ออกตัวก่อนนะครับ ผมไม่เคยได้มีโอกาสมาสแล๋นที่ห้องโต๊ะเครื่องแป้งเลยครับ เนื่องจากผมมีความรู้สึกว่า มันเป็นห้องของสาวๆ ซึ่งผู้ชายอย่างผมไม่น่าจะมีเหตุให้เข้ามาวุ่นวายในห้องนี้ แต่สิ่งที่ผมอยากจะแบ่งปันเกี่ยวกับประสบการณ์ลดน้ำหนัก เลยนึกถึงห้องนี้เป็นห้องแรก เรียกได้ว่า นี่คือกระทู้แรกของผมในห้องนี้เลยครับ หากการรีวิวของผมผิดพลาดอย่างไร ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
จั่วหัวไว้เหมือนกับจะมาหลอกขายน้ำป้าเช็งยังไงหยั่งงั้น จริงๆ แล้วขอออกตัวไว้อีกครั้งนะครับ ไม่มีการหลอกขายอะไร หากมีการกล่าวอ้างถึงสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใดก็ตาม ก็เนื่องจาการใช้จริงนะครับ
ปล. หากเจ้าของสินค้าที่ผมเอ่ยถึงท่านใดจะโอนเงินค่าโฆษณามาให้ผม กรุณาหลังไมค์มาหานะครับ 555
เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อตอนกลางเดือนเมษายน 2556 ที่ผ่านมา หลังจากที่จบมื้ออาหารปิ้งย่างแบบบุฟเฟ่ต์ที่แบบว่า "ยัดกันแบบไม่เกรงใจโบนัสของพนักงาน" ของผม ภรรยา และลูกสาว ความคิดแว้บหนึ่งของเราสองคน (ผมกับภรรยา) ก็คิดขึ้นมาตรงกันว่า
"เราเริ่มอ้วนเกินแล้วนะ"
โดยปกติน้ำหนักตัวผมจะอยู่ที่ประมาณ 80 กิโล ส่วนภรรยาหนัก ... กิโล (คิดว่าไม่บอกดีกว่า ดูหยาบคายมากกับการบอกน้ำหนักของสาวๆ ผ่านสื่อ) ความสูงผมอยู่ที่ 174 ซม. ถ้าคุณพอจะจินตนาการได้ ก็น่าจะนึกถึงผู้ชายที่ดูอวบๆ หน่อย พุ่งยื่นนิดๆ นะครับ
กลับมาที่เรื่องผมกับภรรยาต่อครับ เราคิดกันว่า ถ้าปล่อยไปตามใจปากแบบนี้ กรูตายแน่ๆ เลยคิดหาวิธีการลดน้ำหนักที่เห็นผลและไม่ทรมาน
เงื่อนไขอย่างหนึ่งที่เป็นอุปสรรคของผมกับภรรยาอย่างแรกก็คือ "การออกกำลังกาย"
ภรรยาผมรักสวยรักงามครับ เธอจะไม่ชอบการออกกำลังกาย เพราะมันจะรู้สึกเหม็นเหงื่อตัวเอง แล้วเธอจะไม่ชอบ และอีกอย่างก็คือ เธอรักสวยรักงามครับ รักเล็บยิ่งกว่ารักผัว (อันนี้ผมพูดให้ดูเว่อร์ไปนะครับ 555) พอจะให้ไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส แล้วต้องใส่รองเท้ากีฬา เธอก็ไม่เอา เพราะเคยใส่รองเท้าแล้ว มันกดเล็บแล้วเจ็บมาก เรื่องการออกกำลังกายก็เลยฟลาวส์ไปครับ
ส่วนผม ผมชอบออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานครับ แต่เนื่องจากผมเป็นคนที่นิสัยเสียอย่างหนึ่งก็คือ พอออกกำลังกายหนักๆ มันก็จะกินหนักๆ ตามไปด้วย ทำให้ออกกำลังแทบตาย น้ำหนักก็ไม่ลดครับ (แถมแอบขึ้นทีละนิดๆ ด้วยครับ)
ส่วนเรื่องการกินยาหรือาหารเสริมที่ว่าลดน้ำหนักดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ภรรยาผมก็กินมาหลายยี่ห้อแล้ว ไม่เห็นมันจะลดได้เลย (เรื่องนี้ผมไม่เห็นด้วยครับ แต่ค้านไม่เคยได้เลย เพราะเราก็เป็นห่วงสุขภาพของเธอนะครับ)
แล้วเราจะทำไงดี? ... เดี๋ยวมาเล่าต่อนะครับ
edit* - เพิ่มรูปครับ
ลด 10 กิโลใน 1 เดือน ไม่กินยา ไม่ออกกำลังกาย ผมทำได้แล้วทำไมคุณจะทำไม่ได้?
จั่วหัวไว้เหมือนกับจะมาหลอกขายน้ำป้าเช็งยังไงหยั่งงั้น จริงๆ แล้วขอออกตัวไว้อีกครั้งนะครับ ไม่มีการหลอกขายอะไร หากมีการกล่าวอ้างถึงสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใดก็ตาม ก็เนื่องจาการใช้จริงนะครับ
ปล. หากเจ้าของสินค้าที่ผมเอ่ยถึงท่านใดจะโอนเงินค่าโฆษณามาให้ผม กรุณาหลังไมค์มาหานะครับ 555
เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อตอนกลางเดือนเมษายน 2556 ที่ผ่านมา หลังจากที่จบมื้ออาหารปิ้งย่างแบบบุฟเฟ่ต์ที่แบบว่า "ยัดกันแบบไม่เกรงใจโบนัสของพนักงาน" ของผม ภรรยา และลูกสาว ความคิดแว้บหนึ่งของเราสองคน (ผมกับภรรยา) ก็คิดขึ้นมาตรงกันว่า
"เราเริ่มอ้วนเกินแล้วนะ"
โดยปกติน้ำหนักตัวผมจะอยู่ที่ประมาณ 80 กิโล ส่วนภรรยาหนัก ... กิโล (คิดว่าไม่บอกดีกว่า ดูหยาบคายมากกับการบอกน้ำหนักของสาวๆ ผ่านสื่อ) ความสูงผมอยู่ที่ 174 ซม. ถ้าคุณพอจะจินตนาการได้ ก็น่าจะนึกถึงผู้ชายที่ดูอวบๆ หน่อย พุ่งยื่นนิดๆ นะครับ
กลับมาที่เรื่องผมกับภรรยาต่อครับ เราคิดกันว่า ถ้าปล่อยไปตามใจปากแบบนี้ กรูตายแน่ๆ เลยคิดหาวิธีการลดน้ำหนักที่เห็นผลและไม่ทรมาน
เงื่อนไขอย่างหนึ่งที่เป็นอุปสรรคของผมกับภรรยาอย่างแรกก็คือ "การออกกำลังกาย"
ภรรยาผมรักสวยรักงามครับ เธอจะไม่ชอบการออกกำลังกาย เพราะมันจะรู้สึกเหม็นเหงื่อตัวเอง แล้วเธอจะไม่ชอบ และอีกอย่างก็คือ เธอรักสวยรักงามครับ รักเล็บยิ่งกว่ารักผัว (อันนี้ผมพูดให้ดูเว่อร์ไปนะครับ 555) พอจะให้ไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส แล้วต้องใส่รองเท้ากีฬา เธอก็ไม่เอา เพราะเคยใส่รองเท้าแล้ว มันกดเล็บแล้วเจ็บมาก เรื่องการออกกำลังกายก็เลยฟลาวส์ไปครับ
ส่วนผม ผมชอบออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานครับ แต่เนื่องจากผมเป็นคนที่นิสัยเสียอย่างหนึ่งก็คือ พอออกกำลังกายหนักๆ มันก็จะกินหนักๆ ตามไปด้วย ทำให้ออกกำลังแทบตาย น้ำหนักก็ไม่ลดครับ (แถมแอบขึ้นทีละนิดๆ ด้วยครับ)
ส่วนเรื่องการกินยาหรือาหารเสริมที่ว่าลดน้ำหนักดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ภรรยาผมก็กินมาหลายยี่ห้อแล้ว ไม่เห็นมันจะลดได้เลย (เรื่องนี้ผมไม่เห็นด้วยครับ แต่ค้านไม่เคยได้เลย เพราะเราก็เป็นห่วงสุขภาพของเธอนะครับ)
แล้วเราจะทำไงดี? ... เดี๋ยวมาเล่าต่อนะครับ
edit* - เพิ่มรูปครับ