ผมเป็นคนตัวใหญ่และน้ำหนักเกิน ผมอยากออกกำลังกายจึงซื้อจักรยานมาปั่นแถวบ้าน ไปกลับรอบหนึ่งก็ประมาณ 2 กิโล
ตอนแรกปั่นรอบเดียวก็เหนื่อยแล้ว ผ่านไปซักสัปดาห์ ผมก็สามารถปั่นไปกลับได้ สามรอบ แบบไม่ฝืนตัวเอง บางทีก็สีรอบ
คราวนี้เมื่อวานรอบที่ 4 ผมพยามเพิ่มความเร็ว และผมคิดว่าผมทำได้ ผมรู้สึกไม่เหนื่อยมาก ถึงแม้ว่าขาจะล้า ไปบ้าง
ผมจิบน้ำทุกครึ่งรอบเพราะคิดว่าจะช่วยบ้องปันการขาดน้ำได้ เพราะผมเป็นคนเหงื่ออกเยอะมากเวลาออกกำลังกาย
ซึ่งตอนนั้นผมก็มีเหงื่อแค่ซึมๆเท่านั้นเอง ไม่มีสัญญาณว่าจะเป็นอะไร

แต่พอผมหยุดพักพื่อจิบน้ำครึ่งรอบความเหนื่อยก็พุ่งขึ้นมาจากไหนไม่รู้เหนื่อยมากทั้งๆที่ตอนปั่นไม่เห็นมันจะเหนื่อยเลย
ผมลงจากรถจักรายนจิบน้ำเพิ่มและใช้น้ำล้างหน้าแต่ก็ไม่ดีขึ้นภาพที่เห็นเริ่มเบลอเป็นสีส้ม หูเริ่มอิ้อ ผมค่อยๆทรุดตัวลง
นั่งยองๆเอามือยันพื้นแล้วจากนั้นผมก็ทรงตัวไม่ได้อีกต่อไปหน้าพุ่งไปกระแทกกับพื้นฟันหน้าหัก ครึ่งซี่ คางถลอกหัวเข่าถลอก
วินมอเตอร์ไซค์แถวนั้นรีบเข้ามาช่วยเหลือทันที ผมคิดว่าผมจะขาดใจตายแบบที่คนออกกำลังกายเป็นกันหรือเปล่า
วินถามว่าบ้านผมอยู่ตรงไหน ผมก็ตอบไปว่าอยู่ซอย 89 เขาถามเบอร์โทรศัพท์ที่บ้าน กับชื่อผม ผมก็ตอบเขาไป
ผมก็คิดว่าเรายังมีสติอยู่คงยังไม่ตายหรอก หลังจากนั้นพ่อผมก็ขับรถมารับตัวผมและพากลับบ้าน

ผมไม่สามารถรู้ว่าปั่นระดับไหนเป็นอันตรายจากจักรยาน ถ้าผมวิ่งผมจะจุกที่ลิ้นปี่ แล้วมันจะหยุดเองเพราะวิ่งต่อไม่ไหว
แต่จักรยานไม่มีอาการจุกไม่มีแรกกระแทกจากการวิ่งดีจริงๆ แต่มันก็ดีแค่ถึงจุดที่ผมยังไม่เป็นลม

วันนี้คงจะไปโรงพยาบาลรู้สึกปวดตรงแถวๆต้นขาหนีบด้านขวา ตอนนอนแล้วจะลุกนี้ทรมานมาก ไม่รู้ว่าประกันอุบัติเหตุจะเบิก
ค่าทำฟันได้หรือเปล่า