~~321 คาเฟ่~~ คาเฟ่นี้มี...หลอน (หลอน 4.2 : ตัด)

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ พี่ๆเพื่อนๆ ทุกท่าน

วันนี้มีตอนที่สองของ หลอน 4.2 : ตัด (เงาที่ไม่มี...ศีรษะ) มาฝากค่ะ

**********************************************************************

หลอนตอนที่ 4.1 : ตัด
http://ppantip.com/topic/30503807

หลอนตอนที่ 3.3 : ลอง (จบตอน)
http://ppantip.com/topic/30430516

หลอนตอนที่ 3.2 : ลอง
http://ppantip.com/topic/30391389

หลอนตอนที่ 3.1 : ลอง
http://ppantip.com/topic/30371216

หลอนตอนที่ 2.2 : เงา (จบตอน)
http://ppantip.com/topic/30360317

หลอนตอนที่ 2.1 : เงา
http://ppantip.com/topic/30340591

หลอนตอนที่ 1 : รอคอย
http://ppantip.com/topic/30303497

***********************************************************************


~~ 321 คาเฟ่ ~~
      4.2 : ตัด (เงาที่ไม่มี...ศีรษะ)



              ท่าทางลุกลนของคนมาใหม่ที่เดินไหล่ตกเข้ามาภายในร้าน ชาญได้แต่มองอย่างแปลกใจแต่ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เพราะยังตระหนกไม่หายเมื่อจู่ๆภาพในแก้วกาแฟที่ทีแรกยังเป็นภาพดาวแปดแฉกกลับกลายเป็นภาพหน้าคล้ายผู้หญิงผมยาวสยายไม่พอยังค่อยๆแสยะยิ้มให้จนเขาตกใจปล่อยกาแฟแก้วนั้นหลุดมือเลอะไปทั่วบริเวณ  

              ตีระกาได้แต่เช็ดไม้เช็ดมือคนรักพร้อมทั้งบ่นให้กับความซุ่มซ่ามของเขา ในขณะที่บริกรหนุ่มเมื่อทักทายชายคนมาใหม่เสร็จแล้วจึงรีบตรงเข้ามาช่วยทำความสะอาดโต๊ะอย่างเร่งรีบ ตีระกาขอบอกขอบใจบริกรหนุ่มยกใหญ่

    “ขอบคุณมากนะคะ คุณ เอ่อ..จะให้เรียกว่ายังไงดี รู้จักมาก็นานแล้วยังไม่ทราบชื่อคุณเลย”

    ตีระกาผงกศีรษะเป็นการขอบคุณในขณะที่ชาญนิ่งอึ้งเป็นหินไปแล้วเมื่อตัวเองที่เป็นต้นเหตุความวุ่นวายแท้ๆ แต่กลับยังช็อคไม่หาย จำภาพหญิงผมยาวสยายในถ้วยกาแฟได้ติดตา

    “ผมชื่ออะไรก็ได้ที่คุณต้องการจะเรียก สุดแล้วแต่คุณครับ”

    บริกรหนุ่มยังคงยิ้มเย็นมือก็ทำความสะอาดโต๊ะอย่างขมีขมัน แต่ก็ยังประหยัดคำพูดอีกเช่นเคย จนตีระกาถึงกับหัวเราะชอบใจ

    “มุขรึเปล่าคะเนี่ย ฉันถามจริงๆนะคะ ฉันชอบร้านนี้มากเลยอยากมาเป็นขาประจำบ่อยๆ”

    ตีระกายังไม่วายเย้า อาจเป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นเป็นทุนเดิมจึงทำเนียนเป็นถาม แต่ทั้งที่จริงอยากเก็บรายละเอียดของร้านกาแฟน่าฉงนนี้ไปในตัว ชาญที่เริ่มคุมสติตัวเองได้มองบริกรหนุ่มอย่างนึกสนใจว่าเขาจะตอบอย่างไร เพราะเป็นสิ่งที่ตัวเขาก็สนใจอยู่แต่ไม่เอ่ยถามออกไปเหมือนกับตีระกา

    “ผมขออนุญาตครับ แขกเรียกหาแล้ว”

    ตีระกาและชาญถึงกับงงที่จู่ๆบริกรหนุ่มลึกลับไม่ยอมตอบคำถามแต่กลับเดินจากไปยังโต๊ะที่ชายมาใหม่นั่งอยู่ทันทีเหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่าชายคนนั้นเลือกเมนูเสร็จแล้ว

    “แปลกๆมั๊ย ตี ผมว่าร้านนี้มีอะไรแปลกๆ คราวหน้าเราอย่ามาร้านนี้เลยดีมั๊ย”

    “อืม ตีก็ว่างั้น แต่ก็ตื่นเต้นดีออก ตีว่าที่นี่เป็นแหล่งรวมคนแปลกๆล่ะมั้ง ท่าทางเราสองคนก็จะหลงมาเป็นหนึ่งในนั้นแน่ๆ”

    ตีระกาหัวเราะออกมาอย่างไม่จริงจังนักกับคำถามของคนรักที่มองไปรอบๆบริเวณอย่างนึกสงสัย เก็บข้อมูล และในที่สุดสายตาก็ไปประสานเข้ากับชายมาใหม่ที่นั่งรออาหารที่สั่งจนชายคนนั้นหลบตาวูบ ชาญหรี่ตามองอย่างสงสัยนึกคุ้นตาไม่น้อย

    บลูเบอร์รี่ชีสเค้กหน้าตาน่าอร่อยที่บริกรหนุ่มนำมาเสิร์ฟยังไม่พร่องไปสักนิด ชายคนนั้นได้แต่นั่งมองพร้อมน้ำตาที่เริ่มเอ่อจนล้นออกมาจากเบ้าตา มือสั่นเทาค่อยๆตัดชิ้นเค้กขนาดพอดีคำเอาเข้าปาก พร้อมทั้งยิ้มและพูดพึมพำ

    “ไอ้น้องบ้า แกชอบเค้กร้านนี้ใช่มั๊ย แกรู้มั๊ยแม่แกจะตายเพราะตรอมใจที่พวกตำรวจโง่มันหาหัวแกไม่เจอแล้วนะ แกทำอย่างนี้ได้ยังไงวะ ข้าบอกแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับมัน ไอ้น้องเลว แม่จะตาหลับได้ไงถ้าแกเป็นอย่างนี้”

    “มันอร่อยมากจริงๆ มิน่าแกถึงชอบมันนัก ไอ้น้องบ้า ข้าจะเอาไปไหว้หน้าศพแก แกมาดลใจข้าหน่อยนะว่าใครมันทำแก ข้าจะฆ่ามัน”

    ชายคนนั้นยังคงคร่ำครวญน้ำหูน้ำตาไหลไม่หยุด ตักเค้กไปร้องไห้ไปเป็นที่น่าเวทนานัก บริกรหนุ่มยิ้มเย็นเดินตรงเข้ามาพร้อมกล่องเค้กขนาดย่อมสองกล่อง พร้อมทั้งเอ่ยเสียงเย็นเยียบ

    “การส่งต่อเค้กคือตัวแทนของความสุข 321 ของเรา หวังว่าคุณจะได้รับคำตอบในไม่ช้า ขอให้ทานเค้กอย่างมีความสุขครับ”

    “ขอบใจ ฉันจะจำไว้ว่าเค้กคือตัวแทนของความสุข หวังว่าตัวแทนของความสุขนี้จะนำพาให้ฉันเจอของที่ต้องการโดยเร็ว”

    ชาญถึงกับสะดุดหูกับคำพูดของชายคนนั้น ชายหนุ่มนิ่งฟังอย่างตั้งใจ สัญชาตญาณทำให้รู้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลกับน้ำคำนั้น ตีระกาเฝ้ามองอย่างสนใจและนึกอะไรขึ้นมาบางอย่างรีบลุกออกไปดักชายคนนั้นทันทีที่เขากำลังจะก้าวผ่านไป

    “ขอโทษนะคะ ถ้าหากคุณกำลังมีเรื่องทุกข์กังวลใจ มาหาฉันได้ทุกเมื่อตามนามบัตรนี้นะคะ”

    ตีระกาแสดงความจำนงโดยการยื่นนามบัตรซึ่งก็คือร้านไพ่ยิปซีตีระกา ชายคนนั้นมองจ้องนามบัตรแล้วได้แต่ฉงนใจ ดวงตาแดงช้ำมองสบสาวสวยที่ยืนดักทางออกไว้จนเขาต้องหรี่ตามองอย่างจับผิดและถามออกมาอย่างสงสัย

    “แปลกนะ ผมไม่มีอารมณ์อยากดูหมอตอนนี้ เอาไปให้คนอื่นเถอะคุณ”

    คำปฏิเสธแบบไร้เยื่อใยไม่สนใจสักนิด เรียกเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอของตีระกานัก หญิงสาวจะก้าวตามคนที่เดินเบี่ยงกระทบไหล่หล่อนไปอย่างแรงอย่างหงุดหงิด แต่ชาญลุกมาขวางไว้เสียก่อน

    “เป็นไรน่ะตี ปกติไม่เคยทำอย่างนี้นี่ มานั่งทานให้เสร็จๆดีกว่าเดี๋ยวผมมีประชุม”

    “ตีก็แค่อยากรู้ว่าจะเกี่ยวกับคดีที่ชาญกำลังตามอยู่รึเปล่านี่ อยากอ่านใจเขาจากไพ่น่ะ”

    “ไหนเขาว่ากันว่าศาสตร์ของไพ่ยิปซี ห้ามเรียกคนมาดูไม่ใช่เหรอ ต้องให้เขาเต็มใจมาเองไม่ใช่เรอะ”

    ชาญตั้งคำถามตามที่รู้ ทำเอาตีระกาหน้ามุ่ยอ้อมแอ้มตอบ

    “ก็แหม..แค่ครั้งเดียวเอง ถือซะว่าช่วยตำรวจจับโจรไง”

    “ไม่ต้องหรอก ใครทำอะไรไว้ก็จะได้รับโทษตามกฎหมายเองเมื่อความจริงปรากฏ ทางตำรวจเองก็ไม่ได้นิ่งดูดายนะกำลังเร่งทำงานกันเต็มที่เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ แต่ยังสรุปฟันธงไปเลยไม่ได้ต้องอาศัยพยานหลักฐานประกอบ”

    ชาญอธิบายเหตุผลประกอบ ตีระกาอิดออดแต่ก็ยอมเลิกราโดยดีแถมบ่นอุบอิบเป็นของแถม ชาญดีดหน้าผากคนรักเบาๆอย่างเอ็นดู แล้วถือโอกาสถามไถ่ถึงคนที่เขายังติดใจอยู่เมื่อครู่

    ไม่ไกลกันนั้นบริกรหนุ่มยืนมองจากอีกฝั่งของเคาน์เตอร์ด้วยสีหน้านิ่งเฉยมุมปากเจือรอยยิ้มน้อยๆอย่างเคย

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ดึกแล้วแต่ชาญยังคงต้องซุ่มดูทุกการกระทำของคนที่เขาสงสัยอยู่ไม่ให้คลาดสายตาหลังจากได้รับรายงานสถานที่ที่ติดตามตั้งแต่บ่าย ภาพของพีรัชที่นั่งภาวนาโดยการก้มหน้าสงบนิ่งสองมือประสานเหนืออกอยู่นิ่งนานภายในโบสถ์คริสตจักรแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขาและอยู่ห่างจาก 321 คาเฟ่เพียงแค่สองช่วงตึกเท่านั้น สร้างความสงสัยให้ชาญที่นั่งมองอยู่จากเก้าอี้ยาวแถวสุดท้ายอย่างครุ่นคิด ไม่มีวิญญาณเงาดำทะมึนที่เห็นเมื่อวานติดตามมาอย่างที่คิด หรือบางทีเขาอาจจะตาฝาดไปเองก็ได้

    จู่ๆเสียงเพลงบรรเลงเปียโนก็ดังขึ้นด้วยท่วงทำนองเย็นเยียบอ้อยอิ่งเป็นทำนองเพลงที่ชาญจำได้ดีเพราะเป็นเพลงที่เปิดบรรเลงใน 321 คาเฟ่อยู่เพลงเดียวอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ชาญถึงกับขนลุกซู่อย่างไม่มีสาเหตุเหลียวมองรอบกายไม่เห็นแม้เงาของใครสักคน ชายหนุ่มกระชับมือกับด้ามปืนมั่นเตรียมพร้อม

    ‘เพลงนี้เพลงประจำ 321 นี่..อีกแล้ว ทำไมกัน’

    ชาญคิดในใจอย่างเป็นปริศนา  321 คาเฟ่ เข้ามาเอี่ยวในสถานการณ์นี้อีกแล้ว แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นทำให้ชาญต้องหาที่กำบังกายโดยไวเสียงนั้นไม่ใช่ใครแต่เป็นชายคนที่เขาเห็นเมื่อวานที่ 321 คาเฟ่ นั่นเอง ชายคนนั้นก้าวอาดๆเข้ามาเผชิญหน้ากับพีรัชที่มองมาอย่างงุนงงสงสัย

    “นายสินะ ไอ้คนรวยที่มันฆ่าน้องชายข้า”

    เสียงห้าวเปิดปากพูดโดยไม่รีรอ ร่างท้วมตรงรี่เข้ามากระชากคอเสื้อพีรัชที่ออกอาการปกป้องแต่ก็ไม่อาจต้านทานแรงกระชากของชายร่างใหญ่ที่แสดงออกถึงพลังโกรธอย่างเต็มที่

    “เดี๋ยว!! เดี๋ยวก่อน คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้ฆ่าใคร”

    น้ำเสียงตื่นตระหนกของพีรัช เรียกความสนใจจากชาญที่แอบหลบอยู่ด้านหลังเก้าอี้ได้ชะงัดนัก ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดบันทึกเสียงการสนทนานั้นอย่างทันท่วงทีโดยที่สองฝ่ายไม่ทันได้รู้ตัวเพราะเสียงเปียโนยังคงบรรเลงเสียงดัง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่