"
ทีโอที" น้ำตาไหลพราก!
ไทยรัฐ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และนายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอที ได้เปิดเวทีชี้แจงพนักงานทีโอทีเกี่ยวกับมติคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่เห็นชอบในหลักการให้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างทีโอที กับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด รวม 3 บริษัท เพื่อจัดการทรัพย์สิน โดยพล.อ.สุรพงษ์กล่าวในที่ประชุมว่า นายกรัฐมนตรีมีความปรารถนาดีที่จะให้ทีโอทีอยู่รอดอย่างยั่งยืน จึงขอความร่วมมือจากพนักงานให้ความร่วมมือในการปรับตัวให้สอดรับกับแนวทางของสติ คนร. เพราะจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญขององค์กร โดยพนักงานสามารถเลือกงานทำกับทีโอที หรือจะไปสมัครทำงานใน 3 บริษัทตั้งใหม่ก็สามารถทำได้ แต่หากรายใดไม่ต้องการทำงานก็เข้าโครงการลาออกก่อนเกษียณอายุ ซึ่งปีนี้ได้ตั้งเป้าไว้ 1,000 คน ภายใต้งบประมาณดำเนินการ 3,000 ล้านบาท
"การชี้แจงครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 หลังจากเข้ามารับตำแหน่งประธานบอร์ด 2 ปีเต็ม ซึ่งตลอด 2 ปี ก็พยายามทำงานอย่างหนัก เพราะเข้ามารับตำแหน่งทีโอทีก็ขาดทุนอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และมีปัญหามากมายที่ต้องแก้ไข เช่น กรณีการหาพันธมิตร ให้มาเช่าใช้คลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ ที่เป็นปัญหาราคาซัง หากมองย้อนหลังไป 4-5 ปี ก็ขาดทุน ทำไมบอร์ดทีโทอี ชุดที่ผ่านมาไม่เร่งดำเนินการ ซึ่งบอร์ดชุดนี้ได้ดำเนินการ ซึ่งบอร์ดชุดนี้ได้ดำเนินการและมีความชัดเจนแล้ว"
พล.อ.สุรพงษ์กล่าวต่อว่า อีกช่องทางช่องทางหนึ่งที่จะทำให้ทีโอทีอยู่รอด ซึ่งบอร์ดทีโอทีได้เจรจากับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อให้คลื่น 2300 เมกะเฮิร์ต มาใช้งานแล้ว ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ ปัจจุบันทีโอทีมีสิทธิ์ใช้คลื่นไปจนถึงปี 2568.
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559 (หน้า 8)
"ทีโอที" น้ำตาไหลพราก!
"ทีโอที" น้ำตาไหลพราก!
ไทยรัฐ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และนายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอที ได้เปิดเวทีชี้แจงพนักงานทีโอทีเกี่ยวกับมติคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่เห็นชอบในหลักการให้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างทีโอที กับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด รวม 3 บริษัท เพื่อจัดการทรัพย์สิน โดยพล.อ.สุรพงษ์กล่าวในที่ประชุมว่า นายกรัฐมนตรีมีความปรารถนาดีที่จะให้ทีโอทีอยู่รอดอย่างยั่งยืน จึงขอความร่วมมือจากพนักงานให้ความร่วมมือในการปรับตัวให้สอดรับกับแนวทางของสติ คนร. เพราะจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญขององค์กร โดยพนักงานสามารถเลือกงานทำกับทีโอที หรือจะไปสมัครทำงานใน 3 บริษัทตั้งใหม่ก็สามารถทำได้ แต่หากรายใดไม่ต้องการทำงานก็เข้าโครงการลาออกก่อนเกษียณอายุ ซึ่งปีนี้ได้ตั้งเป้าไว้ 1,000 คน ภายใต้งบประมาณดำเนินการ 3,000 ล้านบาท
"การชี้แจงครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 หลังจากเข้ามารับตำแหน่งประธานบอร์ด 2 ปีเต็ม ซึ่งตลอด 2 ปี ก็พยายามทำงานอย่างหนัก เพราะเข้ามารับตำแหน่งทีโอทีก็ขาดทุนอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และมีปัญหามากมายที่ต้องแก้ไข เช่น กรณีการหาพันธมิตร ให้มาเช่าใช้คลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ ที่เป็นปัญหาราคาซัง หากมองย้อนหลังไป 4-5 ปี ก็ขาดทุน ทำไมบอร์ดทีโทอี ชุดที่ผ่านมาไม่เร่งดำเนินการ ซึ่งบอร์ดชุดนี้ได้ดำเนินการ ซึ่งบอร์ดชุดนี้ได้ดำเนินการและมีความชัดเจนแล้ว"
พล.อ.สุรพงษ์กล่าวต่อว่า อีกช่องทางช่องทางหนึ่งที่จะทำให้ทีโอทีอยู่รอด ซึ่งบอร์ดทีโอทีได้เจรจากับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อให้คลื่น 2300 เมกะเฮิร์ต มาใช้งานแล้ว ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ ปัจจุบันทีโอทีมีสิทธิ์ใช้คลื่นไปจนถึงปี 2568.
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559 (หน้า 8)