ช่วงเวลานี้  เป็นช่วงเวลาฝุ่นตลบทางการเมือง  ไม่มีใครยอมใคร  ไม่มีใครฟังใคร  ไม่มีใครเป็นที่พึ่งให้ใครได้...แม้แต่กระบวนการที่เคยมีคนเชื่อฟังเมื่อต้องออกมาตัดสินปัญหาให้สังคม ก็ไม่มีใครฟังอีกต่อไปเพราะอะไร??

เมื่อก่อนยังเชื่อได้ว่า  เป็นการทะเลาะกันระหว่างคนสองกลุ่ม  กลุ่มประชาธิปไตย กับ กลุ่มเผด็จการ หากเกิดอะไรขึ้น ยังมีกระบวนการยุติธรรมเป็นที่พึ่ง  เพราะประชาชนยังศรัทธากับอำนาจสูงสุดของความยุติธรรมในการแก้ปัญหาความขัดแย้งของคนสองกลุ่ม  และคนในสถาบันตุลาการไม่เคยออกมาก้าวก่าย  ชักจูงหรือแสดงออกให้ใครเคลือบแคลงสงสัยอย่างในปัจจุบัน

ตั้งแต่มีองค์กรอิสระ  ที่แต่งตั้งมาจากกลุ่มคนที่ไม่สามารถทำให้ตัวเองดูสะอาดและเที่ยงตรง  ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมจริง และก่อตัวขึ้นจากการยึดอำนาจ  ซึ่งไม่ใช่วิถีทางในการแก้ปัญหาของระบอบประชาธิปไตย  เป็นจุดกำเนิดของความหวาดระแวงในตัวของผู้ทรงความยุติธรรม  นั่นยังแค่ความสงสัย..!!  

แต่เมื่อยิ่งมีการตัดสินความที่ไม่สามารถทำให้หายสงสัย  แต่กลับยิ่งก่อให้เกิดความเคลือบแคลง จากการตัดสินนั้นๆ มากขึ้น มากขึ้นจนกลายเป็นความสับสน  วุ่นวายให้สังคม   ทำให้คิดว่า  มันเป็นการขัดแย้งระหว่างผู้มีอำนาจ  กับประชาชน มากกว่า สองกลุ่มเดิมๆเสียแล้ว...!!!

คดีความคล้ายๆกัน  แต่ตัดสินไม่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน การออกมายอมรับกับสังคมว่า ขาดความรอบคอบในการตัดสิน นั่นคือ จุดกำเนิดของความขัดแย้งที่ลุกลาม บานปลาย เป็นเพราะความยุติธรรมที่ขาดหายไป  และการหมดศรัทธาและความเชื่อมั่นของผู้ทรงความยุติธรรม ในยุคสมัยนี้     พวกท่านรู้ตัวกันบ้างหรือไม่ ???  บ้านเมืองกำลังจะพินาศ..!!! หากความยุติธรรมของพวกท่านพึ่งพาไม่ได้

ที่วุ่นวายกันทุกวันนี้  เพราะพวกท่านนั่นเอง  ถึงเวลาแล้วหรือยัง   ที่จะหยุดซ้ำเติมประเทศ  ดึงให้สิ่งต่างๆ กลับคืนมาอยู่ในแนวทางของมัน  มองให้ตรง  รักษาระบบ  และมาตรฐานที่เคยสยบคนให้เคารพและเชื่อมั่นด้วยมาตรฐานของกฏหมาย  สร้างความสงบ และกลับไปอยู่และทำในสิ่งที่พวกท่านสมควรทำ  ก็จะยังคงเป็นความหวังสุดท้าย  ให้ประเทศได้  กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย...!!!