บอร์ดทีโอทีเลือก'มนต์ชัย' นั่งซีอีโอใหม่
มติบอร์ดทีโอทีเลือก "มนต์ชัย" นั่งกรรมการ ผู้จัดการใหญ่คนใหม่ คาดส่งชื่อคลังอนุมัติ พร้อมแต่งตั้งเป็นทางการได้ปลายเดือนก.ค. เจ้าตัวเผย งานเร่งด่วนต้องเช็คทรัพย์สินโทรคมจากสัมปทานเอไอเอส ที่จะหมด ก.ย.นี้ พร้อมเคลียร์ข้อพิพาท ระบุวางบรอดแบนด์ 2 ล้านพอร์ต เป็นเรือธงสร้างรายได้ หากเจอโรคเลื่อนอาจต้องรีวิวหาแผนสำรอง
นายมนต์ชัย หนูสง รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที กล่าวว่า ตามที่วาระการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้รับทราบผลการพิจารณาการ คัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอทีคนใหม่ตามที่คณะกรรมการสรรหาได้เสนอมา ซึ่งเห็นชอบเบื้องต้นให้เข้ารับตำแหน่งดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ขอกล่าวอะไรเกี่ยวกับการแต่งตั้ง เพราะเป็นอำนาจของบอร์ด และขั้นตอนต่อไปต้องส่งชื่อให้กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ทีโอทีเป็นผู้พิจารณาแล้วจึงค่อยส่งชื่อกลับมายังบอร์ดทีโอทีอีกครั้งเพื่อ แต่งตั้งอย่างเป็นทางการต่อไป โดยตามกรอบเวลาแล้วน่าจะใช้ระยะเวลาราว 1 เดือนนับจากการประชุมบอร์ดครั้งล่าสุด "ผมก็ยังไม่กล้าพูดเต็มปากว่าตอนนี้จะได้เป็น กจญ. ของทีโอทีคนใหม่ ก็อยากให้รอการอนุมัติจากกระทรวงการคลังและแต่งตั้งอย่างเป็นทางการก่อน"
ส่วนแผนงานนโยบายการดำเนินงานของที่ได้เสนอต่อบอร์ดในการแสดงวิสัยทัศน์นั้น เขา ระบุว่า งานเร่งด่วนที่ทีโอทีต้องเร่งดำเนินการมี 2 เรื่องคือ 1.เตรียมตัวเพื่อรองรับการสิ้นสุดสัญญาสัมปทานของบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) บนคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งที่ผ่านมาได้ตั้งคณะกรรมการ เพื่อรับมอบคืนสินทรัพย์ให้สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง และตั้งคณะทำงานกำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางการจัดการ ข้อพิพาทเพื่อให้นำทรัพย์สิน เสา และโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง มาใช้ประโยชน์
ขณะนี้ได้สำรวจที่ตั้งครบทุกแห่งแล้ว อยู่ระหว่างการเปรียบเทียบข้อมูลทั้ง 2 ฝ่าย โดยทรัพย์สินของเอไอเอสจะต้องโอนมาเป็นของ ทีโอที ณ วันที่สิ้นสุดสัมปทาน ก.ย.นี้ ซึ่งตอนนี้มีเสาโทรคมนาคม มีสถานีฐานอยู่ทั้งหมด 13,000 แห่ง
พร้อมกันนี้ ยังต้องเจรจาเกี่ยวกับการใช้งานคลื่นความถี่ที่ทีโอทีมีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติด้วย โดยเฉพาะคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่อยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานเอไอเอสยังมีความหวังว่ารัฐบาลจะให้ทีโอทีใช้ต่อ รวมถึงคลื่น 2300 เมกะเฮิรตซ์ที่ทีโอทีถือครองอยู่ราว 60 เมกะเฮิรตซ์
ส่วนเรื่องที่ 2 คือโครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) 2 ล้านพอร์ตครอบคลุม 7,255 ตำบล ในความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 เมกะบิตที่ใช้งบลงทุน 30,000 ล้านบาท ภายใน 6-7 ปี เริ่มติดตั้ง และเบื้องต้นคาดว่าจะให้บริการได้ราวไตรมาส 4 ปีนี้ แต่โครงการดังกล่าวก็ยังมีความไม่แน่นอน เพราะต้องรอการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งหากโครงการ 2 ล้านพอร์ตยังติดปัญหาความล่าช้า เขาในฐานะกรรมการผู้จัดการใหญ่ต้องมารีวิวแผนงานใหม่เพื่อหาแผนสำรองอื่นๆ เพราะเดิมทีโอทีตั้งใจให้โครงการ 2 ล้านพอร์ตเป็นตัวสร้างรายได้สำคัญในปีนี้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมบอร์ดทีโอทีเมื่อวันที่18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมลงมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการสรรหาผู้บริหารสูงสุดเสนอ เพื่อให้ทีโอที มีผลการดำเนินงานบรรลุตามเป้าหมาย ในการแต่งตั้งผู้บริหารสูงสุดควรให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บริหารสูงสุดนำเสนอแผนงาน และให้ประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างเข้มข้น โดยควรแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการประเมินผลการปฏิบัติงาน ผู้บริหารสูงสุดด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบผลการสรรหาผู้บริหารสูงสุดตามที่คณะกรรมการสรรหา ผู้บริหารสูงสุดเสนอ ดำรงตำแหน่งกรรมการ ผู้จัดการใหญ่โดยผู้สมัครที่ได้คะแนนรวมสูงสุดลำดับที่ 1 เป็นผู้มีความเหมาะสมที่จะเป็น ผู้บริหารสูงสุด ได้แก่ นายมนต์ชัย หนูสง โดยเห็นชอบให้เสนอชื่อให้คณะอนุกรรมการพิจารณาผลตอบแทนตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดำเนินการเจรจาตามขั้นตอนต่อไป
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558
ทีโอทีเล็งเช็คเสาโทรคมก่อนหมดสัมปทาน
บอร์ดทีโอทีเลือก'มนต์ชัย' นั่งซีอีโอใหม่
มติบอร์ดทีโอทีเลือก "มนต์ชัย" นั่งกรรมการ ผู้จัดการใหญ่คนใหม่ คาดส่งชื่อคลังอนุมัติ พร้อมแต่งตั้งเป็นทางการได้ปลายเดือนก.ค. เจ้าตัวเผย งานเร่งด่วนต้องเช็คทรัพย์สินโทรคมจากสัมปทานเอไอเอส ที่จะหมด ก.ย.นี้ พร้อมเคลียร์ข้อพิพาท ระบุวางบรอดแบนด์ 2 ล้านพอร์ต เป็นเรือธงสร้างรายได้ หากเจอโรคเลื่อนอาจต้องรีวิวหาแผนสำรอง
นายมนต์ชัย หนูสง รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที กล่าวว่า ตามที่วาระการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้รับทราบผลการพิจารณาการ คัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอทีคนใหม่ตามที่คณะกรรมการสรรหาได้เสนอมา ซึ่งเห็นชอบเบื้องต้นให้เข้ารับตำแหน่งดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ขอกล่าวอะไรเกี่ยวกับการแต่งตั้ง เพราะเป็นอำนาจของบอร์ด และขั้นตอนต่อไปต้องส่งชื่อให้กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ทีโอทีเป็นผู้พิจารณาแล้วจึงค่อยส่งชื่อกลับมายังบอร์ดทีโอทีอีกครั้งเพื่อ แต่งตั้งอย่างเป็นทางการต่อไป โดยตามกรอบเวลาแล้วน่าจะใช้ระยะเวลาราว 1 เดือนนับจากการประชุมบอร์ดครั้งล่าสุด "ผมก็ยังไม่กล้าพูดเต็มปากว่าตอนนี้จะได้เป็น กจญ. ของทีโอทีคนใหม่ ก็อยากให้รอการอนุมัติจากกระทรวงการคลังและแต่งตั้งอย่างเป็นทางการก่อน"
ส่วนแผนงานนโยบายการดำเนินงานของที่ได้เสนอต่อบอร์ดในการแสดงวิสัยทัศน์นั้น เขา ระบุว่า งานเร่งด่วนที่ทีโอทีต้องเร่งดำเนินการมี 2 เรื่องคือ 1.เตรียมตัวเพื่อรองรับการสิ้นสุดสัญญาสัมปทานของบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) บนคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งที่ผ่านมาได้ตั้งคณะกรรมการ เพื่อรับมอบคืนสินทรัพย์ให้สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง และตั้งคณะทำงานกำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางการจัดการ ข้อพิพาทเพื่อให้นำทรัพย์สิน เสา และโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง มาใช้ประโยชน์
ขณะนี้ได้สำรวจที่ตั้งครบทุกแห่งแล้ว อยู่ระหว่างการเปรียบเทียบข้อมูลทั้ง 2 ฝ่าย โดยทรัพย์สินของเอไอเอสจะต้องโอนมาเป็นของ ทีโอที ณ วันที่สิ้นสุดสัมปทาน ก.ย.นี้ ซึ่งตอนนี้มีเสาโทรคมนาคม มีสถานีฐานอยู่ทั้งหมด 13,000 แห่ง
พร้อมกันนี้ ยังต้องเจรจาเกี่ยวกับการใช้งานคลื่นความถี่ที่ทีโอทีมีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติด้วย โดยเฉพาะคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่อยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานเอไอเอสยังมีความหวังว่ารัฐบาลจะให้ทีโอทีใช้ต่อ รวมถึงคลื่น 2300 เมกะเฮิรตซ์ที่ทีโอทีถือครองอยู่ราว 60 เมกะเฮิรตซ์
ส่วนเรื่องที่ 2 คือโครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) 2 ล้านพอร์ตครอบคลุม 7,255 ตำบล ในความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 เมกะบิตที่ใช้งบลงทุน 30,000 ล้านบาท ภายใน 6-7 ปี เริ่มติดตั้ง และเบื้องต้นคาดว่าจะให้บริการได้ราวไตรมาส 4 ปีนี้ แต่โครงการดังกล่าวก็ยังมีความไม่แน่นอน เพราะต้องรอการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งหากโครงการ 2 ล้านพอร์ตยังติดปัญหาความล่าช้า เขาในฐานะกรรมการผู้จัดการใหญ่ต้องมารีวิวแผนงานใหม่เพื่อหาแผนสำรองอื่นๆ เพราะเดิมทีโอทีตั้งใจให้โครงการ 2 ล้านพอร์ตเป็นตัวสร้างรายได้สำคัญในปีนี้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมบอร์ดทีโอทีเมื่อวันที่18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมลงมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการสรรหาผู้บริหารสูงสุดเสนอ เพื่อให้ทีโอที มีผลการดำเนินงานบรรลุตามเป้าหมาย ในการแต่งตั้งผู้บริหารสูงสุดควรให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บริหารสูงสุดนำเสนอแผนงาน และให้ประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างเข้มข้น โดยควรแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการประเมินผลการปฏิบัติงาน ผู้บริหารสูงสุดด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบผลการสรรหาผู้บริหารสูงสุดตามที่คณะกรรมการสรรหา ผู้บริหารสูงสุดเสนอ ดำรงตำแหน่งกรรมการ ผู้จัดการใหญ่โดยผู้สมัครที่ได้คะแนนรวมสูงสุดลำดับที่ 1 เป็นผู้มีความเหมาะสมที่จะเป็น ผู้บริหารสูงสุด ได้แก่ นายมนต์ชัย หนูสง โดยเห็นชอบให้เสนอชื่อให้คณะอนุกรรมการพิจารณาผลตอบแทนตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดำเนินการเจรจาตามขั้นตอนต่อไป
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558