20 พ.ค. 2556 เวลา 12:10:45 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ประกันพร้อมเปิดเกมรุกรายย่อย เพิ่มโอกาสทำกำไร ชิงเค้กตลาดกว่า 2 แสนล้าน จับตาครึ่งปีหลัง ปัจจัยรุมเร้า เคลมพุ่ง-เงินเฟ้อ ตีโจทย์ประกันปรับตัวลดต้นทุน หลังสัญญาณ Q1 ผลประกอบการดี อานิสงส์ประกันรถ-กำไรลงทุนพุ่ง
นายอานนท์ วังวสุ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันภัย ในฐานะนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มการแข่งขันในตลาดประกันภัยปีนี้ยังคงรุนแรง โดยเฉพาะในตลาดรายย่อยที่มีทิศทางขยายตัวได้ดี ตั้งแต่ตลาดประกันภัยรถยนต์ที่น่าจะขยายตัวสูงจนถึงช่วงกลางปี จากการทยอยส่งมอบรถยนต์ในโครงการรถคันแรก ซึ่งจะเป็นแรงส่งสำคัญที่ทำให้ตลาดประกันวินาศภัยปีนี้ยังคงเติบโตด้วยมูลค่าเบี้ย 2-2.1 แสนล้านบาท เติบโตไม่น้อยกว่า 15%
อย่างไรก็ตาม ตลาดที่ขยายตัวมากในเวลานี้ นายกสมาคมยอมรับว่า การรักษาคุณภาพบริการลูกค้าให้สม่ำเสมอเป็นโจทย์ที่ท้าทายมากท่ามกลางปัญหาเรื่องต้นทุนค่าสินไหมที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งค่าแรง และค่าอะไหล่ที่ขยับสูงขึ้น ฉะนั้น น่าจะเห็นภาคธุรกิจปรับตัวเพื่อพยายามลดต้นทุน เช่น การใช้เจ้าหน้าที่สำรวจภัยร่วมกัน การปรับมาใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อประเมินราคาซ่อมและส่งงานกับอู่ต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมลูกค้าในวันนี้ก็ไม่ค่อยอยากรอนาน ๆ อะไรที่สามารถทำได้เองก็อยากจะลดขั้นตอนเหล่านั้นลงไปอยู่แล้ว
ด้านนายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย ที่ประกาศกลยุทธ์บุกตลาดรายย่อยด้วยสินค้าและบริการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นตลาดที่สามารถเฉลี่ยภัยได้ดี จึงเท่ากับมีความสามารถสร้างกำไรสูงโดยตั้งเป้าออกสินค้าใหม่ให้ได้ทุกไตรมาส รวมถึงปีนี้บริษัทได้ปรับโครงสร้างด้านช่องทางการขายใหม่ และเพิ่มจำนวนตัวแทนรายย่อยจาก 5,000 คน ให้เป็น 10,000 คนภายในปีนี้
"ในช่วง 2-3 ปีมานี้เราเติบโตจากตลาดรายย่อยเยอะมาก จากเดิมที่มีเบี้ยกลุ่มนี้ประมาณ 200-300 ล้านบาท ก็พุ่งขึ้นมาเป็น 1.6-1.8 พันล้านบาทในปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับเบี้ยรับรวมที่มีกว่า 2 หมื่นล้านบาท เราจึงอยากขยายตลาดนี้ขึ้นอีก" นายสมพรกล่าว
เช่นเดียวกับนายปรีชา จันทร์ศิริโพธา หัวหน้าสายงานพัฒนาธุรกิจ บมจ.ไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัย ที่กล่าวว่า ตลาดลูกค้ารายย่อยยังเป็นเป้าหมายที่สำคัญของบริษัท และพยายามเข้าไปตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละกลุ่มให้ตรงจุดยิ่งขึ้น ล่าสุด บริษัทได้ออกประกันรถยนต์คล้ายกับแบบ 2+ และ 3+ แต่เพิ่มความคุ้มครองกรณีเสียหายสิ้นเชิง (total loss) เข้าไป เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์กับธนาคารอยู่ ซึ่งราคาเบี้ยถูกลงแต่ยังได้ความคุ้มครองสูง
นอกจากนี้ นายปรีชายังกล่าวถึงแผนในช่วงครึ่งปีหลังว่า ในเดือน ส.ค.นี้ บริษัทเตรียมจะออกประกันสุขภาพใหม่อีก 2 แบบ สำหรับลูกค้ากลุ่มที่ต้องการความคุ้มครองด้านสุขภาพส่วนเพิ่มเติมจากสวัสดิการที่มีอยู่เดิม และลูกค้ากลุ่มที่มีอาชีพอิสระหรือเจ้าของธุรกิจ ซึ่งรวมแล้วปีนี้บริษัทมีสินค้าใหม่ออกมาประมาณ 8 แบบ น่าจะเป็นส่วนที่ช่วยสร้างเบี้ยในปีนี้ได้ไม่น้อยกว่า 1 พันล้านบาท
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 1/56 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (ดูตาราง) บริษัทประกันภัยส่วนใหญ่ยังคงขยายตัวได้ดี ซึ่งมีปัจจัยหนุนสำคัญจากตลาดประกันภัยรถยนต์ขยายตัวสูงราว 20-40% โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทใหญ่ ขณะที่กำไรขยายตัวขึ้นมากนั้นมาจากฐานในปีที่แล้วค่อนข้างต่ำ เนื่องจากผลขาดทุนในเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ รวมถึงสภาพตลาดการลงทุนในปีนี้ค่อนข้างดี ทุกบริษัทจึงมีกำไรจากการลงทุนมาเสริมค่อนข้างมาก
ประกันรุกรายย่อยกวาดกำไร ชูสินค้าใหม่แย่งเบี้ย2แสนล้าน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ประกันพร้อมเปิดเกมรุกรายย่อย เพิ่มโอกาสทำกำไร ชิงเค้กตลาดกว่า 2 แสนล้าน จับตาครึ่งปีหลัง ปัจจัยรุมเร้า เคลมพุ่ง-เงินเฟ้อ ตีโจทย์ประกันปรับตัวลดต้นทุน หลังสัญญาณ Q1 ผลประกอบการดี อานิสงส์ประกันรถ-กำไรลงทุนพุ่ง
นายอานนท์ วังวสุ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันภัย ในฐานะนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มการแข่งขันในตลาดประกันภัยปีนี้ยังคงรุนแรง โดยเฉพาะในตลาดรายย่อยที่มีทิศทางขยายตัวได้ดี ตั้งแต่ตลาดประกันภัยรถยนต์ที่น่าจะขยายตัวสูงจนถึงช่วงกลางปี จากการทยอยส่งมอบรถยนต์ในโครงการรถคันแรก ซึ่งจะเป็นแรงส่งสำคัญที่ทำให้ตลาดประกันวินาศภัยปีนี้ยังคงเติบโตด้วยมูลค่าเบี้ย 2-2.1 แสนล้านบาท เติบโตไม่น้อยกว่า 15%
อย่างไรก็ตาม ตลาดที่ขยายตัวมากในเวลานี้ นายกสมาคมยอมรับว่า การรักษาคุณภาพบริการลูกค้าให้สม่ำเสมอเป็นโจทย์ที่ท้าทายมากท่ามกลางปัญหาเรื่องต้นทุนค่าสินไหมที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งค่าแรง และค่าอะไหล่ที่ขยับสูงขึ้น ฉะนั้น น่าจะเห็นภาคธุรกิจปรับตัวเพื่อพยายามลดต้นทุน เช่น การใช้เจ้าหน้าที่สำรวจภัยร่วมกัน การปรับมาใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อประเมินราคาซ่อมและส่งงานกับอู่ต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมลูกค้าในวันนี้ก็ไม่ค่อยอยากรอนาน ๆ อะไรที่สามารถทำได้เองก็อยากจะลดขั้นตอนเหล่านั้นลงไปอยู่แล้ว
ด้านนายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย ที่ประกาศกลยุทธ์บุกตลาดรายย่อยด้วยสินค้าและบริการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นตลาดที่สามารถเฉลี่ยภัยได้ดี จึงเท่ากับมีความสามารถสร้างกำไรสูงโดยตั้งเป้าออกสินค้าใหม่ให้ได้ทุกไตรมาส รวมถึงปีนี้บริษัทได้ปรับโครงสร้างด้านช่องทางการขายใหม่ และเพิ่มจำนวนตัวแทนรายย่อยจาก 5,000 คน ให้เป็น 10,000 คนภายในปีนี้
"ในช่วง 2-3 ปีมานี้เราเติบโตจากตลาดรายย่อยเยอะมาก จากเดิมที่มีเบี้ยกลุ่มนี้ประมาณ 200-300 ล้านบาท ก็พุ่งขึ้นมาเป็น 1.6-1.8 พันล้านบาทในปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับเบี้ยรับรวมที่มีกว่า 2 หมื่นล้านบาท เราจึงอยากขยายตลาดนี้ขึ้นอีก" นายสมพรกล่าว
เช่นเดียวกับนายปรีชา จันทร์ศิริโพธา หัวหน้าสายงานพัฒนาธุรกิจ บมจ.ไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัย ที่กล่าวว่า ตลาดลูกค้ารายย่อยยังเป็นเป้าหมายที่สำคัญของบริษัท และพยายามเข้าไปตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละกลุ่มให้ตรงจุดยิ่งขึ้น ล่าสุด บริษัทได้ออกประกันรถยนต์คล้ายกับแบบ 2+ และ 3+ แต่เพิ่มความคุ้มครองกรณีเสียหายสิ้นเชิง (total loss) เข้าไป เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์กับธนาคารอยู่ ซึ่งราคาเบี้ยถูกลงแต่ยังได้ความคุ้มครองสูง
นอกจากนี้ นายปรีชายังกล่าวถึงแผนในช่วงครึ่งปีหลังว่า ในเดือน ส.ค.นี้ บริษัทเตรียมจะออกประกันสุขภาพใหม่อีก 2 แบบ สำหรับลูกค้ากลุ่มที่ต้องการความคุ้มครองด้านสุขภาพส่วนเพิ่มเติมจากสวัสดิการที่มีอยู่เดิม และลูกค้ากลุ่มที่มีอาชีพอิสระหรือเจ้าของธุรกิจ ซึ่งรวมแล้วปีนี้บริษัทมีสินค้าใหม่ออกมาประมาณ 8 แบบ น่าจะเป็นส่วนที่ช่วยสร้างเบี้ยในปีนี้ได้ไม่น้อยกว่า 1 พันล้านบาท
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 1/56 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (ดูตาราง) บริษัทประกันภัยส่วนใหญ่ยังคงขยายตัวได้ดี ซึ่งมีปัจจัยหนุนสำคัญจากตลาดประกันภัยรถยนต์ขยายตัวสูงราว 20-40% โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทใหญ่ ขณะที่กำไรขยายตัวขึ้นมากนั้นมาจากฐานในปีที่แล้วค่อนข้างต่ำ เนื่องจากผลขาดทุนในเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ รวมถึงสภาพตลาดการลงทุนในปีนี้ค่อนข้างดี ทุกบริษัทจึงมีกำไรจากการลงทุนมาเสริมค่อนข้างมาก