จริงๆก็ไม่อยากจะไปทำลายบรรยากาศความสุขกันหรอกนะครับ
อึดอัดกับความอยากจะเอาชนะ ที่สุมในใจกันมานาน ได้ปลดปล่อยกันบ้างมันก็ดี
แต่ไม่อยากให้เพ้อเจ้อกันเกินเลยความจริงไปน่ะครับ
หลายคนถึงขนาดขอบคุณสวรรค์ ฝันเห็นความยุติธรรมไปโน่นเลย
คืออยากเตือนสติกันน่ะครับว่า การตัดสินอย่างนี้มันไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นความยุติธรรมหรอกนะครับ
อย่าเผลอไปชื่นชมกับมันนัก เพราะมันจะทำให้เป็นบรรทัดฐาณความยุติธรรมที่ผิดกันต่อไป
เปรียบเทียบง่ายๆให้เห็นกันแค่จุดเล็กๆ
อย่างเช่นกรณีที่ รมต.ทั้งหลายโดนลงโทษไปด้วยโดยที่ไม่ได้มีโอกาสชี้แจงแก้ต่าง
ถ้าสมมุติตัวคุณโดนคดี แล้วศาลตัดสินว่าครอบครัวคุณมีความผิดด้วยโดยไม่ต้องพิจารณาฟังการชี้แจงอะไรกันอีกนี่
คุณจะยังเรียกมันว่าความยุติธรรมกันอยู่รึปล่าว??
เกลียดชัง อยากจะเอาชนะ น่ะพอเข้าใจครับ
แต่ถึงขนาดต้องลงทุนทำลายบรรทัดฐาณความถูกต้องของสังคมกันอย่างนี้
แน่ใจกันหรือครับว่ามันจะเป็นชัยชนะน่ะ?
ผมว่าแต่ละท่านก็รู้อยู่แก่ใจกันอยู่แล้วว่าความยุติธรรมที่แท้จริงมันควรจะเป็นยังไง
ความจริงชัยชนะในอุดมคติมันน่าจะเป็นว่ากระบวนการตัดสินโปร่งใสนะ
สามารถทำให้คนทั้งโลกยอมรับได้ว่าคนที่โดนลงโทษนั้นผิดจริง
นั่นก็คือคำตัดสินจะต้องไม่มีข้อบกพร่อง ให้มีคำถามตามมามากมายอย่างนี้จริงมั๊ยครับ
ถ้าเป็นอย่างนั้นน่ะชนะแน่ ยืดอกภูมิใจว่าเป็นฝ่ายถูกต้องได้อย่างไม่ต้องเคอะเขิน
คำตัดสินที่มีนั้นเป็นที่ยอมรับของสังคมหรือไม่นั้น
วัดกันได้ไม่ยากหรอกครับ เลือกตั้งดูสิครับ ผลการเลือกตั้งมันจะบอกเอง
หากประชาชนคนส่วนใหญ่เชื่อว่า การตัดสินบริสุทธิยุติธรรมดีแล้ว ฝ่ายต่อต้านประชาธิปไตยชนะถล่มทลายแน่นอน
จริงมั๊ยล่ะครับ?
แต่ถามใจตัวเองกันให้ดีสิว่ากล้าตรวจสอบกันด้วยการเลือกตั้งรึปล่าว?
หากว่าเชื่อว่าเป็นชัยชนะ แต่ก็ยังต้องกลัวการเลือกตั้งกันอยู่
ผมว่ามันเป็นการฉลองชัยชนะที่ค่อนข้างจะหลอกตัวเองกันเกินไปนะครับว่ามั๊ย?
อีกจุดหนึ่งที่ผมว่าหลายท่านอาจจะไม่ทันคิดถึงนั่นก็คือ
การทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมนี่แหละครับ
คิดกันสั้นๆว่าต้องไล่ให้ได้ จะเอาชนะให้ได้
ยอมให้เกิดการทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม
ที่เป็นอาวุธสำคัญของฝ่ายต่อต้านทักษิณ
ในขณะที่ทำลายความน่าเชื่อถือให้คนทั้งโลกเห็นกันไปแล้วอย่างนี้
กำจัดทักษิณ ระบอบทักษิณได้จริงๆซะเมื่อไหร่ล่ะครับ
กลับไปช่วยเพิ่มแนวร่วมให้พวกเค้าอีกด้วยซ่ะด้วยซ้ำ
ที่สำคัญก็คือเป็นการไปตอกย้ำรับรองข้ออ้างของคุณทักษิณที่ว่า
ระบบยุติธรรมของไทยที่ไปใช้ตัดสินเค้านั้นสองมาตรฐาณ คำตัดสินมีอำนาจทางการเมืองแทรกแซง
ผลก็คือ มีแต่คนเห็นว่าความผิดที่เค้าได้รับเป็นการกลั่นแกล้งทำลายล้างทางการเมือง
คำตัดสินที่มีก็หมดความหมายเท่านั้นเอง
อุตส่าห์ต่อต้านกฏหมายนิรโทษกรรมทักษิณกันแทบตาย
จู่ๆก็ไปสร้างความถูกต้องมอบให้เค้าซะงั้น
เพราะนั่นมันก็ไม่ต่างกับยอมรับว่าเค้าไม่ผิดนั่นแหละ เท่ห์กว่าการนิรโทษกรรมตั้งเยอะจริงมั๊ยล่ะ?
โง่ได้ใจกันจริงๆเลยนะครับ
อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ที่ดีอกดีใจกันนี่ รู้รึปล่าวล่ะครับว่าความขัดแย้งที่ยกระดับอย่างนี้มันจะพาไทยให้ใกล้สงครามกันเข้าไปทุกที?
ดีใจที่จะได้รบกันน่ะเหรอครับ?
ไม่มีทางที่ฝ่ายไหนจะยอมได้ตลอดไปหรอก ไม่มีกันชนก็มีแต่จะต้องประทะกันเท่านั้น
คงได้สะใจกันแรกๆนั่นแหละแต่บาดแผลที่เกิดขึ้นจะทำให้ไทยไม่เป็นไทยอีกต่อไปแน่นอน
ช่วยกันผลักดันประเทศให้ไปสู่ทางตันแล้วเฉลิมฉลองดีอกดีใจกัน
ถึงวันที่ต้องทุกข์ทรมาณเพราะสงครามก็อย่าลืมหวนนึกถึงวันเวลาแห่งการเฉลิมฉลองนี้ล่ะครับ
จะได้เอาไปเตือนลูกหลานตัวเองว่าอย่าให้โง่งมกันอย่างนี้อีกเลย
ปลดนายกฯรักษาการออกได้ดีใจหยั่งกะถูกหวย
อึดอัดกับความอยากจะเอาชนะ ที่สุมในใจกันมานาน ได้ปลดปล่อยกันบ้างมันก็ดี
แต่ไม่อยากให้เพ้อเจ้อกันเกินเลยความจริงไปน่ะครับ
หลายคนถึงขนาดขอบคุณสวรรค์ ฝันเห็นความยุติธรรมไปโน่นเลย
คืออยากเตือนสติกันน่ะครับว่า การตัดสินอย่างนี้มันไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นความยุติธรรมหรอกนะครับ
อย่าเผลอไปชื่นชมกับมันนัก เพราะมันจะทำให้เป็นบรรทัดฐาณความยุติธรรมที่ผิดกันต่อไป
เปรียบเทียบง่ายๆให้เห็นกันแค่จุดเล็กๆ
อย่างเช่นกรณีที่ รมต.ทั้งหลายโดนลงโทษไปด้วยโดยที่ไม่ได้มีโอกาสชี้แจงแก้ต่าง
ถ้าสมมุติตัวคุณโดนคดี แล้วศาลตัดสินว่าครอบครัวคุณมีความผิดด้วยโดยไม่ต้องพิจารณาฟังการชี้แจงอะไรกันอีกนี่
คุณจะยังเรียกมันว่าความยุติธรรมกันอยู่รึปล่าว??
เกลียดชัง อยากจะเอาชนะ น่ะพอเข้าใจครับ
แต่ถึงขนาดต้องลงทุนทำลายบรรทัดฐาณความถูกต้องของสังคมกันอย่างนี้
แน่ใจกันหรือครับว่ามันจะเป็นชัยชนะน่ะ?
ผมว่าแต่ละท่านก็รู้อยู่แก่ใจกันอยู่แล้วว่าความยุติธรรมที่แท้จริงมันควรจะเป็นยังไง
ความจริงชัยชนะในอุดมคติมันน่าจะเป็นว่ากระบวนการตัดสินโปร่งใสนะ
สามารถทำให้คนทั้งโลกยอมรับได้ว่าคนที่โดนลงโทษนั้นผิดจริง
นั่นก็คือคำตัดสินจะต้องไม่มีข้อบกพร่อง ให้มีคำถามตามมามากมายอย่างนี้จริงมั๊ยครับ
ถ้าเป็นอย่างนั้นน่ะชนะแน่ ยืดอกภูมิใจว่าเป็นฝ่ายถูกต้องได้อย่างไม่ต้องเคอะเขิน
คำตัดสินที่มีนั้นเป็นที่ยอมรับของสังคมหรือไม่นั้น
วัดกันได้ไม่ยากหรอกครับ เลือกตั้งดูสิครับ ผลการเลือกตั้งมันจะบอกเอง
หากประชาชนคนส่วนใหญ่เชื่อว่า การตัดสินบริสุทธิยุติธรรมดีแล้ว ฝ่ายต่อต้านประชาธิปไตยชนะถล่มทลายแน่นอน
จริงมั๊ยล่ะครับ?
แต่ถามใจตัวเองกันให้ดีสิว่ากล้าตรวจสอบกันด้วยการเลือกตั้งรึปล่าว?
หากว่าเชื่อว่าเป็นชัยชนะ แต่ก็ยังต้องกลัวการเลือกตั้งกันอยู่
ผมว่ามันเป็นการฉลองชัยชนะที่ค่อนข้างจะหลอกตัวเองกันเกินไปนะครับว่ามั๊ย?
อีกจุดหนึ่งที่ผมว่าหลายท่านอาจจะไม่ทันคิดถึงนั่นก็คือ
การทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมนี่แหละครับ
คิดกันสั้นๆว่าต้องไล่ให้ได้ จะเอาชนะให้ได้
ยอมให้เกิดการทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม
ที่เป็นอาวุธสำคัญของฝ่ายต่อต้านทักษิณ
ในขณะที่ทำลายความน่าเชื่อถือให้คนทั้งโลกเห็นกันไปแล้วอย่างนี้
กำจัดทักษิณ ระบอบทักษิณได้จริงๆซะเมื่อไหร่ล่ะครับ
กลับไปช่วยเพิ่มแนวร่วมให้พวกเค้าอีกด้วยซ่ะด้วยซ้ำ
ที่สำคัญก็คือเป็นการไปตอกย้ำรับรองข้ออ้างของคุณทักษิณที่ว่า
ระบบยุติธรรมของไทยที่ไปใช้ตัดสินเค้านั้นสองมาตรฐาณ คำตัดสินมีอำนาจทางการเมืองแทรกแซง
ผลก็คือ มีแต่คนเห็นว่าความผิดที่เค้าได้รับเป็นการกลั่นแกล้งทำลายล้างทางการเมือง
คำตัดสินที่มีก็หมดความหมายเท่านั้นเอง
อุตส่าห์ต่อต้านกฏหมายนิรโทษกรรมทักษิณกันแทบตาย
จู่ๆก็ไปสร้างความถูกต้องมอบให้เค้าซะงั้น
เพราะนั่นมันก็ไม่ต่างกับยอมรับว่าเค้าไม่ผิดนั่นแหละ เท่ห์กว่าการนิรโทษกรรมตั้งเยอะจริงมั๊ยล่ะ?
โง่ได้ใจกันจริงๆเลยนะครับ
อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ที่ดีอกดีใจกันนี่ รู้รึปล่าวล่ะครับว่าความขัดแย้งที่ยกระดับอย่างนี้มันจะพาไทยให้ใกล้สงครามกันเข้าไปทุกที?
ดีใจที่จะได้รบกันน่ะเหรอครับ?
ไม่มีทางที่ฝ่ายไหนจะยอมได้ตลอดไปหรอก ไม่มีกันชนก็มีแต่จะต้องประทะกันเท่านั้น
คงได้สะใจกันแรกๆนั่นแหละแต่บาดแผลที่เกิดขึ้นจะทำให้ไทยไม่เป็นไทยอีกต่อไปแน่นอน
ช่วยกันผลักดันประเทศให้ไปสู่ทางตันแล้วเฉลิมฉลองดีอกดีใจกัน
ถึงวันที่ต้องทุกข์ทรมาณเพราะสงครามก็อย่าลืมหวนนึกถึงวันเวลาแห่งการเฉลิมฉลองนี้ล่ะครับ
จะได้เอาไปเตือนลูกหลานตัวเองว่าอย่าให้โง่งมกันอย่างนี้อีกเลย