"ทีโอที" ยื้อเวลาปรับโฉมองค์กรทันสมัย ส่ง สคร.ตีความตั้งบริษัทร่วมทุนเอไอเอส

กระทู้ข่าว


          ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ว่า ขณะนี้การหาพันธมิตรทางธุรกิจของทีโอทียังไม่ชัดเจนว่าจะดำเนินการในรูปแบบใด ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ที่มีพลเอกสุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ เป็นประธานเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้ถกเถียงกันหลายประเด็นเกี่ยวกับกฎหมาย โดยกังวลว่า การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเสาโทรคมนาคมระหว่างทีโอทีกับบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส โดยทีโอทีถือหุ้น 49% และเอไอเอส 51% นั้น จะเข้าข่าย พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 (พ.ร.บ.ร่วมทุน) หรือไม่ จึงมอบหมายให้ฝ่ายบริหารทำหนังสือสอบถามสำนักงานคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อความชัดเจนและรอบคอบอีกครั้ง หาก สคร.ยืนยันว่าไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุน ทีโอทีพร้อมจะเดินหน้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับเอไอเอส เพราะถือว่ายื่นข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับทีโอที

          อย่างไรก็ตาม การเจรจาพันธมิตรธุรกิจระหว่างกันไม่ง่ายนัก เพราะมีปัญหาหลายส่วน ทั้งรูปแบบการร่วมลงทุนธุรกิจมือถือร่วมกัน การตลาดและลงทุนเครือข่ายร่วมกัน โดยจะพัฒนาโครงข่าย และทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และใช้คลื่นความถี่ 2100 เมกะเฮิรตซ์ ขนาด 15 เมกะเฮิรตซ์ ให้คุ้มค่าและเต็มประสิทธิภาพ หากเจรจาสำเร็จจะทำให้ทีโอทีมีกำไรทันที จากปีนี้คาดจะขาดทุนราว 12,000 ล้านบาท แต่ฝ่ายบริหารและบอร์ดไม่กล้าตัดสินใจใดๆ ทั้งที่สัญญาสัมปทานจะสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.นี้ ทำให้เกิดคำถามว่าผู้บริหารและบอร์ดทีโอทีต้องการประวิงเวลาแก้ไขปัญหาองค์กรหรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการบริหารจัดการภายในอีก ที่ไม่ทำงานตามกระบวนการ ไม่มีความเป็นธรรมในการแต่งตั้งผู้บริหาร ยังคงยึดพวกพ้อง ส่งผลให้พนักงานส่วนใหญ่ต่อต้านและไม่ร่วมมือทำงาน

          นายมนต์ชัย หนูสง รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที กล่าวว่า การทำหนังสือถามสคร.เพื่อความมั่นใจและรอบคอบ จะได้ไม่มีปัญหากฎหมายในอนาคต.

ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558 (หน้า 9)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่