จำนำข้าว (ฉบับปรับปรุง) ภาค 2 : เม็ดข้าว จากท้องนา สู่โกดังรัฐ

กระทู้สนทนา
จากภาคแรก : http://ppantip.com/topic/30273928

ตอนแรกคิดว่าจะคุยเริ่มต้นจาก ต้นทุนการทำนาของชาวนา แต่คิดว่า จะไม่ลงไปตรงจุดนั้น เพราะคงจะมีประเด็นขัดแย้ง เพราะหาข้อสรุปไม่ได้เหมือนเดิม

ก็เลยขอข้ามไปที่ตัวเม็ดข้าวเลยก็แล้วกัน

หลังจากทำนาจนเก็บเกี่ยวได้ ชาวนาก็จะนำข้าวไปจำนำที่โรงสีที่เข้าร่วมโครงการของรัฐ ซึ่งจุดนี้มีจุดนึง ที่คิดว่า หลายคนยังคิดไม่ตรงกัน ก็คือ ในประเด็นที่ว่า ไหนบอกว่า จำนำตันละ 15,000 บาท แต่ทำไมได้เงินไม่ถึง

ตรงนี้ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ราคาที่รัฐบาลบอกจะรับจำนำนั้น เป็นราคาที่ความชื้นไม่เกิน 15% ซึ่งถ้าหากข้าวที่นำมาจำนำ มีความชื้นสูงกว่านั้น ก็จะถูกลดทอนน้ำหนักลง








ซึ่งจากตารางจะเห็นว่า ราคาที่ได้ลดลง เป็นเพราะโดนหักน้ำหนักจากความชื้นที่มีในข้าว ไม่ใช่เพราะมีความชื้น เลยได้ราคาต่อตันน้อยลง

เช่นเราเอาข้าวน้ำหนัก 1 ตัน ไปจำนำ ตรวจวัดความชื้นแล้วได้ 23% ข้าวที่เราเอาไป ก็จะถูกหักน้ำหนักลง 120 กก. หรือก็คือ เราเอาของน้ำหนัก 1,000 กก.มาจำนำ เมื่อวัดความชื้นแล้วได้ว่า ที่เราเอามานั้น เป็นข้าว 880 กก.เท่านั้น

ซึ่งจากจุดนี้ การออกใบประทวน ก็จะออกที่น้ำหนัก 880 กก. ในราคา 15,000 บาท/ตัน (ข้าว 100%) หรือก็คือ เราจะได้เงิน 13,200 บาท (เท่ากับในตาราง)




ดังนั้นจากประเด็นข้างบน ก็จะเข้าไปสู่ขั้นต่อไป ก็คือ มีข้าวในโรงสีจำนวน 880 กก. (ไม่ใช่ 1 ตัน)

เมื่อรวมข้าวทั้งหมด จากคนที่นำมาจำนำที่โรงสีหนึ่ง ก็จะได้ปริมาณข้าวที่รับจำนำของโรงสี ที่ความชื้นไม่เกิน 15% สมมติว่า 10,000 ตัน

จากปริมาณนี้ เมื่อทางรัฐสั่งให้สีแปรสภาพส่งมอบเข้าโกดังกลาง ทางโรงสี ก็จะต้องสีข้าว แล้วส่งไปเก็บในโกดังกลาง

หมายความว่า จากข้าวที่โรงสีนั้น รับจำนำมาทั้งหมด 10,000 ตัน โรงสีต้องสีแล้วส่งเป็นข้าวสาร และปลายข้าว ไปส่งให้โกดังกลาง ไม่ใช่ส่งข้าวเปลือกเข้าโกดังกลาง

โดยมีการกำหนดอัตราส่งมอบ เป็นครั้ง ๆ







ซึ่งจากอัตราส่งมอบที่กำหนด ยกตัวอย่าง ข้าวขาว 5%

รัฐบาลตั้งต้นว่า ข้าวขาว 5% 1 ตัน เมื่อสีแล้วจะได้

ต้นข้าว 450 กก.

ปลายข้าว A1 เลิศ 170 กก.

ปลายเล็ก 40 กก.

รำข้าวขาว 72 กก.

รำข้าวกล้อง 30 กก.

โดยรัฐบาลจะใช้ราคาตลาด(ระบุไว้ข้างล่างปริมาณ) มาคำนวณมูลค่าของส่วนต่าง ๆ ที่ได้ ซึ่งคิดรวม ปลายเล็ก รำข้าว ได้เป็นเงิน 1,185.90 บาท โดยส่วนนี้ รัฐบาลตีว่า ขายส่วนนี้ให้โรงสีไปเลย

แล้วรัฐบาลก็จะจ่ายค่าสีข้าว ให้ตันละ 500 บาท

ซึ่งถึงจุดนี้ โรงสีจะเป็นหนี้ รัฐบาล 685.90 บาทต่อตันข้าวเปลือก

ซึ่งคิดเป็นต้นข้าว(ตามราคา) ประมาณ 40 กก.

จากจุดนี้ เริ่มจากสีข้าวแล้วได้ ต้นข้าว 450 กก. ปลายข้าว A1 เลิศ 170 กก.

โรงสีต้องเพิ่มต้นข้าวให้รัฐบาล จึงต้องส่งมอบจำนวน 490 กก. ปลายข้าวฯ 170 กก.

เมื่อทอนความชื้น 14% ออก ก็จะเหลือส่งต้นข้าว 483 กก. ปลายข้าวฯเท่าเดิม 170 กก. (อันนี้ผมไม่แน่ใจวิธีคิด แต่เป็นว่าตารางบอกแบบนี้แล้วกัน)

หลังจากนั้น ก็ต้องเอาข้าวใส่กระสอบ ซึ่งตรงนี้ รัฐบาลก็จ่ายค่ากระสอบด้วยข้าวชนิดนั้นไป ดังนั้น ต้นข้าว 483 กก. เมื่อใส่กระสอบ ก็จะเหลือ 469 กก. ปลายข้าวฯ 170 กก. เหลือปลายข้าว 164 กก.

และหลังจากนั้น โรงสีต้องส่งข้าวไปเข้าโกดังกลางของรัฐ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่ม ก็คือค่าขนส่ง

ทางรัฐก็จ่าย ค่าขนส่งตามระยะทาง เป็นปริมาณข้าวแต่ละชนิด โดยให้โรงสีหักลดปริมาณไป

สมมติส่งข้าวไปโกดังกลางไกลจากโรงสี 100 กม. ก็จะหักค่าขนส่งไปกระสอบละ 18 บาท จึงทำให้ลดปริมาณข้าว จาก 469+164 เป็น 464+162 กก.

อันนี้ก็หมายความว่า จากข้าวที่โรงสี รับจำนำเข้ามา 1,000 กก. (ความชื้นไม่เกิน 15%) เมื่อรัฐบาลสั่งให้สีแปรสภาพส่ง โรงสีจะส่งต้นข้าว 464 กก. ปลายข้าว A1เลิศ 162 กก. เข้าโกดังกลางแทน

รวมสองอย่าง ก็หมายความว่า จากข้าวเปลือก 1,000 กก. รัฐบาลจะได้ข้าวสารรวม 626 กก.


ซึ่งจากปีที่แล้ว (นาปี 54/55 + นาปรัง 55) รวมแล้วรัฐบาลรับจำนำข้าวรวม 21.7 ล้านตัน ได้ข้าวรวม 13 ล้านตัน โดยมีรายละเอียดชนิดข้าวตามนี้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่