เรียนทุกท่านครับ (อัพเดทล่าสุด 13/11/2557)
ผมไม่ได้มาดูกระทู้นี้นานมากเลยครับ และผมไม่คิดว่ามีผู้ร่วมชะตาเดียวกันมากขนาดนี้ ตอนนี้ผมได้รับการติดต่อจากทางทรูมา ผมจึงอยากเรียนแจ้งเพื่อนๆทุกท่าน หากใครได้รับการแก้ไขแล้วก็ช่วยให้เครดิตคุณฉลาดและบริษัททรูกันหน่อยนะครับ กระทู้นี้เรารวมตัวกันเพื่อแก้ปัญหาแต่ไม่ได้เจตนาร้ายกับองค์กรนะครับ มีบ้างที่เราโค-ร โมโห แต่ถ้ามีคนบริการให้เราดี เราว่าเค้าได้ เราก็ชมเค้าได้นะครับถ้าเค้าดีขึ้น
ผมไม่สัญญาว่านี่จะเป็นกระทู้สุดท้ายที่ตำหนิทรู ถ้าไม่ดีอีกผมก็พร้อมตำหนิ แต่หากแก้ไขแล้วผมก็พร้อมโพสแก้ให้แบบกระทู้นี้ครับ แต่ผมขออภัยจริงๆที่ไม่สามารถลบกระทู้ได้นะครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปกติผมจะไม่ค่อยได้ดูบิลค่าต่างๆเองสักเท่าไหร่ แต่วันนี้เอะใจที่เห็นบิลเรียกจ่ายค่าบริการของทรู มีซ้ำกัน 2 ใบ แต่ต่างกันตรงบริษัท
ปรากฏว่า ทางบริษัททรู ไลฟ์ พลัส จำกัด มีการเปลี่ยนเป็น บริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต จำกัด และเรียกใบแจ้งยอดชำระมา 2 ใบ ตามภาพ
ตอนแรกที่เห็นผมค่อนข้างงง เลยโทรสอบถามคอลเซ็นเตอร์ ได้ความสรุปเป็นใจความข้อๆดังนี้
1. บริษัททรู ไลฟ์ พลัส จำกัด มีการเปลี่ยนแปลงเป็น บริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต จำกัด ในระหว่างรอบบิลด้วย จึงมีการเรียกเก็บซ้ำอีกครั้งนึง (ทั้งที่เราจ่ายเงินของรอบบิลที่แล้วไปละ จะเห็นได้ว่า ยอดที่เราชำระไปทางฝั่งซ้ายมัน ติดลบ 442)
2. ทางคอลเซนเตอร์ได้ขอโทษกับผมว่าเป็นความผิดพลาดของบริษัทเองที่ส่งใบแจ้งยอดชำระ โดยไม่มีการหักยอดเงินของตัวที่จ่ายไปแล้ว (ทำให้ผมรู้ว่า ทรู ทำงานได้ มั่วสุดเท้าจริงๆ มีการย้ายบริษัทกันภายในแต่ไม่มีการจัดการระบบหลังบ้านที่ดีเลย)
ทีนี้ผมเข้าใจแล้ว ว่าจริงๆแล้วเราต้องจ่ายรอบบิลเดียว ซึ่งคือของเดือน 6 (นี่บริษัทคุณเรียกเก็บเงินผมล่วงหน้าก่อนวันครบรอบการใช้งานของผมเป็น 10 วันเลยนะเนี่ย สุดยอดจริงๆ เวลาแก้ไขปัญหาช้าจริงๆ เวลาเรียกเก็บตังค์เก็บล่วงหน้าเป็น 10 วัน)
3. ผมได้บอกกับทางคอลเซนเตอร์ว่า ทางผมมีคนที่ไปจ่ายค่าบริการ จ่ายบิลต่างๆ เป็นคนสูงอายุ ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ จ่ายตามตัวเลข ทางทรูจะมีการประสานงานภายในให้หรือไม่ ให้ระบบมีการบันทึกว่าทางผมมีการจ่ายค่าบริการของเดือนที่แล้วไปละ ได้รับคำตอบมาว่า "ไม่มีคะ" เพราะถือว่าเป็นคนละบริษัทกันแล้ว ซะอย่างนั้น ><
จุดนี้ผมโมโหมาก ผมถามกลับว่า แล้วแบบนี้ คนที่จ่ายค่าบริการเป็นคนสูงอายุ เป็นคนต่างจังหวัดที่ไม่ได้ติดตามข่าวสาร ที่ไม่มีความรู้เรื่องรายละเอียดตรงนี้ ไม่รู้ว่าคุณมีการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ เค้าจะทราบได้อย่างไรว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ นอกเสียจากเค้าจะจ่ายตามบิลที่คุณเรียกเก็บเค้า ผมได้รับคำตอบมาว่า ทางลูกค้าต้องแจ้งกับทาง Shop เองนะคะ ว่าขอจ่ายเฉพาะของเดือน มิถุนายน แล้วทาง Shop จะลงบันทึกให้ว่าจ่ายเดือน 6
ผมถามกลับว่าแล้วถ้าลูกค้าจ่ายเต็มจำนวนละตรงนี้ทาง Shop จะทราบไหม คอลเซนเตอร์แจ้งว่า ไม่ทราบคะ (สรุปใครจ่ายเงินตามบิลคือเสียรู้ไปเลย)
จากที่ผมเล่าทั้งหมดมา วิธีการแก้ไขสำหรับเพื่อนๆที่เจอปัญหาเดียวกัน
1. นำใบแจ้งหนี้ 2 ใบนี้ ไปที่ Shop พร้อมกันห้ามนำไปเพียงใบเดียวเด็ดขาด เพราะทาง Shop จะไม่รุ้เรื่องเลยว่าคุณจ่ายตังค์ไปแล้ว
2. แจ้งจ่ายเฉพาะเดือนล่าสุด
3. ขอชื่อนามสกุล คอลเซ็นเตอร์ที่คุยสายไว้เพื่อเป็นหลักฐานการยืนยัน
ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้หากเป็น คนวัยทำงาน นักศึกษา อาจจะแก้ไขปัญหาเองได้ แต่ถ้าเป็น คนสูงอายุ ละ (คนที่เค้าไม่รู้เรื่องก็คือไม่รู้เรื่องจริงๆนะ) จะทำยังไง อาจเสียรู้ทางบริษัทได้เลย
ผมจึงอยากให้บริษัททรู หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆเกี่ยวกับบริษัทตัวเอง อยากให้ตามเรื่องเอกสารให้จบด้วยครับ อย่าทิ้งขี้ให้ผู้บริโภคและทิ้งขี้ให้คอลเซนเตอร์เลยครับ ผมสงสารทั้งผู้ใช้และคนทำงานรับใช้ท่าน
เตือนภัย !! ไม่ระวังให้ดีถูก True internet โกงเงินจ่ายซ้ำ 2 รอบ
ผมไม่ได้มาดูกระทู้นี้นานมากเลยครับ และผมไม่คิดว่ามีผู้ร่วมชะตาเดียวกันมากขนาดนี้ ตอนนี้ผมได้รับการติดต่อจากทางทรูมา ผมจึงอยากเรียนแจ้งเพื่อนๆทุกท่าน หากใครได้รับการแก้ไขแล้วก็ช่วยให้เครดิตคุณฉลาดและบริษัททรูกันหน่อยนะครับ กระทู้นี้เรารวมตัวกันเพื่อแก้ปัญหาแต่ไม่ได้เจตนาร้ายกับองค์กรนะครับ มีบ้างที่เราโค-ร โมโห แต่ถ้ามีคนบริการให้เราดี เราว่าเค้าได้ เราก็ชมเค้าได้นะครับถ้าเค้าดีขึ้น
ผมไม่สัญญาว่านี่จะเป็นกระทู้สุดท้ายที่ตำหนิทรู ถ้าไม่ดีอีกผมก็พร้อมตำหนิ แต่หากแก้ไขแล้วผมก็พร้อมโพสแก้ให้แบบกระทู้นี้ครับ แต่ผมขออภัยจริงๆที่ไม่สามารถลบกระทู้ได้นะครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปกติผมจะไม่ค่อยได้ดูบิลค่าต่างๆเองสักเท่าไหร่ แต่วันนี้เอะใจที่เห็นบิลเรียกจ่ายค่าบริการของทรู มีซ้ำกัน 2 ใบ แต่ต่างกันตรงบริษัท
ปรากฏว่า ทางบริษัททรู ไลฟ์ พลัส จำกัด มีการเปลี่ยนเป็น บริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต จำกัด และเรียกใบแจ้งยอดชำระมา 2 ใบ ตามภาพ
ตอนแรกที่เห็นผมค่อนข้างงง เลยโทรสอบถามคอลเซ็นเตอร์ ได้ความสรุปเป็นใจความข้อๆดังนี้
1. บริษัททรู ไลฟ์ พลัส จำกัด มีการเปลี่ยนแปลงเป็น บริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต จำกัด ในระหว่างรอบบิลด้วย จึงมีการเรียกเก็บซ้ำอีกครั้งนึง (ทั้งที่เราจ่ายเงินของรอบบิลที่แล้วไปละ จะเห็นได้ว่า ยอดที่เราชำระไปทางฝั่งซ้ายมัน ติดลบ 442)
2. ทางคอลเซนเตอร์ได้ขอโทษกับผมว่าเป็นความผิดพลาดของบริษัทเองที่ส่งใบแจ้งยอดชำระ โดยไม่มีการหักยอดเงินของตัวที่จ่ายไปแล้ว (ทำให้ผมรู้ว่า ทรู ทำงานได้ มั่วสุดเท้าจริงๆ มีการย้ายบริษัทกันภายในแต่ไม่มีการจัดการระบบหลังบ้านที่ดีเลย)
ทีนี้ผมเข้าใจแล้ว ว่าจริงๆแล้วเราต้องจ่ายรอบบิลเดียว ซึ่งคือของเดือน 6 (นี่บริษัทคุณเรียกเก็บเงินผมล่วงหน้าก่อนวันครบรอบการใช้งานของผมเป็น 10 วันเลยนะเนี่ย สุดยอดจริงๆ เวลาแก้ไขปัญหาช้าจริงๆ เวลาเรียกเก็บตังค์เก็บล่วงหน้าเป็น 10 วัน)
3. ผมได้บอกกับทางคอลเซนเตอร์ว่า ทางผมมีคนที่ไปจ่ายค่าบริการ จ่ายบิลต่างๆ เป็นคนสูงอายุ ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ จ่ายตามตัวเลข ทางทรูจะมีการประสานงานภายในให้หรือไม่ ให้ระบบมีการบันทึกว่าทางผมมีการจ่ายค่าบริการของเดือนที่แล้วไปละ ได้รับคำตอบมาว่า "ไม่มีคะ" เพราะถือว่าเป็นคนละบริษัทกันแล้ว ซะอย่างนั้น ><
จุดนี้ผมโมโหมาก ผมถามกลับว่า แล้วแบบนี้ คนที่จ่ายค่าบริการเป็นคนสูงอายุ เป็นคนต่างจังหวัดที่ไม่ได้ติดตามข่าวสาร ที่ไม่มีความรู้เรื่องรายละเอียดตรงนี้ ไม่รู้ว่าคุณมีการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ เค้าจะทราบได้อย่างไรว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ นอกเสียจากเค้าจะจ่ายตามบิลที่คุณเรียกเก็บเค้า ผมได้รับคำตอบมาว่า ทางลูกค้าต้องแจ้งกับทาง Shop เองนะคะ ว่าขอจ่ายเฉพาะของเดือน มิถุนายน แล้วทาง Shop จะลงบันทึกให้ว่าจ่ายเดือน 6
ผมถามกลับว่าแล้วถ้าลูกค้าจ่ายเต็มจำนวนละตรงนี้ทาง Shop จะทราบไหม คอลเซนเตอร์แจ้งว่า ไม่ทราบคะ (สรุปใครจ่ายเงินตามบิลคือเสียรู้ไปเลย)
จากที่ผมเล่าทั้งหมดมา วิธีการแก้ไขสำหรับเพื่อนๆที่เจอปัญหาเดียวกัน
1. นำใบแจ้งหนี้ 2 ใบนี้ ไปที่ Shop พร้อมกันห้ามนำไปเพียงใบเดียวเด็ดขาด เพราะทาง Shop จะไม่รุ้เรื่องเลยว่าคุณจ่ายตังค์ไปแล้ว
2. แจ้งจ่ายเฉพาะเดือนล่าสุด
3. ขอชื่อนามสกุล คอลเซ็นเตอร์ที่คุยสายไว้เพื่อเป็นหลักฐานการยืนยัน
ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้หากเป็น คนวัยทำงาน นักศึกษา อาจจะแก้ไขปัญหาเองได้ แต่ถ้าเป็น คนสูงอายุ ละ (คนที่เค้าไม่รู้เรื่องก็คือไม่รู้เรื่องจริงๆนะ) จะทำยังไง อาจเสียรู้ทางบริษัทได้เลย