เห็นหลายคนบ่นว่าเวลาปั่นจักรยานบนเทรนเนอร์มันน่าเบื่อ ผมเองก็เคยเบื่อแต่บังเอิญค้นพบวิธีการที่ทำให้ชอบการปั่นบนเทรนเนอร์ได้นานๆต่อเนื่องกันหลายๆวัน เลยขอเอามาแชร์ครับ มาเริ่มจากจากข้อดี/ข้อเสียของการใช้เทรนเนอร์ก่อนเลย
ข้อดี
1. ง่ายและสะดวกรวดเร็ว สำหรับผมเวลาจะปั่นเทรนเนอร์ใช้เวลาเตรียมตัวไม่เกิน 5 นาที ไม่ต้องเปลี่ยนชุดจักรยาน แค่ใส่รองเท้าก็ปั่นได้เลย ซ้อมได้ทุกวันไม่ต้องมีข้ออ้างฝนตก แดดออก ลมแรง รถเยอะ ฯลฯ ถ้าทุกวันมีเวลาดูทีวี เล่นคอมฯ ก็เอาเวลานั้นแหละครับมาปั่นซ้อมเทรนเนอร์ไปด้วยดูทีวีเล่นคอมไปได้วย ตอนมืดออกกำลังเสร็จอาบน้ำนอนได้เลย
2. วัดผลการพัฒนาได้แน่นอน เพราะสภาพแวดล้อมการปั่นมันเหมือนเดิมตลอด ไม่เหมือนการปั่นบนถนน ตัวแปรจะเยอะกว่า ไม่ว่าลม หรือรถอื่น
ข้อเสีย
1. น่าเบื่อ ถ้าใจไม่แข็งหรือไม่มีเป้าหมายก็จะหยุดเลิกไป
2. เวลาออกไปปั่นบนถนนจริง สภาพเส้นทางอาจจะไม่เหมือนที่ซ้อมมาบนเทรนเนอร์เช่นทางชันหรือทางทราย ก็ต้องกลับมาหาวิธีซ้อมให้เหมาะกับเส้นทางแต่ละเส้น
สำหรับผมการซ้อมบนเทรนเนอร์เกิดจากความเป็นขาอ่อนพอออกไปปั่นทริปจริงแล้วตามคนอื่นไม่ทัน ก็เลยหันมามองหาวิธีฝึกซ้อมเพิ่มเติม ตอนแรกก็พยายามขยันไปปั่นฝึกซ้อมบนถนนทุกวันพบว่ามันยุ่งยากในการเตรียมตัวการหาเส้นทางและยังเห็นผลการพัฒนาได้ช้ามาก เลยหันกลับมาซ้อมบนเทรนเนอร์พอค้นพบวิธีการแล้วก็เลยติดใจ ตอนนี้ผมสามารถซ้อมบนเทรนเนอร์ได้ทุกวันในวันธรรมดาและออกไปปั่นทริปจริงในวันหยุดเพื่อวัดผล ทำแบบนี้ได้ต่อเนื่องกันหลายๆอาทิตย์
มาดูวิธีการซ้อมบนเทรนเนอร์ของผมกันครับ วิธีแก้เบื่อของหลายๆคนเวลาปั่นบนเทรนเนอร์ก็คือเปิดทีวีหรือฟังเพลงไปด้วยซึ่งก็ใช้ได้ดีผมก็ใช้วิธีนี้อยู่แต่ต้องมีวิธีการอื่นช่วยด้วยเพื่อจะได้ทำให้ซ้อมติดต่อกันอยู่ได้นานๆ หลักการมีอยู่ง่ายๆคือ การซ้อมต้องมีแผนการณ์และเป้าหมาย ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว
- แผนการณ์หมายถึงตารางฝึกซ้อมครับ ว่าจะซ้อมหนักแค่ไหน นานแค่ไหน จึงต้องมีอุปกรณ์สำหรับวัดผลอย่างน้อยคือตัววัด heart rate เพื่อจะควบคุมการออกกำลังกายให้อยู่ตามแผนการซ้อม หรือค้นหาตารางวิธีการซ้อมต่างๆและปรึกษาผู้รู้จริงให้ช่วยออกแบบวิธีการซ้อมด้วยก็ได้
- เป้าหมายการซ้อมในวันนั้น วัดง่ายๆในตอนออกกำลังกายในวันนั้นเลยครับว่าจะปั่นด้วยความหนัก,ความเร็วเท่าไหร่ นานเท่าไหร่ เป้าหมายพวกนี้หาจากสิ่งที่ต้องการฝึกฝนพัฒนาครับ เช่น ถ้าเราแรงน้อยออกทริปจริงแล้ว ปั่นได้ช้า ปั่นได้ไม่นานก็หมดแรง ก็สร้างแผนการณ์ซ้อมมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาแก้ไขจุดบกพร่องนั้นๆ เคยหมดแรงเมื่อปั่นไปได้นานเท่าไหร่ ก็วางแผนการซ้อมบนเทรนเนอร์ให้ปั่นได้นานกว่านั้น แล้วก็ฝึกฝนตามนั้นแล้วบันทึกข้อมูลการออกกำลังกายแต่ละวันไว้เพื่อดูพัฒนาการ
- เป้าหมายระยะสั้น อันนี้เป็นวิธีการส่วนตัวของผมเพื่อจูงใจให้อยากออกกำลังได้ทุกวัน คือชั่งน้ำหนักตอนเช้าทุกวันแล้วจดบันทึกไว้ครับ เพราะปกติถ้าผมหยุดออกกำลังแล้วกินอาหารตามสบาย น้ำหนักก็จะขึ้นตามปกติ แต่ถ้าเราตั้งเป้าหมายว่าจะลดน้ำหนักลงไปที่เท่าไหร่ ตื่นเช้ามาชั่งน้ำหนักไว้ก่อนแล้วบันทึกไว้ก็จะเห็นว่าจะต้องลดอีกแค่ไหน จะทำให้วันนั้นอยากออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารเพื่อที่พรุ่งนี้จะได้มาชั่งน้ำหนักใหม่อีกทีเพื่อจะดูว่ามันลดลงหรือเพิ่มขึ้นใกล้ถึงเป้าหมายหรือยัง ทำแบบนี้ทุกวันเป็นเหมือนเล่นเกมส์ลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพน่ะครับ จากกราฟข้างล่างช่วงที่น้ำหนักขึ้นเป็นช่วงที่ผมออกทริปหนักมาแล้วหยุดซ้อมหรือช่วงวันหยุดยาวไปเที่ยวมาหลายวัน พอชั่งน้ำหนักแล้วเห็นกราฟ วันนั้นจะรู้ตัวเลยว่าตอนเย็นต้องรีบกลับมาซ้อมต่อโดยเร็วเพื่อให้กราฟมันลง ถ้ากราฟลงต่อเนื่องหลายๆวันนี่จะมีความสุขมาก
- เป้าหมายระยะกลาง ก็คือจุดประสงค์ของการซ้อมทั้งหมดในช่วงเวลานั้นครับ สำหรับผมคือการไปออกทริป อาจจะเป็นทริปในวันหยุดที่จะถึง หรือในอีกหลายอาทิตย์ข้างหน้า พอออกทริปเสร็จก็จะเหนื่อยล้ามากหยุดพักผ่อนไปสัก 1-2 วัน แล้วก็มองหาทริปใหม่แล้วก็จะวนย้อนกลับไปทำตั้งแต่ขั้นตอนแรกเหมือนเดิม
- เป้าหมายระยะยาว คือการมีสุขภาพดีแข็งแรงตอนที่อายุเยอะ ยังมีแรงทำอะไรได้สบายๆ ไม่ต้องเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลตลอดเวลา มีแรงไปเที่ยว เลี้ยงดูลูกหลานในอนาคต ไม่ใช่ให้ลูกหลานต้องมาคอยดูแลเรา อันนี้เป็นเรื่องของอนาคตครับ ยังมาไม่ถึงแต่ตั้งใจเอาไว้ก่อน พอคิดถึงปุ๊บมันจะมีแรงจูงใจให้ไปออกกำลังต่อไป
ใครมีวิธีการอื่นหรือมีความเห็นอย่างไรขอเชิญเอามาแชร์กันเพื่อเป็นวิทยาทานครับ
@@ หน้าฝนกับการปั่นจักรยานบนเทรนเนอร์ มาแชร์กันครับทำอย่างไรไม่ให้เบื่อ @@
ข้อดี
1. ง่ายและสะดวกรวดเร็ว สำหรับผมเวลาจะปั่นเทรนเนอร์ใช้เวลาเตรียมตัวไม่เกิน 5 นาที ไม่ต้องเปลี่ยนชุดจักรยาน แค่ใส่รองเท้าก็ปั่นได้เลย ซ้อมได้ทุกวันไม่ต้องมีข้ออ้างฝนตก แดดออก ลมแรง รถเยอะ ฯลฯ ถ้าทุกวันมีเวลาดูทีวี เล่นคอมฯ ก็เอาเวลานั้นแหละครับมาปั่นซ้อมเทรนเนอร์ไปด้วยดูทีวีเล่นคอมไปได้วย ตอนมืดออกกำลังเสร็จอาบน้ำนอนได้เลย
2. วัดผลการพัฒนาได้แน่นอน เพราะสภาพแวดล้อมการปั่นมันเหมือนเดิมตลอด ไม่เหมือนการปั่นบนถนน ตัวแปรจะเยอะกว่า ไม่ว่าลม หรือรถอื่น
ข้อเสีย
1. น่าเบื่อ ถ้าใจไม่แข็งหรือไม่มีเป้าหมายก็จะหยุดเลิกไป
2. เวลาออกไปปั่นบนถนนจริง สภาพเส้นทางอาจจะไม่เหมือนที่ซ้อมมาบนเทรนเนอร์เช่นทางชันหรือทางทราย ก็ต้องกลับมาหาวิธีซ้อมให้เหมาะกับเส้นทางแต่ละเส้น
สำหรับผมการซ้อมบนเทรนเนอร์เกิดจากความเป็นขาอ่อนพอออกไปปั่นทริปจริงแล้วตามคนอื่นไม่ทัน ก็เลยหันมามองหาวิธีฝึกซ้อมเพิ่มเติม ตอนแรกก็พยายามขยันไปปั่นฝึกซ้อมบนถนนทุกวันพบว่ามันยุ่งยากในการเตรียมตัวการหาเส้นทางและยังเห็นผลการพัฒนาได้ช้ามาก เลยหันกลับมาซ้อมบนเทรนเนอร์พอค้นพบวิธีการแล้วก็เลยติดใจ ตอนนี้ผมสามารถซ้อมบนเทรนเนอร์ได้ทุกวันในวันธรรมดาและออกไปปั่นทริปจริงในวันหยุดเพื่อวัดผล ทำแบบนี้ได้ต่อเนื่องกันหลายๆอาทิตย์
มาดูวิธีการซ้อมบนเทรนเนอร์ของผมกันครับ วิธีแก้เบื่อของหลายๆคนเวลาปั่นบนเทรนเนอร์ก็คือเปิดทีวีหรือฟังเพลงไปด้วยซึ่งก็ใช้ได้ดีผมก็ใช้วิธีนี้อยู่แต่ต้องมีวิธีการอื่นช่วยด้วยเพื่อจะได้ทำให้ซ้อมติดต่อกันอยู่ได้นานๆ หลักการมีอยู่ง่ายๆคือ การซ้อมต้องมีแผนการณ์และเป้าหมาย ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว
- แผนการณ์หมายถึงตารางฝึกซ้อมครับ ว่าจะซ้อมหนักแค่ไหน นานแค่ไหน จึงต้องมีอุปกรณ์สำหรับวัดผลอย่างน้อยคือตัววัด heart rate เพื่อจะควบคุมการออกกำลังกายให้อยู่ตามแผนการซ้อม หรือค้นหาตารางวิธีการซ้อมต่างๆและปรึกษาผู้รู้จริงให้ช่วยออกแบบวิธีการซ้อมด้วยก็ได้
- เป้าหมายการซ้อมในวันนั้น วัดง่ายๆในตอนออกกำลังกายในวันนั้นเลยครับว่าจะปั่นด้วยความหนัก,ความเร็วเท่าไหร่ นานเท่าไหร่ เป้าหมายพวกนี้หาจากสิ่งที่ต้องการฝึกฝนพัฒนาครับ เช่น ถ้าเราแรงน้อยออกทริปจริงแล้ว ปั่นได้ช้า ปั่นได้ไม่นานก็หมดแรง ก็สร้างแผนการณ์ซ้อมมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาแก้ไขจุดบกพร่องนั้นๆ เคยหมดแรงเมื่อปั่นไปได้นานเท่าไหร่ ก็วางแผนการซ้อมบนเทรนเนอร์ให้ปั่นได้นานกว่านั้น แล้วก็ฝึกฝนตามนั้นแล้วบันทึกข้อมูลการออกกำลังกายแต่ละวันไว้เพื่อดูพัฒนาการ
- เป้าหมายระยะสั้น อันนี้เป็นวิธีการส่วนตัวของผมเพื่อจูงใจให้อยากออกกำลังได้ทุกวัน คือชั่งน้ำหนักตอนเช้าทุกวันแล้วจดบันทึกไว้ครับ เพราะปกติถ้าผมหยุดออกกำลังแล้วกินอาหารตามสบาย น้ำหนักก็จะขึ้นตามปกติ แต่ถ้าเราตั้งเป้าหมายว่าจะลดน้ำหนักลงไปที่เท่าไหร่ ตื่นเช้ามาชั่งน้ำหนักไว้ก่อนแล้วบันทึกไว้ก็จะเห็นว่าจะต้องลดอีกแค่ไหน จะทำให้วันนั้นอยากออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารเพื่อที่พรุ่งนี้จะได้มาชั่งน้ำหนักใหม่อีกทีเพื่อจะดูว่ามันลดลงหรือเพิ่มขึ้นใกล้ถึงเป้าหมายหรือยัง ทำแบบนี้ทุกวันเป็นเหมือนเล่นเกมส์ลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพน่ะครับ จากกราฟข้างล่างช่วงที่น้ำหนักขึ้นเป็นช่วงที่ผมออกทริปหนักมาแล้วหยุดซ้อมหรือช่วงวันหยุดยาวไปเที่ยวมาหลายวัน พอชั่งน้ำหนักแล้วเห็นกราฟ วันนั้นจะรู้ตัวเลยว่าตอนเย็นต้องรีบกลับมาซ้อมต่อโดยเร็วเพื่อให้กราฟมันลง ถ้ากราฟลงต่อเนื่องหลายๆวันนี่จะมีความสุขมาก
- เป้าหมายระยะกลาง ก็คือจุดประสงค์ของการซ้อมทั้งหมดในช่วงเวลานั้นครับ สำหรับผมคือการไปออกทริป อาจจะเป็นทริปในวันหยุดที่จะถึง หรือในอีกหลายอาทิตย์ข้างหน้า พอออกทริปเสร็จก็จะเหนื่อยล้ามากหยุดพักผ่อนไปสัก 1-2 วัน แล้วก็มองหาทริปใหม่แล้วก็จะวนย้อนกลับไปทำตั้งแต่ขั้นตอนแรกเหมือนเดิม
- เป้าหมายระยะยาว คือการมีสุขภาพดีแข็งแรงตอนที่อายุเยอะ ยังมีแรงทำอะไรได้สบายๆ ไม่ต้องเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลตลอดเวลา มีแรงไปเที่ยว เลี้ยงดูลูกหลานในอนาคต ไม่ใช่ให้ลูกหลานต้องมาคอยดูแลเรา อันนี้เป็นเรื่องของอนาคตครับ ยังมาไม่ถึงแต่ตั้งใจเอาไว้ก่อน พอคิดถึงปุ๊บมันจะมีแรงจูงใจให้ไปออกกำลังต่อไป
ใครมีวิธีการอื่นหรือมีความเห็นอย่างไรขอเชิญเอามาแชร์กันเพื่อเป็นวิทยาทานครับ