TOT บี้ICTของบ20000ลบ.( เร่งสร้างสายFTTxและสายเคเบิ้ลใต้น้ำ ) หลังโดน CTH บี้หลังจากเซ็น ( ลงทุนสายเคเบิลตามสเป็ก CTH)

14 กรกฎาคม 2556 TOT บี้ ICT ของบ 20000 ลบ. ( เร่งสร้างสาย FTTx เข้าบ้านลูกค้าและสายเคเบิ้ลใต้น้ำ) หลังโดน CTH บี้หลังจากเซ็น (ลงทุนสายเคเบิลตามสเป็กCTH) ส่วนแบ่งรายได้TOT 70% CTH ได้ 30%

ประเด็นหลัก


นายยงยุทธ์ วัฒนสินธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้เตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ในวันที่ 24 ก.ค. พิจารณาอนุมัติ 2 โครงการใหญ่รวมมูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย โครงการอินเทอร์เน็ตผ่านสายไฟเบอร์ (เอฟทีทีเอ็กซ์) จำนวน 2 หมื่นล้านบาท และโครงการเคเบิลใยแก้วใต้น้ำ 5 พันล้านบาท สำหรับทั้ง 2 โครงการ เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของทีโอทีเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับส่วนแบ่งรายได้สัมปทานที่จะต้องเริ่มนำส่งให้กับกระทรวงการคลังตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้รายได้หลักของทีโอทีมากกว่า 60% หายไปทันที

กรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอที กล่าวต่อว่า โครงการเอฟทีทีเอ็กซ์ จะเป็นการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตรองรับ 3 ล้านเลขหมายเพื่อรองรับการใช้งานทั้งเสียง ข้อมูล และอินเทอร์เน็ต ตามการเติบโตของ 3 จี และ 4 จี ซึ่งเป็นแผนระยะยาว 5 ปี โดยหลังจากผ่านบอร์ดแล้ว จะนำเสนอให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ



ข่าวที่เกี่ยวข้อง
24 พฤษภาคม 2556 TOT จับมือ CTH (ลงทุนสายเคเบิลตามสเป็กCTHคาดคืนทุน2ปี)ทันพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2013-2014 ส่วนแบ่งรายได้ 70% CTH ได้ 30%
http://somagawn.blogspot.com/2013/05/24-2556-tot-cth-cth-2-2013-2014-70-cth.html


TOT ให้สัมปทานโครงข่ายการสื่อสารความเร็วสูง แก CTH เรียบร้อยแล้ว!! หลังโดยปลอมเว็บ CTH ขอประกาศอีกครั้ง ตอนนี้CTHมีเว็บไซต์ http://www.cth.co.th/ ที่เดียว
http://somagawn.blogspot.com/2013/06/06-2556-tot-cth-cth-cth-httpwwwcthcoth.html





______________________________________





ทีโอทีตื่น! ชงบอร์ด 2 โครงการยักษ์หวังกู้รายได้


ทีโอที ชงบอร์ด 2โครงการ เอฟทีทีเอ็กซ์ 2 หมื่นล้านบาท และเคเบิลใยแก้วใต้น้ำ 5 พันล้านบาท หวังกู้รายได้องค์กรหลังสัมปทานสิ้นสุด...

นายยงยุทธ์ วัฒนสินธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้เตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ในวันที่ 24 ก.ค. พิจารณาอนุมัติ 2 โครงการใหญ่รวมมูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย โครงการอินเทอร์เน็ตผ่านสายไฟเบอร์ (เอฟทีทีเอ็กซ์) จำนวน 2 หมื่นล้านบาท และโครงการเคเบิลใยแก้วใต้น้ำ 5 พันล้านบาท สำหรับทั้ง 2 โครงการ เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของทีโอทีเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับส่วนแบ่งรายได้สัมปทานที่จะต้องเริ่มนำส่งให้กับกระทรวงการคลังตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้รายได้หลักของทีโอทีมากกว่า 60% หายไปทันที

กรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอที กล่าวต่อว่า โครงการเอฟทีทีเอ็กซ์ จะเป็นการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตรองรับ 3 ล้านเลขหมายเพื่อรองรับการใช้งานทั้งเสียง ข้อมูล และอินเทอร์เน็ต ตามการเติบโตของ 3 จี และ 4 จี ซึ่งเป็นแผนระยะยาว 5 ปี โดยหลังจากผ่านบอร์ดแล้ว จะนำเสนอให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ

นายยงยุทธ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีโครงการเคเบิลใต้น้ำอีก 5 พันล้านบาท ที่ จ.สตูล และจ.สงขลา โดยขยายจุดเชื่อมต่อออกไปเชื่อมกับสถานีเคเบิลใต้น้ำของนานาชาติที่มีอยู่ คือ ระบบเคเบิลใต้น้ำอาเซียนอินโดนีเซีย-สิงคโปร์ ระบบเคเบิลใต้น้ำอาเซียนฟิลิปปินส์-สิงคโปร์ ระบบเคเบิลใต้น้ำอาเซียนมาเลเซีย-สิงคโปร์-ไทย และระบบเคเบิลใต้น้ำเอเชียอาคเนย์-ตะวันออกกลาง-ยุโรปตะวันตก

กรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอที กล่าวด้วยว่า ทีโอทีมีโครงการ 3 จีทั่วประเทศจำนวน 5,320 สถานี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท ติดตั้งแล้วเสร็จไปราว 4,700 สถานี และจะเริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ในเดือน ส.ค. 2556 โดยมีกลุ่มสามารถ ได้สิทธิ์ทำการตลาดแบบเอ็มวีเอ็นโอในสัดส่วน 40% จำนวน 1.2 ล้านเลขหมาย ขณะที่ความร่วมมือกับพันธมิตร ได้ให้บริษัท ซีทีเอช จำกัด ผู้ให้บริการทีวีบอกรับสมาชิกเช่าใช้โครงข่ายเพื่อให้บริการผู้ชมถึงบ้าน รวมทั้ง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ที่เป็นคู่สัมปทานเดิม เพื่อขยายการให้บริการทั้งในระบบ 3จี และ4จี



โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/356737


__________________________________________





โพสต์ทูเดย์ 12 กรกฎาคม 2556
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่