ก่อนจะมารีวิวร้านอาหารก็ขอเล่าประวัติตัวเองสักเล็กน้อย เบนชอบกินอาหารอิตาเลี่ยนเป็นพิเศษคะ คือความจริงก็ชอบกินทุกชาตินั้นแหละ ยกเว้นอาหารแขก แล้วเบนก็เลือกที่จะดำเนินชีวิตเบนอยู่ในสายของอาหาร เบนเรียนจบปริญญาโทด้านชิมอาหารกลับมาจากอิตาลี่ เพราะฉะนั้นก็ใช้เวลาช่วงชีวิตหนึ่งอยู่ที่ประเทศนั้น ก็ไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากตระเวนกิน และไปเรียนรู้วีธีการผลิตอาหารและเครื่องดื่มชนิดต่างๆ หลังจากจบกลับมาก็มาทำทัวร์พาคนไทยไปตะลอนกินที่อิตาลี่ นอกนั้นเบนก็ศึกษาตลาดอาหารอิตาเลี่ยนภายในประเทศไทย ส่วนใหญ่ก็ในกรุงเทพ พยายามตระเวนกินร้านอาหารอิตาเลี่ยนทั่วกรุง ลองร้านใหม่ๆเรื่อย ร้านไหนถูกใจก็กลับไปอีก ร้านไหนเฉยๆก็บาย เพราะมีอะไรต้องลองอีกเยอะ กินของไม่อร่อย ไม่มีคุณภาพมันเสียท้อง เป็นผู็หญิงไทยชีวิตลำบากอวบนิดนึงก็มีสิทธิขึ้นคานกันง่ายๆ
อีกเรื่องที่เบนคิดว่าสำคัญมากในการทำรีวิวคือ คำว่าอร่อยของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ความอร่อยนั้นขึ้นอยู่กับรสนิยมและความเคยชิน สำหรับเบนแล้วไม่มีใครที่เรียกว่ารสนิยมไม่ดี แต่เป็นรสนิยมที่แตกต่างต่างหาก เนื่องจากสภาพแวดล้อม การเติบโตในแบบที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อรสนิยมและความชอบส่วนบุคคล
คนไทยส่วนมากจะชอบรสชาติออกหวาน ซึ่งตัวเบนเองนั้นคิดว่าส่วนใหญ่มันหวานเกินไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำ อาหาร ก๋วยเตี๊ยว ตัวเบนเองนั้นเป็นคนชอบรสเค็มและจัด การตัดสินอาหารของเบนไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่อาหารที่สำเร็จออกมาแล้ว แต่เบนจะดูไปถึงวัตถุดิบที่เลือกมาใช้ด้วย ถ้าเป็นอาหารไทยนั้นอาจจะให้ความสำคัญค่อนข้างน้อยเรื่องของวัตถุดิบ เพราะเราใช้เครื่องเทศในการทำอาหารมากและรสจัด จนกลบรสชาติแท้ๆของวัตถุดิบที่นำมาใช้ ไม่ได้บอกว่าอาหารไทยไม่ดีหรือไม่อร่อย เบนชอบอาหารไทยนะคะ แต่นั้นคือลักษณะของอาหารเราที่เบนเข้าใจ เบนอาจจะผิดก็ได้ แต่สำหรับอาหารอิตาเลี่ยนและอาหารญี่ปุ่นด้วย เค้าจะให้ความใส่ใจเกี่ยวกับวัตถุดิบมาก ตั้งแต่เกลือยันเนื้อ(เอามาจากซากกระเบือยันเรือรบ) เกลือมาจากไหน ความละเอียดเป็นอย่างไร ผักตามฤดูกาล ชีสจากเมืองไหน บ่มมานานเท่าไหร เนื้อจากวัวพันธุ์อะไร เลี้ยงนานเท่าไหร ถูกฆ่าถูกวิธีไหม ทุกอย่างล้วนส่งผลต่อคุณภาพของอาหารทั้งนั้น ทุกสิ่งมีความสำคัญ ถ้าเบนจะกินเนื้อเบนจะถามเลยว่า เนื้อมากจากไหน ประเทศอะไร พันธุ์อะไร เลี้ยงด้วยหญ้าหรือ grain ใช่ส่วนไหน Marble เป็นอย่างไร ร้านไหนตอบได้ถือว่าผ่านมาแล้ว 50% เพราะว่าถือว่าใส่ใจกับวัตุดิบ
บทนำมันจะเร่ิมมากเกินไปละ เรามาว่ากันที่ร้านนี้เลยดีกว่า เบนไม่รู้จักร้านนี้มาก่อนหรอกคะ แต่บังเอิญไปกินร้านที่อยู่ด้านบน แล้วเพื่อนที่ไปกินด้วยก็บอก เฮยข้างล่างมีร้านอาหารอิตาเลี่ยนด้วย ไปดูไหม พอกินกันเสร็จซึ่งเป็นมื้อที่เฉยๆๆมาก ก็เลยมาเดินผ่านร้าน La Bottega di Luca ที่ชั้น 2 ของ Terrace 49 เดินผ่านๆก็ไม่ได้ติดใจอะไร ขี้เกียจอ่านเมนูด้วย แต่ไปสะดุดที่ขวดไวน์ที่วางอยู่หน้าร้านว่าเป็น Brunello di Montalcino ซึ่งถือว่าเป็น One of the King สำหรับ wine ของอิตาเลี่ยน ดูท่าแล้วร้านนี้คงจะไม่ใช่ธรรมดา ตัดสินใจแล้วว่าวันไหนต้องมาลองสักวัน
อีกหนึ่งอาทิตย์ถัดมากก็ถือโอกาสนั้นแล เนื่องด้วยชอบกินกันทั้งบ้าน เวลาเจออะไรแบบนี้ก็ต้องมากันเป็นครอบครัว(แปลว่าพ่อจ่าย) มาถึงหน้าร้านมี chef นั่งคอยต้อนรับอยู่ คำแรกที่ chef พูดคือ “fove” เราก็งงพูดอะไรไม่ค่อได้ยิน เค้าก็พูดซ้ำ “fove food” ที่นี้แหละตื่นเต้นใหญ่เลย รู้จักเราได้ยังไงเนี้ย โอ้แม่เจ้า อาหารไม่อร่อยก็ต้องอร่อยแล้วละ(ล้อเล่น ถ้าไม่อร่อย ยังไงก็ไม่อร่อย ยกเว้นหิวมาก ความอร่อยอาจจะเพิ่มขึ้นมานิดนึง) คุณ chef คนนี้ชื่อ Dario เป็นผู้ช่วย Chef Luca ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน แต่วันนี้ Luca ไม่อยู่ ยังไงก็กินอยู่ดี เพราะ Dario รู้จัก Fove Food
ตัวเบนเองชอบร้านที่นั่งสบาย ใครๆก็ชอบใช่ไหมคะ แต่สิ่งที่เบนดูเหมือนจะชอบไม่เหมือนคนอื่นเท่าไหรคือ เบนชอบกินแบบสว่างๆ เพราะว่าเบนจะได้มองเห็นอาหารชัดๆ ไม่ค่อยสนเท่าไหรกับบรรยากาศโรแมนติก ร้านนี้เลยมืดไปหน่อยสำหรับเบน (พอเบนมาบ่อยแล้วเลยเร่ิมเป็นตัวยุ่ง ขอให้เค้าเพิ่มไฟให้เรื่อย) เบนสั่งจานแรกมาเป็น Grill Scamorza(smaked mozzarella) wrapped in speck ham topped mushrooms in red wine sauce = มอสซาเรลล่ารมควัน พันด้วย speck ham เอาไปย่าง แล้วราดด้วยซอสไวน์แดงกับเห็ด ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับ Mozzarella แล้วก็ Speck ว่าคืออะไร ตามอ่านได้ที่นี้คะ
http://fovefood.wordpress.com/2013/01/26/ชีสนมควาย-mozzarella-di-bufala/ และ
http://fovefood.wordpress.com/2013/02/12/ไม่ว่าอะไรๆ-ก็เรียก-salume/
จานนี้แค่ชื่อก็น่ากินแล้ว ถ้าใครพอจะเคยกินส่วนผสมแต่ละชนิดมาก็คงพอจะนึกตามออกมามันจะอร่อยยังไง จานนี้ถือว่ารสชาติเข้นข้นมาก และเค็ม สำหรับคนที่ชอบกินเค็มอย่างเบนยังบอกว่าเค็ม แต่ว่ารสชาติดี ชีสเยิ้มๆ กลิ่มทุกตัวเข้ากันได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นรมควัน กลิ่นของการย่าง กลิ่น ham และยังไวน์แดงอีก เยอะไปหมด
จานต่อไปเป็น Ravioli alla piemontese con funghi porcini e crema di tartufo = เกี้ยวไส้เห็ดและครีมซอส white truffle จากเมือง Alba(เป็นเมืองที่มีทรัฟเฟิลขาวที่ดีที่สุดในโลก) ความจริงจานนี้ควรจะกินก่อนเพราะว่ารสชาติอ่อนกว่าจานที่แล้ว ถึงเส้นจะไม่ได้บางมากแบบที่เบนเคยกินที่เมือง Bologna ซึ่งเป็นเมืองที่ทำ Pasta อร่อยเว่อ หนานิดหน่อยแต่ถือว่าโอเคเลย แต่รสชาตินี่สิที่เด็ด รวมถึงกลิ่นด้วย หอมทรัฟเฟิลมาก
คือเมนูต่างๆมันยังไม่หมดง่ายๆ แต่ว่าเอารูปพร้อมคำอธิบายย่อๆละกันนะคะ
[CR] ร้านอิตาเลี่ยนร้านไหนเด็ดสุดในกรุงเทพ
อีกเรื่องที่เบนคิดว่าสำคัญมากในการทำรีวิวคือ คำว่าอร่อยของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ความอร่อยนั้นขึ้นอยู่กับรสนิยมและความเคยชิน สำหรับเบนแล้วไม่มีใครที่เรียกว่ารสนิยมไม่ดี แต่เป็นรสนิยมที่แตกต่างต่างหาก เนื่องจากสภาพแวดล้อม การเติบโตในแบบที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อรสนิยมและความชอบส่วนบุคคล
คนไทยส่วนมากจะชอบรสชาติออกหวาน ซึ่งตัวเบนเองนั้นคิดว่าส่วนใหญ่มันหวานเกินไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำ อาหาร ก๋วยเตี๊ยว ตัวเบนเองนั้นเป็นคนชอบรสเค็มและจัด การตัดสินอาหารของเบนไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่อาหารที่สำเร็จออกมาแล้ว แต่เบนจะดูไปถึงวัตถุดิบที่เลือกมาใช้ด้วย ถ้าเป็นอาหารไทยนั้นอาจจะให้ความสำคัญค่อนข้างน้อยเรื่องของวัตถุดิบ เพราะเราใช้เครื่องเทศในการทำอาหารมากและรสจัด จนกลบรสชาติแท้ๆของวัตถุดิบที่นำมาใช้ ไม่ได้บอกว่าอาหารไทยไม่ดีหรือไม่อร่อย เบนชอบอาหารไทยนะคะ แต่นั้นคือลักษณะของอาหารเราที่เบนเข้าใจ เบนอาจจะผิดก็ได้ แต่สำหรับอาหารอิตาเลี่ยนและอาหารญี่ปุ่นด้วย เค้าจะให้ความใส่ใจเกี่ยวกับวัตถุดิบมาก ตั้งแต่เกลือยันเนื้อ(เอามาจากซากกระเบือยันเรือรบ) เกลือมาจากไหน ความละเอียดเป็นอย่างไร ผักตามฤดูกาล ชีสจากเมืองไหน บ่มมานานเท่าไหร เนื้อจากวัวพันธุ์อะไร เลี้ยงนานเท่าไหร ถูกฆ่าถูกวิธีไหม ทุกอย่างล้วนส่งผลต่อคุณภาพของอาหารทั้งนั้น ทุกสิ่งมีความสำคัญ ถ้าเบนจะกินเนื้อเบนจะถามเลยว่า เนื้อมากจากไหน ประเทศอะไร พันธุ์อะไร เลี้ยงด้วยหญ้าหรือ grain ใช่ส่วนไหน Marble เป็นอย่างไร ร้านไหนตอบได้ถือว่าผ่านมาแล้ว 50% เพราะว่าถือว่าใส่ใจกับวัตุดิบ
บทนำมันจะเร่ิมมากเกินไปละ เรามาว่ากันที่ร้านนี้เลยดีกว่า เบนไม่รู้จักร้านนี้มาก่อนหรอกคะ แต่บังเอิญไปกินร้านที่อยู่ด้านบน แล้วเพื่อนที่ไปกินด้วยก็บอก เฮยข้างล่างมีร้านอาหารอิตาเลี่ยนด้วย ไปดูไหม พอกินกันเสร็จซึ่งเป็นมื้อที่เฉยๆๆมาก ก็เลยมาเดินผ่านร้าน La Bottega di Luca ที่ชั้น 2 ของ Terrace 49 เดินผ่านๆก็ไม่ได้ติดใจอะไร ขี้เกียจอ่านเมนูด้วย แต่ไปสะดุดที่ขวดไวน์ที่วางอยู่หน้าร้านว่าเป็น Brunello di Montalcino ซึ่งถือว่าเป็น One of the King สำหรับ wine ของอิตาเลี่ยน ดูท่าแล้วร้านนี้คงจะไม่ใช่ธรรมดา ตัดสินใจแล้วว่าวันไหนต้องมาลองสักวัน
อีกหนึ่งอาทิตย์ถัดมากก็ถือโอกาสนั้นแล เนื่องด้วยชอบกินกันทั้งบ้าน เวลาเจออะไรแบบนี้ก็ต้องมากันเป็นครอบครัว(แปลว่าพ่อจ่าย) มาถึงหน้าร้านมี chef นั่งคอยต้อนรับอยู่ คำแรกที่ chef พูดคือ “fove” เราก็งงพูดอะไรไม่ค่อได้ยิน เค้าก็พูดซ้ำ “fove food” ที่นี้แหละตื่นเต้นใหญ่เลย รู้จักเราได้ยังไงเนี้ย โอ้แม่เจ้า อาหารไม่อร่อยก็ต้องอร่อยแล้วละ(ล้อเล่น ถ้าไม่อร่อย ยังไงก็ไม่อร่อย ยกเว้นหิวมาก ความอร่อยอาจจะเพิ่มขึ้นมานิดนึง) คุณ chef คนนี้ชื่อ Dario เป็นผู้ช่วย Chef Luca ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน แต่วันนี้ Luca ไม่อยู่ ยังไงก็กินอยู่ดี เพราะ Dario รู้จัก Fove Food
ตัวเบนเองชอบร้านที่นั่งสบาย ใครๆก็ชอบใช่ไหมคะ แต่สิ่งที่เบนดูเหมือนจะชอบไม่เหมือนคนอื่นเท่าไหรคือ เบนชอบกินแบบสว่างๆ เพราะว่าเบนจะได้มองเห็นอาหารชัดๆ ไม่ค่อยสนเท่าไหรกับบรรยากาศโรแมนติก ร้านนี้เลยมืดไปหน่อยสำหรับเบน (พอเบนมาบ่อยแล้วเลยเร่ิมเป็นตัวยุ่ง ขอให้เค้าเพิ่มไฟให้เรื่อย) เบนสั่งจานแรกมาเป็น Grill Scamorza(smaked mozzarella) wrapped in speck ham topped mushrooms in red wine sauce = มอสซาเรลล่ารมควัน พันด้วย speck ham เอาไปย่าง แล้วราดด้วยซอสไวน์แดงกับเห็ด ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับ Mozzarella แล้วก็ Speck ว่าคืออะไร ตามอ่านได้ที่นี้คะ http://fovefood.wordpress.com/2013/01/26/ชีสนมควาย-mozzarella-di-bufala/ และ http://fovefood.wordpress.com/2013/02/12/ไม่ว่าอะไรๆ-ก็เรียก-salume/
จานนี้แค่ชื่อก็น่ากินแล้ว ถ้าใครพอจะเคยกินส่วนผสมแต่ละชนิดมาก็คงพอจะนึกตามออกมามันจะอร่อยยังไง จานนี้ถือว่ารสชาติเข้นข้นมาก และเค็ม สำหรับคนที่ชอบกินเค็มอย่างเบนยังบอกว่าเค็ม แต่ว่ารสชาติดี ชีสเยิ้มๆ กลิ่มทุกตัวเข้ากันได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นรมควัน กลิ่นของการย่าง กลิ่น ham และยังไวน์แดงอีก เยอะไปหมด
จานต่อไปเป็น Ravioli alla piemontese con funghi porcini e crema di tartufo = เกี้ยวไส้เห็ดและครีมซอส white truffle จากเมือง Alba(เป็นเมืองที่มีทรัฟเฟิลขาวที่ดีที่สุดในโลก) ความจริงจานนี้ควรจะกินก่อนเพราะว่ารสชาติอ่อนกว่าจานที่แล้ว ถึงเส้นจะไม่ได้บางมากแบบที่เบนเคยกินที่เมือง Bologna ซึ่งเป็นเมืองที่ทำ Pasta อร่อยเว่อ หนานิดหน่อยแต่ถือว่าโอเคเลย แต่รสชาตินี่สิที่เด็ด รวมถึงกลิ่นด้วย หอมทรัฟเฟิลมาก
คือเมนูต่างๆมันยังไม่หมดง่ายๆ แต่ว่าเอารูปพร้อมคำอธิบายย่อๆละกันนะคะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น