นิยาย พิสูจน์รักข้ามเวลา บทนำ และ ตอนที่ 9 โดย ณ พัชระ

กระทู้สนทนา




คงไม่มีใครคาดคิด ว่าในหนึ่งปีจะมีมากกว่า 365 วัน เพียงรดาเองก็เช่นกัน ในวันที่เธอต้องการ "สารภาพรัก"
กับคนที่เธอพยายามผลักไส คนที่เห็นและรักเธอเพียงเพราะเธอเป็นเงาของใครอีกคนมาโดยตลอด
"เธอไม่ได้ความจำเสื่อม" "เธอไม่ได้แกล้งที่จะลืมเพื่อให้ชายคนนั้นต้องเจ็บช้ำ"
แต่เธอหาสาเหตุไม่ได้ว่า "เพราะอะไร" ภีร์ชิต นักแสดงที่มีชื่อเสียง ถึงได้รู้สึก "รัก" เธอมากมายขนาดนี้
"เธอจะสวมรอยเป็นใครคนนั้นของเขา... ดีไหม?"
และแล้วในวันที่เธอพร้อมให้ "หัวใจ" มาก่อน "เหตุผล"
กับเป็นวันที่อุบัติเหตุพราก "เธอ" ไปจาก "เขา" ในโลก "ปัจจุบัน" ตลอดกาล
แต่ "โชคชะตา" ไม่ได้ "โหดร้าย"
แค่พา "เธอ" ไปพบว่า "เขารักเธอ" เพราะเหตุใด?
เพียงรดา มี "โอกาสใช้ชีวิตในจุดเดิมอีกครั้ง 2 ปี"
กับ "เขา" ที่มีท่าที ห่างเหิน เย็นชา และ กวนประสาท ไม่มีความรู้สึก "รัก" เธอ แม้แต่น้อย
จาก "เขา" ที่เป็นฝ่ายเฝ้าตามหาเธอ กลับกลายเป็นเธอ "ที่ต้องเฝ้าตามเขา"

เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ?
ภีร์ชิตต้องเจ็บซ้ำสองหรือไม่ ?
เพียงรดาจะกลับมาโลกปัจุบันได้อีกครั้ง หรือ ร่างกายต้องสูญสลาย เพียงเพื่อต้องการปกป้องคนที่เธอรัก?
ลองติดตามดูนะค่ะ ^_^



ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/30471581
ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/30475331
ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/30479031
ตอนที่ 4 http://ppantip.com/topic/30482894
ตอนที่ 5 http://ppantip.com/topic/30487272
ตอนที่ 6 http://ppantip.com/topic/30492193
ตอนที่ 7 http://ppantip.com/topic/30503825
ตอนที่ 8 http://ppantip.com/topic/30523537

ตอนที่ 9

ที่โรงพยาบาลปี 2553
           เพียงรดาตื่นขึ้นมาแต่เช้า หลายวันแล้วที่เธอตื่นขึ้นมา แล้วภาวนาให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม
“ถ้านาฬิกาอยู่เหมือนเดิมก็คงดี คงหายไปตอนตกเขา” เพียงรดาบ่นกับตัวเอง
ภีร์ชิตไม่ได้มาเยี่ยมเธอนานแล้วมีแต่ เอกมลที่แวะเข้ามาบ้าง เวลานี้เธอเหมือนอยู่ตัวคนเดียว
เล่าหรือบอกอะไรใครไม่ได้ไม่อย่างนั้นคนรอบข้างต้องมองเธอเป็นเสียสติแน่
พยาบาลนำข้าวเช้ามาให้
“วันนี้ฉันทานเองได้แล้วค่ะ” เพียงรดาบอกพร้อมกับยิ้มให้อย่างเป็นมิตร พยาบาลเดินออกไปไม่นานนักก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามา
“ลืมอะไรไว้หรอค่ะ” เพียงรดาถามขึ้นเพราะคิดว่าเป็นพยาบาลที่มาดูแลเธอ
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นเธอถึงกับตกตะลึงไม่เชื่อสายตาว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือ "ภีร์ชิต"
เธอมองเขาอย่างน้อยใจ เพราะท่าทีของเขาแตกต่างจากภีร์ชิตที่เธอเคยรู้จัก


สวรรค์คงลงโทษเธอแน่เพราะอะไรที่เธอทำไว้กับเขาเมื่อก่อนตอนนี้ย้อนกลับมาหาเธอทั้งหมด



“น้ำเสียงคุณฟังดูสดใสขึ้นมาก หมอบอกว่าอีกไม่กี่วันคุณก็คงกลับบ้านได้แล้ว” ภีร์ชิตบอก
“ค่ะ” เพียงรดารับทราบ ก่อนจะตักข้าวเข้าปาก เธอหนักใจไม่น้อยเพราะต่อจากนี้เธอจะไปอยู่ที่ไหน ภีร์ชิตมอกหน้าเพียงรดาก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอยางหนักใจไม่แพ้กัน
"เห็นคุณบอกกับทางโรงพยาบาลว่า คุณไม่มีญาติที่ไหนและก็จำหมายเลขประชาชนตัวเองไม่ได้ มันหมายความว่ายังไง" ภีร์ชิตถาม
"ตามนั้นแหละค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะค่ะเรื่องค่ารักษาพยาบาล ฉันจะพยายามหามาคืนคุณให้ได้"
"นี่ เดี๋ยวนะ ผมว่าคุณกำลังเข้าใจผมผิด"
"แล้วคุณต้องการอะไร กับคนที่คุณไม่รู้จักอย่างฉัน"  เพียงรดาพูดประชดก่อนจะหันหน้าหนีเพื่อซ่อนอาการน้อยใจ
"ผมแค่ต้องการเห็นคุณปลอดภัย" ภีร์ชิตพูดจากใจจริง
"ฉันต้องขอบคุณ คุณมากๆ ค่ะ คุณภีร์ชิต" เพียงรดาบอกพร้อมกับยกมือไหว้เขาอย่างผู้มีพระคุณ
"ออกจากโรงพยาบาลหรือไหร่ ผมจะไปส่งคุณที่บ้านแล้วกัน" ภีร์ชิตบอกกับเพียงรดาก่อนที่จะขอตัวกลับ
ท่าทีที่ห่างเหิน คำพูดที่ยิ่งกว่าคนแปลกหน้าของภีร์ชิต ทำให้เพียงรดาแทบอยากหยุดหายใจ
"ตอนนี้ฉันเหลือคุณแค่คนเดียวนะค่ะ คุณภีร์ชิต" เพียงรดาอยากบอกกับเขาเหลือเกินแต่ที่ทำได้คืนเก็บคำพูดนั้นไว้อยู่ภายใจใจของเธอ

ในปี 2556
         ภีร์ชิตมาหาเจนจิราที่คอนโด เจนจิราเล่าเรื่องที่ทางตำราจค้นหาซากศพของเพียงรดา แต่หน้าแปลกมากที่ถึงแม้รถจะไหม้ทั้งคัน
แต่ก็ไม่หลักฐานที่สามารถนำมาตรวจ DNA ได้เลย
"เป็นไปได้มั้ยครับ ว่ารดายังไม่ตาย" ภีร์ชิตบอกอย่างมีความหวัง  
เขาอยากจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อสามปีที่แล้วให้เจนจิราฟัง แต่ยังคงลังเลใจอยู่
"คุณภีร์ค่ะ เจนทราบค่ะ ว่าคุณยังทำใจไม่ได้ แต่เราก็ไม่ควรหลอกตัวเอง ถ้ายัยรดายังไม่ตาย แล้วตอนนี้ รดาไปอยู่ไหนหละค่ะ"
เจนจิราบอกภีร์ชิตทั้งน้ำตา
"ผมมีเรื่องหนึ่ง จะเล่าให้คุณฟัง มันอาจจะเหลือเชื่อไปสักหน่อย แต่ผมขอบอกคุณก่อน ว่าผมไม่ได้บ้า หรือเสียสติใดๆทั้งสิ้น"
ภีร์ชิตบอกอย่างแน่วแน่
"เรื่องอะไรค่ะ" เจนจิราถามอย่างสงสัย ภีร์ชิตตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้เจนจิราฟัง เขาภาวนาขอให้เธอเชื่อในเรื่องนี้

ในปี 2553
          เอกมลรถเสียจึงไม่สามารถมารับเพียงรดาที่โรงพยาบาลได้ ภีร์ชิตจึงมารับเธอที่โรงพยาบาลแทน
"คุณบอกผมแล้วกัน ว่าจะให้ผมไปส่งคุณที่ไหน" น้ำเสียงที่เย็นชา ท่าทีทีห่างเหินทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งนัก
"เดี๋ยวฉันจะบอกทางให้ค่ะ" เพียงรดาบอกทางให้ภีร์ชิตมาส่งเธอที่คอนโดของเธอกับเจนจิรา แต่ภาพที่เธอเห็นตรงหน้า
ทำให้เธอต้องยอมรับความจริง เพราะคอนโดนั้นยังคงสร้างไม่เสร็จ และทุกครั้งที่เธอพยายามติดต่อครอบครัว
หรือ เจนจิรา กลับได้ยินเสียง นาฬิกาโบราณนั่นแทน
"อย่าทำอะไรที่ขัดต่อธรรมชาติ"
เสียงแม่ชีลอยเขามาในหูของเธอทำให้เธอต้องหันขวับ ภีร์ชิตเองก็อดสงสัยในท่าทีของเพียงรดาอยู่ไม่น้อย
"อย่าบอกนะ ว่าคุณอาศัยอยู่ในตึกที่สร้างไม่เสร็จอย่างนี้" ภีร์ชิตถาม
เพียงรดาไม่รู้จะพูดอย่างไร เพราะตอนนี้ทั้งเค้าและเธอกลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกันแล้ว
"คุณส่งฉันแค่นี้ก็พอค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ สำหรับการช่วยเหลือทุกอย่าง ถ้ามีโอกาสฉันขอตอบแทนคุณบ้างนะค่ะ"
เพียงรดาบอกภีร์ชิตอย่างจริงใจ ก่อนจะเดินไปท่ารถเมล์ใกล้ๆ และทิ้งตัวนั่งลงอยู่ตรงนั้นโดยไม่หันกลับมามองภีร์ชิตอีกเลย
          ภีร์ชิตเดินกลับมาที่รถถึงจะแยกจากกัน และเรื่องก็สมควรที่จะจบเพียงเท่านี้ แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้เสี้ยวหนึ่ง
ในความรู้สึกของเขานั้น อดเป็นห่วงเธอไม่ได้ ภีร์ชิตขับรถออกไปแล้วแต่เขาก็ตัดสินใจวนกลับมาที่เดิม
เขารู้สึกเบาใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อยังคงเห็น เพียงรดานั้นยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ภีร์ชิตตัดสินใจขับรถไปจอดใกล้ๆ เขากดปุ่มให้กระจกรถเลื่อนลง
"ขึ้นรถสิ คุณไม่มีที่ไปไม่ใช่หรอ" ภีร์ชิตบอก เพียงรดายังคงนั่งอึ้งอย่างไม่เชื่อสายตา ว่าเขาจะกลับมาหาเธอ
"จะให้ผมพูดซ้ำอีกทำไม คุณชอบตกเป็นเป้าสายตานักหรือไง" ภีร์ชิตบอกอีกครั้ง
เพียงรดาเริ่มมองสายตาที่จ้องมองเธออยู่รอบข้าง ทำให้เธอรู้สึกตัว เพราะลืมไปว่าภีร์ชิตคือนักแสดง
เพียงรดารีบลุกขึ้นแล้วไปขึ้นรถของภีร์ชิตทันที
        ภีร์ชิตพาเพียงรดามาที่คอนโดของเขา
"คุณจะให้ฉันพักอยู่ที่นี่หรอค่ะ" เพียงรดาถาม
"ทำไมหละ"
"ฉันเกรงว่ามันจะไม่เหมาะ" เพียงรดาบอกอย่างละอายใจ ภีร์ชิตเองก็รู้สึกเอ็นดูที่ได้เห็นท่าทีของเธอแบบนี้
"ทำไม อยู่ด้วยกันแบบนี้ คุณจะปล้ำผมหรอ" ภีร์ชิตแกล้งแหย่
"คุณภีร์ชิต" เพียงรดาถึงกับอุธานเมื่อได้ยินเช่นนั้น
"ผมไม่ให้คุณอยู่ที่นี่หรอก คุณไม่ต้องกลัว ผมมันชอบอยู่คนเดียวนะ มีใครอยู่ด้วยผมรู้สึกว่ามันน่ารำคาญ" ภีร์ชิตบอกความรู้สึกเขาตามตรง
เพียงรดาได้แต่ยืนนิ่งเมื่อได้ยินอย่างนั้น คำพูดที่ตรงไปตรงมาของเขาทำให้เจ็บแปลบที่ใจอย่างบอกไม่ถูก
"รอผู้จัดการส่วนตัวผมกลับมา ผมจะให้คุณอยู่กับเขา น่าจะอยู่ด้วยกันได้เพราะผู้หญิงเหมือนกัน"
          ภีร์ชิตบอกพร้อมกับมองหน้าเพียงรดาอย่างสื่อความหมาย เพียงรดาเข้าใจความหมายนั้นดี แม้ว่าภายนอกร่างกายของคุณเอกมล
จะเป็นผู้ชายก็เถอะ
"ผมจะให้คุณเป็นผู้ช่วยเค้า ถือซะว่าทำงานชดใช้ให้ผมแล้วกัน" ภีร์ชิตยื่นขอเสนอให้เธอแบบมัดมือชก
เพียงรดามองหน้าภีร์ชิตอย่างไม่ค่อยเข้าใจในการกระทำของเขา
"ทำไมคุณถึงกล้าไว้ใจฉัน แล้วยังให้ฉันทำงานกับคุณอีก" เพียงรดาถามด้วยความสงสัย
ภีร์ชิตมองหน้าเพียงรดา เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม เขาจึงเฉไฉไปเรื่องอื่น
"ก็คุณเป็นลูกหนี้ผมนี่ ผมหมดกับคุณไปมาก คุณเองก็อยากที่จะชดใช้อยู่แล้วไง"
"อย่างนี้นี่เอง" เพียงรดาเริ่มเข้าใจ เธอต้องอยู่และยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอให้ได้

"เอาน่า ถือว่าเป็นการพิสูจน์ ว่าคุณจะรักฉันได้อย่างไร คุณภีร์ชิต"
เพียงรดามองหน้าเขาและได้แต่เก็บความคิดนี้ไว้ในใจ


          เมื่อเอกมลมาถึง ภีร์ขอคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว
"ภีร์คิดยังไงของภีร์เนี่ย ยัยนั่นอาจจะเป็นภาระให้เราไปตลอดก็ได้นะ" เอกมลเริ่มไม่พอใจ
"เธอไม่มีญาติที่ไหน"
"โกหก โตจนป่านนี้แล้ว น่าจะทำงานทำการแล้วหละ ยัยนั่นอาจจะเห็นว่าภีร์กำลังดัง เลยอยากทำตัวใกล้ชิดหรือเปล่า เลยไม่อยากไปไหน"
"ไม่รู้สิครับ แต่ผมกลับไม่รู้สึกแบบนั้น"
"ทำไม" เอกมลเท้าสะเอวถามอย่างสงสัย
"เธอถูกรถชนเกือบตาย ตลอดเวลาที่พักรักษาตัว กลับไม่มีใครมาเยี่ยมเลย บางที่เธอก็ดูเพี้ยน พูดอะไรแปลกๆ แต่เธอก็ไม่ใช่คนเสียสติ"
"แล้วยังไง"
"เธออาจมีปัญหาครอบครัวก็ได้ครับพี่ ประมาณคิดสั้นอยากฆ่าตัวตาย ถึงได้มีเรื่องนี้เกิดขึ้นไงครับ" ภีร์ชิตหาข้ออ้าง
"อ่านบทละครมาใช่มั้ย" เอกมลพูดดักคอ
"พี่เอมครับ ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง แต่ที่ผมบอกพี่ได้ คือผมมั่นใจในการตัดสินใจในครั้งนี้ครับ" ภีร์ชิตบอกด้วยท่าทีที่จริงจัง
เอกมลได้แต่ถอนหายใจอย่างระอา
"ชอบจริงๆ ไอ้เรื่องที่ทำให้พี่หนักใจเนี่ย" เอกมลพูดประชดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

         ห้องของเอกมลอยู่ตรงข้ามห้องของภีร์ชิต ซึ่งเป็นห้องชุดคนละห้องกัน แยกกันอยู่อย่างเป็นสัดส่วน
"เธอนอนห้องนี้แล้วกัน รกหน่อยนะ" เอกมลบอก
"ไม่เป็นไรค่ะ ต้องขอโทษที่รบกวนคุณนะค่ะ" เพียงรดาบอกอย่างรู้สึกผิด
"ช่างมันเถอะ เรียกชั้นว่าพี่ชะเอม หรือ พี่เอมก็ได้" เอกมลบอก
"ค่ะ พี่ชะเอม"
"อืม แล้วนี่อย่าไปกวนภีร์เค้าหละ ไม่มีความจำเป็นใดๆ ก็อย่ายุ่งเลยจะดีกว่า เพราะเธอเป็นชะนี และภีร์ก็กำลังดัง เธอเข้าใจใช่มั้ย"
"เข้าใจค่ะ" เพียงรดาพยักหน้ารับ เพราะถึงอย่างไร ก็อยู่คนละห้องชุดอยู่แล้ว ก็ไม่ต่างอะไรกับบ้านคนละหลัง
          เอกมลออกไปทำงานกับภีร์ชิต เพียงรดาจึงใช้เวลาว่างทำความสะอาดคอนโดให้เอกมล เมื่อเอกมลมาถึงก็สังเกตุได้ถึงความผิดปกติ
เอกกมลไปบอกคิวงานที่ห้องของภีร์ชิตพร้อมกับเล่าเรื่องของเพียงรดาให้เขาฟัง
"ก็ดีสิครับ พี่จะได้ไม่เหนื่อย" ภีร์ชิตไม่พูดเปล่า เขาเดินไปหยิบกุญแจสำรองห้องของเขาส่งให้เอกมล
"เอามาให้พี่ทำไม" เอกมลสงสัย
"ฝากให้เพียงรดาครับ ห้องผมรกมาก" ภีร์ชิตบอกอย่างเน้นเสียง
"แต่ภีร์ไม่ชอบให้ใครมายุ่งไม่ใช่หรอ"
"ให้เธอมาตอนผมไม่อยู่สิครับ" ภีร์ชิตบอก
"อย่างนั้นก็ได้"
"เออ พี่เอมครับผมมีอีกเรื่องที่ยังไม่ได้บอกกับพี่" ภีร์ชิตใช้น้ำเสียงที่เบาลง เอกมลเข้าใจในทันที
"พี่หละไม่ชอบเวลาที่ภีร์พูดอย่างนี้เลย พี่ต้องเตรียมหนักใจอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย"
"คื่อ เรื่องของเพียงรดา ผมให้เธอเป็นผู้ช่วยของพี่ครับ"
"ถามพี่สักคำมั้ย ว่าพี่อยากได้ใครหรือเปล่า"
"เอาน่าพี่ ดีกว่าให้เค้าอยู่เฉยๆ ไม่ดีหรือไงงานพี่จะได้เบาลง นี่ผมเป็นห่วงพี่ คิดถึงแต่เรื่องพี่ก่อนเลยนะเนี่ย"
"หรอออออออ" เอกมลบอกพร้อมกับมองค้อนแล้วก็ได้แต่สายหน้าอย่างอ่อนใจที่จะเถียงสู้คนของเขา

         ตื่นเช้ามา เอกมลเรียกเพียงรดาออกมาคุยเรื่องงาน เอกมลเริ่มสังเกตุรูปร่างหน้าตาของเพียงรดา ถือได้ว่าเธอนั้นหน้าตาดีอยู่ไม่น้อย
"ไม่ได้อย่างนี้ ไม่ได้เด็ดขาด" เอกมลบ่นออกมา เพียงรดาเริ่มรู้สึกร้อนๆหนาวๆ ไปกับชะตากรรมที่จะเกิดกับเธอต่อจากนี้ไป
เอกมลรื้อของในห้องแต่งตัวของเขา จัดแจงแปลงโฉม และสอนท่าทีของเพียงรดาให้เปลี่ยนจากผู้หญิงกลายเป็นทอมแทน
"ต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรอค่ะ" เพียงรดาเริ่มรู้สึกลำบากใจ
"ใช่ ถ้าเธออยากทำงานอย่างราบรื่น นี่เป็นเป็นวิธีเดียวเท่านั้น" เอกมลบอกอย่างหนักแน่น เพียงรดาเลยขัดอะไรไม่ได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่