ดร.ศุภชัย ฝากการบ้านรัฐ 5 ข้อ
วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2556 เวลา 17:03 น.
ดร.ศุภชัย ฝากการบ้านรัฐบาล 5 ข้อ หนุนปั้นอาร์เซพ ช่วยเพิ่มความมั่นคงเศรษฐกิจไทย เตือนการเมืองอย่าจุ้นเกิน
นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) เปิดเผยในการสัมมนาวิชาการ อนาคตการค้าการลงทุนไทยทำอย่างไรจะผงาดในอาเซียน จัดโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในโอกาสฉลองครบรอบการก่อตั้ง 50 ปีว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังเต็มไปด้วยความผันผวน ทำให้ไทยต้องระมัดระวังและติดตามผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยสิ่งที่อยากฝากรัฐบาล 5 ข้อ ได้แก่ การให้ความสำคัญต่อนโยบายการศึกษา เพราะการศึกษาถือเป็นรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมถึงให้รัฐสนับสนุนโครงการพัฒนาและวิจัยมากกว่าที่เป็นอยู่
นอกจากนี้ รัฐบาลต้องผลักดันให้ไทยและอาเซียน เป็นแกนกลางจัดตั้งพันธมิตรทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซพ) ซึ่งจะมี 10 ชาติอาเซียน กับอีก 6 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดียให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ข้อต่อมารัฐจะต้องพัฒนาระบบศุลกากรให้มีประสิทธิภาครองรับการค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงให้ความสำคัญเรื่องธรรมาภิบาล ที่มีความแน่นอน น่าเชื่อถือได้ และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสุดท้ายคือ กรีน อิโคโนมิกส์ ในการพัฒนาให้เกิดความเท่าเทียม และยั่งยืน
“อาร์เซพจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยมีความแข็งแกร่ง โดยรัฐบาลควรให้ความสำคัญมากกว่า ความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (ทีพีพี) เพราะทีพีพีมีเงื่อนไขซับซ้อนและยังไม่ชัดเจนว่าไทยจะได้รับอะไร โดยตลาดอาร์เซพเป็นตลาดที่เศรษฐกิจมั่นคงและมีกำลังซื้อสูง ขณะเดียวกันไทยจะต้องแยกการเมืองออกจากเศรษฐกิจให้ได้ เพราะหากการเมืองเข้ามามีบทบาทต่อเศรษฐกิจมากเกินไป จะทำให้กิดความวุ่นวาย ไม่สามรถแก้ไขปัฐหาเศรษฐกิจต่างๆ ได้”
ส่วนภาพรวมของการส่งออกยังมีสัญญาณชะลอตัว ยกเว้นเอเชียที่ยังขยายตัวได้ดี ขณะที่สหภาพยุโรปอาจต้องใช้เวลา 3-5 ปี ถึงจึงจะฟื้นตัว ดังนั้นเห็นด้วยที่รัฐบาลสนับสนุนการหาตลาดใหม่ๆ ในเอเชีย และอาเซียน เพื่อทดแทนตลาดเดิมที่กำลังซื้อชะลอตัว นอกจากนี้ควรสนับสนุนให้นักลงทุนไทยออกไปลงทุน ซื้อกิจการที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีในยุโรป เพราะมีราคาถูก และช่วยเพิ่มความสามารถการแข่งขันได้ด้วย
http://www.dailynews.co.th/businesss/213684
ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ฝากการบ้านรัฐ 5 ข้อ ................................... เตือนการเมืองอย่าจุ้นเกิน
วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2556 เวลา 17:03 น.
ดร.ศุภชัย ฝากการบ้านรัฐบาล 5 ข้อ หนุนปั้นอาร์เซพ ช่วยเพิ่มความมั่นคงเศรษฐกิจไทย เตือนการเมืองอย่าจุ้นเกิน
นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) เปิดเผยในการสัมมนาวิชาการ อนาคตการค้าการลงทุนไทยทำอย่างไรจะผงาดในอาเซียน จัดโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในโอกาสฉลองครบรอบการก่อตั้ง 50 ปีว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังเต็มไปด้วยความผันผวน ทำให้ไทยต้องระมัดระวังและติดตามผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยสิ่งที่อยากฝากรัฐบาล 5 ข้อ ได้แก่ การให้ความสำคัญต่อนโยบายการศึกษา เพราะการศึกษาถือเป็นรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมถึงให้รัฐสนับสนุนโครงการพัฒนาและวิจัยมากกว่าที่เป็นอยู่
นอกจากนี้ รัฐบาลต้องผลักดันให้ไทยและอาเซียน เป็นแกนกลางจัดตั้งพันธมิตรทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซพ) ซึ่งจะมี 10 ชาติอาเซียน กับอีก 6 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดียให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ข้อต่อมารัฐจะต้องพัฒนาระบบศุลกากรให้มีประสิทธิภาครองรับการค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงให้ความสำคัญเรื่องธรรมาภิบาล ที่มีความแน่นอน น่าเชื่อถือได้ และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสุดท้ายคือ กรีน อิโคโนมิกส์ ในการพัฒนาให้เกิดความเท่าเทียม และยั่งยืน
“อาร์เซพจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยมีความแข็งแกร่ง โดยรัฐบาลควรให้ความสำคัญมากกว่า ความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (ทีพีพี) เพราะทีพีพีมีเงื่อนไขซับซ้อนและยังไม่ชัดเจนว่าไทยจะได้รับอะไร โดยตลาดอาร์เซพเป็นตลาดที่เศรษฐกิจมั่นคงและมีกำลังซื้อสูง ขณะเดียวกันไทยจะต้องแยกการเมืองออกจากเศรษฐกิจให้ได้ เพราะหากการเมืองเข้ามามีบทบาทต่อเศรษฐกิจมากเกินไป จะทำให้กิดความวุ่นวาย ไม่สามรถแก้ไขปัฐหาเศรษฐกิจต่างๆ ได้”
ส่วนภาพรวมของการส่งออกยังมีสัญญาณชะลอตัว ยกเว้นเอเชียที่ยังขยายตัวได้ดี ขณะที่สหภาพยุโรปอาจต้องใช้เวลา 3-5 ปี ถึงจึงจะฟื้นตัว ดังนั้นเห็นด้วยที่รัฐบาลสนับสนุนการหาตลาดใหม่ๆ ในเอเชีย และอาเซียน เพื่อทดแทนตลาดเดิมที่กำลังซื้อชะลอตัว นอกจากนี้ควรสนับสนุนให้นักลงทุนไทยออกไปลงทุน ซื้อกิจการที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีในยุโรป เพราะมีราคาถูก และช่วยเพิ่มความสามารถการแข่งขันได้ด้วย
http://www.dailynews.co.th/businesss/213684