต่ทว่ายังไม่ทันที่น้ำตาลจะหายเจ็บข้อเท้าสาวๆกว่าหกคนก็บุกเข้ามาในห้องพยาบาลและตรงมาที่เตียงของน้ำตาล
“เธอใช่ไหมแฟนพี่แบงค์”
น้ำเสียงหยาบคายที่ดังขึ้นทำให้น้ำตาลพอจะเดาออกว่าพวกเธอเป็นใคร
“ฉันว่าเราต่างคนต่างอยู่จะดีกว่านะฉันไม่อยากมีเรื่องกับใครทั้งนั้น”
น้ำตาลพูดหันหน้าหนีด้วยความรำคาญเพราะเธอมักโดนแบบนี้บ่อยๆ
“ฉันเป็นแฟนพี่แบงค์ฉันไม่ชอบที่เธอคอยยุ่งวุ่นวายกับเขาแบบนี้ ถ้าไม่อยากเจ็บตัวอย่าเจอเขาอีก”
“เธอควรไปบอกเขาเองนะว่าอย่ามายุ่งกับฉันถ้าเธอทำได้ฉันก็ดีใจด้วย”
น้ำตาลพูดด้วยความเบื่อหน่าย
“ปากดีนักเหรออยากโดนใช่ไหม”
น้ำเสียงเกรี้ยวกราดถูกแผดขึ้นก่อนจะตรงเข้าเล่นงานน้ำตาลแต่เธอกลับถูกน้ำตาลตบจนล้มคว่ำไปเอง
“รุมมันเลย....รุมมัน”
ว่าแล้วสาวๆก็ตรงเข้าเล่นงานน้ำตาลจนย้ำแย่เพราะขาที่เจ็บทำให้น้ำตาลไม่อาจต่อกรกับพวกเธอได้อย่างที่เคยทำ
“หยุดนะนี่พวกเธอทำอะไรกัน”
น้ำเสียงดุดันของแบงค์ที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้สาวๆหยุดชะงักด้วยความตกใจ
“พี่แบงค์คะคือว่า........”
“ออกไป.....แล้วอย่ามาให้เห็นหน้าอีกนะ ไปเดี๋ยวนี่เลย”
แบงค์โวยเสียงลั่นจนสาวๆรีบร้อนออกไปจากห้องพยาบาลด้วยอาการกลัวจนรนราน
“เป็นไงบ้างน้ำตาล”
แบงค์รีบเข้าไปดูอาการน้ำตาลที่เสื้อผ้าและผมเผ้ายุ่งเหยิง
“ทำไมแบงค์ทำไมเราต้องเจอเรื่องงี่เง่าพวกนี้ตลอดเลย.....ทำไมต้องเป็นเราด้วย”
น้ำตาลโวยใส่แบงค์ด้วยความโมโห
“ขอโทษนะน้ำตาลที่เราปกป้องเธอไม่ได้”
“เธอไม่มีวันทำได้หรอกแบงค์เธอไม่มีวันห้ามเรื่องแบบนี้ได้มันต้องเกิดขึ้นอีกแน่ๆ เพราะว่าเธอไม่เคยหยุดทำให้ผู้หญิงพวกนั้นหลงรักเธอเลย เราไม่เคยว่าที่เธอนอนกับผู้หญิงไม่เลือกหน้าแต่เธอก็ไม่เคยควบคุมอะไรได้เลย...........เรายังโดนผู้หญิงพวกนั้นระรานอยู่บ่อยๆ ถ้าหากมันยากเกินกว่าที่เธอจะทำได้ล่ะก็......เราเลิกกันเถอะ”
เพราะคำพูดของน้ำตาลทำให้แบงค์รวบตัวเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาด้วยความหวาดหวั่น เขาเพิ่งเคยถูกทำให้รู้สึกเช่นนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะไม่เลิกกับเธอเด็ดขาด เพราะฉะนั้นอย่าพูดแบบนี้อีกฟังแล้วมันทำให้เราอยากร้องไห้”
“ถ้างั้นอย่าให้ผู้หญิงพวกนั้นมายุ่งกับเราอีก”
น้ำตาลยื่นคำขาด
“ตกลงเราจะคุยกับพวกเธอเองแล้วเราอยากให้เธอรู้ไว้อย่างนึงนะว่าไม่ว่าเราจะผ่านผู้หญิงมาร้อยแปดแต่เราไม่เคยรักใคร จนได้พบเธอเราถึงรู้ว่าการหลงรักใครสักคนมันทำให้เราพร้อมที่จะคลั่งได้ทุกๆนาที”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่