เมื่อวิไลรัมภา...คือนางเอก (๙)

กระทู้สนทนา
เมื่อวิไลรัมภา...คือนางเอก (๙)
(ขอแจ้งว่านี่เป็นกระทู้ต่อเนื่องนะคะ ท่านที่เข้ามาครั้งแรกอาจไม่เข้าใจ)

-    ตอนนี้หม่อมหลวงวิไลรัมภาของเราได้พบกับร้อยโทปารัญแล้ว โดยต่างคนต่างคิดกว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ตัวเองกำลังนึกถึงอยู่

บ้านสุภาริญ
หญิงสาวที่นั่งอยู่หน้าเปียโนยังไม่ได้กำหนดไว้ในใจก่อนว่าจะเล่นเพลงใด แต่พอจรดนิ้วลงบนแป้นเปียโนก็กลายเป็นเพลงเดียวกับที่บรรเลงในค่ำคืนนั้น...งานเลี้ยงฉลองหลังพิธีพระราชทานกระบี่ว่าที่เรืออากาศตรีผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรืออากาศ รุ่นนั้นมีหม่อมราชวงศ์รณพีร์ จุฑาเทพเป็นหนึ่งในนายทหารที่กำลังจะออกมารับใช้ชาติ
    และมีเด็กสาวคนหนึ่งเลือกสวมชุดราตรีสีขาว เปิดตัวออกงานในฐานะหญิงสาวอย่างเป็นทางการครั้งแรก และเป็นครั้งแรกในชีวิตเช่นกันที่เลือกจะแต่งหน้า เพราะเพิ่งรู้จักความรู้สึกของการอยากประทินแต่งตัวเองเพื่อผู้ชายที่เธอเก็บอยู่ในใจ คนที่เธอสงวนไว้ให้เป็นคู่เต้นรำคนแรกในชีวิต
แม้รู้สึกประดักประเดิดกับตัวเอง แม้ประหม่าสุดแสน แต่เด็กสาวก็สื่อความรู้สึกถึงเขาด้วยความจริงใจทั้งหมดทั้งมวลที่มี แต่เขาปัดมันทิ้งโดยสิ้นเชิง ทั้งที่เธอไม่ได้ปรารถนาสิ่งใดเกินกว่าพี่ชายที่จะไม่ผลักไสน้องคนนี้...เพียงเท่านั้นเอง
นับจากนั้นจนวันนี้...เธอจึงไม่เคยเปิดเผยใจจริงแท้กับเขาอีกเลย
เพราะมันตอกลึกซ้ำๆ ลงในจิตใจมาเนิ่นนานแล้ว...ไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็ถอยหนี
ภายในภวังค์ความคิดเหม่อลอยไปตามเสียงดนตรี จู่ๆ ร่างในเครื่องแบบนายทหารสีฟ้าเข้มก็มาปรากฏตรงหน้า ภาพนั้นพร่าเลือนเหมือนในฝัน หัวใจหญิงสาวพลันเต้นตึ้กตั้ก ตัวร้อนวูบวาบ สิ่งที่เห็นไม่เคยทำให้นึกถึงใครอื่น นอกจาก “พี่ชาย” เพียงผู้เดียว
แต่พอเงยหน้าเหมือนตื่นจากฝันมาพบความจริง
นายคนนี้เป็นใคร...มายืนจ้องหน้าฉันทำไม!
ร้อยโทปารัญที่กำลังยืนจ้องสวนสายตาหญิงสาวแปลกหน้า ก็นึกอยู่ในใจว่า
คลับคล้ายคลับคลาแฮะ...แต่เป็นคนละคน
ดวงตาหญิงสาวยังจ้องเป๋งที่ชุดเครื่องแบบซึ่งติดตาตรึงใจเสมอ ทันใดนั้นมีเสียงร้องเตือนผุดขึ้น ตื่น! นึกว่าตัวเองอยู่ในฝันรึไง...วิไลรัมภา
พอประสาทตื่นมารับรู้ความเป็นจริงว่าชายตรงหน้าไม่ใช่คนในความฝัน หญิงสาวก็งงงันกับความบังเอิญชั่วอึดใจ ก่อนหลุดปากออกมา “อย่าบอกนะว่า...ฝูงบิน 13 กองบิน 1 นักบินขับไล่ไอพ่น F-86 F”
ชายหนุ่มอี้งสนิท นี่เป็นคำถามหรือเจ้าหล่อนรำพึงกับตัวเอง เขาก็ไม่แน่ใจ
“เอ้า...ตารัญ กลับมาแล้วไปทะลึ่งยืนทำอะไรตรงนั้น” คุณหญิงสดศรีเอ็ดเสียงเขียวมาจากข้างหลัง
ปารัญเริ่มรู้สึกตัวเงยหน้าขึ้น มองเลยผู้หญิงที่หน้าเปียโนไปยังมารดา แล้วตะกุกตะกักถามกลับแก้เก้อ “ไม่อยู่แค่ไม่กี่วัน ครูคนใหม่อีกแล้วเหรอครับ

“วันเสาร์หน้ามาสอนได้เลยนะ แม่วิไล” คุณหญิงสดศรีบอกกับครูคนใหม่
‘แม่วิไล’ อมยิ้มบางๆ รับคำเรียกก่อนยกมือไหว้ลาเจ้าของบ้าน
ระหว่างเดินไปยังประตูหญิงสาวอดมองไปที่เปียโนโบราณหลังนั้นอย่างอาลัยอาวรณ์ไม่ได้ รอยยิ้มน้อยๆ ผุดที่ริมฝีปากขณะเจ้าตัวรำพึง “วิไลรัมภา...แปลว่านางฟ้า นางฟ้าตกสวรรค์ชัดๆ งั้นเป็นแค่แม่วิไลก็ดีแล้ว”
เมื่อครูสาวคนใหม่คล้อยหลังออกจากบ้านสุภาริญ บรรดาบริวารในบ้านพูดอื้ออึงเป็นเสียงเดียวกันว่า “แม่ครูคนใหม่ยังดูเด็กหน้าตาเด๋อด๋า เจอคุณหนูเฟื่องเข้าไป สามวันจะรอดรึเปล่า”

ห้องนอน
ค่ำนี้แทนที่นายปารัญ สุภาริญจะได้นอนแผ่พักผ่อนให้สบายสมใจ กลับต้องนอนพลิกไปพลิกมานึกถึงตอนที่ตัวเองเดินตามเสียงดนตรีเข้ามาในบ้าน แล้วพอเห็นด้านหลังของผู้หญิงที่กำลังเล่นเปียโนเข้าเท่านั้นใจก็กระตุกวูบวาบ เพราะมันช่างคล้ายแม่สาวที่เขาไล่ตามและเพิ่งผิดหวังกลับมาหมาดๆ เลยรีบทะลึ่งพรวดไปขอดูหน้า
แต่แล้วกลับเป็นยายบ๊องที่ไหนก็ไม่รู้! เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเจอ ผู้หญิงเห็นเขาเป็นครั้งแรกแล้วร้องทักว่า...ฝูงบิน 13 กองบิน1 เครื่องบินขับไล่ไอพ่น เอฟ-86 เอฟ !!
ตอนนี้นึกแล้วก็ขำตัวเอง...ถึงด้านหลังของยายนั่นจะดูคล้ายแม่สาวปริศนามากแค่ไหนก็ตาม แต่หน้ามืดขนาดนึกว่าบุพเพสันนิวาสจะส่งเธอมาให้พานพบถึงบ้านไปได้ยังไง...นายปารัญเอ๊ยยย
แล้วแม่ครูคนนี้ก็ยังไงกัน เป็นสาวเป็นนางมาแหงนหน้าจ้องหน้าเขาตาไม่กะพริบแบบนั้น
ที่แน่ๆ เขาแอบรู้สึกเสียเชิงชาย เพราะตอนโดนจ้องเสืออากาศอย่างปารัญดันเขินขึ้นมาจริงๆ
แต่ที่ก่อกวนใจยิ่งกว่าคือ...เสร็จแล้วยายหน้าจืดก็เดินดุ่มออกจากบ้านโดยไม่เหลือบมองเขาอีกทีด้วยซ้ำ!
    ทว่าก่อนหลับตาลงในคืนนั้นภาพของหญิงสาวแวบขึ้นในหัวอีกครั้ง ปารัญเพิ่งจำได้ว่า
ขณะที่หญิงสาวมองเขา...หล่อนน้ำตาอาบเบ้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่