จากกระทู้เมื่อวาน
http://ppantip.com/topic/30747711
ตอนแรกผมอยากจะตั้งกระทู้ เพื่อพูดถึงตัวเลขที่รัฐบาลควรจะขายข้าวเปลือกได้ แต่พอดีอารัมภบทยาวไปหน่อย เลยไม่ได้จบประเด็นที่จะพูดในกระทู้เมื่อวาน
วันนี้ก็ขอต่ออีกหน่อยนะครับ
จากจุดแรก ของแนวคิดการระบายข้าวเป็นข้าวเปลือก ก็เพื่อให้นำไปทำข้าวนึ่งเพื่อการส่งออก โดยสมมติฐานที่ตั้งก็คือ ที่ผ่านมาสาเหตุที่ไทยส่งออกข้าวนึ่งได้น้อยลง เป็นเพราะไม่มีข้าวเปลือกไปทำข้าวนึ่ง ดังนั้น ถ้าอยากให้ขายได้มากขึ้น ก็ต้องปล่อยข้าวเปลือกในสต๊อกของรัฐออกมา ไม่ใช่เอาไปสีทำข้าวสารหมด
ดังนั้นราคาที่โรงสีและผู้ส่งออก จะยอมรับได้ ในการซื้อข้าวจากสต๊อกของรัฐ น่าจะเป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาตลาด
ผมขอลองตั้งต้นที่ตันละ 10,000 บาทก่อนนะครับ
ข้าวเปลือก 1 ตัน ถ้านำไปทำเป็นข้าวนึ่ง จะได้ข้าวนึ่ง 600 กก. ข้าวท่อน 70 กก. ปลายข้าว 50 กก. รำข้าว 50 กก. แกลบ 230 กก.
ถ้าคิดราคาคร่าว ๆ ส่วนอื่น ๆ จะไปขายได้เงิน (70*15 + 50*14 + 50*8 +230*1.5 = 2495 บาท) ประมาณ 2,500 บาท
จากต้นทุนข้าวเปลือก 10,000 บาท + ค่าแปรสภาพ 800 บาท รวม 10,800 บาท
หักมูลค่าผลิตภัณฑ์อื่นออก ก็จะเหลือว่า ข้าวนึ่ง 600 กก. มีต้นทุน 8,300 บาท หรือ กก.ละ 13.83 บาท
หรือตันละ 13,830 บาท
บวกค่ากระสอบอีก 10 ใบ ประมาณ 500 บาท ค่าขนขึ้นรถบรรทุกอีกประมาณ 50 บาทต่อตัน รวมแล้วต้นทุนข้าวนึ่งตอนพร้อมออกจากโรงสี จะเป็นประมาณ 14,400 บาท
ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ คือค่าขนข้าวจากโรงสีไปลงเรือ อันนี้ไม่รู้จะคิดยังไง แต่คิดว่าเมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตันนึงไม่ควรเกิน 1,000 บาท
ดังนั้น จากราคา FOB ปัจจุบันของข้าวนึ่ง อยู่ที่ 548 เหรียญ หรือประมาณ 17,000 บาท
ถ้าโรงสีซื้อข้าวเปลือกในราคา 10,000 บาท ก็ยังสามารถทำกำไรได้เกือบ 2,000 บาทต่อตันข้าวเปลือก
ซึ่งจากราคาข้าวเปลือกปัจจุบัน จากเวปสมาคมโรงสีข้าวไทย
จะเห็นว่า ปัจจุบันราคาข้าวเปลือกในตลาด จะอยู่ในราคาประมาณ 9,500 -10,000 บาท (ความชื้น 15%)
ดังนั้นคิดว่า ราคาที่เหมาะสมของการประมูลข้าวเปลือกที่เกิดขึ้น รัฐบาลควรได้ราคาประมาณ 10,000 บาท หรือสูงกว่าเล็กน้อย
ซึ่งถ้าหากสมมติฐานของรัฐถูกต้องคือ ตอนนี้มีคำสั่งซื้อ แต่ไม่มีข้าวเปลือกไปทำข้าวนึ่ง ราคาประมูลควรจะสูงกว่า 10,000 บาท และถ้าเป็นแบบนั้น คิดว่า รัฐอาจจะต้องประมูลออกมาให้มากหน่อย เพราะถ้าพ้นเดือนสองเดือนนี้ ข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ออกมา โรงสีก็จะมีทางเลือก จะซื้อข้าวที่ออกมาใหม่ หรือประมูลจากรัฐดี
ก็จะมีผลไปถึงราคาขายของชาวนา ในส่วนของข้าวที่เอาเข้าโครงการรับจำนำไม่ได้
แต่ถ้าหากสมมติฐานของรัฐบาลไม่ถูกต้อง คือจริง ๆ ตอนนี้ข้าวเปลือกในตลาดยังมีพอสำหรับการทำข้าวนึ่งเพื่อส่งออก ราคาประมุลข้าวเปลือก น่าจะออกมาต่ำกว่าราคาตลาด
ถ้าเป็นแบบนี้ การระบายข้าวของรัฐด้วยการประมูลข้าวเปลือก อาจจะทำไม่ได้ในช่วงนี้ รัฐอาจจะต้องเก็บข้าวต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง เพื่อหาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปล่อยข้าวต่อไป
คงทำให้ผลขาดทุนที่คาดหวัง จะทำลายสถิติอีกครั้ง
การประมูลข้าวเปลือก จุดวัดผลงานโครงการจำนำข้าวที่ผ่านมา (ตอน 2)
http://ppantip.com/topic/30747711
ตอนแรกผมอยากจะตั้งกระทู้ เพื่อพูดถึงตัวเลขที่รัฐบาลควรจะขายข้าวเปลือกได้ แต่พอดีอารัมภบทยาวไปหน่อย เลยไม่ได้จบประเด็นที่จะพูดในกระทู้เมื่อวาน
วันนี้ก็ขอต่ออีกหน่อยนะครับ
จากจุดแรก ของแนวคิดการระบายข้าวเป็นข้าวเปลือก ก็เพื่อให้นำไปทำข้าวนึ่งเพื่อการส่งออก โดยสมมติฐานที่ตั้งก็คือ ที่ผ่านมาสาเหตุที่ไทยส่งออกข้าวนึ่งได้น้อยลง เป็นเพราะไม่มีข้าวเปลือกไปทำข้าวนึ่ง ดังนั้น ถ้าอยากให้ขายได้มากขึ้น ก็ต้องปล่อยข้าวเปลือกในสต๊อกของรัฐออกมา ไม่ใช่เอาไปสีทำข้าวสารหมด
ดังนั้นราคาที่โรงสีและผู้ส่งออก จะยอมรับได้ ในการซื้อข้าวจากสต๊อกของรัฐ น่าจะเป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาตลาด
ผมขอลองตั้งต้นที่ตันละ 10,000 บาทก่อนนะครับ
ข้าวเปลือก 1 ตัน ถ้านำไปทำเป็นข้าวนึ่ง จะได้ข้าวนึ่ง 600 กก. ข้าวท่อน 70 กก. ปลายข้าว 50 กก. รำข้าว 50 กก. แกลบ 230 กก.
ถ้าคิดราคาคร่าว ๆ ส่วนอื่น ๆ จะไปขายได้เงิน (70*15 + 50*14 + 50*8 +230*1.5 = 2495 บาท) ประมาณ 2,500 บาท
จากต้นทุนข้าวเปลือก 10,000 บาท + ค่าแปรสภาพ 800 บาท รวม 10,800 บาท
หักมูลค่าผลิตภัณฑ์อื่นออก ก็จะเหลือว่า ข้าวนึ่ง 600 กก. มีต้นทุน 8,300 บาท หรือ กก.ละ 13.83 บาท
หรือตันละ 13,830 บาท
บวกค่ากระสอบอีก 10 ใบ ประมาณ 500 บาท ค่าขนขึ้นรถบรรทุกอีกประมาณ 50 บาทต่อตัน รวมแล้วต้นทุนข้าวนึ่งตอนพร้อมออกจากโรงสี จะเป็นประมาณ 14,400 บาท
ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ คือค่าขนข้าวจากโรงสีไปลงเรือ อันนี้ไม่รู้จะคิดยังไง แต่คิดว่าเมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตันนึงไม่ควรเกิน 1,000 บาท
ดังนั้น จากราคา FOB ปัจจุบันของข้าวนึ่ง อยู่ที่ 548 เหรียญ หรือประมาณ 17,000 บาท
ถ้าโรงสีซื้อข้าวเปลือกในราคา 10,000 บาท ก็ยังสามารถทำกำไรได้เกือบ 2,000 บาทต่อตันข้าวเปลือก
ซึ่งจากราคาข้าวเปลือกปัจจุบัน จากเวปสมาคมโรงสีข้าวไทย
จะเห็นว่า ปัจจุบันราคาข้าวเปลือกในตลาด จะอยู่ในราคาประมาณ 9,500 -10,000 บาท (ความชื้น 15%)
ดังนั้นคิดว่า ราคาที่เหมาะสมของการประมูลข้าวเปลือกที่เกิดขึ้น รัฐบาลควรได้ราคาประมาณ 10,000 บาท หรือสูงกว่าเล็กน้อย
ซึ่งถ้าหากสมมติฐานของรัฐถูกต้องคือ ตอนนี้มีคำสั่งซื้อ แต่ไม่มีข้าวเปลือกไปทำข้าวนึ่ง ราคาประมูลควรจะสูงกว่า 10,000 บาท และถ้าเป็นแบบนั้น คิดว่า รัฐอาจจะต้องประมูลออกมาให้มากหน่อย เพราะถ้าพ้นเดือนสองเดือนนี้ ข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ออกมา โรงสีก็จะมีทางเลือก จะซื้อข้าวที่ออกมาใหม่ หรือประมูลจากรัฐดี
ก็จะมีผลไปถึงราคาขายของชาวนา ในส่วนของข้าวที่เอาเข้าโครงการรับจำนำไม่ได้
แต่ถ้าหากสมมติฐานของรัฐบาลไม่ถูกต้อง คือจริง ๆ ตอนนี้ข้าวเปลือกในตลาดยังมีพอสำหรับการทำข้าวนึ่งเพื่อส่งออก ราคาประมุลข้าวเปลือก น่าจะออกมาต่ำกว่าราคาตลาด
ถ้าเป็นแบบนี้ การระบายข้าวของรัฐด้วยการประมูลข้าวเปลือก อาจจะทำไม่ได้ในช่วงนี้ รัฐอาจจะต้องเก็บข้าวต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง เพื่อหาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปล่อยข้าวต่อไป
คงทำให้ผลขาดทุนที่คาดหวัง จะทำลายสถิติอีกครั้ง