Romantic Alone with Food in Italy
อิตาลี่เป็นประเทศที่หลายคนอาจจะได้มีโอกาสไปบ่อยที่สุด เพราะไม่ว่าจะเป็นบ้านเมืองที่สวยงาม ตึกราบ้านช่องอันเก่าแก่ที่มีเสนห์มนตร์คลังอันน่าหลงใหล แล้วไหนจะอาหารอันโอชะ ตัวเบนเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวอิตาลี่ตั้งแต่เด็ก และหลงไหลสิ่งต่างๆเหล่านี้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “อาหาร” แล้วในที่สุดก็ได้มีโอกาสไปเรียนปริญญาโทต่อทางด้าน Food Cultures and Communications หรือพูดง่ายๆคือเรียนชิมอาหาร เลยได้มาอยู่อิตาลี่แบบเต็มตัวเป็นปี
ตอนที่ไปเรียนเนี้ย เพื่อนที่เมืองไทยทุกคนคิดว่าไปเที่ยว เพราะรูปที่ upload ขึ้น social media ทั้งหลายล้วนแต่สนุกสนานและสร้างความอิจฉาให้เพื่อนๆทั้งนั้น ต้องบอกเพื่อนๆว่า “เราไปเรียนจริงๆนะ” แต่ว่าที่ไปเรียนเค้าจะพาเดินทางไปแคว้นต่างๆของอิตาลี่เพื่อไปดูกรรมวิธีการผลิตอาหารกันถึงแหล่ง ไม่ว่าจะเป็น Parmigiano Reggiano, Balsamic ที่เมือง Modena, Mozzarella di Bufala ที่แคว้น Campania, Brunello di Montalcino wine ใน Tuscany และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งก็ทำให้ไม่ได้กลับเมืองไทยเลย คนก็เลยมักถามว่าไม่เบื่ออาหารอิตาเลี่ยนบ้างหรอ เพราะคนส่วนใหญ่จะบอกว่าอาหารอิตาเลี่ยน มันเลี้ยน แต่ขอบอกเลยคะว่าไม่เบื่อ แล้วก็ไม่ได้เข้าร้านอาหารเอเชียเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะว่าอาหารอิตาเลี่ยนจริงๆมันหลากหลายมาก แต่ละเมืองก็มีอาหารพิเศษเป็นของตัวเอง เดินทางเมื่อไหรก็ได้กินของใหม่ๆที่ไม่เคยลองตลอด ซึ่งเบนก็เดินทางท่องเที่ยวเองบ่อยมากตอนอยู่ที่โน้น
ครั้งที่เป็นการเดินทางครั้งใหญ่สุด คือ เดินทางเพื่อเก็บข้อมูลทำวิทยานิพนธ์และการวางแผนทำทัวร์กินที่เบนตั้งใจจะกลับมาทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ชื่อว่า Fove Food Tour (
www.fovefoodtour.com) ที่เน้นพาคนไทยเที่ยวอิตาลี่แบบสบายๆพร้อมไปกินของอร่อย เพื่ออาชีพในฝัน ก็ต้องทำทุกวิธีทาง เร่ิมด้วย ผู้หญิงตัวคนเดียวเช่ารถแล้วก็เดินทางเป็นเวลาหนึ่งเดือน เพื่อไปเมืองเล็กเมืองน้อยที่ไม่ได้อยู่ในเส้นทางนักท่องเที่ยว แล้วที่สำคัญคือไปตระเวนกินร้านอาหารเด็ดๆทั้งหลาย ตอนแรกคิดว่าเรื่องแบบนี้ใครๆก็ทำได้ หมูๆ แต่พอได้ลงมือทำจริงๆแล้ว เริ่มไม่หมูอย่างที่คิด ก่อนเดินทางก็วางแผนเป็นเดือนๆ โดยส่วนใหญ่แล้วก็คือหาข้อมูลว่าจะไปกินร้านไหนดีและต้องกินอะไรที่นั้น แล้วรอบๆที่จะไปกินมีอะไรให้ดูบ้าง เพราะเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่สุดคะ เบนยอมขับรถ 2 ชั่งโมงเพื่อไปกินอย่างเดียว แต่ไม่ใช่ไปกินแบบ 3 Michelin star ที่บอกว่าคุ้มค่ากับ trip by itself เพราะว่าเบนเน้นที่กินแบบ local ร้านแบบ Family style พวกสูตรจากคุณย่าคุณยายที่สืบต่อกันมาเป็นสิบๆปี เป็นร้านที่คนอิตาเลี่ยนเองชอบไปกินกัน
ก็อย่างที่บอกไปว่า อาหารที่นี้หลากหลายมาก แต่ละแคว้นแต่ละเมืองก็ไม่เหมือนกันเลย ทริปใหญ่นี้เร่ิมต้นที่ Veneto ไปตระเวนทั้ง Verona, Lake Garda, Vicenza, Padova, Venice และ Treviso ที่เด็ดๆของแคว้นนี้ก็คงจะเป็น Wine เค้ามีไวน์แดงและไวน์ขาวที่มีชื่อเสียงหลายตัว ไวน์ขาวและ Prosecco ดื่มคู่กับอาหารทะเล ในบรรยากาศสบายๆ ลมเย็นอ่อนๆ จานเด็ดที่แคว้นนี้ก็คงจะเป็น Risotto ทะเล ที่เวนิส แต่ว่าไม่ใช่บนเกาะนะคะ ร้านนี้มีคน local พาไปกินถ้าไม่งั้นก็คงหาไม่เจอหรอก เพราะมัวแต่ไปหาอยู่บนเกาะเวนิส ซึ่งบนเกาะเนี้ย หาของอร่อยยากมาก แถมแพงอีกต่างหาก เพราะว่าส่วนใหญ่เอาไว้ขายนักท่องเที่ยว จุดเด่นอีกอย่างของแคว้น Veneto คือ เป็นที่ของคู่รัก เพราะบรรยากาศมันให้จริงๆคะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนถึงมา Honeymoon กันที่นี่เยอะนัก ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟในตอนกลางคืนที่ส่องตึกราบ้านช่อง โบสถ์ หรือปราสาท ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย แถมยังได้นั่งกอดกันบนเรือกอนโดร่า พร้อมมีคนคัดท้ายหนุ่มอิตาเลี่ยนหน้าตาดีร้องเพลงให้ฟัง ถึงจะเดินคนเดียวในยามค่ำคืน ความรักของคนอื่นมันพุ่งเข้ามาชนจากทุกหนทุกแห่ง บวกกับแสงไฟสลัวและคนอิตาเลี่ยนที่หน้าตาดีทั้งหลาย ทุกอย่างเหมือนมีมนต์ครัง ที่นี้ทำให้เบนเข้าใจถึงคำว่า Romantic Alone คือรู้สึกโรแมนติกได้ถึงแม้จะอยู่คนเดียว
เมื่อ Romantic alone จนพอใจแล้วเบนก็เดินทางต่อไปที่แคว้น Emilia-Romagna ซึ่งแคว้นนี้ขอบอกว่าอาหารอร่อยมากมาก อาหารอิตาเลี่ยนดังๆที่คนส่วนใหญ่รู้จักกว่าครึ่งมาจากแคว้นนี้ทั้งนั้นคะ ไม่ว่าจะเป็น Parma Ham, Pasta Bolognese, Salami หลายตัว, Lasagna ที่เด็ดที่สุดคือ พาสต้าสดที่เมือง Bologna พาสต้าเส้นบางนุ่มลื้น กินกับซอสอะไรก็อร่อย ตอนแรกก็ว่าจะมาอยู่เมืองนี้แค่คืนเดียว แต่พอได้กินอาหารมื้อแรกปุ๊ป เปลี่ยนแผนหมด ขออยู่ที่นี้สักสี่วัน กินให้หนำใจ เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆน่ารัก จะมีนักศึกษาเยอะ เพราะว่าเป็นเมืองที่มีมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุด ตอนที่อยู่เมืองนี้นอกจากจะได้กินของอร่อยแล้ว ยังได้ทำความฝันอีกอย่างให้เป็นจริงด้วย สาวๆหลายคนคงฝันแบบเดียวกับเบนว่าอยากจะได้นั่งซ้อนท้าย Vespa ชมเมืองที่ไหนสักแห่งในอิตาลี่ ของเบนเกิดขึ้นที่ Bologna เนี้ยแหละคะ มีหนุ่มอิตาเลี่ยนใส่สูทสีครีมหน้าตาดี Offer พาชมเมืองบน Vespa สีแดงแบบ Classic ที่โชคดีกว่านั้นคือ หนุ่มคนนี้เรียนปริญญาเอกด้านประวัติศาสตร์ เลยเล่าประวัติของเมืองให้ฟังตั้งแต่ก้อนอิฐยันปราสาท แถมตอนซ้อนท้าย Vespa อยู่เค้าก็หันมาถามว่า “May I offer you an ice-cream” พาชมเมืองแถมได้กินไอครีมฟรีอีกต่างหาก แบบนี้แหละคะหนุ่มอิตาเลี่ยนที่เบนได้พบเจอ
ถึงจะยังไม่เบื่อ Fresh pasta แต่ก็ต้องลาจากและเดินทางต่อไปยังแคว้น Tuscany ตอนที่ขับรถที่แคว้นนี้เหมือนเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขในความฝัน เปิดเพลงที่ชอบ พร้อมกับวิวข้างทางที่ทำให้น้ำตาแทบไหล(ความจริงคือไหล) ไม่เคยคิดว่าความสุขที่เกิดจากการได้ชมวิว มันจะเป็นได้ขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนหลายคนจะกลับมาอิตาลี่กันทุกปี
นอกจาก Pasta Pizza ที่เป็นจานมีชื่อเสียงของอิตาลี่แล้ว ที่ Tuscany มีอาหารอีกหนึ่งอย่างที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน นั้นก็คือ Bistecca Fiorentina เนื้อย่างชิ้นละ 1.5 กิโลกรัม ที่ย่างบนเตาถ่านให้ได้ออกมาแบบ Medium rare จานนี้กินสองคนกำลังเหมาะ พูดถึงเนื้อแล้วก็คงคิดถึงไวน์แดงดีๆ รวมถึงการไปชิมไวน์กันที่ Winery ซึ่งไปถึงที่ Tuscany ทั้งทีแล้วก็ต้องดื่ม King of the wine ซึ่งก็คือ Brunello di Montalcino แต่ละ winery ก็รสชาติมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ตัวเบนเองนั้นเห็นว่า Rosso di Montalcino นั้นจะดื่มง่ายกว่า Brunello แต่ถ้าใครเป็นแฟนของ vintage wine ก็คงพลาดตัวนี้ไม่ได้
เที่ยวอิตาลี่ก็ต้องเที่ยวให้ครบสูตร คือต้องได้บรรยากาศ กินของอร่อย ดื่มไวน์ดี เที่ยวแบบสบายๆ หยุดพักผ่อนมาเที่ยวจะให้เที่ยวแบบรีบร้อน จะเห็นให้หมดแบบนั้นก็ไม่ไหวคะ กลับเมืองไทยทีก็หมดสภาพไปตามๆกัน ขอเที่ยวแบบสบายๆ ตื่นสายหน่อย ดื่มดำ่กับบรรยากาศพร้อมกินอาหารอร่อยๆ นี่แหละคะการเที่ยวในแบบของเบน ซึ่งเบนก็คิดว่าคงมีคนไทยหลายคนที่ชอบแบบเดียวกับเบน ครั้งหน้าไปอิตาลี่ลองไปเที่ยวแบบอร่อยสบายอย่างนี้บ้างไหมละคะ
ใครอยากเห็นว่าเบนเที่ยวยังไง เบนทำวีดีโอตอนที่เบนไปเที่ยวไว้ด้วย สนุกสบายอร่อยขนาดไหน ลองเข้าไปดูได้คะ
http://www.youtube.com/watch?v=vTOcWDu8op0
Romantic alone with FOOD in Italy
อิตาลี่เป็นประเทศที่หลายคนอาจจะได้มีโอกาสไปบ่อยที่สุด เพราะไม่ว่าจะเป็นบ้านเมืองที่สวยงาม ตึกราบ้านช่องอันเก่าแก่ที่มีเสนห์มนตร์คลังอันน่าหลงใหล แล้วไหนจะอาหารอันโอชะ ตัวเบนเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวอิตาลี่ตั้งแต่เด็ก และหลงไหลสิ่งต่างๆเหล่านี้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “อาหาร” แล้วในที่สุดก็ได้มีโอกาสไปเรียนปริญญาโทต่อทางด้าน Food Cultures and Communications หรือพูดง่ายๆคือเรียนชิมอาหาร เลยได้มาอยู่อิตาลี่แบบเต็มตัวเป็นปี
ตอนที่ไปเรียนเนี้ย เพื่อนที่เมืองไทยทุกคนคิดว่าไปเที่ยว เพราะรูปที่ upload ขึ้น social media ทั้งหลายล้วนแต่สนุกสนานและสร้างความอิจฉาให้เพื่อนๆทั้งนั้น ต้องบอกเพื่อนๆว่า “เราไปเรียนจริงๆนะ” แต่ว่าที่ไปเรียนเค้าจะพาเดินทางไปแคว้นต่างๆของอิตาลี่เพื่อไปดูกรรมวิธีการผลิตอาหารกันถึงแหล่ง ไม่ว่าจะเป็น Parmigiano Reggiano, Balsamic ที่เมือง Modena, Mozzarella di Bufala ที่แคว้น Campania, Brunello di Montalcino wine ใน Tuscany และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งก็ทำให้ไม่ได้กลับเมืองไทยเลย คนก็เลยมักถามว่าไม่เบื่ออาหารอิตาเลี่ยนบ้างหรอ เพราะคนส่วนใหญ่จะบอกว่าอาหารอิตาเลี่ยน มันเลี้ยน แต่ขอบอกเลยคะว่าไม่เบื่อ แล้วก็ไม่ได้เข้าร้านอาหารเอเชียเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะว่าอาหารอิตาเลี่ยนจริงๆมันหลากหลายมาก แต่ละเมืองก็มีอาหารพิเศษเป็นของตัวเอง เดินทางเมื่อไหรก็ได้กินของใหม่ๆที่ไม่เคยลองตลอด ซึ่งเบนก็เดินทางท่องเที่ยวเองบ่อยมากตอนอยู่ที่โน้น
ครั้งที่เป็นการเดินทางครั้งใหญ่สุด คือ เดินทางเพื่อเก็บข้อมูลทำวิทยานิพนธ์และการวางแผนทำทัวร์กินที่เบนตั้งใจจะกลับมาทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ชื่อว่า Fove Food Tour (www.fovefoodtour.com) ที่เน้นพาคนไทยเที่ยวอิตาลี่แบบสบายๆพร้อมไปกินของอร่อย เพื่ออาชีพในฝัน ก็ต้องทำทุกวิธีทาง เร่ิมด้วย ผู้หญิงตัวคนเดียวเช่ารถแล้วก็เดินทางเป็นเวลาหนึ่งเดือน เพื่อไปเมืองเล็กเมืองน้อยที่ไม่ได้อยู่ในเส้นทางนักท่องเที่ยว แล้วที่สำคัญคือไปตระเวนกินร้านอาหารเด็ดๆทั้งหลาย ตอนแรกคิดว่าเรื่องแบบนี้ใครๆก็ทำได้ หมูๆ แต่พอได้ลงมือทำจริงๆแล้ว เริ่มไม่หมูอย่างที่คิด ก่อนเดินทางก็วางแผนเป็นเดือนๆ โดยส่วนใหญ่แล้วก็คือหาข้อมูลว่าจะไปกินร้านไหนดีและต้องกินอะไรที่นั้น แล้วรอบๆที่จะไปกินมีอะไรให้ดูบ้าง เพราะเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่สุดคะ เบนยอมขับรถ 2 ชั่งโมงเพื่อไปกินอย่างเดียว แต่ไม่ใช่ไปกินแบบ 3 Michelin star ที่บอกว่าคุ้มค่ากับ trip by itself เพราะว่าเบนเน้นที่กินแบบ local ร้านแบบ Family style พวกสูตรจากคุณย่าคุณยายที่สืบต่อกันมาเป็นสิบๆปี เป็นร้านที่คนอิตาเลี่ยนเองชอบไปกินกัน
ก็อย่างที่บอกไปว่า อาหารที่นี้หลากหลายมาก แต่ละแคว้นแต่ละเมืองก็ไม่เหมือนกันเลย ทริปใหญ่นี้เร่ิมต้นที่ Veneto ไปตระเวนทั้ง Verona, Lake Garda, Vicenza, Padova, Venice และ Treviso ที่เด็ดๆของแคว้นนี้ก็คงจะเป็น Wine เค้ามีไวน์แดงและไวน์ขาวที่มีชื่อเสียงหลายตัว ไวน์ขาวและ Prosecco ดื่มคู่กับอาหารทะเล ในบรรยากาศสบายๆ ลมเย็นอ่อนๆ จานเด็ดที่แคว้นนี้ก็คงจะเป็น Risotto ทะเล ที่เวนิส แต่ว่าไม่ใช่บนเกาะนะคะ ร้านนี้มีคน local พาไปกินถ้าไม่งั้นก็คงหาไม่เจอหรอก เพราะมัวแต่ไปหาอยู่บนเกาะเวนิส ซึ่งบนเกาะเนี้ย หาของอร่อยยากมาก แถมแพงอีกต่างหาก เพราะว่าส่วนใหญ่เอาไว้ขายนักท่องเที่ยว จุดเด่นอีกอย่างของแคว้น Veneto คือ เป็นที่ของคู่รัก เพราะบรรยากาศมันให้จริงๆคะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนถึงมา Honeymoon กันที่นี่เยอะนัก ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟในตอนกลางคืนที่ส่องตึกราบ้านช่อง โบสถ์ หรือปราสาท ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย แถมยังได้นั่งกอดกันบนเรือกอนโดร่า พร้อมมีคนคัดท้ายหนุ่มอิตาเลี่ยนหน้าตาดีร้องเพลงให้ฟัง ถึงจะเดินคนเดียวในยามค่ำคืน ความรักของคนอื่นมันพุ่งเข้ามาชนจากทุกหนทุกแห่ง บวกกับแสงไฟสลัวและคนอิตาเลี่ยนที่หน้าตาดีทั้งหลาย ทุกอย่างเหมือนมีมนต์ครัง ที่นี้ทำให้เบนเข้าใจถึงคำว่า Romantic Alone คือรู้สึกโรแมนติกได้ถึงแม้จะอยู่คนเดียว
เมื่อ Romantic alone จนพอใจแล้วเบนก็เดินทางต่อไปที่แคว้น Emilia-Romagna ซึ่งแคว้นนี้ขอบอกว่าอาหารอร่อยมากมาก อาหารอิตาเลี่ยนดังๆที่คนส่วนใหญ่รู้จักกว่าครึ่งมาจากแคว้นนี้ทั้งนั้นคะ ไม่ว่าจะเป็น Parma Ham, Pasta Bolognese, Salami หลายตัว, Lasagna ที่เด็ดที่สุดคือ พาสต้าสดที่เมือง Bologna พาสต้าเส้นบางนุ่มลื้น กินกับซอสอะไรก็อร่อย ตอนแรกก็ว่าจะมาอยู่เมืองนี้แค่คืนเดียว แต่พอได้กินอาหารมื้อแรกปุ๊ป เปลี่ยนแผนหมด ขออยู่ที่นี้สักสี่วัน กินให้หนำใจ เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆน่ารัก จะมีนักศึกษาเยอะ เพราะว่าเป็นเมืองที่มีมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุด ตอนที่อยู่เมืองนี้นอกจากจะได้กินของอร่อยแล้ว ยังได้ทำความฝันอีกอย่างให้เป็นจริงด้วย สาวๆหลายคนคงฝันแบบเดียวกับเบนว่าอยากจะได้นั่งซ้อนท้าย Vespa ชมเมืองที่ไหนสักแห่งในอิตาลี่ ของเบนเกิดขึ้นที่ Bologna เนี้ยแหละคะ มีหนุ่มอิตาเลี่ยนใส่สูทสีครีมหน้าตาดี Offer พาชมเมืองบน Vespa สีแดงแบบ Classic ที่โชคดีกว่านั้นคือ หนุ่มคนนี้เรียนปริญญาเอกด้านประวัติศาสตร์ เลยเล่าประวัติของเมืองให้ฟังตั้งแต่ก้อนอิฐยันปราสาท แถมตอนซ้อนท้าย Vespa อยู่เค้าก็หันมาถามว่า “May I offer you an ice-cream” พาชมเมืองแถมได้กินไอครีมฟรีอีกต่างหาก แบบนี้แหละคะหนุ่มอิตาเลี่ยนที่เบนได้พบเจอ
ถึงจะยังไม่เบื่อ Fresh pasta แต่ก็ต้องลาจากและเดินทางต่อไปยังแคว้น Tuscany ตอนที่ขับรถที่แคว้นนี้เหมือนเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขในความฝัน เปิดเพลงที่ชอบ พร้อมกับวิวข้างทางที่ทำให้น้ำตาแทบไหล(ความจริงคือไหล) ไม่เคยคิดว่าความสุขที่เกิดจากการได้ชมวิว มันจะเป็นได้ขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนหลายคนจะกลับมาอิตาลี่กันทุกปี
นอกจาก Pasta Pizza ที่เป็นจานมีชื่อเสียงของอิตาลี่แล้ว ที่ Tuscany มีอาหารอีกหนึ่งอย่างที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน นั้นก็คือ Bistecca Fiorentina เนื้อย่างชิ้นละ 1.5 กิโลกรัม ที่ย่างบนเตาถ่านให้ได้ออกมาแบบ Medium rare จานนี้กินสองคนกำลังเหมาะ พูดถึงเนื้อแล้วก็คงคิดถึงไวน์แดงดีๆ รวมถึงการไปชิมไวน์กันที่ Winery ซึ่งไปถึงที่ Tuscany ทั้งทีแล้วก็ต้องดื่ม King of the wine ซึ่งก็คือ Brunello di Montalcino แต่ละ winery ก็รสชาติมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ตัวเบนเองนั้นเห็นว่า Rosso di Montalcino นั้นจะดื่มง่ายกว่า Brunello แต่ถ้าใครเป็นแฟนของ vintage wine ก็คงพลาดตัวนี้ไม่ได้
เที่ยวอิตาลี่ก็ต้องเที่ยวให้ครบสูตร คือต้องได้บรรยากาศ กินของอร่อย ดื่มไวน์ดี เที่ยวแบบสบายๆ หยุดพักผ่อนมาเที่ยวจะให้เที่ยวแบบรีบร้อน จะเห็นให้หมดแบบนั้นก็ไม่ไหวคะ กลับเมืองไทยทีก็หมดสภาพไปตามๆกัน ขอเที่ยวแบบสบายๆ ตื่นสายหน่อย ดื่มดำ่กับบรรยากาศพร้อมกินอาหารอร่อยๆ นี่แหละคะการเที่ยวในแบบของเบน ซึ่งเบนก็คิดว่าคงมีคนไทยหลายคนที่ชอบแบบเดียวกับเบน ครั้งหน้าไปอิตาลี่ลองไปเที่ยวแบบอร่อยสบายอย่างนี้บ้างไหมละคะ
ใครอยากเห็นว่าเบนเที่ยวยังไง เบนทำวีดีโอตอนที่เบนไปเที่ยวไว้ด้วย สนุกสบายอร่อยขนาดไหน ลองเข้าไปดูได้คะ http://www.youtube.com/watch?v=vTOcWDu8op0